ตอนที่แล้วตอนที่ 256 เปิดม่านลงมือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 258 ม้วนคำสั่งของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ

ตอนที่ 257 การเผชิญหน้า


ในพิธีแต่งงานมีสมาชิกจากเจ็ดตระกูลใหญ่มาร่วมงานด้วย แม้ว่าผู้คนที่อยู่ในระดับแก่นแท้จิตวิญญาณสถานะของพวกเขาจะสูงส่งมาก แต่แน่นอนว่าพวกจะไม่ได้มาที่นี่ด้วยตัวเอง แต่มันก็ยังมีจอมยุทธที่อยู่ในระดับห้วงจิตวิญญาณจำนวนมากอยู่ที่นี่ ดังนั้นคนที่รู้ตัวตนของลู่จงเทียนจึงมีมากทีเดียว

ตระกูลจักรพรรดิเข้ามาแทรกแซงด้วย? น่าสนใจยิ่งนัก

"ฮ่าฮ่าฮ่า น้องชายจงเทียนและข้าเคยเป็นคู่หูกัน หากน้องชายจงเทียนต้องการเข้ามาแทรกแซง แล้วข้าจะนั่งดูอยู่เฉยๆได้อย่างไร?" ชายชราอีกคนลุกขึ้นยืนและยิ้ม

"เซี่ยช่าง!"

"ท่านคือพี่ใหญ่เซี่ยจริงๆงั้นรึ?"

"พี่ใหญ่เซี่ยเป็นอัจฉริยะกระบี่ และได้รับการขนานนามว่าเป็นมือกระบี่ที่เก่งกาจที่สุดในหลายปีที่ผ่านมา เขาอยู่ในสำนักหู่หยางในเวลาเดียวกันกับจักรพรรดิพิรุณ และจักรพรรดิพิรุณได้เรียกเขาว่าเป็นมือกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบสองร้อยปี!"

"เขาเป็นหัวหน้าองครักษ์จักรพรรดิ และปกป้องพระราชวังจักรพรรดิอยู่ตลอดเวลา ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมาที่นี่!"

ผู้ชมทุกคนต่างอุทานออกมาด้วยความตกใจ ในแง่ของสถานะ เซี่ยช่างมีสถานะสูงกว่าลู่จงเทียนมากไม่เพียงแต่เขาจะมีระดับบ่มเพาะพลังและพลังต่อสู้ที่สูงส่ง แต่เขายังเป็นหัวหน้าองครักษ์จักรพรรดิและอาจถึงขั้นเป็นตัวแทนของตระกูลจักรพรรดิ

องค์ชายหนึ่งและองค์ชายสามตึงเครียดขึ้นมาทันที การปรากฏตัวของลู่จงเทียนแสดงให้เห็นว่าองค์ชายเจ็ดสนับสนุนหลิงฮัน แต่มันแตกต่างจากในกรณีของเซี่ยช่าง จักรพรรดิพิรุณประเมินเซี่ยช่างไว้สูงและในฐานะหัวหน้าองครักษ์จักรพรรดิ เขาขึ้นตรงต่อจักรพรรดิพิรุณเพียงคนเดียวเท่านั้น

แต่ทว่าตอนนี้เซี่ยช่างกำลังยืนอยู่เคียงข้างหลิงฮัน นั่นไม่ได้หมายความว่าจักรพรรดิพิรุณกำลังให้การสนับสนุนหลิงฮันอยู่ด้วยตัวเองหรอกหรือ?

เมื่อพวกเขานึกถึงความจริงที่ว่าพวกเขาเลือกที่จะยืนดูและไม่ทำอะไร ในขณะที่องค์ชายเจ็ดเลือกที่จะสนับสนุนหลิงฮันและตอนนี้มันดูเหมือนว่าจักรพรรดิพิรุณเองก็เลือกแล้ว เรื่องนี้มันจะไม่ทำให้พวกเขาตกใจจนหน้าซีดได้อย่างไร?

สีหน้าของหลิวชวงและหลิวสือเปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะเซี่ยช่างนับได้ว่าเป็นตัวแทนของจักรพรรดิพิรุณ

การปรากฏตัวของเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงตัวเขาเองเท่านั้น

แม้ว่าหลิงฮันจะไม่รู้จักเซี่ยช่าง แต่หลังจากที่ได้ยินบทสนทนาของผู้คนที่อยู่รอบตัวเขา ทำให้เขาตระหนักถึงตัวตนของเซี่ยช่างและพยักหน้าอยู่ในใจ นี่คือการเคลื่อนไหวของจักรพรรดิเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อนิกายจันทราเหมันตร์ มันอาจเป็นคำเตือนได้เช่นกัน

แน่นอนว่าแคว้นพิรุณไม่อาจต่อต้านนิกายจันทราเหมันตร์ได้ อย่างไรก็ตาม เฟิงหยางเป็นเพียงแค่ศิษย์และพฤติกรรมของมันนั้นอวดดีเกินไป และทำให้จักรพรรดิพิรุณรู้สึกไม่พอใจ การปรากฏตัวของเซี่ยช่างเป็นเหมือนการตบหัวผู้นำตระกูลหลิวและเตือนไม่ให้พวกเขาลืมกำพืดของตัวเอง

...ความเกลียดชังระหว่างเฟิงหยางและหลิงฮันควรจบที่พวกเขาสองคนเท่านั้นและมันจะเป็นเรื่องดีที่สุดถ้าไม่ลากคนอื่นมายุ่งเกี่ยวด้วย

มันไม่มีทางที่ตระกูลหลิวจะล่วงรู้การกระทำของจักรพรรดิพิรุณที่ต้องการจะสื่อได้ ผลลัพธ์หลิวสือและหลิวเชิงมองหน้ากันและก้าวถอยหลังทีละคนในขณะเดียวกัน เหล่าผู้อาวุโสที่ลุกขึ้นยืนขึ้นมากลับไปนั่งที่ของพวกเขาอีกครั้ง

เซี่ยช่าง ลู่จงเทียนและกว่างหยวนยิ้มให้กัน และพวกเขาเองก็กลับไปยังตำแหน่งเดิมของตัวเอง

นี่ถือเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ก่อนหน้านี้ เฟิงหยางและหลิงฮันได้สร้างวุ่นวายหลายครั้ง แต่ตระกูลจักรพรรดิก็ไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ตอนแรก ทุกคนต่างคิดว่าครั้งนี้ก็คงเหมือนกับครั้งก่อนๆ และไม่คิดเลยว่าจักรพรรดิพิรุณจะเคลื่อนไหว ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่คิดเช่นนั้น

"เหตุผลที่ตระกูลจักรพรรดิไม่เคลื่อนไหวใดๆก่อนหน้านี้เพราะมันยังเป็นแค่ความขัดแย้งระหว่างเฟิงหยางกับหลิงฮัน แต่ทว่าตอนนี้ตระกูลหลิวมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง! จักรพรรดิพิรุณจะปล่อยให้คนนอกเข้ามาแทรกแซงเรื่องภายในแคว้นและเขย่ารากฐานของแคว้นได้อย่างไร!"

คนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วย ตระกูลหลิวเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่และเป็นหนึ่งในเสาหลักที่สนับสนุนตระกูลจักรพรรดิ แต่ทว่า พวกเขากับแสดงตัวอย่างเปิดเผยว่าอยู่ข้างเฟิงหยางและนิกายจันทราเหมันตร์ พวกเขายังนับถือตระกูลจักรพรรดิอยู่หรือไม่? หรือว่าพวกเขากำลังวางแผนก่อกบฎ?

นี่ไม่ได้หมายความว่าจักรพรรดิพิรุณนั้นอยู่ฝ่ายหลิงฮัน แต่มันเป็นเพราะเฟิงหยาง หรือจะพูดให้ดีกว่านั้นคือตระกูลหลิวล้ำเส้นของจักรพรรดิพิรุณ

ในตอนแรกมีเสียงสองเสียงอยู่ในตระกูลหลิว แต่ทว่าหลังจากที่เห็นการเคลื่อนไหวของจักรพรรดิพิรุณเลยไม่มีใครกล้าเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเฟิงหยางเพียงคนเดียวว่ามันจะสามารถหยุดหลิงฮันได้หรือไม่ ในท้ายที่สุด เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างหลิงฮันและเฟิงหยาง

หลังจากก้าวเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว หลิงฮันได้เดินมาอยู่ตรงหน้าคู่สมรส

"หลิงฮัน ถ้าเจ้ามาที่นี่เพื่อดื่มอวยพร ข้าก็จะต้อนรับเจ้า แต่ถ้าเป็นอย่างอื่น ข้าไม่อยากจะฟัง!" เฟิงหมิงกล่าว มันดูเหมือนพวกอันธพาล แต่คำพูดที่มันกล่าวออกมากลับดูสูงส่ง ทำให้ผู้ชมผงะ

เห็นได้ชัดว่าคำพูดพวกนั้นเฟิงหยางเป็นคนสอน...แต่คำพูดต่อไปนี้ทำให้ผู้ชมถึงกับขมวดคิ้ว "หลิงฮัน ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอู๋ตง เจ้าไม่ได้วางแผนที่จะเป็นชู้กับภรรยาของข้าหรอกใช่ไหม?"

อึก!

ผู้คนจำนวนมากแทบสำลัก มันกล้าที่จะถามคำถามแบบนั้นต่อหน้าหลิงฮันและมันไม่คิดว่ามันเป็นความอัปยศเลยรึ? โง่เขลา...เจ้านี่มันเป็นคนโง่เขลาอย่างแท้จริง มันเป็นเครื่องมือที่เฟิงหยางใช้เพื่อทำให้หลิงฮันได้รับความอัปยศ ไม่ว่าใครก็ตามใบหน้าอาจกลายเป็นสีเขียวได้ด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินผู้หญิงของตัวเองถูกพูดจาดูหมิ่นแบบนั้นถูกต้องไหม?

แม้แต่สีหน้าของผู้นำตระกูลหลิวยังบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด หลิวอู๋ตงเป็นบุตรสาวที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของตระกูลหลิว แล้วพวกเขาจะไม่รู้สึกอับอายขายหน้าได้อย่างไร?

"เริ่มพิธีแต่งงานได้แล้ว หญิงสาวที่งดงามเช่นนาง ข้าทนที่จะเข้าหอไม่ไหวแล้ว!" เฟิงหยางพูดออกมาด้วยความหื่นกาม มันเคยเห็นหลิวอู๋ตงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นและหลงเสน่ห์ของนางตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแม้แต่ในความฝันของมัน มันยังไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งมันจะมีโอกาสแต่งงานกับนาง

แขกทุกคนต่างส่ายหัวของพวกเขาไปมา พวกเขาไม่รู้ว่าผลประโยชน์อันใดที่ตระกูลหลิวได้รับจากกงานแต่งงานครั้งนี้ แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเฟิงหมิง ความภาคภูมิใจและเกียรติยศของตระกูลหลิวพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

ในความเป็นจริง สีหน้าของผู้คนในตระกูลหลิวกลายเป็นซีดขาว พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเฟิงหมิงจะต่ำช้าขนาดนี้

มีเพียงแค่เฟิงหยางเท่านั้นที่ยังคงสวมรอยยิ้มอยู่ มันไม่ได้มองใครอื่นเลยนอกจากเฟิงหมิง เพราะยิ่งเฟิงหมิงทำตัวต่ำช้ามากเท่าไหร่ มันก็จะทำให้หลิงฮันได้รับความอัปยศมากขึ้นเท่านั้น

"พวกเจ้าจะยืนทำเพื่อ คุกเข่า! คุกเข่า! พวกเจ้าไม่เห็นรึว่าข้าอดกลั้นตัวเองมานานแค่ไหน?" เฟิงหมิงเร่งเร้า

ตุบ!

หลิงฮันเคลื่อนไหวและกำปั้นของเขาพุ่งเข้าหาศีรษะของเฟิงหมิง และมีเสียงกระดูกแตกหักดังออกมา ร่างกายของมันเดินโซเซไปมาก่อนที่จะทรุดตัวลงกับพื้นและในขณะนั้นเองโลหิตของมันได้หลั่งไหลออกมา

งานแต่งงานได้กลายเป็นงานศพเสียแล้ว

เมื่อพวกเขาเห็นฉากที่เกิดขึ้น ผู้คนจำนวนมากอยากจะตบมือและส่งเสียงเชียร์ออกมา มันเป็นเพราะเฟิงหมิงเป็นคนที่ต่ำช้าเกินไป ทว่าตอนนี้มันถูกหลิงฮันสังหารไปแล้ว ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที

เฉพาะสีหน้าของคนตระกูลหลิวเท่านั้นที่กลายเป็นน่าเกลียด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เฟิงหมิงเป็นลูกเขยของตระกูลหลิวและตอนนี้เขาถูกฆ่าโดยคนนอกอย่างหลิงฮัน ไม่ใช่ว่ามันเป็นการตบหน้าพวกเขาหรอกหรือ?

"หลิงฮัน เจ้ากล้าหาญยิ่งนัก!" ในที่สุดเฟิงหยางก็ลุกขึ้นยืน มือทั้งสองข้างไว้ที่หลังและเดินตรงไปหาหลิงฮัน

เฟิงหมิงได้ตายไปแล้ว และมันไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย  มันไม่เคยเป็นห่วงลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของมัน และตระกูลเฟิงเองก็ไม่ต้องการเศษขยะแบบมันไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม มันแค่ใช้เฟิงหมิงเพื่อทำให้หลิงฮันได้รับความอัปยศเท่านั้น แต่มันไม่คิดเลยว่าหลิงฮันจะเป็นคนเด็ดขาดและฆ่าเฟิงหมิง

"แล้วยังไง?" หลิงฮันตอบ มันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะมีการประนีประนอมกันเกิดขึ้นระหว่างเขาและเฟิงหยาง

"ฮ่าฮ่าฮ่า!" เฟิงหยางไม่ได้โกรธ กลับกัน มันพูดกับผู้คนตระกูลหลิวว่า "ทำไมพวกเจ้าทุกคนถึงอยู่เฉย? เจ้าไม่ได้ยินเจ้าบ่าวพูดรึ คุกเข่าลงและทำให้พิธีแต่งงานเสร็จสิ้น!"

หืม ไม่ใช่ว่าเฟิงหมิงตายไปแล้วหรอกรึ แล้วจะเริ่มงานแต่งงานต่อได้อย่างไร? หึ่ม เฟิงหยางคงไม่คิดให้หลิวอู๋ตงแต่งงานกับคนตายหรอกใช่ไหม?

ต่ำช้า! นี่มันชักจะต่ำช้าเกินไปแล้ว!

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเฟิงหยางถึงทำตัวสงบขนาดนั้น เป้าหมายของมันแค่ต้องการทำให้หลิงฮันได้รับความอัปยศ และการแต่งงานกับคนตายไม่ได้ดีไปกว่าการแต่งงานกับเศษขยะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด