ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 2

ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 1


ตอนที่ 1

ในช่วงค่ำเวลาสามทุ่ม การแข่งขันบาสเกตบอลลีกเอนัดตัดสินของโรงเรียนมัธยมปลายชายยังไม่จบเกม นิตยสารแพลนนิ่งที่เพิ่งจะพิมพ์เสร็จสดๆ ร้อนๆ ชุดหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะทำงานที่มีนิตยสาร ‘บาสเกตบอลโมเมนต์’ วางกระจัดกระจายอยู่

บนหน้าปกนิตยสารแพลนนิ่งมีหัวข้อที่สะดุดตา โรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนาน ราชันแห่งบาสเกตบอลที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้

“พี่มะระ การแข่งขันในควอเตอร์สามเพิ่งจะจบลง พี่ก็พิมพ์นิตยสารแพลนนิ่งเสร็จแล้ว ถ้าสมมติว่าฉี่หนานแพ้ล่ะ พี่ไม่ต้องทำใหม่อีกชุดเหรอ?” เด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานที่สำนักงานนิตยสารเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ถามด้วยความสงสัย

ชายที่ถูกเรียกว่า พี่มะระพูดพร้อมกับหัวเราะ“สบายใจได้ ถึงแม้จะนำไปก่อนสิบคะแนน ก็ไม่นับว่าเยอะ แต่ฉี่หนานไม่ยอมให้ตงผิงมีโอกาสพลิกกลับมานำอีกได้”

ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นไปได้หรอก โรงเรียนมัธยมปลายตงผิง ก็แข็งแกร่งนะ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีโอกาส?

“ถ้าการ์ดสองคนนั้นสามารถกันฉี่หนานได้ พวกเขาก็ยังจะพอมีความหวังนะ” พี่มะระเพิ่งจะพูดจบ ควอเตอร์สี่ที่เพิ่งเริ่มเกมการแข่งขัน โรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนานก็สามารถชู้ตสามคะแนนได้ คะแนนเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่สิบสามคะแนน

จากนั้น ฉี่หนานคุมเกมและหนีการประกบจากการ์ด ทำให้การ์ดของตงผิงตั้งตัวไม่ทัน บอลที่จ่ายออกไปอย่างลำบากกลับถูกฉี่หนานแย่งไป และเลย์อัพชู้ตลงไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ชั่วพริบตาคะแนนขึ้นมาอยู่ที่สิบห้าคะแนน

“พระเจ้า ถ้าพวกเขาได้ชัยชนะอีก นั่นก็หมายความว่าตลอดระยะเวลาสิบสองปีที่ผ่านมาโรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนานชนะสามครั้งติดต่อกันกันเป็นสมัยที่สาม” เด็กใหม่อุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

“สิบสองปี?” พี่มะระทำเสียงหึม “ไม่ใช่มีแค่สิบสองปี นายรู้ไหมโรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนานสร้างทีมมาสามสิบปี ได้แชมป์มากี่ครั้งแล้ว?”

เด็กใหม่ครุ่นคิดเรื่องนี้ ยากที่จะคาดเดา “สิบห้าครั้ง?”

พี่มะระหัวเราะร่า ชูสองนิ้วคือชูนิ้วชี้กับนิ้วกลางของมือขวาออกมา “ผิดแล้ว ทั้งหมดยี่สิบครั้ง”

เด็กใหม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง “พระเจ้า จริงเหรอ เยอะเกินไปแล้ว พี่อย่าโกหกผมนะ พี่มะระ?”

“โกหกนายแล้วได้เงินเหรอ?” พี่มะระกรอกตาอย่างเสียไม่ได้

“ฉี่หนานทำยังไงกันแน่นะ?” เด็กใหม่เผยความรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อออกมา

“ทุ่มเงิน คณะกรรมการของโรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนานเป็นกลุ่มคนสูงอายุที่มีเงิน ไม่เพียงแค่สนับสนุนทุนการศึกษาเป็นจำนวนมาก ยังลงทุนจ้างโค้ชเก่งๆจากโรงเรียนมัธยมปลายที่อื่นมาสอน พร้อมเทคนิคและอุปกรณ์ที่ทันสมัยรวมทั้งช่วงปิดเทอมฤดูหนาว ฤดูร้อนของทุกๆ ปี ได้ไปเรียนรู้และเยี่ยมชมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรปด้วย ถ้านายเป็นผู้เล่น นายจะไม่ชอบเหรอ?”

พี่มะระมองเด็กใหม่แล้วพูดต่อ “โรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนานใช้วิธีนี้ ทำให้สร้างผู้เล่นดาวเด่นขึ้นมาจากผู้เล่นที่ถูกจับตามองมากที่สุดในการแข่งขันลีกระดับประเทศ จากทั่วทุกภูมิภาค”

“มิน่าล่ะ ถึงได้แชมป์ตั้งยี่สิบครั้ง” เด็กใหม่เข้าใจในทันที “แล้วอีกสิบครั้งล่ะ” ถ้าตามแบบวิธีของโรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนาน น่าจะได้แชมป์ติดต่อกันสามสิบครั้งสิ”

พี่มะระเขี่ยบุหรี่ ถึงแม้ว่าในสำนักงานห้ามสูบบุหรี่ แต่ตอนนี้ที่นี่เหลือเพียงเขาและเด็กใหม่สองคนเท่านั้น ไม่มีใครว่าอะไร “นอกจากมีอยู่ปีหนึ่งที่ตกรอบแรกในการแข่งขันแล้ว อีกเก้าปีที่เหลือก็เป็นเพราะว่าปัญหาเรื่องการบาดเจ็บไม่สามารถคว้าแชมป์ได้”

“รอบแรก? จะเป็นไปได้ยังไง!” ทำให้ยากที่จะจินตนาการจริงๆ แต่พี่มะระหน้าตาจริงจังไม่เหมือนกับพูดล้อเล่น ความอยากรู้ของเด็กใหม่ถูกชะงักไว้เรียบร้อยแล้ว

“จริงๆ” พี่มะระดูดบุหรี่เข้าไปหนึ่งคำ นั่งพิงพนักเก้าอี้ มองดูควันบุหรี่ที่พ่นออกมาจากปากค่อยๆ ลอยขึ้นไป คิดย้อนกลับไปเมื่อปีนั้น

“ในปีนั้น โรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนานนับว่าเป็นที่แชมป์ที่ฮอตมาก คู่ต่อสู้ในรอบแรกคือโรงเรียนมัธยมปลายกวงเป่ย ที่เพิ่งจะขยับจากลีกบีมาเป็นลีกเอ ดังนั้นการคาดการณ์ก่อนการแข่งขัน เอนเอียงไปทางทีมโรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนาน แม้กระทั่งยังมีบางคนรอดูการแข่งขันในรอบนี้ของฉี่หนาน ที่เอาชนะคู่ต่อสู้ไปอย่างดุเดือดด้วยคะแนน ห้าสิบ หกสิบคะแนน กวงเป่ยไม่ได้อยู่ในสายตาของฉี่หนานเลยสักนิด ในการแข่งขันควอเตอร์แรก ฉี่หนานส่งตัวผู้เล่นตัวสำรองลงเล่นทั้งหมด” พอพูดถึงตรงนี้ พี่มะระก็ดูดบุหรี่เข้าไปอีก

“หลังจากนั้นล่ะ?” เด็กใหม่รอไม่ไหวอยากรู้ว่าต่อไปเป็นยังไง

“หลังจากนั้น แม้ว่าแข่งกับทีมอื่น ฉี่หนานก็ส่งตัวผู้เล่นตัวสำรองลงสนามก่อน ในควอเตอร์ที่หนึ่ง ถูกกวงเป่ยบุกทำคะแนนได้สามคะแนน หลังจากจบควอเตอร์ที่หนึ่งคะแนนตามหลังอยู่ที่สิบคะแนน แต่ตามหลังเพียงแค่สิบคะแนน สำหรับฉี่หนานแล้วถือว่าไม่เป็นอะไรเลย ควอเตอร์ที่สองฉี่หนานเปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงลงสนามทั้งหมด ใช้เวลาเพียงแค่ห้านาที คะแนนก็พลิกกลับมานำ ผู้ชมที่อยู่ในสนามเริ่มโห่ร้องไชโย นึกว่าจะได้เห็นฉี่หนานบี้คู่ต่อสู้ในการแข่งขันอีกแล้ว” พี่มะระหัวเราะไป ส่ายหัวไป   “จริงๆ แล้วในตอนนั้น ผมก็เป็นนักเรียนม.ปลายที่นั่งอยู่ในกลุ่มผู้ชม คอยชมการแสดงของโรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนานด้วยความเต็มใจ

“แล้วผลการแข่งขันล่ะ?”

“ในขณะที่ทุกคนคิดว่าคะแนนเริ่มขึ้นนำ โรงเรียนมัธยมปลายกวงเป่ยมีนักบาสที่ไม่น่าเชื่อปรากฎตัวขึ้น หลี่หมิงเจิ้งเบอร์แปด นับตั้งแต่เริ่มช่วงครึ่งหลังของควอเตอร์ที่สอง การแข่งขันทั้งสนามแทบจะกลายเป็นโชว์ส่วนตัวของเขา” พอพูดถึงหลี่

หมิงเจิ้ง พี่มะระเริ่มคึกคักขึ้นมา “ก่อนการแข่งขันสิบห้านาที เขาไม่ได้ยื่นมือออกมาเลยสักนิด ยังไม่ได้หนึ่งคะแนน ได้แค่จับบอลที่รีบาวด์ไม่ลงห่วง ทั้งสนามรวมทั้งตัวผมที่นั่งอยู่ในนั้นต่างพากันคิดว่าในการแข่งขันครั้งนี้เขาเป็นผู้เล่นที่ไม่มีความรู้สึกที่สุด กวงเป่ยทำไมถึงส่งเขาลงสนาม? และคำตอบนี้ เผยให้เห็นในตอนห้านาทีสุดท้ายของควอเตอร์ที่สอง”

เด็กใหม่ฟังพี่มะระเล่าการแข่งขันในครั้งนั้นอย่างตั้งใจแทบจะหยุดหายใจ

“ไม่ว่าจะเป็นกระโดดชู้ตนอกเส้นหรือตัดเข้าไปในเขตจุดโทษ สำหรับหลี่หมิงเจิ้งแล้วการ์ดของฉี่หนาน ก็เหมือนกับว่าเป็นแค่กำแพงที่ขยับไม่ได้เท่านั้น ไม่มีใครสามารถกีดกันหลี่หมิงเจิ้งให้ทำคะแนนได้เลย ทักษะเฉพาะอันยอดเยี่ยมของเขา ทำให้นายมีความรู้สึกเหมือนกับภาพลวงตา ซึ่งผู้เล่นของโรงเรียนมัธยมฉี่หนานก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน ควอเตอร์ที่สองจบลง เพียงกำลังคนเดียวของหลี่หมิงเจิ้ง ก็ทำให้คะแนนตามไปอยู่ที่เสมอกัน”

“ว้าว ที่แท้หลี่หมิงเจิ้งก็แข็งแกร่ง น่าจะพัฒนานักบาสอาชีพนี้ต่อไปถึงจะถูก ทำไมผมไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย” เด็กใหม่รีบเผยความสงสัยในใจออกมา

“เรื่องนี้นายรอสักประเดี๋ยว ก็ได้รู้ละ” พี่มะระเคาะขี้บุหรี่ “ผ่านช่วงเวลาพักครึ่ง เริ่มการแข่งขันในควอเตอร์ที่สาม โรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนานได้ปรับเปลี่ยนการป้องกันหลี่หมิงเจิ้งทันที เพียงแค่เขาได้ถือบอล ผู้เล่นสองคนก็รีบมาประกบด้านหน้าทันที แม้กระทั่งในมือของเขาไม่มีลูกบอลก็ตาม ก็จะมีผู้เล่นคอยประกบตัวเขาอยู่ตลอด ทำให้เขาไม่สามารถรับบอลที่เพื่อนร่วมทีมส่งต่อมาให้ได้ง่ายๆ”

พอพูดถึงตรงนี้ อารมณ์ของพี่มะระก็ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย “แต่ยิ่งป้องกันแน่นหนามากขึ้นเท่าไหร่ การต่อสู้ของหลี่

หมิงเจิ้งยิ่งประทุมากขึ้นเท่านั้น เขาแสดงให้เห็นซึ่งความสามารถที่เกินขอบเขตของนักเรียนชั้นมัธยมปลายและความสามารถในการวิ่งตัดอีกครั้ง แรงปะทะของเขารวดเร็วมาก ทำให้เขาวิ่งตัดได้เหมือนกับมีดที่ยากจะหยุดยั้ง และการเปลี่ยนแปลงทิศทางการเคลื่อนไหวของเขานั้นว่องไวมากขึ้น ขอเพียงแค่การประกบของโรงเรียนมัธยมฉี่หนานมีช่องว่างเกิดขึ้นเพียงนิดเดียวเท่านั้น เขาก็สามารถหมุนตัวเปลี่ยนทิศทางเลี้ยงบอลหลุดออกจากการ์ดไปได้ แล้วดูสถานการณ์ว่าจะวิ่งเข้าไปในเขตหวงห้ามแล้วจัมพ์ชอตนอกเส้นหรือส่งบอลต่อให้เพื่อนร่วมทีมที่ไม่ถูกกีดกัน ถ้าพูดอย่างง่ายๆ คือ ในเกมนั้นหลี่หมิงเจิ้งได้เปล่งแสงอันรุ่งโรจน์ออกมา ในปีนั้นหวังซือฉีซึ่งเป็นตัวเด่นของโรงเรียนมัธยมปลายฉี่หนานก็ยังเทียบชั้นไม่ได้”

พี่มะระดับบุหรี่ แล้วก็จุดบุหรี่มวนใหม่อีกมวน “ขอเพียงแค่ฉี่หนานไม่ได้เป็นหลอดไฟประหยัดพลังงาน แม้ว่าจะป้องกันหลี่หมิงเจิ้งเอาไว้ไม่ได้ แต่การรุกที่ดุเดือดทำให้กวงเป่ยไล่ตามมาอย่างยากลำบากตลอดทั้งเกมการแข่งขัน คะแนนตามมาติดๆ ในยี่สิบวินาทีสุดท้ายก่อนจบการแข่งขัน ฉี่หนานยังมีคะแนนนำอยู่หนึ่งคะแนนและครองบอลอยู่ ที่พวกเขาต้องทำคือดึงเวลาให้จบการแข่งขันก็พอแล้ว”

และในขณะนั้นกวงเป่ยใช้ลูกเล่นโดยการประกบหวังซือฉีไว้ ในตอนเริ่มต้นหวังซือฉีเลี้ยงลูกอย่างใจเย็นถอยไปจนถึงตำแหน่งกลางสนาม แล้วส่งบอลต่อให้เพื่อนร่วมทีมที่ไม่มีใครกีดกัน ใครจะไปรู้นั่นคือกับดักที่กวงเป่ยวางเอาไว้ หลี่หมิงเจิ้งอาศัยช่องว่างในขณะที่หวังซือฉีส่งบอล วิ่งออกมาแย่งบอลไป ในขณะที่เหลือเวลาห้าวินาทีของการแข่งขัน การรุกแดนหน้าอย่างรวดเร็ว เผชิญหน้ากับการป้องกันของหวังซือฉี เขากระโดดชู้ตบอลลงห่วง และในเวลาเดียวกันที่เสียงเป่านกหวีดหมดเวลาก็ดังขึ้น แปดสิบต่อเจ็ดสิบเก้าคะแนน โรงเรียนมัธยมปลายกวงเป่ยพลิกกลับมาชนะฉี่หนานได้ในช่วงเวลาสุดท้าย

 

…………………………………………………………………………….

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด