ตอนที่แล้วDivine King Of All Directions - 195
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDivine King Of All Directions - 197

Divine King Of All Directions - 196


Divine King Of All Directions - 196

 

 

เลือดสาดกระจายไปทั่วขณะที่ร่างของชายชราได้ลอยเคว้งออกไปไกลแถมยังมีรูโหว่อยู่กลางหน้าอก

 

ชายชราได้กระอักเลือดออกมาอย่างหนักพร้อมทั้งหน้าอกที่ชุ่มไปด้วยกองเลือดจนดูน่ากลัว

 

"นี่..........."

 

ผู้คนถึงกับมีดวงตาเบิกกว้างไปตามๆกัน

 

หลินเทียนที่กำลังถือกระบี่อยู่เองก็ยังคงก้าวเดินออกไปด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสเช่นเคย

 

มันเป็นอย่างที่ชินเฟิงว่าเอาไว้ เขาเป็นปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 4 แถมยังฝึกฝนเคล็ดวิชาระดับสูงอย่างหนึ่งวิญญาณสวรรค์ทำให้พลังวิญญาณของเขาไม่ต่างอะไรไปกับจิตสัมผัสของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้เลยแม้แต่น้อย

 

เมื่อมองไปยังหลินเทียนที่กำลังก้าวเข้ามาแล้วชายชราก็ได้แต่สั่นสะท้านพร้อมกับก้าวถอยหลังไป

 

"แกร๊ง ! "

 

เสียงกระบี่คำรามดังขึ้นขณะที่หลินเทียนได้ยกมือขวาขึ้นมาแล้วฟาดฟันออกไป

 

พุฟฟฟ ! แขนซ้ายของชายชราได้ถูกตัดขาดไปอีกข้าง

 

"อ๊ากก ! "

 

ชายชราได้โห่ร้องออกมาอย่างน่าสังเวชพร้อมทั้งก้าวถอยกลับไปก่อนที่จะคุกเข่าลงกับพื้น

 

ในเวลาไม่นานแขนทั้งสองข้างของเขาถูกกุดจนไม่เหลือ

 

หลินเทียนยังคงก้าวเดินออกไปด้วยสีหน้าที่เย็นชาพร้อมทั้งยกกระบี่ในมือขึ้นอีกครั้ง

 

"หยุดนะ ข้า......."

 

"พุฟฟ ! "

 

กระบี่นี้ได้ฟันผ่านลำคอของชายชราจนศีรษะของเขาหลุดออกไปทันที

 

หลายๆคนได้แต่มีสีหน้าเปลี่ยนไปตามๆกัน

 

"เป็นไปได้ไงกัน ! "

 

"นั่นน่ะผู้เชี่ยวชาญเขตแดนผู้รอบรู้เลยนะ ! แต่กลับ......."

 

"นี่......"

 

หลายๆคนได้แต่มองไปที่กันและกัน

 

ชินเฟิงและคนอื่นๆเองก็ได้เหลือบมองไปทางหลินเทียนเล็กน้อยพร้อมกับพูดออกมาว่า

 

"เจ้าหนูนี่....."

 

แน่น่อนว่าพวกเขาไม่มีใครคาดคิดเลยว่าหลินเทียนจะแข็งแกร่งขนาดนี้

 

จูเจียนฉีและบรรพบุรุษคนอื่นๆเองก็มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ชายชราคนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญรับเชิญของจักรวรรดิแต่กลับถูกสังหารลงโดยฝีมือของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะนี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากๆ !

 

หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ไร้อารมณ์ออกมาเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นพร้อมทั้งก้าวข้ามศพของชายชราไปหาจูหวูเต๋า

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาของหลินเทียนแล้วจูหวูเต๋าก็ได้แต่สั่นสะท้านไปพลางมองไปทางเจียงเหลินเหวิน

 

"ป้องกันไว้ ! "

 

หนึ่งในแม่ทัพได้ออกคำสั่งอย่างดัง

 

ทันใดนั้นเองที่ทหารทั้งหลายต่างวิ่งมาขวางหน้าหลินเทียนเอาไว้

 

"ฆ่า ! "

 

แม้ทหารทั้งหลายอาจจะกลัวแต่ก็ยังคงปฏิบัติตามเพราะว่ากฎของราชวงนั้นไร้ความปราณีถึงไม่กล้าขัดคำสั่ง

 

เมื่อจ้องมองไปยังคนเหล่านี้แล้วหลินเทียนก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ดุร้ายออกมา

 

"ไสหัวไปซะ ! "

 

คลื่นกระบี่สายฟ้าเปลวเพลิงได้ถูกส่งออกไปโดยรอบ

 

"พุฟฟ ! "

 

"พุฟฟฟ !"

 

"พุฟฟ !"

 

เมื่อต้องเผชิญกับคลื่นกระบี่ที่รุนแรงเหล่านี้แล้วต่อให้เป็นทหารที่อยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 เองก็ยังไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้ดังนั้นนับประสาอะไรกับทหารธรรมดาๆ , ครั้งนี้กองทหารหลายสิบคนได้แต่นอนจมกองเลือดของตัวเองหลังจากที่ถูกคลื่นกระบี่กลืนไป

 

หลินเทียนในตอนนี้เปรียบเสมือนดั่งเทพเจ้าสายฟ้าเปลวเพลิงแห่งความตายที่จุติมาเกิดใหม่ ทุกก้าวย่างของเขาพร้อมบดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่าง หากว่ามองในมุมกว้างแล้วจะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่คลื่นกระบี่ถูกส่งออกมานั้นเหล่าทหารธรรมดามากมายล้วนทรุดลงจมกองเลือดอยู่กับพื้นเต็มลานไปหมด

 

"ดูเหมือนว่ายังไงวันนี้ที่นี่ก็ต้องชโลมไปด้วยเลือด"

 

ชินเฟิงได้พูดออกมา

 

จูเจียนฉีและคนอื่นๆเองก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่น่าเกลียดออกมาเพราะตั้งแต่ก่อตั้งจักรวรรดิมานั้นไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาก่อน !

 

"ไอ้สิ่งโสมม ! "

 

จูเจียนฉีได้ส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธพร้อมทั้งพยายามพุ่งเข้าหาหลินเทียน

 

น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสจินได้พุ่งออกไปปะทะด้วยฝ่ามือพลางพูดต่อว่า

 

"รีบร้อนอะไรกัน ? อยากจะปกป้องลูกหลานอกตัญญูก็ต้องจ่ายอย่างสมน้ำสมเนื้อ "

 

"เจ้า ! "

 

จูเจียนฉีได้แต่จ้องมองออกไปด้วยสีหน้าที่โกรธจัด

 

"การกระทำของจักรพรรดิองค์ใหม่ถูกลิขิตให้จบอย่างอนาถอยู่แล้ว"

 

ผู้อาวุโสจินได้พูดออกมาอย่างไม่เกรงกลัว

 

คลื่นกระบี่ได้พุ่งออกไปโดยรอบขณะที่หลินเทียนยังคงก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางที่ชโลมไปด้วยเลือด

 

"จูหวูเต๋า ! "

 

เขาได้ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังพร้อมทั้งฟาดฟันกระบี่ออกไป

 

โครม ! คลื่นกระบี่สายฟ้าเปลวเพลิงพุ่งออกไปเป็นห่าฝน

 

จูหวูเต๋าได้รีบเรียกเอากระบี่ของตนออกมาตอบโต้และแน่นอนว่ามันเป็นอาวุธสมบัติระดับสูงเช่นกัน , อย่างไรก็ตามคลื่นกระบี่ของหลินเทียนนั้นรุนแรงเกินไปและต่อให้เขาใช้ประโยชน์จากอาวุธก็ยังถูกดีดปลิวออกไปกระแทกกับเสาหลักที่อยู่ห่างออกไปจนกระอักเลือดออกมาคำโต

 

สีหน้าของเจียงเหลินเหวินเองก็ไม่สู้ดีนักขณะที่ฟาดฟันกระบี่ออกไปตรงหน้า

 

เขาฝึกฝนทักษะกระบี่วิญญาณเยือกแข็งของตระกูลเจียงได้กว่า 90% แล้วดังนั้นพลังทำลายของมันถึงได้สูงมาก

 

"ไสหัวไปซะ"

 

คลื่นกระบี่ของเจียงเหลินเหวินได้ถูกทำลายลงด้วยการฟาดฟันของหลินเทียนก่อนที่จะส่งร่างของเขาลอยออกไปไกล

 

หลินเทียนยังคงก้าวเดินขึ้นบันไดสีขาวไปขณะที่ปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างเข้มข้น

 

พริบตาเดียวเขาก็ได้เดินเข้าไปถึงห้องโถงด้านใน

 

"นางอยู่ที่ไหน ! "

 

เขาจ้องมองไปทางจูหวูเต๋าด้วยสีหน้าที่ดุร้ายอย่างมาก

 

"เจ้า........."

 

"แกร๊ง ! "

 

คลื่นกระบี่ได้ส่งให้ร่างของจูหวูเต๋าลอยเคว้งออกไปอีกครั้ง

 

"ข้าถามเจ้าว่านางอยู่ไหน ! "

 

หลินเทียนได้ส่งเสียงออกมาอย่างดัง

 

ทุกครั้งที่นึกถึงข้อความในสมุด อารมณ์ของเขาก็มักจะปั่วป่วนและคลั่งโดยทันที

 

"องค์เหนือหัว ! "

 

กลุ่มทหารได้พุ่งเข้ามา

 

หลินเทียนได้ฟาดฟันคลื่นกระบี่กลับไปโดยที่ไม่หันไปมองด้วยซ้ำ

 

"พุฟฟ !"

 

"พุฟ!"

 

"พุฟฟฟ ! "

 

ทหารทั้งหลายที่กรูกันเข้ามาต่างตกตายลงและย้อมขั้นบันใดเป็นสีแดงฉาน

 

สีหน้าของจูหวูเต๋าเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขณะที่พยุงตัวเองขึ้นด้วยกระบี่ของเขา

 

หลินเทียนในตอนนี้มันแข็งแกร่งเกินไป !

 

หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ดุร้ายออกมากว่าเก่าพร้อมทั้งห่อหุ้มร่างกายตัวเองเอาไว้ด้วยพลังสายฟ้าและเปลวเพลิงพลางปลดปล่อยแรงกดดันออกมาอย่างบ้าคลั่งจนก่อเกิดเป็นลมกระโชกที่รุนแรง

 

เขายังคงจ้องมองไปทางจูหวูเต๋าขณะที่ก้าวเท้าออกไปทีละก้าว

 

จิตสังหารของเขาถาโถมเข้าไปทางอีกฝ่ายเหมือนเกลียวคลื่นลูกยักษ์

 

"โอหังนักนะ ! จักรวรรดิของข้าปั่นป่วนไปหมด ! "

 

เสียงหนึ่งได้ถูกส่งออกมา

 

ร่างๆหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของจูหวูเต๋าซึ่งเขาเป็นชายชราสภาพเหมือนคนกำลังจะตาย

 

หลังจากที่เห็นร่างของชายคนนี้แล้วท่าทางของหลายๆคนได้เปลี่ยนไปทันที

 

ณ ตอนนี้หลายๆคนสามารถสัมผัสได้เลยว่าชายคนนี้แข็งแกร่งอย่างมาก !

 

"ท่านบรรพบุรุษที่ 1 "

 

จูหวูเต๋าได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่มีความสุขพลางปาดรอยเลือดที่มุมปากของตัวเองอย่างรวดเร็ว

 

ชินเฟิงที่อยู่ห่างออกไปเองก็ได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาว่า

 

"จูหยุนเชิง ไอ้แก่อย่างเจ้ายังมีชีวิตอยู่อีกงั้นรึ ? จะ 130 ปีแล้วนะ !"

 

"มันเป็นเพราะว่าท่านบรรพบุรุษตัดผ่านไปได้ 2 ระดับจนถึงเขตแดนผู้รอบรู้ระดับ 9 จากระดับ 7 และอีกไม่นานก็จะตัดผ่านไปยังเขตแดนจักรพรรดินภาได้แล้ว แน่นอนว่าอายุขัยของท่านต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน ! เหอะ ! คิดว่าอะไรถึงได้ทำให้เราสามารถควบคุมจักรวรรดิได้ ? ก็เพราะว่าท่านบรรพบุรุษไง ! ไม่มีใครสามารถแตะต้องจักรวรรดิของเราได้ ! "

 

จูเจียนฉีได้พูดออกมาอย่างดัง

 

ชินเฟิงเองก็ได้แต่ยิ้มออกมาโดยที่ไม่ได้พูดอะไร

 

จูหยุนเชิงที่อยู่ตรงหน้าจูหวูเต๋านั้นมีสภาพเหมือนคนกำลังจะลงโลงแต่กลับส่งกลิ่นอายที่รุนแรงออกมาทำให้หลินเทียนถึงกับไม่สามารถก้าวต่อไปได้

 

"เป็นผู้มีพรสวรรค์แต่น่าเสียดายจริงๆ "

 

จูหยุนเชิงได้ส่ายศีรษะของเขา , มันไม่แปลกที่เขาจะสัมผัสถึงระดับพลังของหลินเทียนได้เพราะตัวเขาอยู่ในเขตแดนผู้รอบรู้ระดับ 9

 

หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ก้าวเดินเข้าไปทางหลินเทียนทีละก้าวแต่ตอนนี้เองที่มีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นข้างๆหลินเทียนถึงได้ทำให้เขาต้องหยุดเท้าลงแล้วถามออกมาว่า

 

"ท่านเป็นใคร ? "

 

"สมองของจักรพรรดิองค์ใหม่นี่หนักเอาการถึงได้คิดว่าตัวเองควบคุมจักรวรรดินี้ ? "

 

ร่างนั้นได้พูดออกมาอย่างไม่แยแส

 

หลินเทียนได้หันหน้าไปมองชายชราที่อยู่ข้างๆเขา , ชายคนนี้ดูมีอายุราวๆชินเฟิงแต่กลิ่นอายที่ส่งออกมานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าจูหยุนเชิงเลยแม้แต่น้อยทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาสัมผัสได้ว่าชายคนนี้มีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งมากๆซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ประมาณระดับที่ 6 ดังนั้นเขาถึงได้พอเดาสถานะของอีกฝ่ายได้ทันที

 

จูหยุนเชิงได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่เย็นยะเยือกว่า

 

"พูดแบบนี้หมายความว่าไง ? "

 

"จี่หยวนฉานอุส่าพยายามอย่างหนักเพื่อจักรวรรดิโดยที่ออกไปสู้รบในสมรภูมิกว่าหลายสิบปีแถมลูกหลานเองก็ตายไปหลายคนจนแทบจะสูญสิ้นทว่าจักรพรรดิองค์ใหม่กลับให้ร้ายว่าเขาเป็นกบฏพร้อมทั้งสั่งฆ่าล้างคฤหาสน์แม่ทัพแถมยังจับหลานสาวของเขาเอาไว้อีก การกระทำของเจ้านี่ไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อย ? "

 

ร่างๆนั้นได้พูดออกมา

 

จูหยุนเชิงได้ขมวดคิ้วของเขาพร้อมกับพูดว่า

 

"เรื่องนี้ข้ารู้แล้วและข้าจะลงโทษจักรพรรดิองค์ใหม่เองเพื่อทำขวัญให้กับจี่หยวนฉาน "

 

หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้มองไปทางหลินเทียนพลางพูดว่า

 

"ส่วนเขาที่กล้าสร้างความปั่นป่วนถึงขนาดนี้ต้องประหาร ! "

 

"จะประหารเขา ? "

 

ร่างๆนั้นได้ส่งเสียงออกมา

 

หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้ปลดปล่อยแรงกดดันอันรุนแรงของเขตแดนผู้รอบรู้ระดับ 9 ตอนปลายออกมา

 

แรงกดดันนี้ผสมผสานไปด้วยกลิ่นอายอื่นที่ต่างออกไป

 

จูหยุนเชิงได้แต่ผงะไปพร้อมทั้งพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปว่า

 

"นี่มัน.........พลังวิญญาณ ? ระดับ 6 เป็นอย่างน้อย !"

 

ตรงนี้เองที่เขาได้หันไปมองชินเฟิงและคนอื่นๆพร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงดุร้ายว่า

 

"เจ้าเป็นจ้าวสมาคมปรมาจารย์ด้ายข่ายอาคมของเมืองนี้ นี่พวกเจ้าทั้งสมาคมต้องการจะเริ่มสงครามงั้นรึ ! "

 

บรรพบุรุษคนอื่นๆเองก็ได้แต่มีสีหน้าเปลี่ยนไปโดยทันที

 

สมาคมปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมนั้นมีอำนาจอย่างมากแต่จ้าวสมาคมกลับไม่เคยเปิดเผยตัวตนออกมาต่อหน้าสายตาผู้คนดังนั้นหลังจากที่จูหยุนเชิงเปิดเผยสถานะของชายคนนี้แล้วคนอื่นๆก็ถึงกับมีท่าทางเปลี่ยนไปทันที สถานะของจ้าวสมาคมนั้นเพียงพอที่จะให้จักรพรรดิต้องโค้งคำนับเลยด้วยซ้ำ !

 

ร่างๆนั้นได้พูดออกมาโดยไม่สนใจคำพูดของจูหยุนเชิงว่า

 

"เจ้าหนุ่มนี่ไม่ใช่เพียงปรมาจารย์รับเชิญของเราเท่านั้นแต่เป็นผู้มีพรสวรรค์ไร้ที่ติของเรา จักรวรรดิของเจ้าไม่สามารถแตะต้องเขาได้ ! "

 

แรงกดดันที่รุนแรงกว่าเก่าได้ปะทุออกมาขณะที่พูดอย่างราบเรียบว่า

 

"พูดก็พูดแล้วก็น่าจะรู้ว่าฝั่งไหนถูกฝั่งไหนผิดแล้วยังกล้ามาโทษอีก ? "

 

สีหน้าของจูหยุนเชิงได้เปลี่ยนเป็นเย็นชาโดยที่ไม่รู้ว่าจะตอบโต้กลับไปอย่างไร

 

ณ ตอนนี้หลินเทียนได้เคลื่อนไหวอีกครั้งพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่สายฟ้าออกไปทางจูหวูเต๋า

 

"บังอาจ ! "

 

จูเชิงหยุนยกมือขึ้นมาจับไปทางหลินเทียนด้วยท่าทางที่เย็นชา

 

"วันนี้สมาคมของข้าจะช่วยจักรวรรดิประหารลูกหลานอกตัญญูเองแล้วกัน พวกเจ้าควรจะรู้สึกขอบคุณพวกเราด้วยซ้ำ "

 

หลังจากที่พูดจบแล้วเจ้าสมาคมได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วก่อนที่จะขวางทางของจูหยุนเชิงเอาไว้

 

ในเวลาเดียวกันนี้เองที่คลื่นกระบี่ของหลินเทียนได้พุ่งไปทางจูหวูเต๋าโดยทันที

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด