ตอนที่แล้วDivine King Of All Directions - 162
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDivine King Of All Directions - 164

Divine King Of All Directions - 163


Divine King Of All Directions - 163

 

เจียงเหลินเหวินนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากแถมศักยภาพยังเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือยังมีนิกายคอยหนุนหลังอยู่อีกซึ่งในความคิดของซินเชิงหยุนแล้วการที่หลินเทียนไปล่วงเกินอีกฝ่ายนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะให้กำลังใจอย่างไรดีแม้ว่าหลินเทียนจะตัดผ่านเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 6

"ไม่ต้องกังวลไปหรอก เชื่อใจข้าเถอะ "

หลินเทียนได้พูดออกมา

"ข้าเชื่อใจท่านเหมือนกับที่เชื่อในตัวพี่สาวข้าอยู่แล้ว แน่มันเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายมันแข็งแกร่งเกินไป "

ซินเชิงหยุนได้พูดออกมา

หลินเทียนได้แต่ส่ายศีรษะพร้อมทั้งแสดงสีหน้าที่ไม่สนใจอะไร

หลังจากนั้นเขาได้หยิบเอาหญ้าวิญญาณสีฟ้าต้นสุดท้ายออกมาส่งให้ซินเชิงหยุนพลางพูดว่า

"ยังเหลืออยู่ต้นนึง เจ้าเก็บไว้ดูดกลืนแล้วกันน่าจะเพียงพอตัดผ่านเขตแดนชีพจรเทวะได้ "

ซินเชิงหยุนได้มองออกไปพลางส่ายศีรษะของเขา

"เป็นอะไรไป ? "

หลินเทียนได้ถามออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ

ซินเชิงหยุนได้ตอบกลับไปว่า

"อย่างน้อยยังเหลือก็ยังดี พี่เขยเก็บเอาไว้แบบนี้แล้วอย่างน้อยก็น่าจะพอบรรเทาความโกรธของเจียงเหลินเหวินได้บ้าง เจ้านั่นมันน่ากลัวมากขนาดจักรพรรดิยังกลัวมันเลย"

"เอาหน่า ข้าไม่สนใจหรอก "

หลินเทียนได้พูดออกมา

"แต่ข้าสนใจ ! พี่สาวข้าเองก็สนใจเหมือนกัน ! อย่างน้อยๆก็ยังพอเหลือความหวังเอาไว้ได้บ้างและหากพี่ข้ารู้ว่าข้าเป็นคนดูดกลืนความหวังอันริบหรี่นี้ไปแล้วพี่ข้าต้องกระทืบข้าตายแน่ๆ พี่สาวข้าเองก็ดุร้ายมากๆนะ ! "

ซินเชิงหยุนได้พูดออกมา

หลินเทียนเองก็ถึงกับหมดคำพูดไปและไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อดี

ท้ายที่สุดเขาก็เก็บหญ้าวิญญาณสีฟ้ากลับไป

"พี่เขย เราจะกลับกันเลย ? "

หลินเทียนได้ส่ายศีรษะของเขาพร้อมทั้งพูดว่า

"ยังก่อน ข้าว่าจะอยู่ต่ออีกสักพักเพื่อปรับสภาพรากฐานบ่มเพาะให้เข้าที่เสียก่อน "

เขาคิดว่าใช้เวลาเพียง 2 เดือนแล้วตัดผ่านนี่มันเร็วเกินไปหน่อย

"ได้ !"

ซินเชิงหยุนได้พยักหน้าตอบ

ให้พูดตามตรงแล้วเขาไม่อยากจะกลับไปที่สำนักเช่นกันเพราะว่ามันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก

หลินเทียนเองก็พอเดาความคิดเขาได้ก่อนที่จะเดินไปแตะไหล่เขาแล้วพูดว่า

"ไม่ต้องไปคิดมากหรอก "

หลังจากนั้นเขาและซินเชิงหยุนก็ได้มุ่งหน้ากับต่อไปเพื่อค้นหาสัตว์อสูรในป่าลึก

"พี่เขย ท่านระวังด้วยนะ "

ซินเชิงหยุนได้ส่งเสียงกระซิบออกมาเพราะว่าในช่วงหลายวันมานี้หลินเทียนเอาแต่ต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับ 5 ขึ้นไปทั้งนั้นและมันทำให้เขารู้สึกกลัว

"ไม่มีอะไรหรอก "

หลินเทียนได้พูดออกมา

ผ่านไปอีก 2 ชั่วโมง .....

"โครม ! "

หลินเทียนได้พบเข้ากับสัตว์อสูรระดับ 6 ดังนั้นถึงได้กระโจนเข้าใส่มันทันที

ซินเชิงหยุนได้แต่หลบอยู่ห่างๆพร้อมกับมองไปรอบๆพื้นที่ๆเต็มไปด้วยกลิ่นอายอสูรอันเข้มข้นก่อนที่จะมองไปยังฉากการต่อสู้ของหลินเทียนที่ทำให้เขาเหงื่อตกเพราะว่ามันมีพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 7 ตอนปลาย !

หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงร้องอันน่าสังเวชถูกส่งออกมาก่อนที่จะล้มกระแทกลงกับพื้น

"ชำแหละเอาแก่นมัน "

หลินเทียนได้พูดออกมา

สัตว์อสูรระดับ 6 มดสายฟ้า , หลังจากที่เผชิญหน้ากับมันแล้วเขาก็ได้อาศัยทักษะหมัดสังหารเพื่อปลิดชีวิตมันอย่างรวดเร็ว

"พี่เขย ! ไหนว่าจะไปเรื่อยๆไง ! ทำไมถึงได้มองหาแต่สัตว์อสูรระดับ 6 กัน ! "

ซินเชิงหยุนได้แต่แสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไป

หลินเทียนได้พูดออกมาว่า

"ข้าอยู่ในเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 6 แล้วดังนั้นการที่มองหาสัตว์อสูรระดับ 6 ที่มีพลังเทียบเท่าเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 7 เพื่อฝึกทักษะก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาๆมากๆ ? "

ซินเชิงหยุน

"..........."

หลังจากที่เงียบไปเขาก็ได้พูดออกมาว่า

"พี่เขย ข้าว่าท่านเชี่ยวชาญทักษะก่อนหน้านี้ขึ้นมากแล้วนะ "

ในช่วงนี้เขามักจะได้เห็นทักษะหมัดสังหารของหลินเทียนอยู่บ่อยๆดังนั้นถึงได้ทำความเข้าใจกับมันแล้ว

"ตอนนี้ข้าสามารถฝึกฝนมันได้ 70% แล้วล่ะ "

หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

"70% ? เร็วขนาดนั้นเลย ? นี่มันเป็นทักษะระดับสูงเขตแดนชีพจรเทวะเลยนะ ! "

ซินเชิงหยุนได้พูดออกมาด้วยท่าทางที่ตกตะลึง

หลินเทียนได้ยิ้มตอบพลางพูดว่า

"อื้ม "

ตอนนี้เขาสามารถควบคุมการถ่ายเทพลังฉีได้ระดับหนึ่งเพราะถึงอย่างไรก็ตามเขาก็เชี่ยวชาญทักษะนี้ได้เพียงแค่ 70% เท่านั้นแถมหลังจากที่ถ่ายเทพลังออกไปยังอวัยวะต่างๆแล้วก็ยังทำให้เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอยู่

หลังจากนั้นเขาก็ยังคงมุ่งหน้าเข้าไปในพื้นที่ส่วนลึกต่อ

"โครม ! "

การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง

เพื่อที่จะปรับสภาพรากฐานเขาถึงได้เลือกเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับ 6 เท่านั้นและตอนนี้ก็รู้สึกได้ว่าจิตสัมผัสของตัวเองกล้าแกร่งขึ้นอย่างมาก

ไม่นานก็ได้ผ่านไปกว่าครึ่งเดือนอย่างรวดเร็ว

วันนี้หลินเทียนและซินเชิงหยุนก็ได้มาถึงสุดเขตทางออกของป่าสัตว์อสูร

"ในที่สุดก็ได้ออกมาแล้ว ! "

ซินเชิงหยุนได้แต่สูดหายใจเข้าลึกเพื่อระบายความรู้สึกออกมา การที่ต้องหาประสบการณกับหลินเทียนอยู่กว่าครึ่งเดือนนั้นเขารู้สึกตื่นเต้นและหวาดกลัวในเวลาเดียวกันเพราะว่าหลินเทียนมักจะเลือกคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าอย่างสัตว์อสูรระดับ 5 – 6 เสมอแถมนี่ยังไม่นับรวมที่หลินเทียนได้ไปปะทะเข้ากับสัตว์อสูรระดับ 6 ตอนปลายที่มีพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะระดับ 9 อีกด้วย ตอนนั้นเขาแทบจะหยุดหายใจแต่ยังโชคดีที่พากันหนีออกมาได้

หลินเทียนได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

"ไปกัน เรากลับไปที่ๆพักกันเถอะ "

เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากว่าครึ่งเดือนมันทำให้ระดับพลังของเขาสมดุลอย่างสมบูรณ์แถมทักษะหมัดสังหารของเขายังเชี่ยวชาญได้กว่า 80% แล้วอีกด้วย

ไม่นานพวกเขาก็ได้กลับไปถึงสำนักเป่ยหยาน

หลังจากที่เดินเข้าไปแล้วก็พบว่าสายตาที่ผู้คนมองมาทางเขาแปลกมากๆแถมยังมีหลายคนกระซิบกัน

"เจ้าหลินเทียนนั่นกลับมาแล้ว !"

"ครั้งนี้ซวยของเจ้านี่แล้วล่ะ "

"อื้ม ก็เล่นไปล่วงเกินชายคนนั้นหนิ "

หลายๆคนได้แสดงความคิดเห็นกันออกมา

ตอนนี้ระดับพลังของหลินเทียนสูงมากๆดังนั้นถึงสามารถได้ยินบทสนทนาของพวกเขาแม้มันจะเบามากก็ตามและมันก็ทำให้เขาได้แต่ขมวดคิ้วออกมา

"เป็นอะไรไปรึพี่เขย ? "

ซินเชิงหยุนได้ถามออกมา

"เปล่าหรอก "

หลินเทียนได้ส่ายศีรษะกลับไป

ซินเชิงหยุนได้มองไปรอบๆก่อนที่จะเงียบไปแล้วเข้าใกล้เขาพลางพูดด้วยเสียงกระซิบว่า

"นี่พี่ ข้ารู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีเท่าไหร่เลย ยิ่งไปกว่านั้นข้าว่าสายตาคนอื่นกำลังมองมาที่เราด้วยความรู้สึกสงสารยังไงแปลกๆ ? "

"ความรู้สึกของเจ้าถูกแล้ว "

หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

หลังจากนั้นหลินเทียนก็ได้นำซินเชิงหยุนกลับไปยังที่พักของเขา

เมื่อเขาเพิ่งเปิดประตูเข้าไปได้ไม่นานซูโจวก็ได้รีบตามมาที่นี่อย่างรวดเร็ว

"เจ้าหนู ครั้งนี้กลาไปล่วงเกินเจียงเหลินเหวินงั้นรึ ! "

ซูโจวได้พูดออกมา

หลินเทียนไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยแต่ซินเชิงหยุนได้ถามออกมาว่า

"ท่านอาจารย์รู้เรื่องนี้ด้วย ? "

"ไร้สาระ ! ทำไมข้าจะไม่รู้ ! ก่อนหน้านี้เมื่อสิบวันก่อนเจียงเหลินเหวินได้ประกาศให้หลินเทียนไปพบเขาเพื่อเอาของๆเขาไปคืน "

ซูโจวได้มองไปทางหลินเทียนพร้อมกับพูดออกมาด้วยสีหน้ากระวนระวายว่า

"เจ้าไปแย่งของๆเขามาจริงๆ ? "

หลินเทียนที่ได้ยินเช่นนั้นเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมทั้งพูดด้วยสีหน้าดูถูกว่า

"ของมัน ? เอาคืนมัน ? "

"อื้ม ทำไม ? "

เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของหลินเทียนแล้วซูโจวก็อดแสดงสีหน้าที่สงสัยออกมาไม่ได้

"มันเป็นแบบนี้ ...."

ซินเชิงหยุนได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เขาได้ฟัง

หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้นแล้วซูโจวเองก็ได้แต่เงียบไป

"แล้วหญ้าวิญญาณสีฟ้านั่นล่ะ ? "

ซูโจวได้ถามออกมา

"ยังเหลือยู่ต้นนึง"

หลินเทียนได้ตอบกลับไป

ซูโวได้แตะไหล่ของเขาเอาไว้พร้อมกับพูดว่า

"เจ้าหนู แม้ว่าสิ่งที่ข้ากำลังจะพูดอาจทำให้เจ้ารู้สึกไม่พอใจแต่ ้าว่าเอาหญ้าวิญญาณสีฟ้านั้นไปให้เขาซะ อย่างน้อยๆเขาก็จะได้ปล่อยเจ้าไป "

หลินเทียนได้ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า

"แต่มันเป็นของๆข้า "

"ข้ารู้ แต่นั่นมันเจียงเหลินเหวินนะ ! "

ซูโจวได้พูดออกมา

"แล้วมันทำไม ? มันเป็นจักรพรรดิหรือไง ? ถึงได้สามารถสั่งให้ข้ามอบของๆข้าให้มันได้ ? "

หลินเทียนได้พูดออกมา

ซูโจวเองก็ได้แต่ฝืนยิ้มพลางตอบกลับไปว่า

"ข้ารู้นิสัยของเจ้าดีอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าการมาของข้ามันเปล่าประโยชน์จริงๆ ทำตามใจเจ้าเถอะ "

หลังจากนั้นเขาก็ได้แต่ส่ายศีรษะพร้อมกับเดินจากไป

ไม่นานหลังจากทีเขาได้กลับไปแล้วฮานเฮอและหลุยหลานก็ตามกันมา

"หลินเทียน นี่มันเรื่องอะไรกัน ? เจ้าไปล่วงเกินเจียงเหลินเหวินได้ไง ? "

พวกเขามาถึงก็พูดประเด็นหลักออกมาทันที

เมื่อเห็นการมาถึงของทั้งคู่แล้วหลินเทียนก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

"ดูเหมือนว่าอำนาจของมันจะยิ่งใหญ่จริงๆเลยนะ "

ฮานเฮอได้ถามซ้ำต่อว่า

"นี่มันเรื่องอะไรกัน ? "

หลังจากนั้นหลินเทียนก็ได้อธิบายเรื่องราวต่างๆออกไปจนหมด

ใบหน้าของฮานเฮอและหลุยหลานได้หม่นหมองลงแต่ก็แนะนำแบบเดียวกับซูโจวพลางถามว่า

"ยังมีหญ้าวิญญาณสีฟ้าเหลืออยู่รึไม่ ? หากว่าคิดจะเอาไปมอบให้เขาพวกเราก็จะไปกับเจ้า ข้าเชื่อว่าเขาต้องไม่กดขี่เจ้าอย่างแน่นอน "

พวกเขามีความคาดหวังกับหลินเทียนมากดังนั้นถึงไม่อยากให้หลินเทียนได้รับอันตรายใดๆ

หลินเทียนได้จ้องมองไปทางพวกเขาและรู้ดีว่าพวกเขาหวังดีแต่ก็ยังคงส่ายศีรษะออกมา

จะให้เขาเอาของๆเขาไปมอบให้นี่มันเป็นไปไม่ได้ !

ฮานเฮอได้แต่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า

"ตั้งแต่ก่อตั้งสำนักมามันมีกฎเหล็กอยู่ว่าห้ามสังหารศิษย์ร่วมสำนักก็จริงซึ่งเจ้าเองก็ได้ฆ่าคนไป 2 คนแล้วแต่อาศัยประโยชน์จากตรามังกรและคำขอร้องขององค์ชาย 9 ถึงได้รอดมาได้ไม่งั้นตอนนี้เจ้าก็ต้องตายจากบทสรุปของกฎนี้ "

ตรงนี้เองที่ฮานเฮอได้พูดออกมาว่า

"อย่างไรก็ตามเขานั้นต่างออกไปเพราะว่ากฎของทางสำนักไม่มีผลอะไรกับเขา เขาจะฆ่าใครในสำนักเราก็ได้และเราเองก็ไม่สามารถเอาความกับเขาและแม้แต่ทางราชวงเองก็ยังได้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ข้าว่าเจ้าน่าจะเข้าใจที่ข้าจะสื่อใช่ไหม ? "

"หมายความว่าต่อให้มันลงมือสังหารข้าในสำนักนี้และพวกท่านรู้เห็นแต่ก็จะไม่หยุดยั้ง ?"

หลินเทียนได้ถามออกมาอย่างราบเรียบ

ฮานเฮอและหลุยหลานเองก็ไม่ได้หลบเลี่ยงอะไรพลางพยักหน้าออกมา

หลังจากที่ได้รับคำตอบจากทั้งคู่แล้วหลินเทียนก็ได้แต่ยิ้มตอบ

"ข้าก็ไม่อยากจะพูดว่านี่มันไม่ยุติธรรมเพราะว่าโลกนี้มันไม่มีอะไรที่ยุติธรรมอยู่แต่แรกแล้ว ข้าจะไม่บอกว่าสำนักนี้หนุนหลังเขาและไม่ได้จะเอาความอะไรแต่ข้าแค่อยากจะถามว่า........"

หลินเทียนได้จ้องมองไปทางฮานเฮอและหลุยหลานพร้อมทั้งพูดว่า

"แล้วหากว่าข้าจะฆ่าเขาล่ะ พวกท่านจะทำไง ? "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด