ตอนที่แล้วตอนที่ 250 เฟิงหยางลงมืออีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 252 การชักชวน

ตอนที่ 251 เตรียมพร้อม


หลิงฮันได้รับการยอมรับว่าเป็นนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงมานานแล้ว แต่กระบวนการตรวจสอบนั้นต้องใช้เวลานาน อย่างไรก็ตาม เวลามากกว่าสองเดือนมันน่าจะมากพอที่จะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย

สถานะนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงเทียบได้กับป้ายทองคำช่วยชีวิต

หลิงฮันพาฮูหนิวไปตำหนักโอสถสวรรค์พร้อมกับเขา

"นายน้อยฮัน!"

"นายน้อยฮันมาแล้ว!"

หลังจากที่เซี่ยวหยิงเดินมารับพวกเขาไปที่ห้องโถงหลัก เหล่านักปรุงยาคนอื่นต่างเดินเข้ามาทักทายหลิงฮัน และจ้องมองหลิงฮันด้วยความประทับใจ

หลิงฮันพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและถามฟูหยวนเชิง "การตรวจสอบสถานะนักปรุงยาของข้าเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง?"

"มันเสร็จเรียบร้อยนานแล้ว แต่เป็นเพราะนายน้อยฮันได้เข้าไปในเขตแดนอสูรฟ้าลี้ลับ ทำให้ข้าไม่มีโอกาสบอกเรื่องนี้กับท่าน โปรดให้ข้านำมันมามอบให้กับท่านด้วยเถิด" ฟูหยวนเชิงรีบวิ่งไปนำกล่องผ้ามาและมอบมันให้กับหลิงฮันด้วยความสุภาพ

หลิงฮันรับมันจากเขา นอกจากป้ายเงินสามป้ายแล้ว มันยังมีวัตถุคล้ายกับคริสตัลอยู่ภายใน เมื่อใดที่พลังก่อเกิดถูกส่งเข้าไปในวัตถุนี่ มันจะถูกเปิดใช้และปรากฏชื่อของหลิงฮันบนพื้นผิวของมัน รวมถึงวันที่เขาได้รับการยืนยันว่าเป็นนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงและพยานที่ถูกเขียนไว้อย่างชัดเจน

"นายน้อยฮัน ข้ามีเรื่องอยากจะบอกท่านว่า ตำหนักโอสถสวรรค์ของพวกเราเป็นของสมาคมนักปรุงยา และสมาคมนักปรุงยาเป็นองค์กรที่มีนักปรุงยาทั้งหมดในดินแดนแห่งนี้ สมาคมเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบระดับนักปรุงยารวมถึงทำงานเพื่อผลประโยชน์ของนักปรุงยาทุกคน อายุของนายน้อยฮันยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ทว่าท่านกลับเป็นนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงแล้ว เรื่องนี้ทำให้สาขาเก้าแคว้นในดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยวเกิดความโกลาหลขึ้น และเหล่าปรมาจารย์นักปรุงยาทุกคนต่างคาดหวังว่านายน้อยฮันจะมาเยี่ยมเยือนตำหนักดาราเจิดจรัส" ฟูหยวนเชิงพูดอธิบายด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอิจฉาที่เขาไม่อาจปกปิดมันได้

ตำหนักดาราเจิดจรัสเป็นสาขาใหญ่ที่สุดของสมาคมนักปรุงยาที่อยู่ในเก้าแคว้นดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยว และที่นั่นมีนักปรุงยาระดับปฐพีอยู่ถึงเจ็ดคน พวกเขาทุกคนเป็นคนบุคคลที่มีความสำคัญอย่างแท้จริงในพื้นที่แถบนั้น และตอนนี้พวกเขาได้บอกว่าพวกเขาอยากพบเจอหลิงฮัน นี่ถือเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนกัน?

หลิงฮันไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นแม้แต่น้อย กลับกัน มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

บอกให้เขาไปที่นั่นเพื่อพบพวกเขา? พวกเขาตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?

"ถ้าพวกเขาอยากเจอตัวข้า บอกให้พวกเขามาด้วยตัวเอง ในตอนนี้ ข้ายังไม่มีเจตนาที่จะออกจากแคว้นพิรุณ" หลิงฮันกล่าวด้วยความสงบ

บางคนอยากจะตำหนิหลิงฮัน แต่เมื่อพวกมันนึกถึงความสามารถของหลิงฮันและวิธีที่เขาได้รับการยอมรับเป็นนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงจากการปรุงเม็ดยาสร้างรากฐานที่มีระดับใกล้เคียงกับเม็ดยาระดับปฐพีแล้ว นั่นหมายความว่าขาข้างหนึ่งของเขาย่างก้าวเข้าไปในระดับปฐพีแล้ว

ดังนั้น นักปรุงยาระดับปฐพีคนใดก็ไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งกับหลิงฮัน

"เอ่อ..." ฟูหยวนเชิงปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากของเขา ในความคิดเห็นของเขา การได้ไปเยี่ยมเยียนตำหนักดาราเจิดจรัสเป็นความใฝ่ฝันของนักปรุงยาทุกคน แต่ในกรณีของหลิงฮันไม่เพียงแต่เขาจะไม่สนใจเท่านั้น แต่เขายังพูดว่าให้คนพวกนั้นมาเป็นฝ่ายหาเขาเอง

หลิงฮันสะบัดมือและพูดว่า "เรื่องพวกนี้ไว้พูดคุยกันทีหลังเถอะ ข้ามีเรื่องอื่นที่ต้องการขอความช่วยเหลือจากท่าน"

"เพียงแค่นายน้อยฮันกล่าวออกมา ข้าจะช่วยทุกอย่าง" ฟูหยวนเชิงพูดออกมาด้วยความเร่งรีบพร้อมกับโค้งคำนับ ราวกับหลิงฮันกำลังให้เกียรติเขาโดยการขอความช่วยเหลือจากเขา

หลิงฮันพยักหน้าและถามออกไปว่า "ตระกูลหลิวกำลังวางแผนที่จะส่งบุญสาวของพวกเขาออกไปแต่งงานอีกสามวันนับจากนี้ ท่านรู้เรื่องนี้หรือไม่?"

"ข้ารู้..." ฟูหยวนเชิงจ้องมองหลิงฮันและเกิดความลังเลเล็กน้อย แต่ยังคงพูดต่อ "ตามข้อมูลที่แพร่งพรายออกมาจากตระกูลหลิ่ว เฟิงเย่ได้กลายเป็นศิษย์ของนิกายจันทราเหมันต์แล้วและยังเป็นศิษย์หลักด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ตระกูลหลิ่วตกลงที่จะแต่งงาน"

ไร้สาระยิ่งนัก!

หลิงฮันส่ายหน้า แม้ว่าจะเป็นเฟิงหยางที่ต้องการแต่งงานกับหลิ่วอู๋ตง ตระกูลหลิ่วอาจไม่เห็นด้วย เพราะว่าแม้นิกายจันทราเหมันต์จะทรงพลัง แต่ก็ยังมีนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงสองคนยืนอยู่ด้านหลังหลิงฮัน ดังนั้นเขาเองก็มีผู้สนับสนุนที่ทรงพลังเช่นเดียวกัน

ในทางกลับกัน ผลประโยชน์อันใดที่ตระกูลหลิ่วได้รับจากการที่จะบุตรสาวของพวกเขาแต่งงานกับศิษย์นิกายจันทราเหมันต์?  การเป็นพันธมิตรกันโดยการแต่งงานมักมีความหมายเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น

ตัวอย่างเช่น มีองค์หญิงกี่คนกันในตระกูลจักรพรรดิที่ถูกส่งออกไปแต่งงานในทุกปี? พวกนางส่วนใหญ่ได้แต่งงานเข้ากับแปดตระกูลใหญ่ แต่แปดตระกูลใหญ่ยังไงก็คือแปดตระกูลใหญ่ และไม่มีใครใกล้ชิดกับตระกูลจักรพรรดิ ในทางกลับกัน แปดตระกูลใหญ่ยังคงรวมกันอยู่เพื่อความปลอดภัยและต่อต้านตระกูลจักรพรรดิทั้งฉากหน้าและฉากหลัง

นิกายจันทราเหมันต์ไม่ได้ตั้งอยู่ในเก้าแคว้นของดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยว ถ้าพวกมันยื่นมือเข้ามาก้าวก่ายดินแดนแถบนี้ มันจะเป็นครั้งแรกที่พวกมันสร้างความไม่พอใจให้กับตระกูลจักรพรรดิ ตระกูลจักรพรรดิคงไม่กล้าที่จะต่อต้านนิกายจันทราเหมันต์อย่างเปิดเผย แต่แล้วถ้าเป็นตระกูลหลิ่วล่ะ?

ดังนั้น ถึงแม้ตระกูลหลิ่วจะส่งตัวหลิ่วอู๋ตงแต่งงานกับเฟิงหยาง นั่นจะเป็นเพียงแค่การแต่งงานเชิงสัญลักษณ์ แต่นี่เจ้าบ่าวเป็นเฟิงหมิง

ตามความคิดของหลิงฮัน เฟิงหยางต้องต้องมอบผลประโยชน์อันมหาศาลบางอย่างให้กับตระกูลหลิ่ว และผลประโยชน์นั่นยังมากพอที่ตระกูลหลิ่วสละบุตรสาวของตัวเอง

"นายน้อยฮัน นิกายจันทราเหมันต์มีจอมยุทธระดับตัวอ่อนจิตวิญญาณอยู่ เว้นเสียว่าปรมาจารย์ปรุงยาจากตำหนักตำหนักดาราเจิดจรัสปรากฏตัวออกมา...เรื่องนี้จะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย!" เขารู้ว่าเรื่องที่หลิงฮันต้องการความช่วยเหลือจากเขาคือเรื่องงานแต่งงานของหลิ่วอู๋ตง

หลิงฮันยิ้มและพูดว่า "ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น มันเป็นแค่เฟิงหยาง เมื่อถึงเวลา ท่านแค่พาคนมาต่อการปรากฏตัวของข้า และไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น"

ฟูหยวนเชิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ช่วยเรื่องการปรากฏมันไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน และเขายังเป็นหนึ่งในสองนักปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ในแคว้นพิรุณ แม้แต่ตระกูลหลิ่วก็ยังไม่กล้าพูดจาดูหมิ่นเขา ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีสมาคมนักปรุงยาอยู่เบื้องหลังเขา แม้แต่นิกายจันทราเหมันต์ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรเขา

หลิงฮันเองก็เป็นนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงและเท้าข้างหนึ่งได้เหยียบย่ำอยู่ในระดับปฐพีแล้ว แม้แต่คนที่มีตำแหน่งใหญ่โตในนิกายจันทราเหมันต์ยังต้องปฏิบัติกับคนแบบนั้นอย่างสุภาพ แล้วเฟิงหยางที่เป็นแค่ศิษย์ทั่วไปของพวกเขาจะนับว่าเป็นอันใด

ด้วยความคิดดังกล่าว ความกังวลของฟูหยวนเชิงหายไป ไม่ว่าหลิงฮันจะพาตัวหลิ่วอู๋ตงกลับมาได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยที่สุดตัวเขาเองก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายใดๆ

อย่างไรก็ตาม หลิงฮันจะพาตัวหลิ่วอู๋ตงกลับมาได้จริงหรือ?

ตระกูลหลิ่วส่งบุตรสาวคนหนึ่งของพวกเขาออกไปแต่งงาน มันไม่สำคัญว่านางจะได้แต่งงานกับเศษขยะจากที่ไหน แต่เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลหลิ่วและเกียรติยศของพวกเขาแล้ว พวกเขาคงไม่ยืนเฉยและดูหลิงฮันลักพาตัวเจ้าสาวไป

แท้จริงแล้วหลิงฮันตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?

ฟูหยวนเชิงเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นมาก แต่หลิงฮันไม่ได้พูดอธิบายอะไรออกมาและจากไปอย่างรวดเร็ว

ในอีกสองวันข้างหน้า เฟิงหยางจะกลายเป็นตัวตนที่พิเศษ มันท้าทายองค์ชายสาม ชางเย่และจ้าวฮวาน ซึ่งสามศิษย์หลักทีละคนและได้รับชัยชนะ

แต่นี่มันไม่ใช่การประลองที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายปี ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะชนะ แต่มันก็ไม่สามารถเป็นศิษย์หลักได้ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ทุกคนต่างรู้ว่าเฟิงหยางจะได้กลายเป็นศิษย์ที่แท้จริงของนิกายจันทราเหมันต์

เฟิงหยางกำลังจะออกจากแคว้นพิรุณ ดังนั้น มันเลยอยากทำให้ชื่อของมันเป็นที่รู้จักก่อนออกแคว้นพิรุณและเหยียบหัวอัจฉริยะทุกคนในแคว้นพิรุณบนเส้นทางของมัน

บรรดาผู้คนที่ได้ดูการต่อสู้ ในตอนนี้เฟิงหยางได้บรรลุระดับก่อเกิดธาตุขั้นเก้าแล้ว ถ้ามันสามารถก้าวเข้าสู่ระดับห้วงจิตวิญญาณได้ด้วยอายุในปัจจุบันของมัน มันคงจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ของแคว้นพิรุณ ในฐานะจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณที่มีอายุน้อยที่สุด

เมื่อเทียบกับข้อมูลส่วนตัวที่สูงส่งของเฟิงหยางแล้ว หลิงฮันมีข้อมูลส่วนตัวที่ต่ำกว่ามาก และหลิงฮันได้นั่งอยู่ในลานของเขาตลอดทั้งวัน มันทำให้เขาดูโศกเศร้าเป็นอย่างมาก

ฉีฮวงเย่และคนอื่นๆต่างมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเขาและต้องการปลอบโยนเขา เฟิงหยางได้วางกับดักหลอกล่อหลิงฮันอย่างเห็นได้ชัดและกำลังรอให้หลิงฮันติดกับในวันแต่งงาน ในเวลานั้น ทั้งตระกูลหลิ่วและเฟิงหยางจะมีเหตุผลเพียงพอที่จะฆ่าหลิงฮัน

"หืม เจ้าบรรลุระดับก่อเกิดธาตุแล้วงั้นรึ!?" พวกเขายังไม่ทันปลอบโยนหลิงฮัน เมื่อเขาตระหนักถึงระดับบ่มเพาะพลังของเขาทำให้พวกเขาตกอยู่ในอาการตกใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด