Returning From The Immortal World – 9
“ลูกพี่,ทำไมยืนอยู่หน้าห้องหละ ทำไมไม่เข้าไป ?”
เมื่อ หยวนชูหลิงที่กำลังยกโต๊ะและเก้าอี้มาถึงหน้าห้องสิบก็ได้เห็นถังซิ่วที่กำลังยืนอยู่หน้าทางเดินจึงได้เอ๋ยปากถาม
“จากท่าทางของไอขี้วีนนั้นแล้ว ,เอกสารการย้ายห้องของฉันคงพึ่งออกมา เขาคงไม่สามารถทนรอได้ จึงรีบประกาศออกมา ฉันเดาได้ว่านักเรียนในห้องสิบนี้ไม่รู้ว่าฉันจะย้ายมาที่นี่เพราะงั้นฉันว่าจะรอจนกว่าอาจารย์ฮั่นจะมาแล้วเข้าไปพร้อมกับเธอเพราะฉันยังไม่อยากไป”
ถังซิ่วที่ได้พบกับหยวนชูหลิงที่กำลังยกโต๊ะอยู่นั้นถึงกับตะลึงทันทีแต่ก็ได้ตอบคำถามของเขากลับไป
“รบกวนการเรียน ? ”
หลังจากที่เขาได้ยินเสียงที่ดังออกมาทางหน้าต่าง เขาก็ดีใจทันทีพร้อมพูดว่า
“เรียนอะไรกัน , นายคิดว่าห้องสิบนี้มันเป็นห้องหลักหรือยังไง ดูท่าทางของพวกเขาสิ เรารีบเข้าไปข้างในจะได้หาอะไรเล่นกันกับพวกเขาเถอะ !”
หยวนชูหลิง พึ่งจะพูดจบก็อยากที่จะรีบเปิดประตูห้องเข้าไปทันที
“เจ้าอ้วน ,ฉันเข้าใจความเป็นห่วงของนายดีแต่นายควรกลับไปที่ห้องหลักนะ ที่นั้นเป็นที่ๆเหมาะกับนาย มาที่นี้มันเหมือนเป็นการทำร้ายตัวนายเองชัดๆ”
ถังซิ่วกอดไหล่หยวนชูหลิงเอาไว้ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยความจริงใจ
“ไม่เอา นี้มันไม่ดีหรอก ได้ยินมาว่านักเรียนที่ห้องสิบนี้นั้นล้วนเป็นปีศาจป่าเถื่อน ,ฉันกลัวว่านายจะถูกรังแกเพราะงั้นฉันจะต้องอยู่เพื่อปกป้องนาย !!”
นัยน์ตาของหยวนชูหลิงปรากฏประกายแห่งความแน่วแน่พร้อมพูดต่อ
“ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยกลัวใครในเรื่องของการชกต่อยอยู่แล้ว ต่อให้เป็นทั้งจังหวัดชวนฉิงฉันก็ยังมีน้ำยาอยู่บ้าง”
ถังซิ่วก็ยิ้มตอบอย่างขมขื่นหลังจากได้ยินคำพูดของหยวนชูหลิง
พ่อแม่ของหยวนชูหลิงนั้นมีสินทรัพย์เกินกว่า100ล้านแต่แค่เพราะหยวนชูหลิงทำตัวธรรมดาติดดินจนทำให้ถังซิ่วแทบจะลืมสถานะของเขาไป
“เจ้าอ้วน , ถ้านายจะย้ายมาอยู่ที่ห้องสิบนี้นายต้องตั้งใจเรียนตลอดสามเดือนนี้เข้าใจไหม?ไม่อย่างนั้นนายก็กลับไปที่ห้องห้าเดี๋ยวนี้เลย”
หลังจากที่เงียบอยู่พักหนึ่งถังซิ่วก็ได้พูดออกมา
เมื่อได้ยิคำพูดของถังซิ่วทีแรกนั้น หยวนชูหลินอยากที่จะส่ายหน้าปฏิเสธแต่เมื่อมองสายตาที่แน่วแน่ของ ถังซิ่วแล้วเขาก็ต้องล้มเลิกความคิดไปโดยทันที
หลังจากที่ความรู้สึกภายในร่ายกายกำลังเอ่อล้นออกมาเขาก็กัดฟันพูดว่า
“ลูกพี่ ,นายพูดถูกแล้ว จริงๆแล้วฉันไม่ได้อยากที่จะทำตัวแบบนี้แต่ฉันอยากจะตอบโต้พ่อแม่ของฉันที่หย่ากันแต่ฉันเองก็ไม่อยากให้ทั้งชีวิตของตัวเองต้องพังแบบนี้ ในเมื่อลูกพี่ต้องการที่จะพุ่งทยานไปภายในสามเดือนฉันก็จะตั้งใจไปพร้อมกับนาย”
“เอ่อ,พวกนายเป็นนักเรียนของห้องนี้งั้นหรอ ? แล้วทำไมไม่เข้าไปในห้องเรียนหละ ?”
ระหว่างที่ถังซิ่วกำลังพูดคุยกับหยวนชูหลิงก็ได้มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาทางประตูห้องพร้อมถามพวกเขาด้วยความสงสัย
นักเรียนหญิงคนนั้นไว้ผมสั้นเรียบร้อยพร้อมด้วยรูปร่างหน้าตาที่งดงามน่าหลงใหล
หยวนชูหลิงจ้องมองไปที่เธอคนนั้นอย่างไม่ละสายตาส่วนถังซิ่วเองก็รู้สึกใจส่ายกับรูปร่างและรอยยิ้มที่เจิดจ้าของนักเรียนหญิงคนนั้นเหมือนกัน
นักเรียนหญิงจากห้องก่อนของพวกเขานั้นมีแต่พวกที่ใส่แว่นหนาเตอะและไว้ผมทรงหางม้าที่อาจจะเป็นเพราะแรงกดดันด้านการศึกษาทำให้ไม่มีหรอกที่เขาจะได้เห็นนักเรียนหญิงแบบนี้ในห้องห้า
“เธอคนสวย ,สวัสดีฉันชื่อหยวนชูหลิงส่วนนี่คือเพื่อนรักของฉันถังซิ่ว ก่อนหน้านี้เราอยู่ห้องห้าแต่เริ่มตั้งแต่วันนี้เราจะเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน”
หลังจากใจลอยไปอยู่นานหยวนชูหลิงได้ยื่นมืออ้วนๆของเขาออกไปเพื่อทักทายกับนักเรียนหญิงคนนั้น
“ฉันพึ่งมาเรียนห้องนี้ได้หนึ่งเดือน,ฉันชื่อว่าเฉิงเยี่ยนหนานยินดีที่ได้รู้จัก”
เฉิงเยี่ยนหนานยิ้มและยื่นมือออกมาจับมือหยวนชูหลิง
“รีบๆเข้าไปกันได้แล้ว อาจารย์กำลังจะมาแล้ว”
เฉิงเยี่ยนหนานพูดและเปิดประตูห้องทันที
เมื่อเห็นว่าเฉิงเยี่ยนหนานกำลังเปิดประตูนั้นทำให้หัวใจของถังซิ่วสั่นระริกทีเดียว
เพราะหลังจากที่วิญญาณเขากลับมารวมกันครบแล้วนั้นทำให้ประสาทการรับรู้ของเขาพัฒนาไปล้ำหน้ากว่าคนปกติเป็นอย่างมาก
ตอนที่ถังซิ่วมาถึงที่หน้าห้องสิบนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงสีหน้าท่าทางของเพื่อนร่วงห้องที่เหมือนกำลังรอเหยื่อเพราอย่างงั้นเขาถึงได้ยืนรออยู่หน้าห้อง
เมื่อถังซิ่วกำลังรออยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงนักเรียนกระซิบกันว่าได้มีการวางกับดักวางไว้เหนือประตูซึ่งก็คือที่โกยขยะที่ไม้กวาดและที่โกยขยะก็จะตกลงมาใส่ใครก็ตามเปิดประตูเข้ามา
เมื่อรู้ว่ามีกับดักแบบนั้นแล้วถังซิ่วไม่มีทางเดินไปโดนกับดักอย่างแน่นอนและยืนรอให้อาจารย์มาก่อนเพราะถ้าอาจารย์มาถึงแล้วนักเรียนพวกนี้จะต้องโดนดีแน่ๆ
แต่เมื่อเฉิงเยี่ยนหนานมาถึงแล้วนั้นเขากลับได้ยินเสียงเชียร์จากภายในห้องซึ่งนั่นทำให้เขารู้ได้เลยว่าเป้าหมายของกับดักนั้นมีไว้เพื่อเฉิงเยี่ยนหนาน
“ปกติแล้วเพื่อนร่วมห้องเฉิงเยี่ยนหนานเข้าเรียนสายเป็นประจำงั้นหรอ ?”
ถังซิ่วนั้นไม่ได้ใจร้ายถึงขณะที่จะให้เฉิงเยี่ยนหนานต้องเจอกับเหตุการณ์แย่ๆโดยการโดนกับดักนั้นถึงได้พูดเพื่อจะยื้อเธอไว้
“ทำไมถึงได้ถามแบบนั้นหละ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเฉิงเยี่ยนหนานถึงได้ถามเขากลับด้วยความสงสัย
หลังจากนั้นเธอได้ถอยหลังพร้อมถีบประตูห้องเขาไปด้วยขาคู่งามของเธอ
ตามมาด้วยเสียง “แบง!!” ทั้งห้องนั้นฟุ้งไปด้วยฝุ่น
เมื่อหยวนชูหลิงเห็นไม้กวาดและที่โกยขยะที่หล่นลงมาทำให้เขาถึงกับต้องแสดงสีหน้าที่โง่งมออกมาพลางดีใจที่ตัวเองไม่ได้เปิดเข้าไปในห้องเมื่อกี้นี้
“พวกเด็กนักเรียนห้องนี้นี่มันใจร้ายจริงๆ เล่นใหญ่กันซะเหลือกัน”
สายตาของถังซิ่วตอนนี้จดจ้องไปที่เฉิงเยี่ยนหนานเพราการตอบสนองของเธอเมื่อกี้นี้เกินความคาดหมายของเขามาก
“ถังซิ่ว,หยวนชูหลิง พวกนายไม่จำเป็นต้องกลัวหรอก ,จากที่ฉันได้มองดูแล้วกับดักพวกนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับพวกนายหรอก”
หลังจากได้เห็นอาการตกตะลึงจากหยวนชูหลิงและถังซิ่วแล้วเธอจึงยิ้มและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับพูดต่ออีกว่า
“พวกนายเป็นคนดีนะ , หลังจากนี้ฉันจะเป็นคนคุ้มครองพวกนายเอง”
หลังจากที่เฉิงเยี่ยนหนานพูดจบเธอก็ได้เดินเข้าไปในห้องเรียนทันที
ถังซิ่วได้ยินสิ่งที่เฉิงเยี่ยนหนานอธิบายเกี่ยวกับกับดักหมดแล้ว หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงผิดหวังมาจากในห้องพร้อมกับทุกคนช่วยกันเก็บกวาดของทั้งหมดเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
เกือบจะทันทีที่นักเรียนทั้งหมดนั่งลงกับที่ ที่ทางเดินก็มีเสียงดัง “กริบ” “กร๊อบ” “กริบ” “กร๊อบ” สลับกัน เป็นเสียงของรองเท้าส้นสูง
เมื่อมองตามแหล่งเสียงไปก็ได้เห็นผู้หญิงรูปร่างดีคนหนึ่งใส่เสื้อแขนสั้นเผยให้เห็นผิวที่เรียบเนียนของเธอพร้อมกระโปรงสีชมพู
ผู้หญิงคนนั้นไว้ผมยาวสลวยใบหน้าเรียวเป็นรูปไข่พร้อมความใสกระจ่าง ผิวขาวดั่งหิมะ คิ้วยาวสวยพร้อมด้วยดวงตาที่น่าหลงใหล จมูกโด่ง นี่มันเป็นใบหน้าที่ช่างสมบูรณ์แบบ
ถ้าจะบอกว่าเฉิงเยี่ยนหนานก่อนหน้านี้นั้นให้ความรู้สึกสวยเหมือนดอกพลัมที่อ่อนโยนและละเอียดอ่อน เธอคนนี้ก็ต้องให้ความรู้สึกสง่าชั้นสูงและมีระดับอย่างไม่แพ้กัน
“ถังซิ่ว ,ทำไมรีบมาเร็วจัง ตอนแรกฉันคิดว่าหลังจากจบคาบนี้แล้วจะไปหาเธอที่ห้องห้า”
หลังจากที่ถังซิ่วมองไปที่ผู้หญิงคนนี้อย่างจดจ่อแล้วเธอได้เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มและน้ำเสียงที่ไพเราะ
“ฮั่น.........สวัสดีครับอาจารย์ฮั่น !!”
เมื่อได้ยินคำทักทายของอาจารย์ฮั่นนั้นทำให้ถังซิ่วนั้นตื่นขึ้นพร้อมตอบกลับไป
เหตุผลที่ถังซิ่วนั้นจดจ่อไปที่อาจารย์ฮั่นนั้นไม่ได้เป็นเพราะว่าความน่าหลงใหลของเธอแต่เป็นเพราะเธอมีใบหน้าที่คล้ายกับภรรยาของเขาที่อยู่ในดินแดนแห่งนิรันดร์ซึ่งทำให้เขารู้สึกใจหาย
เมื่อยืนยันได้ว่าฮั่นชิงหวูนั้นไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลย ถังซิ่วเกือบที่จะคิดว่าภรรยาของเขาได้ติดตามเขามาที่โลก
“ถังซิ่ว ,ครูใหญ่ได้บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องของเธอมาหมดแล้ว ถ้าเธอไม่อยากถูกเตะออกจากห้องสิบด้วยละก็ในอีกสามเดือนที่เหลือนี้เธอจะต้องเชื่อฟังอาจารย์ฮั่นคนนี้เข้าใจไหม”
ฮั่นชิงหวูที่เห็นการตอบรับของถังซิ่วนั้นพอใจเป็นอย่างมากหลังจากนั้นก็พูดไปยิ้มไป
“อาจารย์ฮั่นได้โปรดชี้แนะ”
หลังจากที่มองไปที่ฮั่นชิงหวูซักพักเขาได้ทำการปรับอารมณ์ของตัวเอง
ถังซิ่วรู้สึกว่าฮั่นชิงหวูนั้นอบอุ่นเป็นอย่างมากแต่เขาคิดว่าเขานั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธอและอีกอย่างเธอก็ยังมีหน้าตาคล้ายกับภรรยาของเขาที่อยู่ในดินแดนแห่งนิรันดร์เป็นอย่างมากและเป็นเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจและเลือกตีตัวออกห่างเธอ
“นักเรียนถังซิ่ว เธอไม่ต้องถ่อมตัวหรอก สามารถเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมสตาร์ซิตี้ด้วยคะแนนอันดับหนึ่งได้ ฉันเองก็หวังว่าเธอจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ในการสอบเข้าวิทยาลัยนะ”
หลังจากได้ยินคำพูดนั้นถังซิ่วก็เงียบและได้แต่เกาจมูกของตัวเอง
“อาจารย์ฮั่นผมและถังซิ่วเป็นเพื่อนรักกันจากห้องห้า ผมจะขอย้ายมาอยู่ห้องสิบกับเขาดังนั้นขอร้องอาจารย์เป็นโล่กำบังให้ผมด้วยนะครับ”
หยวนชูหลิงที่เห็นอาจารย์ฮั่นเอาแต่จ้องไปที่ถังซิ่วตั้งแต่แรกโดยที่ไม่ได้หันตามามองเขาเลยนั้นรู้สึกแปลกๆเลยเอ๋ยปากออกมา