ตอนที่แล้วซัพที่10: คิดว่าข้าจะโง่ซ้ำสองเรอะ ฮ่าๆๆๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปซัพที่12: หนูวม่ายอาววว

ซัพที่11: เล่นกันนน เล่นกานนน


 

ซัพที่11: เล่นกันนน เล่นกานนน

“ใครก็ได้! ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย มีคนร้ายย..โอ้ย!” จิ้งฉวี่แหกปากลั่น พยายามลุกและวิ่งหนี แต่กลับล้มหน้าทิ่มลงพื้น จินหลงอ้าปากค้าง มองจิ้งฉวี่ที่นั่งร้องไห้อย่างตื่นตะลึง

อะไรวะเนี่ยยยย!

เจ้าตัวแสบอยากจะแหกปากลั่น นี่เจ้าจิ้งเห็นเขาเป็นก็อตซิล่ามาบุกวังหรือไง!

“องค์ชายห้า เกิดอะไรขึ้นพะยะค่ะ!” เหล่าขันทีและนางกำนัลรีบวิ่งเข้ามาดูอย่างร้อนรน เมื่อเห็นเหตุการณ์ก็พากันตกใจไปใหญ่ รีบวิ่งเข้ามาดูจิ้งฉวี่ที่นอนร้องไห้

“องค์ชายสี่?!” จินหลงหันไปมองพวกเขาด้วยหน้าตาเหลอหลา ก่อนจะนึกได้ว่าตัวเองต้องรักษาภาพลักษณ์ เขาจึงรวบรวมน้ำลายในปาก แล้วจึงปล่อยมันออกมาให้ไหลย้อย

“ว้ายตายแล้วองค์ชาย!” นางกำนัลรีบวิ่งมาใช้ผ้าเช็ดน้ำลายให้จินหลง

“ฮ่าๆๆๆ” จินหลงหัวเราะ ก่อนจะหันไปมองหน้านางกำนัลราวกับสติไม่สมประกอบ

“องค์ชายห้า พระองค์อย่าได้กลัวไปเลยพะยะค่ะ องค์ชายสี่เป็นพี่ชายของพระองค์ ไม่ใช่คนร้ายพะยะค่ะ” ขันทีพยายามปลอบ จิ้งฉวี่หันมามองจินหลงด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เขาเกาะหลังขันทีแน่น ทำเอาจินหลงเริ่มสงสัยว่าอีกฝ่ายเห็นเขาเป็นตัวอะไร

“พ..พี่สี่..เหรอ?” องค์ชายห้าพึมพำ ดวงตากลอกไปมาคล้ายครุ่นคิด พลันดวงตาน้อยจึงเบิกกว้าง เบะปากทำท่าจะร้องไห้อีกครั้ง มือเล็กกำดินที่พื้นก่อนปาใส่จินหลง

เห้ยเดี๋ยว!!

“ว้าย!” นางกำนัลที่เห็นดังนั้นรีบเอาตัวเข้าบัง แต่จิ้งฉวี่ยังไม่ยอมหยุด ขันทีรีบรั้งมือเขาไว้

“องค์ชายทำอะไรพะยะค่ะ!” ขันทีตื่นตระหนก

จิ้งฉวี่เบะปาก น้ำตาคลอเบ้า

“จิ้..ง จิ้งฉวี่ไม่ชอบพี่สี่ ฮืออ..อ.. จิ้งฉวี่ไม่ชอ..บพี่รอง ฮรือออ” ท่าทางของจิ้งฉวี่ทำให้สีหน้าของนางกำนัลและขันทีหมองลง จินหลงสังเกตท่าทีพวกเขา เดาได้ว่าจิ้งฉวี่คงรู้ว่าเขาและเหวินหลงเป็นลูกของกุ้ยเฟย ไม่แปลกที่จะไม่ชอบหน้า

“เจ้ารีบพาองค์ชายสี่กลับเรือนรับรองไปเร็ว ข้าดูแลองค์ชายห้าเอง” หัวหน้านางกำนัลสั่ง นางกำนัลผู้น้อยจึงรีบอุ้มจินหลงไป แต่เจ้าตัวเล็กกลับแหกปากร้องไห้งอแง

“ไม่เอา ฮือ..ออ จินหลงอยากเจอจิ้งฉวี่...ฮึกก จินหลงไม่ปายยยย” จินหลงร่วมงอแง ใช้สองมือสองขาแถมหัวดิ้นไปมา เหล่าข้ารับใช้มองหน้ากันอย่างลำบากใจ เสียงร้องไห้ของสององค์ชายช่างเสียดแก้วหูนัก

“องค์ชายเพคะ ทรงกลับเรือนเถอะเพคะ หากเสียนเฟยมาพบพระองค์ที่นี่ จะลำบากถึงกุ้ยเฟยนะเพคะ” นางกำนัลเข่นขอร้อง จินหลงผงะ หันมามองหน้านางอย่างไม่เข้าใจ

จะลำบากถึงเสด็จแม่งั้นเหรอ? หรือเสด็จแม่กับเสียนเฟยจะมีเรื่องกัน?

“จินหลงไม่สน จินหลงไม่สนน จินหลงไม่รู้ววจากกเสียนเฟยย” นางกำนัลแทบร่วมร่ำไห้

“ยังไงก็เถอะ ตอนนี้รีบพาองค์ชายสี่ไปเร็ว อีกไม่นานเสียนเฟยจะกลับมาแล้ว” ขันทีร้อนรน

“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำยังไง ใครจะบังอาจกล้าดึงองค์ชายสี่กันเล่า!” เหล่านางกำนัลและขันทีโต้เถียงเกี่ยงกันไปมา จินหลงจึงนิ่งคิด

แหม่ๆ นึกถึงตอนเขียนนิยายเลยแหะ ฉากแบบนี้เสียนเฟยต้องออกมาแล้วล่ะ

แต่จะให้เนื้อเรื่องดำเนินอย่างเบ(สิค)ๆ ก็น่าเบื่อแย่...

ไม่คิดเปล่า จินหลงรีบพุ่งไปคว้าข้อมือจิ้งฉวี่หนีทันที ด้วยฝีเท้าและแรงดึงของจินหลง ทำให้จิ้งฉวี่ลอยตัวปลิว

“แย่แล้ว!! องค์ชายสี่พาตัวองค์ชายห้าไปแล้ว!”

“ใครก็ได้จับองค์ชายที!”

ขันทีและนางกำนัลต่างกรีดร้องและไล่ตาม จินหลงพาน้องน้อยวิ่งและกระโดดไปตามทาง โดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะร้องไห้หรือกรีดร้องอะไร จนเมื่อถึงทะเลสาบงดงามในวังหลังเขาจึงหยุดวิ่งและพาจิ้งฉวี่ไปที่กองทราย

“เล่นกันๆ ฮ่าๆๆ” จินหลงนั่งลงกับพื้น ไม่สนใจเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อน เขาก่อกองทรายเป็นก้อนนูนๆ แล้วตบแปะๆ เพื่ออัดให้แน่น ทั้งยังเพื่อชวนจิ้งฉวี่มาเล่นด้วย

“ไม่เล่น จิ้งฉวี่ไม่อยากเล่น จิ้งฉวี่จะกลับตำหนักก” จิ้งฉวี่ร้องโวยวาย จินหลงไม่สนใจ เขายังคงนั่งก่อกองทราย

จิ้งฉวี่เมื่อไม่รู้ทางกลับ ทั้งยังร้องไห้จนคอแห้งผาก จึงเปลี่ยนมาสะอึกสะอื้น นั่งยองๆ ดูจินหลงปั้นทราย เมื่อเห็นทรายเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ดวงตาคู่น้อยก็เป็นประกายระยิบระยับ ไม่เคยคิดฝันว่าจะสร้างปราสาทด้วยทรายได้

“เล่นกันๆ” จินหลงร้องเรียกจิ้งฉวี่อีกครั้ง เด็กน้อยจึงมองมือทั้งสองข้างของตน ก่อนจะส่ายหน้า

“จิ้งฉวี่ไม่เล่น จิ้งฉวี่เล่นไม่ได้ เดี๋ยวเสด็จแม่จะโกรธเอา” จิ้งฉวี่เบะปาก

เด็กผู้ชายบ้าอะไรวะขี้แงฉิบหายยยย

จินหลงแทบจะพ่นไฟได้ เขาจึงเอามือที่เปื้อนทรายมาตบๆ ใส่กัน แล้วยื่นให้จิ้งฉวี่ดู

“ม่ายเป็นรายๆ เล่นกานนนน” จินหลงแกล้งตบไปบนพื้นอย่างไม่พอใจ จิ้งฉวี่มีท่าทางลังเล เด็กชายค่อยๆ ใช้นิ้วจิ้มไปบนทรายเบาๆ ก่อนจะดึงกลับเพราะความรู้สึกพิศวงที่ปลายนิ้ว

โอ้ยยย ขนาดทรายยังไม่เคยแตะ สมเป็นองค์ชายจริงเจร๊ง!

จินหลงประชดอยู่ในใจ ระหว่างที่ก่อปราสาททราย เขาก็คอยสังเกตจิ้งฉวี่เป็นพักๆ ดูท่าเขาจะเริ่มวางใจ แต่ไม่ทันที่จินหลงจะก่อปราสาททรายเสร็จ เขาก็ถูกถีบจากด้านหลังจนล้มทับปราสาทที่อุตส่าห์สร้าง

“พ..พี่..พี่สี่” จิ้งฉวี่ตกใจ มือไม้สั่นด้วยความหวาดกลัว จินหลงดึงหน้าตัวเองออกจากทราย ก่อนจะหันไปมองผู้ที่ถีบหลังเขาเมื่อครู่

ทำไมพี่รองมาอยู่นี่ล่ะเห้ย!

จินหลงไม่พอใจ วิธีเรียกดีๆ ไม่มีแล้วหรือไง เอะอะก็เอาแต่ใช้กำลัง

“ทำไมเจ้ามาอยู่นี่” เหวินหลงกัดฟันถลึงตามองร่างบนพื้นด้วยสายตาดูแคลน

จินหลงเหลือบมองเหล่านางกำนัลที่เดินตามเหวินหลงมา ท่าทางของพวกนางดูลำบากใจยิ่งนัก แต่ก็ไม่ห้ามปราม

“พี่รองใจร้าย ไม่รองนิสัยไม่ดี!” เจ้าตัวแสบร้องโวยวายกำทรายบนพื้นปาใส่หน้าเหวินหลง

“เห้ย!” เหวินหลงยกแขนขึ้นกันได้อย่างทันท่วงที

“องค์ชายสี่ พระองค์ทำอะไรน่ะพะยะค่ะ!” นางกำนัลรีบวิ่งมาขวาง

“จินหลงเกลียดพี่รอง!” จินหลงแกล้งร้องไห้โวยวาย จิ้งฉวี่มองทุกอย่างด้วยความหวาดกลัว

“ถอยไป! เจ้าคิดว่าข้าชอบตัวกาลกิณีแบบเจ้าหรือไง!” เหวินหลงพลักนางกำนัลออก แล้วเดินตรงดิ่งไปกระชากผมจินหลง

“โอ้ย!!” เจ้าตัวแสบร้องลั่น ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำกับเขาถึงเพียงนี้ ใจนึงก็นึกโกรธ ส่วนอีกใจก็อยากรู้ว่าเหวินหลงคิดจะทำอะไร

“ปล่อยจินหลงนะ!” เขาดิ้น พยายามแกะมือของพี่ชายออกไป เหวินหลงไม่สนใจ เขากระชากศีรษะจินหลงให้ตามไปยังทะเลสาบ

เจ็บนะโว้ยยย

จิ้งฉวี่ร้อนรนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองนางกำนัลพยายามห้ามเหวินหลง ก่อนจะรีบวิ่งตามไป

เมื่อมาถึงขอบสระ เหวินหลงจึงกดศีรษะน้องชายลงกับน้ำ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของนางกำนัล

“องค์ชายรองทรงทำอะไรน่ะเพคะ โปรดปล่อยองค์ชายสี่เถอะเพคะ” นางกำนัลเข้ามาจะช่วยจินหลง แต่กลับถูกเหวินหลงตวาด

“บังอาจ! เป็นแค่ข้ารับใช้ชั้นต่ำ กล้าดียังไงมาสั่งข้า เจ้าไม่เห็นหรือไงว่าน้องสี่เกิดสติฟั่นเฟือนกระโดดลงน้ำเองน่ะหะ!” เหวินหลงแสยะยิ้ม มองจินหลงดิ้นไปมา โดยไม่ได้รู้ว่าเจ้าตัวแสบกลั้นหายใจแกล้งดิ้นไปมา

ดีนะที่ชาติที่แล้วว่ายน้ำเป็น ไม่งั้นมีหวังได้ตายแหง

จิ้งฉวี่เห็นภาพของผู้เป็นแม่ที่ถูกประหารลอยขึ้นมา ริมฝีปากเล็กเม้มแน่น ทำไมพี่สี่ต้องถูกพี่รองทำเช่นนี้ด้วย! ไม่เป็นธรรม นี่มันผิด!

“ย..หยุดนะ อย่าร..รัง อย่ารังแกพี่สี่นะ!” จิ้งฉวี่พุ่งเข้าหาเหวินหลง พยายามใช้แรงอันน้อยนิดช่วยจินหลงออกมา แต่กลับไม่เป็นผล ทั้งยังถูกเหวินหลงพลักจนล้มอยู่กับพื้น

“เจ้าห้าอย่ามายุ่ง! มิเช่นนั้นข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่” องค์ชายรองใช้มืออีกข้างชี้หน้าน้องชายคนเล็ก ก่อนจะหันมามองจินหลงที่กำลังดิ้น เขาเม้มปากแน่นเผยสีหน้าลังเล ก่อนจะกระชากอีกฝ่ายขึ้นมา

“แค่กๆๆ” จินหลงสูดหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะสำลักออกมา

นี่ถ้าเหวินหลงยังไม่ปล่อยเขา เขาคงได้ออกแรงหนีเอง

“ถือว่าวันนี้ข้าใจดีไม่ฆ่าเจ้า แต่วันหน้าถ้าเจ้ากล้าทำให้เสด็จแม่เดือดร้อน ข้าเอาเจ้าตายแน่!!” เหวินหลงเบะปาก หันไปสั่งนางกำนัล

“พาเจ้าสี่กับห้ากลับไปซะ เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็ห้ามแพร่งพราย!” เหวินหลงสั่งเหล่านางกำนัล ก่อนจะสะบัดผ้าคลุมกลับตำหนัก จินหลงเบะปากกับท่าทางของเหวินหลง ก่อนจะลูบน้ำบนหน้าออก

คนแบบนี้ให้ตายเขาก็ไม่เอาเป็นฮ่องเต้!!

 

หลังจากที่จินหลงหนีนางกำนัลออกมาได้ระหว่างทาง เขาจึงมุ่งหน้ากลับเรือนรับรองด้วยใบหน้ามู่ทู่ เมื่อเห็นเจียงสงยืนหน้าบึ้งคุยกับทหารที่เฝ้าประตูหน้า ก็อดสะดุ้งไม่ได้ เวลานี้พลบค่ำแล้ว ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะโกรธ

แอบเข้าไปด้านข้างดีกว่าแหะ..ไม่..ไม่สิ คนอย่างคุณชายอู๋ไม่มีทางให้ด้านข้างมีช่องโหว่

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่หลังเสา เสียงเรียกจากด้านหลังก็ทำให้เขาสะดุ้งเฮือก

“พระองค์ทำอะไรอยู่น่ะ” เมื่อจินหลงหันขวับไป ก็ต้องถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นว่าเป็นเมิ่งชงหยวน

“เจ้านี่เอง ทำเอาข้าตกใจซะหมด” จินหลงแลบลิ้นใส่ ก่อนจะหันกลับมาสังเกตเจียงสง

“อย่าบอกนะว่าพระองค์เพิ่งกลับมา?” เมิ่งชงหยวนร่วมสังเกตการณ์ เขาแอบอยู่หลังเสากับจินหลง

“ก็ใช่น่ะสิ” จินหลงตอบปัด ก่อนเมิ่งชงหยวนจะสังเกตได้ว่าเส้นผมขององค์ชายน้อยเปียกชื้น

“นี่พระองค์ไปทำอะไรมากันแน่ เหตุใดผมจึงเปียกเช่นนี้” จินหลงจับไปที่ผมตน ก่อนจะถอนหายใจ

“ไว้ค่อยเล่า ช่วยคิดหาทางให้ข้ากลับเข้าเรือนโดยไม่โดนจอมมารนั่นพิฆาตที” จินหลงเปรียบเทียบ

“จอมมาร?” เมิ่งชงหยวนฉงน จินหลงจึงโบกมือปัดๆ

“เออน่า อย่าสนใจเลยช่วยข้าก่อน” เมิ่งชงหยวนครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยว่า

“เช่นนั้นพระองค์ก็ทำตามที่ข้าพูดดีไหม” จินหลงหันขวับมามองเขา

“ทำแล้วจะรอดจากคุณชายอู๋ใช่ไหม?” เมิ่งชงหยวนพยักหน้า

“งั้นทำ”

“งั้นก็เป็นลมซะ” ..หะ?

“เจ้าจะทำบ้าอะไร?” องค์ชายน้อยฉงน

“น่า เชื่อใจข้าสิ” เชื่อใจคนที่วางยาข้าเนี่ยนะ?!

“เอาก็เอา” จินหลงถอนหายใจ ก่อนจะหลับตาแล้วล้มตัวลง เมิ่งชงหยวนรับร่างของจินหลงไว้ ก่อนจะอุ้มขึ้นด้วยท่าเจ้าหญิง..

เห้ย! เปลี่ยนท่าเดี๋ยวนี้นะ

ไม่ทันที่จินหลงจะท้วง ท่านหมอก็รีบวิ่งไปที่หน้าประตูด้วยท่าทางร้อนรน

“ท่านหมอเมิ่ง?” เจียงสงฉงนเมื่อเห็นเมิ่งชงหยวนวิ่งกระหืดกระหอบมา แต่แล้วใบหน้าของเขาก็ซีดขาว เมื่อเห็นร่างเล็กในอ้อมแขนของอีกฝ่าย

“ถอยไปๆๆ! องค์ชายสี่เป็นลม!” เมิ่งชงหยวนโหวกเหวกโวยวาย เจียงสงรีบดึงแขนเมิ่งชงหยวนไว้

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” เขาตกตะลึง อีกฝ่ายจึงดึงแขนออก ก่อนร้องบอกว่า

“มันใช่เวลาถามไหม เจ้ารีบตามข้ามาเร็ว” ท่านหมอเทวดารีบวิ่งไปที่ห้องของจินหลงพร้อมกับเจียงสง

แล้วเจ้าจะเรียกคุณชายอู๋มาด้วยทำม๊ายยยย

 

เมื่อมาถึงห้อง เมิ่งชงหยวนรีบวางจินหลงบนเตียง ก่อนจะโยนผ้าให้กับนางกำนัลเพื่อเช็ดผมที่เปียกชื้นขององค์ชาย ทว่าเจียงสงกลับแย่งมันมา

“ข้าทำเอง” ท่าทางของเจียงสงทำให้ทุกคนประหลาดใจ จินหลงอดผวาไม่ได้ คิดว่าเจียงสงจะเช็ดผมเขารุนแรง ทว่าความเป็นจริงเขากลับเบามือนัก

“ถอยไปก่อน” เจียงสงลุกขึ้นหลบให้เมิ่งชงหยวนเข้ามากรอกยาให้จินหลง ท่านหมอใช้ช้อนตักยาในถ้วย ค่อยๆ ป้อนยาให้เด็กน้อย

พรู่ดดด!

ทันทีที่รสขมเข้าปาก จินหลงกลับพ่นมันออกมาอย่างแรงเต็มหน้าท่านหมอที่ฉีกยิ้มค้าง นึกอยากเขกหัวเด็กตรงหน้าสักที

“ท่านหมอ!” ทุกคนตกตะลึง นางกำนัลกุลีกุจอรีบหาผ้ามาเช็ดหน้าเมิ่งชงหยวนทันที จินหลงแอบลืมตาขึ้นมานิดๆ เพื่อดูสถานการณ์ ก่อนจะรีบหลับตาลง

เรื่องอะไรข้าต้องกินยาปลอมๆ ที่หมอกำมะลอต้มกันเล่า!

เมิ่งชงหยวนเห็นจินหลงไม่ให้ความร่วมมือ จึงหันไปหานางกำนัลและเจียงสงด้วยใบหน้าหมอง

“หากครั้งนี้องค์ชายยังไม่สามารถเสวยโอสถได้ ข้าคงต้องรบกวนพวกเจ้าป้อนยาทางปากแล้ว” ทุกคนสะดุ้งเฮือกอ้าปากค้าง

“ใครจะกล้าบังอาจเช่นนั้น!” นางกำนัลโวยวาย เมิ่งชงหยวนแสร้งแสดงสีหน้าลำบากใจ

“แต่หากองค์ชายทรงเป็นอะไรไป พวกเจ้ารับผิดชอบไหวหรือ?!” ท่านหมอย้อน ทำให้ทุกคนต่างหันมามองหน้าและสะกิดเกี่ยงกันไปมา เมิ่งชงหยวนจึงแกล้งหันไปหาเจียงสง

“คุณชายอู๋ หากฮ่องเต้รู้เรื่องนี้ท่านคิดว่าท่านจะรอดหรือ?” ท่านหมอพยายามสร้างสถานการณ์บีบบังคับให้จินหลงยอมกินยา

อู๋เจียงสงหน้าถอดสี ความหมายของท่านหมอคือหากองค์ชายไม่ยอมกินยาในครั้งนี้ เขาจะต้องเป็นผู้ป้อนองค์ชายด้วยตนเอง!

“ข้าเป็นแต่เรื่องวรยุทธ์เท่านั้น เรื่องวิชาแพทย์เป็นท่านคงดีกว่า” เจียงสงพยายามโยนกลับ

“สิ่งนี้ไม่ว่าใครก็ทำได้ ตัวข้านั้นอยู่กับองค์ชายไม่กี่เดือน สู้ให้ท่านที่ต้องอยู่ดูแลองค์ชายไปอีกหลายปีเป็นผู้ทำดีกว่า ข้าจะได้สอนเสียตรงนี้” เมิ่งชงหยวนย้อน ทำเอาเจียงสงกัดริมฝีปากแน่น ต่างจากจินหลงที่..

ไม่ต้องเกี่ยงกัน! ข้าไม่เอาทั้งคู่แหละ เอายามา ข้าเลือกยา!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด