ตอนที่แล้วDivine King Of All Directions - 062
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDivine King Of All Directions - 064

Divine King Of All Directions - 063


Divine King Of All Directions - 063

 

(* ในเว็ปมันเปลี่ยนจากซิงเหยาเป็นซินเหยางั้นแอดเปลี่ยนตามเลยแล้วกัน )

ตัวเขาได้กวาดตามองรอบๆเล็กน้อยก่อนที่จะเก็บเอาบัตรสีทองออกมาจากร่างของจางเฟิงและคนอื่นๆทีละคนรวมถึงอาวุธวิญญาณทั้งหมดด้วย

"หกแสนเหรียญแถมยังมีอาวุธวิญญาณระดับกลางและอาวุธที่เกือบจะเทียบเท่าอาวุธวิญญาณ ดูเหมือนว่าการเก็บเกี่ยวครั้งนี้นะไม่น้อยเลยแหะ "

หลินเทียนได้แสยะออกมา

ณ ตอนนี้เขาได้ยินเสียงหอนของหมาป่าดังมาจากที่ไกลๆก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย

"หมาป่าโลหิต ? "

หลินเทียนได้คิดอยู่ภายในใจ

เขาไม่ลังเลเลยที่จะกระโดดถอยกลับไปหลบซ่อนตัว

ไม่นานเขาก็มุ่งหน้ากลับไปยังอาณาเขตสัตว์ร้ายระดับที่ 2 พร้อมทั้งหาใบกล้วยมาห่ออาวุธวิญญาณที่ได้ไว้แล้วเดินกลับไปทางสำนัก

เมื่อกลับไปถึงที่พักแล้วเขาก็รีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว

"หอกวิญญาณและกระบี่วิญญาณนี่ต้องเอาไปขายให้เร็วที่สุด "

หลินเทียนได้คิดอยู่ภายในใจ

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้แล้วเขาก็นึกได้เพียงแค่ว่าจะต้องไปที่ตำหนักแลกสมบัติเท่านั้น

ณ ตอนนี้เขาไม่รีรอแม้แต่น้อย รีบสวมเสื้อคลุมสีดำเอาไว้พร้อมทั้งรีบมุ่งหน้าออกจากสำนักไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อไปถึงหน้าตำหนักแลกสมบัติแล้วก็พบว่าที่นี่ยังคงคึกคักอยู่เช่นเคย เขารีบมุ่งตรงไปยังห้องประเมินสมบัติโดยทันที

"ท่าน.....คือปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมคนก่อน ? "

ชายวัยกลางคนที่รับหน้าที่ดูแลที่นี่ได้ถามออกมา

"ข้าเอง "

หลินเทียนได้ตอบกลับพร้อมทั้งเอาอาวุธวิญญาณออกมาวางไว้แล้วพูดต่อว่า

"ช่วยตรวจสอบแล้วเอาไปเข้าประมูลให้ข้าหน่อย "

มันเป็นอาวุธวิญญาณของจางเฟิงและหยูเท่านั้นดังนั้นตราบใดที่เขานำของพวกนี้มาขายให้เร็วก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว

ชายวันกลางคนได้กวาดตามาองก่อนที่จะพูดออกมาด้วยท่าทางที่ตกตะลึงว่า

"อาวุธวิญญาณ ? "

"อื่ม "

หลินเทียนได้ตอบกลับไป

ชายวัยกลางคนได้มองกลับไปยังหลินเทียนอีกครั้งพร้อมพูดว่า

"ก่อนหน้านี้ท่านพูชิได้สั่งการเอาไว้ว่าหากท่านมาอีกก็ให้ข้าเชิญท่านไปที่ห้องแขกผู้ทรงเกียรติที่อยู่ในอาคารที่สอง โปรดตามข้ามา"

"ได้"

หลินเทียนได้พยักหน้าตอบ

สำหรับเขาแล้วคุ้นเคยกับพูชิดี

พวกเขาได้เดินออกจากห้องนี้ไปยังอาคารที่สองภายใต้การนำของชายวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว

"ท่านพูชิ น้องชายปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมมาขอรับ "

ชายวัยกลางคนได้พูดออกมาหลังจากที่เคาะประตู

ประตูได้ถูกเปิดออกโดยพูชิอย่างรวดเร็วก่อนที่สายตาของเขาจะตกลงไปที่หลินเทียนพร้อมทั้งพูดว่า

"แขกอันทรงเกียรติ ! น้องชายเข้ามาเร็ว ๆ "

"ขอรบกวนด้วย "

หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างสุภาพ

หลังจากที่นั่งลงแล้วพูชิก็ได้ถามออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

"น้องชาย วันนี้มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ? "

"อื่ม เอาของสองอย่างมาให้ช่วยลงประมูลน่ะ "

หลินเทียนได้ตอบกลับไป

ณ ตอนนี้ชายวัยกลางคนก็ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องของอาวุธวิญญาณทั้งสองชิ้นออกมา

"โอ้ อาวุธวิญญาณระดับกลางงั้นหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า น้องชายเอากำไรมาให้ตำหนักแลกสมบัติของเราอีกแล้ว ! "

หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายแล้วพูชิก็ได้แต่หัวเราะออกมาก่อนที่จะยืนขึ้นแล้วพูดต่อว่า

"พอดีเลย เรากำลังจัดการประมูลขึ้นในช่วงบ่ายงั้นน้องชายรอก่อนแล้วกันข้าจะไปแจ้งซินเหยาก่อน "

"ขอรบกวนด้วยนะ "

หลินเทียนได้พูดออกมา

พิชูได้โบกมือพร้อมกับพูดว่า

"เจ้าทำเงินให้เราอย่างมากจะพูดว่ารบกวนได้ไงล่ะ ? ฮ่า ฮ่า "

ณ ตอนนี้พูชิได้รีบเอาอาวุธวิญญาณทั้งสองออกไปส่งด้วยตัวเองโดยทันที

หลินเทียนยังคงนั่งอยู่ในห้องแห่งนี้และได้ยินเสียงโห่ร้องดังสั่นมาจากทางห้องประมูลได้อย่างชัดเจน หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงเขาก็พบว่าเสียงโห่ร้องได้หยุดลงแล้วดังนั้นก็เดาได้ว่าการประมูลน่าจะจบลงแล้ว

ไม่นานก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง

!

ประตูห้องได้พูดเปิดออกพร้อมกับกลิ่นหอมอันคุ้นเคย

"น้องชายในที่สุดก็มา พี่สาวคิดถึงจริงๆ "

เสียงอันยั่วยวนได้ถูกส่งมาทันที

ในตอนนี้ซินเหยาสวมชุดรัดรูปสีดำที่ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวของนางโดดเด่นเป็นอย่างมากก่อนที่นางจะเดินเข้ามาข้างๆหลินเทียนและจดจ่ออยู่ที่เขาด้วยรอยยิ้ม

หลินเทียนได้กระแอมออกมาเล็กน้อยเพราะเขาไม่สามารถอดทนได้เท่าไหร่

มันเป็นเพราะตอนนี้ร่างของนางแทบจะแนบติดกับตัวเขาแล้วแถมยังมีกลิ่นหอมเตะจมูกที่ก่อกวนเขาเป็นอย่างมาก

"อิอิ ดูเหมือนว่าน้องชายจะเขินงั้นหรอ น่ารักเสียจริง "

ซินเหยาได้กุมปากตัวเองพลางหัวเราะคิคิออกมาไม่หยุด

หลินเทียน

"......."

"โอ้น้องชายไม่พูดอะไรเลย ? หรือว่าจะหลงเสน่ห์พี่สาวซะแล้ว ? "

ซินเหยาได้ขยับเข้าใกล้เขามากขึ้น

กลิ่นหอมยั่วยวนฟุ้งไปทั่วอากาศพร้อมทั้งร่างกายอันน่าหลงใหลนี่มันจะไม่ทำให้ชายหวั่นไหวได้อย่างไรกัน

หากว่าไม่ได้เป็นเพราะว่าหลินเทียนมีจิตใจที่เข้มแข็งก็คงจะทนไม่ไหวเหมือนกัน

"แม่นาง ! ........."

พูชิได้ไอแห้งๆออกมาจากข้างหลัง

ซินเหยาได้กรอกตาของนางก่อนที่จะถอยห่างออกมาจากร่างของหลินเทียนพร้อมทั้งพูดว่า

"ไม่มีความรู้สึกเลยจริงๆ "

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ถอยออกมาแล้วนางก็นั่งลงที่โซฟาตัวเดียวกับหลินเทียนโดยที่ไม่ไปนั่งที่อื่น

หลินเทียน

".........."

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนางพรายแบบนี้แล้วเขาไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี หากว่าเลือกได้เขาขอเลือกเผชิญหน้ากับฉีเหมียงกุ่ยยังดีกว่า

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นแต่พูชิเองก็หมดคำพูดไปเหมือนกัน

พูชิได้เมินการกระทำของซินเหยาก่อนที่จะนั่งลงแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

"น้องชาย เราขายอาวุธวิญญาณทั้งสองได้ราคาแสนสี่หมื่นและทางเราเอาไปเพียงแค่ค่าส่วนต่างเท่านั้น นี่เป็นบัตรที่มีมูลค่าแสนหนึ่งหมื่น"

หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้ยื่นบัตรสีทองให้กับหลินเทียน

"ขอบคุณมาก "

หลินเทียนได้พูดออกมา

"เฮ้ ....... "

ซินเหยาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า

"น้องชายทำแบบนี้ไม่ถูกนะ รู้ไหมว่าแม้ว่าของนี่จะเป็นของน้องชายแต่พี่สาวก็ใช้แรงไปเยอะมากๆแถมเรายังเก็บแค่ส่วนต่างแต่น้องไม่ขอบคุณพี่สาวเลย ? "

หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่อึดอัดก่อนที่จะรีบพูดออกไปว่า

"ขอขอบคุณพี่สา........ แม่นางซิน"

หน้าเขาแดงก่ำทันทีก่อนที่จะรู้สึกหมดคำพูดไปเพราะก่อนหน้านี้เขาเกือบจะเรียกนางพรายคนนี้ว่าพี่สาวจริงๆแล้ว

"คิก คิก ทำไมไม่เรียกพี่สาว ? มันดูสนิทกันกว่าอีก "

ซินเหยาได้พูดออกมา

หลินเทียนได้มองไปทางนางอีกครั้งก่อนที่จะคิดว่านี่แหละหายนะชัดๆ ทุกๆการกระทำและทุกๆการเคลื่อนไหวของนางมันผสมไปด้วยความยั่วยวนและมนต์เสน่ห์

พูชิได้มองไปทางหลินเทียนพร้อมกับพูดออกมาว่า

"น้องชายกำลังจะตัดผ่านไปยังเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 8 งั้นหรอ ? "

"อื้ม ใช่ "

หลินเทียนไม่ได้ปิดบังอะไร

"ตั้งแต่อดีตมาอายุ 16 ปีแต่กลับสามารถอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 8 ได้นี่มีอยู่น้อยมากๆแถมยังเป็นปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมที่มีระดับ 3 เป็นอย่างน้อยอีกถือว่าพรสวรรค์ของน้องชายนี่ไม่ธรรมดาเลย แม้แต่ในเมืองหลวงก็ยังมีไม่กี่คนที่เทียบเคียงได้ด้วยซ้ำ "

พูชิได้พูดออกมา

"พูก็ชมเกินไป "

หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างถ่อมตัว

"ที่ไหนกัน เฒ่าคนนี้พูดความจริงทั้งนั้น "

พูชิได้ส่ายศีรษะของตัวเอง

ภายในห้องนี้ , หลินเทียนและพูชิได้สนทนากันอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงซึ่งการที่ต้องเผชิญหน้ากับพูชินั้นหลินเทียนไม่รู้สึกกดดันอะไรเลยแม้แต่น้อยแต่หากเทียบกับซินเหยาแล้วเขารับมือไม่ไหวจริงๆ

"ครั้งนี้รบกวนหน่อยนะ ข้ายังมีเรื่องต้องไปทำต่อดังนั้นขอตัวก่อนล่ะ "

หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วหลินเทียนก็ได้เอ่ยปากบอกลา

"ไปไหน ? น้องชายนี่มีเรื่องให้ทำเยอะจริงๆนะ ? "

ซินเหยาได้ย่อตัวและเผยให้เห็นเนินอกที่ขาวเนียนพร้อมทั้งถามออกมาด้วยท่าทางสงสัยว่า

"หรือน้องชายกลัวว่าพี่สาวจะหม่ำเจ้า ? "

หลินเทียน

"............"

ให้พูดตรงๆเขาก็กลัวนางจริงๆนั่นแหละ

"คิกคิก ไม่แกล้งแล้วก็ได้....."

เมื่อเห็นท่าทางของหลินเทียนเป็นแบบนั้นแล้วนางก็เลยพูดต่อว่า

"หลังจากนี้จะมีของดีเข้ามาประมูลด้วยอยากจะรู้ไหม ? "

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วหลินเทียนก็ได้แต่ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า

"อะไรงั้นหรอ ? "

"เดาสิ ? "

ซินเหยาได้กระพริบตาวิ้งค์ๆด้วยท่าทางที่น่าหลงใหล

"ไม่ทราบเหมือนกัน "

หลินเทียนได้ส่ายศีรษะของเขา

"ไหนเรียกพี่สาวสิแล้วพี่สาวจะบอกเลย "

หลินเทียน

"..........."

พูชิทนฟังไม่ไหวถึงได้กระแอมออกมาพร้อมทั้งพูดว่า

"แม่นาง......"

ซินเหยาได้กรอกตาของนางพร้อมทั้งพูดออกมาว่า

"เมื่อวานทางเราได้รับแหวนมิติมา"

"แหวนมิติ ? "

หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมาว่ามันคืออะไร ?

เมื่อเห็นท่าทางขอหลินเทียนแล้วซินเหยาก็ได้หัวเราะคิกคิกออกมาพร้อมทั้งพูดต่อว่า

"ดูเหมือนว่าน้องชายจะไม่ค่อยรู้เรื่องนี้สินะ "

หลังจากที่พูดจบแล้วนางก็ได้อธิบายต่อว่า

"มันเป็นแหวนลึกลับที่ภายในมีพื้นที่เล็กๆสามารถเก็บสิ่งของได้ พูดง่ายๆคือไม่ต้องแบกไปไหนมาไหน "

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วหลินเทียนก็ได้แต่ผงะไปทันที

"แหวนมิติ ? "

เขาได้พูดออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ

เสี่ยวเหยาได้หัวเราะคิกคิกก่อนที่จะตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

"ใช่แล้วล่ะแต่ภายในมันมีพื้นที่ประมาณสามลูกบาศก์เมตรเท่านั้น "

"สามลูกบาศก์เมตรก็พอแล้ว แค่นั้นก็ถือว่าดีแล้วล่ะ "

หลินเทียนได้พูดออกมา

แหวนมิติวงเล็กๆสามารถมีพื้นที่สามลูกบาศก์เมตรนี่มันเป็นอะไรที่สะดวกอย่างมาก เรียกได้ว่าช่วยแก้ได้หลายๆปัญหาเลย

"เป็นอะไรไป ? น้องชายสนใจ ? "

ซินเหยาได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างไม่ปิดบังว่า

"อื้ม สนใจ "

เมื่อคิดถึงเรื่องที่หากเขามีแหวนมิตินี้ก็จะไม่จำเป็นต้องสะพายกระบี่ไปไหนมาไหนอีกแถมยังสามารถเรียกออกมาตอนไหนก็ได้ ภายในยังมีพื้นที่มากมายเอาไว้เก็บม้วนอาคมเพื่อเพิ่มความได้เปรียบเอาตัวเอง ถ้าจะให้ยกตัวอย่างคือตอนที่เขาสู้กับจางเฟิงเสร็จนั้นเขาสามารถเก็บอาวุธวิญญาณของพวกมันได้เลยโดยที่ไม่ต้องซ่อนไม้ในใบกล้วย

ของสิ่งนี้มีมูลค่ามากๆ

ซินเหยาและพูชิได้มองไปที่กันและกันก่อนที่จะหัวเราะออกมาพลางกดไปที่หัวไหล่ของหลินเทียนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบว่า

"น้องชายอยากได้งั้นหรอ ? หากว่าต้องการพี่สาวจะจัดการให้ในราคาถูกๆ "

"จริงหรอ ? "

หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางมีความสุข

เขาต้องการแหวนมิตินี่มากๆ

"แน่นอนพี่สาวไม่โกหกหรอก "

"เท่าไหร่ ?"

"เจ็ดแสน"

ซินเหยาได้ตอบกลับ

หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมถึงกับผงะไปพร้อมทั้งโห่ร้องออกมาว่า

"ปล้นกันชัดๆ ! "

ซินเหยาและพูชิต่างชะงักไปพร้อมทั้งพากันจ้องมองมาที่เขา

หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่อับอายออกมาทันทีก่อนที่จะกระแอมแล้วพูดว่า

"ความหมายของข้าคือเงินเจ็ดแสนมันสูงเกินไปหน่อยน่ะ "

ซินเหยาได้โอดครวญออกมาว่า

"น้องชายสุดที่รักเจ้าคิดว่าพี่สาวขายในราคาสูงงั้นหรอ ? หากว่าเอามันไปลงประมูลก็บอกได้เลยว่ามันจะได้ไม่ต่ำกว่าล้านห้าแสนอย่างแน่นอน หากว่าไม่ใช่เพราะน้องชายแล้วพี่จะขายถูกๆแบบนี้ได้ไง "

"เฮือก......."

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วหลินเทียนถึงกับอับอายไปทันทีก่อนที่จะรีบพูดออกมาด้วยความสงสัยว่า

"ของสิ่งนี้มันสามารถขายให้คนอื่นได้เลยไม่ต้องถามความคิดเห็นของผู้ขาย ?"

"ไม่เพราะว่านั่นมันเป็นของที่ทางเราได้มาและถือว่าเป็นสินค้าจากตำหนักแลกสมบัติของเรา "

เมื่อมองไปทางหลินเทียนแล้วนางก็ได้นาบไปบนร่างของเขาพร้อมทั้งพูดว่า

"ถึงได้ขายในราคาเจ็ดแสนยังไงล่ะ "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด