ตอนที่แล้วDivine King Of All Directions - 184
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDivine King Of All Directions - 186

Divine King Of All Directions - 185


Divine King Of All Directions - 185

 

ซินเจิ้งเย่ไม่ได้ถามหลินเทียนว่าเขาต้องการอาวุธสมบัติระดับสูงไปทำไมเพราะว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญดังนั้นการเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองก็เป็นเรื่องที่ปกติอยู่แล้ว

"ทางเราเพิ่งมีกระบี่สมบัติระดับสูงเข้ามาพอดี "

ซินเจิ้งเย่ได้พูดออกมา

"ราคาเท่าไหร่ ?"

หลินเทียนได้ถามกลับไป

ซินเจิ้งเย่ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

"มันเป็นเพราะเจ้าถือครองตราประจำตัวดังนั้นถึงสามารถขายในราคาทุนได้ ทั้งหมดเป็นเงิน 15ล้านเหรียญ "

หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับส่งบัตรแทนเงินสีม่วงออกไป

ที่เมืองเฟิงเจียนนั้นมีโรงงานของตระกูลหลินอยู่ซึ่งก่อนหน้านี้ตระกูลชินเองก็ได้จัดการสมบัติของตระกูลเสี่ยวและรายได้ทั้งหมดในรอบหลายเดือนของธุรกิจต่างๆเพื่อมอบให้กับเขาเป็นเงินกว่า 20 ล้านเหรียญ

ซินเจิ้งเย่เองก็ไม่คิดเลยว่าหลินเทียนนั้นจะรวยขนาดนี้

"รอสักครู่"

หลังจากที่รับมาแล้วเขาก็ได้เดินออกจากห้องไป

ไม่นานเขาก็ได้กลับมาพร้อมกับกระบี่ในมือ

"มันเป็นสมบัติระดับสูงขั้นต้นซึ่งมีชื่อว่ากระบี่ซ่งหลิง "

ซินเจิ้งเย่ได้พูดออกมา

หลินเทียนได้ชักมันออกจากฝักก่อนที่จะมองไปยังกระบี่ที่มีความยาวประมาณ 4 ฟุตและให้ความรู้สึกเหมือนว่ามันสามารถตัดทุกสิ่งออกได้เป็นชิ้นๆ

หลินเทียนรู้สึกพอใจอย่างมากขณะที่เก็บมันกลับเข้าไปในแหวนมิติของเขา

อาวุธชิ้นนี้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาขึ้นได้กว่า 70%

"ขอบคุณ "

หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดออกมา

เมื่อพูดจบแล้วเขารีบหันหลังแล้วเดินจากไปทันที

"รอก่อน !"

ซินเจิ้งเย่ได้หยุดเรียกเขาก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ลังเลว่า

"เรื่องของทางคฤหาสน์แม่ทัพ......."

ดูเหมือนว่าหลินเทียนและจี่หยูนั้นจะสนิทสนมกันมากหลังจากที่เคยมาที่นี่ด้วยกันถึงได้ทำให้เขาเดาว่าหลินเทียนต้องมีความสัมพันธ์กับทางคฤหาสน์แม่ทัพอย่างแน่นอนและตอนนี้ทางคฤหาสน์เองก็ตกอยู่ในที่นั่งลำบากอย่างมากและเขาอยากจะรู้ว่าหลินเทียนจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้

หลินเทียนได้หยุดเท้าลงก่อนที่ซินเจิ้งเย่จะรู้สึกได้ว่าบรรยากาศโดยรอบกำลังเย็นตัวลงอย่างมาก

"เจ้า......"

บรรยากาศที่เย็นยะเยือกแบบนี้ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันทีเพราะเขารู้ดีว่ามันเป็นจิตสังหารที่เข้มข้น

หลินเทียนได้หันหน้ากลับมามองทางซินเจิ้งเย่พร้อมกับพูดว่า

"เจ้าคิดว่าจี่หยวนฉานจะทำเรื่องแบบนั้นจริงๆ ? "

ซินเจิ้งเย่ได้แต่เงียบไปพร้อมทั้งส่ายศีรษะของเขา

"ท่านแม่ทัพออกไปต้านทานข้าศึกอยู่กว่าหลายสิบปีซึ่งเกียรติยศของเขาโด่งดังอย่างมากซึ่งองค์จักรพรรดิองค์ใหม่เองก็คงไม่อยากจะให้มีภัยคุกคามของตัวเองหลงเหลืออยู่ดังนั้นถึงได้......."

ซินเจิ้งเย่ได้เงียบไปพร้อมกับถอนหายใจออกมาว่า

"คนที่มีเกียรติขนาดนั้นไม่ได้มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ "

"เกียรติขนาดนั้น ? "

หลินเทียนได้แสยะออกมา

ครั้งนี้ซินเจิ้งเย่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่รุนแรงยิ่งกว่าเก่าจนอดก้าวถอยกลับไปไม่ได้

หลังจากที่ตั้งสติแล้วเขาก็ได้พูดออกมาว่า

"พรุ่งนี้จะเป็นวันเดินขบวนขององค์จักรพรรดิและเป็นวันประหารท่านแม่ทัพ"

ตรงนี้เขาเองก็รู้สึกหมดหนทางเป็นอย่างมาก มีหลายคนภายในเมืองหลวงต่างไม่เห็นด้วยเพราะว่าจี่หยวนฉานนั้นรับใช้จักรวรรดิมาหลายสิบปีแถมลูกๆหลานๆหลายคนก็ตกตายลงในสนามรบซึ่งเรียกได้ว่าเขาเป็นผู้ช่วยเหลือจักรวรรดิในช่วงหลายๆปีนี้

อย่างไรก็ตามจักรพรรดิกลับไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เพราะเพียงหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าจี่หยวนฉานร่วมมือกับศัตรู

"ข้ารู้แล้ว ดังนั้นข้าถึงได้มาเอากระบี่นี่ไง "

หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างราบเรียบ

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วซินเจิ้งเย่ก็ได้แต่มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วพลางพูดออกมาว่า

"เจ้า.......เจ้าคิดที่จะ........."

หลินเทียนไม่ได้พูดอะไรต่อพร้อมทั้งก้าวเดินออกไปทันที

เมื่อจ้องมองไปยังแผ่นหลังของหลินเทียนแล้วเขาก็รู้สึกเหมือนว่าหน้าอกของเขาถูกกระแทกด้วยบางสิ่ง

แผ่นหลังของชายหนุ่มคนนี้มันช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน

.............

วันนั้นได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หิมะยังคงโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าขณะที่บ้านเรือนต่างๆต่างถูกปกคลุมไปด้วยชั้นหิมะสีขาวโพลน

อากาศโดยรอบเย็นอย่างมากแต่วันนี้กลับเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย

ห่างออกไปไม่ไกลก็จะพบว่ามีกองกำลังทหารกำลังเดินขบวนอยู่นับหลายร้อยคน

ใจกลางของคนเหล่านั้นมีชายชราถูกขังเอาไว้ภายในกรงเหล็กด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด

"นั่นมันท่านแม่ทัพ "

"ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีความคิดก่อกบฏ "

"โอ้ ไม่น่าเลย "

หลายๆคนได้ส่งเสียงออกมา

หลังจากที่เสียงฮือฮาได้ดังขึ้นนั้นพวกมันทั้งหมดก็ถูกกลบโดยเสียงการเดินขบวนของทหารนับหลายร้อยคนอย่างพร้อมเพรียง

ร่างสี่ร่างกำลังอยู่ตรงใจกลางของขบวน

จูหวูเต๋า เจียงเหลินเหวิน เหล็งเฟิง ต๊วนเหวินโป

"จากการที่แม่ทัพจี่ได้ทำการร่วมมือกับศัตรูเพื่อก่อกบฏอย่างลับๆนั้นมันทำให้องค์จักรพรรดิรู้สึกผิดหวังอย่างมาก วันนี้เราจะประหารโดยการกุดศีรษะของเขา ! "

หนึ่งในทหารที่อยู่ในกลางได้ส่งเสียงออกมาอย่างดัง

เสียงเหล่านี้ทำให้ผู้คนโดยรอบต่างต้องส่ายศีรษะไปตามๆกัน

จี่หยวนฉานที่อยู่ภายในกรงนั้นมีสภาพไม่ต่างอะไรไปจากขอทานเลยในตอนนี้ทว่าเขากลับไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้แม้แต่น้อย

"หลังจากวันนี้ทุกอย่างก็จะเข้าที่เข้าทาง "

ต๊วนเหวินโปได้พูดออกมา

เหล็งเฟิงเองก็ได้พยักหน้าตาม

จูหวูเต๋าที่กำลังสวมมงกุฎอยู่เองก็ได้ยิ้มตอบพวกเขา

ทั้ง 4 คนยังคงพูดคุยกันด้วยท่าทางราบเรียบขณะที่ขบวนยังคงเดินหน้าต่อไปและทิ้งรอยเท้าเอาไว้

ทันใดนั้นเองที่สายลมได้ปั่นป่วนจนถึงขั้นทำให้ผู้คนต้องยกมือขึ้นมาป้องกันดวงตาเอาไว้

"วันนี้อากาศแปลกไปจริงๆ "

หนึ่งในผู้คนได้ส่งเสียงออกมา

หลังจากที่สายลมได้สลายไปแล้วการเดินขบวนของทหารก็ได้หยุดลงอย่างฉับพลัน

"หยุดทำไม ?! "

ผู้บัญชาการทหารได้ส่งเสียงคำรามอ กมาอย่างดัง

ผู้คนต่างมองออกไปทางหน้าถนนก่อนที่จะพบกับชายหนุ่มในชุดคลุมยาวที่ไม่รู้ว่าไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

"หลินเทียน !"

สายตาของเจียงเหลินเหวินได้เป็นประกายเย็นยะเยือกออกมาพร้อมทั้งปลดปล่อยจิตสังหารออกไปทุกทิศทาง

ต๊วนเหวินโปและเหล็งเฟิงเองก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน หลินเทียนที่ตกหน้าผาไปกลับยังมีชีวิตรอดกลับมาได้ !

นัยน์ตาของจูหวูเต๋าเองก็หดเล็กลงเช่นกันก่อนที่จะปรับสภาพกลับมาราบเรียบเหมือนก่อน

จี่หยวนฉานที่อยู่ภายในกรงเองก็ได้แต่สั่นสะท้านไปก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่ประหลาดใจว่า

"น้องชาย เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ! "

หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งพร้อมทั้งรีบพูดออกมาว่า

"มาที่นี่ทำไมกัน ! หนีไปเร็ว ! "

สายตาของหลินเทียนยังคงราบเรียบและไร้ความรู้สึกใดๆ

"ท่านแม่ทัพ หากว่าย้อนเวลากลับไปได้ท่านจะยังฝ่าดงสมรภูมิเพื่อจักรวรรดินี้อยู่อีก ? "

เขาได้มองออกไปพร้อมกับถามออกมา

จี่หยวนฉานได้แต่เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

"ข้าจะทำ "

หลินเทียนยังคงถามต่อด้วยสีหน้าที่ราบเรียบว่า

"เพราะอะไร ? "

"เพื่อประชาชน ! "

จี่หยวนฉานได้ตอบกลับไป

หลินเทียนได้กวาดตามองไปทางสองข้างทางพร้อมทั้งแสยะออกมาว่า

"เพื่อประชาชน ? "

เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาของหลินเทียนแล้วเหล่าผู้คนธรรมดาเองก็ต่างสั่นสะท้านไปตามๆกัน

เขาได้จ้องมองกลับไปทางจี่หยวนฉานพร้อมกับพูดต่อว่า

"ด้วยความที่ข้าเป็นรุ่นเยาว์ดังนั้นถึงไม่อยากจะเถียงความคิดเห็นของท่านแต่ข้าบอกได้เลยว่ามันเป็นความคิดที่โง่เง่ามากๆ ! ท่านเสียเลือดเสียเนื้อเพื่อจักรวรรดินี้มาหลายสิบปีเพื่อให้เกิดความสงบสุขแต่แล้วยังไงล่ะ ? ใครจดจำท่านบ้าง ? มันเป็นเพราะว่าการใส่ความก็ทำให้ท่านถูกป ะหารแถมไม่เห็นมีประชาชนคนไหนออกหน้ามาเพื่อท่านแม้แต่คนเดียว ! "

คำพูดเหล่านี้ทำให้สีหน้าของผู้คนเปลี่ยนไปโดยทันที

หลายคนที่อยู่ข้างทางได้แต่แสดงสีหน้าที่รู้สึกผิดออกมาก่อนที่จะก้มหัวลงเพราะพวกเขารู้ดีว่าทางจักรวรรดิคิดอะไรและจี่หยวนฉานได้รับความไม่เป็นธรรมแต่ใครจะกล้าออกหน้าเพื่อสู้กับอำนาจจักรวรรดิ ? นั่นมันมีโทษประหาร 9 ชั่วโครตเลยนะ !

"สามหาม จับตัวมันซะ ! "

ผู้บัญชาการได้ออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว

ครั้งนี้ทหารหลายคนได้พุ่งเข้าไปทางหลินเทียนอย่างรวดเร็ว

"น้องชายหนีไปเร็ว ! "

จี่หยวนฉานได้รีบพูดออกมา

หลินเทียนยังคงตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกว่า

"หากว่าเป็นข้า ข้าจะไม่มีทางเสียสละอะไรเพื่อจักรวรรดินี้ เพราะพวกมันไม่มีค่าพอให้ทำเช่นนั้น "

"แกร๊ง ! "

เสียงกระบี่คำรามได้ดังขึ้นก่อนที่คลื่นกระบี่สายฟ้าจะกวาดออกไปโดยรอบ

"พุฟ !"

"พุฟฟฟ! "

"พุฟฟ ! "

เลือดสาดกระจายไปทั่วขณะที่ทหารหลายสิบคนที่กระโจนเข้ามาต่างตกตายลงทันที

ภาพเหล่านี้ทำให้ผู้คนโดยรอบต่างแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาตามๆกัน

"กบฏ ! จับตัวมันซะ ! "

ผู้บัญชาการได้คำรามออกมาอย่างดัง

กลางถนนนี้มีกองกำลังทหารอยู่กว่าหลายร้อยนายและแน่นอนว่าแต่ละคนเองก็ไม่ได้อ่อนแอด้วย

ทันใดนั้นเองที่กลุ่มทหารหลายสิบคนได้กระโจนเข้าไปทางหลินเทียนอีกครั้ง

หลินเทียนยังคงก้าวเดินออกไปทางกรงเหล็กด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสพร้อมทั้งพูดพลางจ้องมองไปทางจี่หยวนฉานว่า

"ตอนนี้ท่านกำลังจะถูกประหารหลังจากที่เดินขบวนเสร็จและหลานสาวเพียงคนเดียวก็ยังถูกจับตัวไว้ในราชวัง ท่านตอบข้าหน่อยสิว่าการที่ท่านออกไปสู้รบหลายสิบปีมันเพื่ออะไรกัน !! "

จิตสังหาร ันรุนแรงได้แผดออกไปรอบทิศทางพร้อมๆกับคลื่นกระบี่ที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า

"พุฟฟ !"

"พุฟฟ !"

"พุฟฟ ! "

เลือดสาดกระจายไปทั่วดั่งสาฝนขณะที่ร่างไร้วิญญาณต่างทรุดลงกับพื้น

ภาพเหตุการณ์อันน่ากลัวของชายหนุ่มที่เผชิญหน้ากับกองกำลังทหารนับร้อยแต่กลับไม่มีใครสามารถเข้าใกล้เขาในระยะ 3 เมตรได้เลยแม้แต่น้อย , ตราบใดที่เข้ามาใกล้ก็จะถูกฉีกเป็นชิ้นๆโดยคลื่นกระบี่อันรุนแรงไม่เว้นแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะ !

สีหน้าของจี่หยวนฉานน่าเกลียดเป็นอย่างมากและอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น

ผู้บัญชาการกองทหารได้พุ่งออกมาด้วยตัวเองพร้อมกับอารมณ์ที่ปะทุอย่างรุนแรง

"ตายไปซะ ! "

ระดับพลังของผู้บัญชาการนั้นอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 8 ตอนปลาย

หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ไม่แยแสพร้อมทั้งฟาดฟันเพื่อส่งคลื่นกระบี่ออกไป

"พุฟฟฟ ! "

ลำคอของผู้บัญชาการได้ถูกคลื่นกระบี่แทงเป็นรูโหว่ก่อนที่เลือดจะทะลักออกมาไม่หยุดพร้อมทั้งตายลงโดยทันที

ผู้คนมากมายที่อยู่รอบข้างล้วนแสดงสีหน้าที่โศกเศร้าออกมา

"นี่...."

"เขา............ เขาต้องการจะทำลายกรงนั่น !"

"นี่คิดจะเป็นศัตรูกับจักรวรรดิ ? ! "

"จักรพรรดิก็อยู่ที่นี่ด้วยนะ ! "

หลายๆคนได้แต่แสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปออกมา

ตอนนี้ราชวงเป็นผู้ดูแลทั้งจักรวรรดิแต่กลับมีคนกล้าขัดคำสั่งขององค์จักรพรรดิแถมยังสังหารกองกำลังทหารต่อหน้าผู้คนมากมายนี่มันเป็นโทษที่หนักหนาสาหัสอย่างมาก !

"ข้าไปเอง "

เสียงที่เย็นชาได้ถูกส่งออกมา

เจียงเหลินเหวินได้พุ่งออกไปด้วยสีหน้าที่ดุร้ายเป็นอย่างมาก

"ตกผาไปแต่ยังรอดมาได้อีกนะ โชคดีจริ ๆ ! แต่วันนี้ข้าจะเป็นคนสังหารเจ้าด้วยมือข้าเอง ! "

เจียงเหลินเหวินได้พูดออกมาอย่างเย็นชา

คลื่นกระบี่อันรุนแรงส่งผลให้หิมะโดยรอบสลายหายไปในทันที

"ขยะ "

หลินเทียนได้ตอบกลับไปคำเดียว

เขาได้กวัดแกว่งกระบี่ในมือเพื่อส่งคลื่นกระบี่สายฟ้าออกไปกระแทกเข้ากับร่างของเจียงเหลินเหวินและส่งอีกฝ่ายกระเด็นออกไปหลายฟุต

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด