ตอนที่แล้วตอนที่ 18 ความก้าวหน้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 นิกายดาบเทียนหยวน

ตอนที่ 19 การชุมนุม


เมื่อเขาลืมตาขึ้นเจียงวู่เฉิงจ้องไปที่สภาพแวดล้อมด้วยความสงสัย รัศมีวงกลม10กิโลเมตรกลายเป็นโลกแห่งความตาย

ในเวลานี้เองที่เจียงวู่เฉิงถึงเข้าใจว่าเหตุใดมันถึงเรียกว่าวิชาลับผลาญวิญญาณ

การผลาญวิญญาณคืออะไร?

วิชานี้จะผลาญวิญญาณของสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติ

เขาเข้าใจว่าพลังลมปราณที่เข้าในร่างของเขาตอนนี้คืออะไร มันคือพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตใกล้เคียง วิชาลับผลาญวิญญาณจะส่งผลโดยการใช้พลังของสิ่งมีชีวิตรอบข้างทั้งหมด

 

"ทักษะนี้น่ากลัวจริงๆ ถ้าไม่จำเป็นข้าจะไม่ใช้มันอีก" เจียงวู่เฉิงเตือนตัวเองในใจ

หลักจากการลองใช้ครั้งแรกนี้ เจียงวู่เฉิงไม่กล้าที่จะใช้มันอีก แต่เขายังคงเรียนรู้ขั้นตอนโดยละเอียด 3วันต่อมาเจียงวู่เฉิงอยู่ในลำธารกลางภูเขาเก้าหมาป่า เขานำมือของเขาควักน้ำจากลำธารและลุกขึ้นยืน

"ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาที่จะต่อสู้แล้ว อีกเพียงแค่สองวัน ถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับไปแล้ว"เจียงวู่เฉิงมองดูท้องฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด เขายิ้มและกระโดดขึ้นไปในอากาศจากนั้นก็มุ่งหน้าไปในทิศทางของตำหนักขุนพลดาบ

 

...

ตอนรุ่งเช้า

เมื่อแสงแรกของดวงอาทิตย์จากขอบฟ้าไกลเริ่มกระทบโลก ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล เหล่าศิษย์และคนของตำหนักขุนพลดาบพากันหลั่งไหลออกจากตัวตำหนักและมารวมกันอยู่ที่ลานประลองใจกลางตำหนักขุนพลดาบ

บรรดาขุมอำนาจของแคว้นปาชุยต่างมารวมตัวกันที่ตำหนักขุนพลดาบ

วันนี้การประลองประจำปีถูกจัดขึ้นที่ตำหนักขุนพลดาบ จริงๆแล้วการประลองนั้นจะให้ความสำคัญไปที่บุคคลที่มีความแข็งแกร่งหรือก้าวหน้าที่สุดในรุ่นเยาว์ ดังนั้นตำหนักขุนพลดาบจึงให้ความสำคัญกับการฝึกฝนของรุ่นเยาว์เป็นอย่างมาก

ทุกๆปีตำหนักขุนพลดาบจะส่งคำเชิญให้แก่บรรดาผู้มีอำนาจเพื่อมาชมการต่อสู้ ภายใต้สถานการณ์ปกติคำเชิญจากตำหนักขุนพลดาบนั้นจะได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากเหล่าผู้มีอำนาจและไม่เคยถูกปฏิเสธจากกลุ่มใดๆ ปีนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นการประลองมีความสำคัญเป็นพิเศษโดยเฉพาะในปีนี้

เป็นที่ยอมรับกันโดยบรรดาผู้มีอำนาจ ว่ามีอัจฉริยะที่พิเศษเป็นอย่างมากในตำหนักขุนพลดาบ อัจฉริยะคนนี้มีอายุเพียง16ปีและได้มาถึงอาณาทะเลลมปราณอันลึกล้ำ ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ดาบของเธอนั้นก็ไม่อาจหยั่งถึง เด็กสาวคนนี้จะเป็นคนดูแลหอดาบ ซึ่งมีตำแหน่งสำคัญอย่างมากในตำหนัก การกระทำของเธอทำให้ผู้มีอำนาจในแคว้นปาชุยต่างสนใจ

อัจฉริยะอย่างเจียงเมิ่งเอ๋อเปรียบเสมือนลูกหลานของเทพเจ้าในตำหนักขุนพลดาบ

มันเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับเจียงเมิ่งเอ๋อที่จะแสดงความแข็งแกร่งของนางต่อหน้าผู้มีอำนาจทั้งหมด หลังจากวันนี้หอดาบจะตกอยู่ในความดูแลของเจียงเมิ่งเอ๋อ นางจะเป็นผู้ครอบครองหอดาบ

ผู้คนจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ลานประลอง ลานประลองนั้นมีอยู่สองส่วน ส่วนแรกเป็นที่สำหรับเหล่าศิษย์ทั้งหลายใช้เพื่อแสดงความแข็งแกร่ง อีกหนึ่งเป็นที่ยืนชมสำหรับคนดู เจียงซินหงผู้นำตำหนักขุนพลดาบนั่งอยู่บนเก้าอี้พลางพูดคุยกับบรรดาผู้มีอำนาจ

เนื่องจากคนเหล่านี้สามารถนั่งใกล้กับผู้นำตำหนักดาบก็สามารถบ่งบอกได้ว่าภูมิหลังของพวกเขาเหล่านั้นไม่ธรรมดา

 

"ดูสิ! นั่นต้องเป็นซือถู ฉิงเยวี่ย ผู้นำชนเผ่าซือถู"

"นั่นคือเย่ ซิว ผู้นำตระกูลเย่ ตระกูลพวกเขาเองก็ถือเป็นผู้ใช้ดาบ แต่ทว่า เมื่อเทียบกับตำหนักขุนพลดาบของพวกเรา พวกเขายังห่างไกลนัก"

"เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่ไป่ฉงผู้ดูแลแห่งลานนักสู้จะมาดูการประลอง"

บรรดาลูกศิษย์จำนวนมากของตำหนักขุนพลดาบได้พูดถึงสิ่งต่างๆรอบลานประลอง พวกเขาจับตาดูที่เก้าอี้เป็นบางครั้งบางคราวเพื่อมองดูผู้มีอำนาจที่ไม่ค่อยจะได้เห็น

ตระกูลซือถูและเย่เพลิดเพลินกับพลังและตำแหน่งที่ด้อยกว่าตำหนักขุนพลดาบ แต่กลับไม่ได้ห่างกันนัก สำหรับลานนักสู้ มันถือเป็นมหาอำนาจ นอกจากนั้น ลานนักสู้ยังอยู่ในตำแหน่งโดดเดี่ยวและไม่ได้เข้าร่วมความขัดแย้ง แม้กระทั่งผู้นำตำหนักอย่างเจียงซินหงก็ยังต้องสำรวมทีท่าต่อไป่ ฉง

 

"ท่านไป่ฉง เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างมากที่ท่านมาดูการประลองในปีนี้ ปีที่ผ่านๆมาท่านมักจะส่งคนรับใช้ที่สวมเสื้อคลุมทองมาในนามของท่าน"เจียงซินหงกล่าวขณะที่ยิ้ม

"มันเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับข้าและตำหนักที่ท่านไป่ฉงได้เลือกที่จะมาร่วมชมการประลองในครั้งนี้ด้วยตัวเอง" เจียงซินหงกล่าว

"การต่อสู้ในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆเป็นอย่างมากเป็นเรื่องปกติที่ข้าจะเข้ามามีส่วนร่วม ข้าสนใจในตัวอัจฉริยะรุ่นเยาว์คนนั้นมากและต้องการเห็นว่านางมีความสามารถเพียงใด" ไป่ฉงตอบด้วยรอยยิ้ม

"เชื่อข้าสินางจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง" เจียงซินหงกล่าวและหัวเราะแสดงความมั่นใจในตัวเจียงเมิ่งเอ๋อ

"จริงหรือ?" ไป่ฉงยกคิ้วขึ้น เขาหัวเราะอย่างแปลกประหลาด แต่ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก เมื่อมองไปรอบๆพื้นที่ลานประลองเขาสังเกตเห็นเจียงวู่เฉิงอยู่ในมุมหนึ่งทันที เขายืนพิงกำแพงขณะที่ยังหลับตาอยู่ ไป่ฉงอดยิ้มไม่ได้

"เด็กหนุ่มสงบนิ่งอย่างมาก ข้าสงสัยว่าความแข็งแกร่งของเขามีมากขึ้นหรือไม่หลังจากกลับมาจากภูเขาเก้าหมาป่า"

ไป่ฉงค่อนข้างเป็นห่วงเจียงวู่เฉิงเนื่องจากมิตรภาพระหว่างเขากับเจียงหนานเทียน เขาทำให้เจียงวู่เฉิงได้รับโอกาสในการพบเจอบ่อน้ำยาลมปราณแรกเริ่ม ความเป็นห่วงของเขาสามารถดูได้จากสิ่งที่เขาทำ

ที่เขามาดูการประลองเป็นเพราะเจียงวู่เฉิง

 

"เกือบจะถึงเวลาแล้ว เรามาเริ่มกันเถอะ"เจียงซินหงกล่าว

เจียงหลานที่ยืนอยู่ใกล้เจียงซินหงพยักหน้า จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและมายืนอยู่ตรงใจกลาง เขากระแอมในลำคอและกล่าว"ฟังให้ดี!ผู้เข้าร่วมการประลองทุกคน จงก้าวออกมา"

ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งหอยุทธ์แดง เจียงลานก็สมควรที่จะเป็นเจ้าภาพในการประลองครั้งนี้

เกิดเสียงเซ็งแซ่ในลานประลอง ศิษย์รุ่นเยาว์ที่ผ่านหอคอยทดสอบชั้น5ต่างไปรวมกันที่ใจกลาง พวกเขาเร่งรีบและตื่นเต้น มีศิษย์รุ่นเยาว์นับสิบ ทั้งหมดล้วนเป็นอัจฉริยะในตำหนักขุนพลดาบ รวมถึงเจียงวู่เฉิง

ในขณะเดียวกันร่างบางสวมชุดสีขาวสวยงามกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ

ทันใดนั้นทุกคนในลานประลองให้ความสนใจกับนางอย่างมาก ไม่เพียงแต่บรรดาลูกศิษย์แม้แต่คนที่อยู่บนลานประลองก็หันมามองนางเช่นกัน

ในฐานะที่เหมือนกับลูกหลานของเทพเจ้าในตำหนักขุนพลดาบ เหล่าลูกศิษย์ของตำหนักต่างก็ชื่นชอบนางราวกับนางเป็นเทพธิดา นางสวยมาก ระดับการบ่มเพาะก็สูงส่งอย่างมาก รวมทั้งพรสวรรค์ในการใช้ดาบ นางได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด