ตอนที่แล้วDivine King Of All Directions - 086
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDivine King Of All Directions - 088

Divine King Of All Directions - 087


Divine King Of All Directions - 087

 

หลินเทียนเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 9

โจวเฮ่าเขตแดนชีพจรเทวะ

ทั้งสองนั้นไม่มีความเท่าเทียมในด้านระดับพลังแต่ถึงเป็นเช่นนั้นหลินเทียนก็ยังเอาชนะคู่ต่อสู้ทุกคนแล้วตะโกนชื่อโจวเฮ่าออกมาซะงั้น นี่มันทำให้ผู้คนทั่วทั้งสนามถึงกับมีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

"นี่......จะประลองชิงอันดับ 1 กัน ? "

หลายคนได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา

ท่าทางของโจวเฮ่าได้หม่นหมองลงพร้อมกับความสุขที่ได้จางหายไป ตอนนี้หลินเทียนได้ตะโกนชื่อเขาออกมาพร้อมทั้งหันกระบี่มาทางเขาซึ่งมันทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก

"น้องชายหลินแน่ใจแล้วหรอว่าจะสู้กับข้า ? "

โจวเฮ่าได้ถามออกมา

"อะไรกัน เมื่อสามเดือนก่อนเราได้ทำสัญญาเป็นตายกันแล้วทำไมถึงได้มาถามล่ะ "

หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างสบายใจ

เมื่อพูดแล้วหลินเทียนก็ได้หยิบเอาใบสัญญาที่วันนั้นพวกเขาได้ทำร่วมกันออกมา

"สัญญาเป็นตาย ? !"

"มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นหรอ ? "

"เมื่อสามเดือนก่อนมันเป็นตอนที่หลินเทียนเพิ่งเข้าร่วมสำนักเองนะ "

หลายๆคนได้แต่ผงะไป

มู่ชิงและฉีดงถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน

ซูชูวได้สะกิดมู่ชิงพร้อมทั้งเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกไป

"ไร้สาระ !"

มู่ชิงได้สบถออกมาด้วยความโกรธ

หลินเทียนยังคงจ้องมองไปทางโจวเฮ่าตั้งแต่ต้นซึ่งมู่ชิงได้มองไปยังพวกเขาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบแล้วพูดว่า

"เรื่องของพวกเจ้าจบลงตรงนี้แหละ "

หลินเทียนนั้นเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับ 9 ดาราซึ่งมันเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดในรอบหลายร้อยปีของสำนักแห่งนี้แต่โจวเฮ่าเองก็ไม่ธรรมดา สามารถตัดผ่านไปยังเขตแดนชีพจรเทวะได้ในขณะที่ยังเป็นเพียงศิษย์ภายนอกซึ่งหากว่าปล่อยให้การประลองดำเนินต่อไปก็จะถือเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงของทางสำนักไม่ว่าจะเสียใครไปก็ตามแถมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือมู่ชิงนั้นรู้ดีว่าหากพวกเขาสู้กันจริงๆโอกาสที่หลินเทียนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็เกือบถึง100%

เขตแดนหล่อหลอมร่างกายจะไปสู้เขตแดนชีพจรเทวะได้ยังไงกัน ?

หลังจากที่ต้องเผชิญกับสายตาของมู่ชิงแล้วหลินเทียนก็ได้เงียบไปพักหนึ่งพร้อมทั้งส่ายศีรษะแล้วพูดว่า

"ต้องขออภัยท่านผู้อาวุโสด้วยแต่ข้าทำไม่ได้ "

หลินเทียนยังคงพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบว่า

"ในวันเดียวกันนั้นท่านผู้อาวุโสฉีจำได้ไหมว่าท่านได้ถามข้าว่าทำไมทั้งๆที่รู้ว่าโม่เซินได้เปรียบและจะต้องฆ่าข้าแน่ๆแต่ทำไมถึงยังสู้ ข้าจะตอบกลับไปด้วยคำเดิมว่า...........ลูกผู้ชายถ้ายังหายใจก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงในสิ่งที่จะทำเป็นต้องทำได้ ! "

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วฉีดงและมู่ชิงต่างขมวดคิ้วเข้าหากัน

นี่หลินเทียนและโจวเฮ่ามีความแค้นกันด้วย ?

หลินเทียนที่อยู่บนเวทีได้มองไปยังโจวเฮ่าพร้อมทั้งพูดต่อว่า

"มันเหมือนกับโม่เซินที่เขาเป็นคนยื่นเรื่องสัญญาเป็นตายกับข้าหลังจากนั้นเมื่อข้ากลับมาจากสันเขาชิงเฟิงก็มีศิษย์คนหนึ่งโผล่ออกมาและบอกว่าจะมาสั่งสอนข้าแทนโจวเฮ่าโดยการตัดแขนข้า "

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วท่าทางของผู้ชมต่างเปลี่ยนไปตามๆกัน

หลายๆคนได้มองไปทางโจวเฮ่าด้วยท่าทางแปลกๆ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้นแล้วโจวเฮ่าก็รีบส่ายศีรษะแล้วพูดว่า

"ข้าไม่รู้เรื่อง "

"งั้นหรอ ? แน่นอนว่าด้วยสถานะศิษย์ภายนอกลำดับที่ 1 ของเจ้าคงไม่มีทางทำเรื่องต่ำช้าไร้ยางอายแบบนี้กับศิษย์ใหม่ ดูเหมือนว่าคงมีคนอยากจะสละตัวทำเรื่องพวกนี้แทนเจ้าสินะ "

หลินเทียนได้แสยะออกมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายอารมณ์

หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดต่อว่า

"หลังจากนั้นเมื่อถึงช่วงที่มีการทดสอบศิษย์ภายนอกนั้นเจ้ายังจำตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับ 4 ตะขาบผีได้ไหม ? ท้ายที่สุดแล้วจริงๆข้าสามารถหลบระยะโจมตีของมันได้แต่ต้องขอบคุณเจ้าที่ทำให้ข้าหมดทางหนีแล้วโดยมันลากไปแต่โชคยังดีที่ข้าไม่ตาย "

"อะไรนะ ? "

ท่าทางของซูชูวได้เปลี่ยนไปทันทีเพราะนางยังจำเรื่องในวันนั้นได้ไม่มีวันลืม เมื่อหลินเทียนขุดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้งก็ทำให้นางตระหนักได้ว่ามันมีความจริงถูกซ่อนเอาไว้ ?

โจวเฮ่าได้ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุขว่า

"น้องชายหลินพูดงี้หมายความว่าไง ? แม้ว่าเราจะทำสัญญาเป็นตายกันแล้วแต่ข้าเป็นคนตรงๆและไม่มีทางทำเรื่องชั้นต่ำแบบนั้นได้แน่นอน ! ที่ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้มันกลายเป็นความผิดของข้า ? "

"ไอ้สุนัขจิ้งจอกไร้ยางอาย !"

หลูเชิงได้ตะโกนออกมา

"หุบปากซะไอ้ขยะ ! "

หลินเทียนได้กวาดตามองหลูเชิงด้วยแววตาที่เย็นยะเยือกจนทำให้ร่างกายเขาถึงกับสั่นสะท้าน

เขาได้แสยะออกมาพร้อมกับหันหน้าไปหาโจวเฮ่าอีกครั้งแล้วพูดว่า

"จริงๆแล้วเจ้าบอกว่าช่วยข้าแต่คลื่นกระบี่ของเจ้ามันปิดทางหนีของข้าทั้งหมดแม้คนอื่นจะดูไม่ออกแต่คิดว่าข้าจะสัมผัสไม่ได้ ? นี่คือวิธีช่วยของเจ้า ? คลื่นกระบี่นั่นหากไม่โจมตีเข้าใส่ข้าก็จะส่งข้าเข้าไปหาตะขาบผี ท้ายที่สุดข้าก็ถูกมันลากไป "

"ที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง ! "

ซูชูวได้ตะโกนออกมาขณะมองไปทางโจวเฮ่าด้วยความโกรธพร้อมพูดต่อว่า

"ข้าก็ว่าทำไมเจ้าถึงได้เสนอตัวช่วยหลินเทียนด้วยตัวเอง ที่แม้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง ! "

ซูชูวรู้ดีว่าหลินเทียนนั้นเป็นคนอย่างไรดังนั้นถึงไม่สงสัยในคำพูดของเขาแม้แต่น้อย

"ชูวเอ๋อ ไหนเจ้าเล่าเรื่องในวันนั้นมาสิ"

มู่ชิงได้พูดออกมา

ซูชูวเองก็ไม่ได้ปิดบังอะไรพร้อมทั้งเล่าออกไปทั้งหมด

ตอนนี้เองที่ท่าทางของมู่ชิงและฉีดงได้ตกต่ำลงอย่างมาก

"ไอ้ระยำ ! "

ฉีดงได้คำรามออกมาอย่างดังเหมือนกับซูชูวไม่มีผิด พวกเขาเชื่อในตัวของหลินเทียนมากๆดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเชื่อในทุกๆคำพูดของเขา พริบตานี้พวกเขาได้จ้องมองไปทางโจวเฮ่าด้วยสีหน้าที่โกรธจัดอย่างถึงที่สุด

"ท่านผู้อาวุโสทั้งสอง ข้าขอสาบานเลยว่าข้าไม่ได้ทำเรื่องเช่นนั้นจริงๆ วันนั้นข้าตั้งใจจะช่วยน้องชายหลินจริงๆและหากว่ามีคำไหนที่ข้าโกหกข้าก็ขอให้ตกตายโดยการโดนฟ้าผ่า "

โจวเฮ่าได้พูดออกมาพร้อมทั้งพูดต่อว่า

"บางทีอาจจะเป็นเพราะระดับพลังของหลินเทียนยังไม่สูงถึงได้เข้าใจเจตจำนงแห่งกระบี่ของข้าผิดไป "

มู่ชิงและฉีดงที่กำลังจดจ่อไปทางโจวเฮ่าล้วนขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะว่าจากการตอบสนองของโจวเฮ่าแล้วทำให้พวกเขาหาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย หรือว่าหลินเทียนเข้าใจผิดไปจริงๆ ? จากคำพูดของโจวเฮ่านั้นมันเป็นไปได้มากที่หลินเทียนจะเข้าใจผิดไป

ณ ตอนนี้เสียงคำรามของกระบี่ได้ดังขึ้น

"พอได้แล้วโจวเฮ่า เก็บคำพูดจอมปลอมของเจ้าไปซะเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรกับข้า "

หลินเทียนได้มองไปทางเขาพร้อมทั้งพูดต่อว่า

"ข้าไม่รู้ว่าคนอื่นๆจะมองอย่างไรแต่เพียงแค่ข้ารู้สึกคนเดียวก็พอแล้ว ไสหัวขึ้นมา ! วันนี้ไม่ข้าตายเจ้ารอดก็เจ้ารอดข้าตาย ! "

ผู้ชมทั้งหลายถึงกับมีท่าทางเปลี่ยนไปด้วยคำพูดที่ทรงพลังนี้

"บ้าไปแล้ว ! "

ผู้ชมหลายๆคนถึงกับผงะไป

เขตแดนหล่อหลอมร่างกายปะทะเขตแดนชีพจรเทวะนี่มันบ้าชัดๆ !

ตอนนี้ท่าทางของโจวเฮ่าดูไม่ดีเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตัวเองจะกระโดดออกไปตอนที่หลินเทียนฉายแสงที่สุดแล้วเอาชนะเพื่อทำให้รู้สึกเสียใจแต่ตอนนี้กลับเป็นหลินเทียนที่ท้าเขาสู้ด้วยตัวเอง นี่มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างมาก

"งั้นก็มา ! "

เขาได้พูดออกมาพร้อมทั้งกระโดดขึ้นไปบนเวทีด้วยท่าทางโกรธจัด

ทันใดนั้นเองที่สายตาทุกคนได้จดจ่อไปบนเวที

"เอาล่ะพวกเจ้าพอเถอะ !"

มู่ชิงได้พูดออกมาพร้อมพูดต่อว่า

"พวกเจ้าทั้งคู่เป็นผู้มีพรสวรรค์ของเราและถือเป็นความหวังของเราดังนั้นทำไมถึงต้องทำสัญญาเป็นตาย ? ถอยออกมาคนละก้าวสิ "

"ท่านผู้อาวุโสก็เห็นว่าข้าไม่ใช่คนสร้างปัญหาแต่มันเป็นการบังคับของน้องชายหลินซึ่งแม้ว่าข้าจะไม่มีพรสวรรค์แต่ข้าก็ยังมีเกียรติ ในเมื่อเขาอยากจะสู้ข้าก็จะจัดให้ตามที่เขาหวัง "

โจวเฮ่าได้พูดออกมา

โจวเฮ่าได้หยิบเอาสัญญาเป็นตายออกมาพร้อมกับชูขึ้นทันที

มู่ชิงได้ขมวดคิ้วพร้อมทั้งมองไปทางหลินเทียนแล้วพูดว่า

"หลินเทียน เจ้าถอยกลับมาเรายังจบเรื่องนี้ทันนะ "

ตอนนี้มู่ชิงกำลังเตือนสติเขาอยู่เพราะว่าการที่เขตแดนหล่อหลอมร่างกายไปสู้กับเขตแดนชีพจรเทวะนั้นมันรนหาที่ตายชัดๆ

มู่ชิงไม่อยากจะเห็นหลินเทียนต้องตาย

หลินเทียนก็เข้าใจถึงเจตนาของเขาดีแต่ก็ยังคงส่ายศีรษะอยู่ดี

"การประลองนี้สนุกแน่ ! "

โจวเฮ่าได้มองไปทางหลินเทียนด้วยท่าทางที่มั่นคงและเคร่งขรึม

มู่ชิงและฉีดงได้มองไปที่กันและกันก่อนที่จะส่ายศีรษะ หากว่าศิษย์สำนักขัดแย้งและทำสัญญาเป็นตายกันมันส่งผลให้ทางสำนักไม่มีสิทธิก้าวก่ายอะไรเหมือนตอนหลินเทียนและโม่เซินซึ่งในเมื่อตอนนี้หลินเทียนยืนยันที่จะสู้แล้วแม้พวกเขาจะเป็นผู้อาวุโสแต่ก็ไม่สามารถขัดขืนได้

"เจ้านี่ ! "

ซูชูวได้พูดออกมา

แม้นางจะรู้อยู่เต็มอกว่าหลินเทียนไม่มีทางยกเลิกการประลองนี้แต่ตอนนี้นางก็ยังโกรธเป็นอย่างมากเพราะว่านี่คือการสู้เป็นตาย ! หลังจากนี้พวกเขาจะสู้กันโดยที่มู่ชิงและฉีดงไม่สามารถห้ามปรามได้ซึ่งหลินเทียนในตอนนี้อยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายแล้วจะไปสู้โจวเฮ่าได้อย่างไรกัน !

"หลินเทียนคนนี้มันบ้าจริงๆ "

"เขตแดนหล่อหลอมร่างกายกับเขตแดนชีพจรเทวะนี่มันต้องแพ้อยู่แล้ว"

ศิษย์ภายในหลายๆคนได้แต่ส่ายศีรษะไปตามๆกัน

ร่างสองร่างบนเวที , โจวเฮ่าได้จ้องมองไปท งหลินเทียนด้วยประกายตาเย็นชา

"น้องชายหลินแน่ใจแล้วนะ ? "

โจวเฮ่าได้ถามออกมา

"เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว "

หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยท่าทางสบายอารมณ์

ท่าทางของโจวเฮ่าได้หม่นหมองลงทันที

หลินเทียนได้เตะกระบี่ที่พื้นของศิษย์คนหนึ่งไปให้โจวเฮ่าพร้อมทั้งพูดออกมาว่า

"เข้ามา "

เขาได้ชี้กระบี่ไปทางโจวเฮ่าด้วยแรงกดดันมหาศาลที่ปลดปล่อยออกมา

ท่าทางของเขาทำให้ผู้คนถึงกับมีสีหน้าเปลี่ยนไป

"เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรเทวะแต่กลับยังคงสงบแบบนั้นนี่มัน......"

"ต้องบอกว่าเขามันบ้าไปแล้ว ! แข็งแกร่งจริงๆ ! "

"ไม่ว่าจะเป็นใครแต่เราก็เทียบกับพวกเขาไม่ได้"

ศิษย์หลายๆคนต่างพากันพูดออกมา

โจวเฮ่าที่ถือกระบี่อยู่มือเดียวก็ได้แต่ส่ายศีรษะของเขา

"น้องชายหลิน เจ้าแข็งแกร่งก็จริงแต่เจ้ามันบ้าเกินไปและยิ่งกว่านั้นคือเอาความบ้าไปใช้ผิดที่ด้วย "

โจวเฮ่าได้แสยะออกมาพร้อมทั้งพุ่งเข้าใส่หลินเทียนอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าพลางฟาดฟันออกไปแล้วพูดว่า

"เขตแดนหล่อหลอมร่างกายและชีพจรเทวะนั้นมันเทียบกันไม่ได้ "

"เร็วมาก !"

"นี่คือความเร็วของเขตแดนชีพจรเทวะงั้นหรอ ? "

"นี่...."

นัยน์ตาของผู้คมถึงกับหดเล็กลงอย่างมาก

กระบี่สีเงินในมือของโจวเฮ่าได้ตัดผ่านอากาศพร้อมทั้งเข้าใกล้หน้าท้องของหลินเทียนอย่างรวดเร็ว

หลินเทียนยังคงยื่นกระบี่ออกไปรับอย่างไม่แยแส

"แกร๊ง ! "

เสียงปะทะกันได้ดังขึ้นก่อนที่จะเห็นว่าหลินเทียนสามารถป้องกันการโจมตีของเขาเอาไว้ได้

"หือ ? "

นัยน์ตาของโจวเฮ่าได้หดเล็กลงเพราะว่าเจ้านี่มันตามความเร็วของเขาทัน ?

เขาได้แสยะออกมาพร้อมทั้งปลดปล่อยคลื่นกระบี่โดยทันที

"โครม ! "

เหมือนดังเปลวเพลิงแห่งทวยเทพได้จุดขึ้น แรงกดดันมหาศาลนี้ก่อเกิดเสียงดังกังวานออกมา

หลินเทียนในตอนนี้รู้สึกเพียงแค่ว่าแขนขวาของเขากำลังชาขณะที่คลื่นกระบี่มากมายได้พุ่งเข้าใส่เขาจนทำให้ต้องกระเด็นออกไป

เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วสีหน้าของผู้ชมก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดโดยทันที

"จริงด้วย ! เขตแดนหล่อหลอมร่างกายมันไม่สามารถรับมือกับเขตแดนชีพจรเทวะแม้จะเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาดก็ตาม "

หลายๆคนได้ถอนหายใจออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด