ตอนที่แล้วDivine King Of All Directions - 040
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDivine King Of All Directions - 042

Divine King Of All Directions - 041


Divine King Of All Directions - 041

 

อาณาจักรแห่งนี้มีสัตว์ร้ายอยู่มากมายและแบ่งออกเป็นเก้าระดับซึ่งระดับหนึ่งนั้นมีระดับพลังเทียบเท่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 1-3 สัตว์ร้ายระดับสองนั้นมีระดับพลังเทียบเท่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ4-6 สัตว์ร้ายระดับสามนั้นมีระดับพลังเทียบเท่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายนะดับ 7-9แต่หลังจากนั้นเป็นตัวตนที่อยู่ในตำนานเท่านั้น สัตว์ร้ายที่มีระดับสูงกว่า 9 นั้นจะสามารถจำแลงร่างเป็นมนุษย์ได้

"งั้นเราไปที่อาณาเขตที่สองเลยแล้วกัน "

หลินเทียนได้พูดออกมา

ซูชูวได้พูดออกมาว่า

" ก็ดี "

ระดับพลังของพวกเขาบรรลุระดับ 3 ไปแล้วดังนั้นการที่ยังอยู่ที่อาณาเขตที่ 1 ก็คงไม่ช่วยอะไร

"ไปกัน "

ซูชูวได้เริ่มเดินออกไปโดยทันที

หลังจากที่เดินไปได้ไม่ไกลนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงคำรามจากข้างหน้า ห่างออกไปไม่ไกลนั้นพวกเขาได้พบกับสัตว์ร้ายที่มีรูปร่างเหมือนแมวแต่ตัวใหญ่มากๆ นัยน์ตาของมันสีแดงฉานพร้อมทั้งขนสีเทา

"แมวเพลิง สัตว์ร้ายระดับ 1มีระดับพลังพอๆกับเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 2 "

ซูชูวได้พูดออกมา

หลังจากที่เธออธิบายจบแล้วมันก็ส่งเสียงร้องออกมา

หลินเทียนได้ขยับตัวไปทางข้างก่อนที่เอื้อมมือไปคว้ากระบี่ยาวกลางหลังออกมา ตอนนี้เขามีระดับพลังหล่อหลอมร่างกายระดับ 6 แต่แม้จะเป็นระดับ 7 ก็ยังไม่ใช่คู่มือของเขาอยู่ดีดังนั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึงแมวเพลิงเลยแม้แต่น้อย มันถูกสังหารโดยทันที

"แก่นแท้มันอยู่กลางหัว ไปคว้านมา ! "

ซูชูวได้พูดออกมา

หลินเทียนได้พยักหน้าก่อนที่จะเปิดกะโหลกของมันออกด้วยกระบี่ยาว เขาเห็นถึงแก่นแท้ที่อยู่ภายในใจกลางได้อย่างชัดเจน ขนาดของมันพอๆกับกำปั้นของเด็กแรกเกิดแถมกำลังเปล่งแสงออกมา

"นื่คือแก่นแท้ ? "

หลินเทียนได้พึมพำออกมา

เขาสัมผัสได้ถึงพลังฉีอันรุนแรงได้จากมันพร้อมทั้งความรู้สึกที่เชื่อมโยงไปถึงสัตว์ร้ายตัวนี้

ซูชูวที่ยืนอยู่ข้างๆได้แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมาก่อนที่จะอธิบายออกมาว่า

"แก่นแท้มันเป็นสิ่งที่รวมพลังฉีและเลือดของมันเอาไว้แต่มันไม่สามารถเอาไปใช้บ่มเพาะได้ "

"ทำไม ? "

หลินเทียนได้ถามออกมาด้วยความสงสัย

"แล้วข้าจะไปรู้ได้ไง ? "

ซูชูวได้กรอกตาก่อนที่จะตอบกลับไปพร้อมทั้งพูดต่อว่า

"มันน่าจะเป็นเพราะลักษณะทางกายภาพของมนุษย์และสัตว์ร้ายไม่เหมือนกัน "

น้ำเสียงของหลินเทียนไม่ได้จริงจังอะไรนักก่อนที่จะเก็บแก่นพวกนั้นเข้าไปยังถุงย่ามของเขา

"ไปกัน เตือนไว้ก่อนนะ มันเป็นเพราะว่าเรากำลังจะผ่านอาณาเขตระดับที่ 1 ไปอาณาเขตระดับที่ 2 ดังนั้นจะต้องพบกับสัตว์ร้ายตลอดทางอย่างแน่นอน "

ซูชูวได้พูดออกมาระหว่างเดินต่อไปว่า

"พี่สาวรับผิดชอบเรื่องการนำทางส่วนเจ้าก็รับผิดชอบหน้าทีดูแลความปลอดภัยเข้าใจไหม ? "

หลินเทียนได้ตอบกลับไปว่า

"ไม่มีปัญหา "

ดูเหมือนว่าหญิงนางนี้เริ่มจะติดปากคำพูดนี้แล้ว

หลังจากนั้นผ่านไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมงพวกเขาก็ผ่านอาณาเขตระดับที่ 1 ไปแม้ว่าจะไม่ได้พบกับสัตว์ร้ายมากนักแต่ทุกตัวก็ตายภายใต้คมกระบี่ของหลินเทียนด้วยกันทั้งหมด ณ ตอนนี้ภายในถุงย่ามของหลินเทียนนั้นเต็มไปด้วยแก่นแท้เต็มไปหมด

"โฮ๊กกกกก !"

หลังจากที่ไปถึงอาณาเขตระดับที่ 2 แล้วเสียงคำรามของสัตว์ร้ายก็เริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ

"ไปกัน "

ซูชูวได้พูดออกมา

หลินเทียนได้พยักหน้าก่อนที่จะเดินลึกเข้าไปทันที

สันเขาชิงเฟิงนั้นมีพื้นที่กว้างมากๆแม้ว่าจะมีศิษย์ของสำนักเข้ามากว่าสามร้อยคนแล้วแต่หลังจากที่แยกย้ายกันนั้นก็ไม่ค่อยได้พบกับใครอื่นนัก มองไปโดยรอบแล้วไม่มีศิษย์คนไหนเลยแต่กลับเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายมากมาย เพียงแค่ก้าวออกไปไม่กี่ก้าวก็พบกับหัวหน้าสัตว์ร้ายที่อยู่ข้างหน้า

"สัตว์ร้ายระดับ 2 ม้าเพลิงมรกตมีระดับพลังเทียบเท่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 4 "

"สัตว์ร้ายระดับ 2 เสือดำวิญญาณมีระดับพลังเทียบเท่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 4 "

"สัตว์ร้ายระดับ 2 สุนัขสายรุ้ง มีระดับพลังเทียบเท่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 5 "

ซูชูวได้อธิบายออกมา

"ดูเหมือนว่าเจ้าจะคุ้นเคยกับเจ้าพวกนี้ดีนะ "

หลินเทียนได้พูดออกมา

ซูชูวถึงกับหมดคำพูดก่อนที่จะพูดว่า

"มันเป็นความรู้ติดตัวอยู่แล้ว ภายในตำราก็มีบันทึกอยู่ด้วยตั้งแต่ระดับ 1 ถึงระดับ 9 เลยนะ ตราบใดที่เป็นสัตว์ร้ายในตำราน่ะมีอธิบายเอาไว้หมดทุกเรื่อง"

"มีตำราแบบนั้นด้วย ? "

หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

"แน่นอน ตำราสัตว์ร้าย ว่างๆก็ลองไปที่ตำหนักแลกสมบัติดูสิ ที่นั่นทุกคนสามารถไปศึกษาหาความรู้ได้"

ซูชูวได้พูดออกมา

หลินเทียนได้พยักหน้าตอบก่อนที่จะพบว่าสัตว์ร้ายทั้งสามตัวได้กระโจนเข้าใส่พวกเขาแล้ว

หลินเทียนได้เหวี่ยงกระบี่ของตนก่อนที่จะฉีกร่างของเสือดำวิญญาณที่กระโจนเข้ามาก่อนเป็นสองท่อน เขาเคลื่อนไหวต่อไปก่อนที่จะเข้าประชิดสัตว์ร้ายอีกสองตัวและเริ่มเปิดฉากโจมตี

"โครม ! "

"พุฟฟ !"

ขณะที่เสียงร้องได้ถูกส่งออกมานั้นม้าเพลิงมรกตและสุนัขสายรุ้งก็ต้องนอนจมกองเลือดตัวเอง

หลินเทียนได้ย่อตัวลงก่อนที่จะผ่าหัวของสัตว์ร้ายออกพร้อมทั้งชำแหละเอาแก่นแท้ออกมา

"อ่อนแอจริงๆ "

หลินเทียนได้พูดออกมา

สัตว์ร้ายที่มีระดับพลังเทียบเท่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 4 มันอ่อนแอเกินไปสำหรับเขา

หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าไปยังส่วนลึกของอาณาเขตระดับที่ 2

"โฮ๊กกกกกก !"

"โฮ๊กกก !"

ระหว่างที่เขาไปถึงส่วนลึกนั้นก็ได้ยินเสียงโห่ร้องออกมาจากมาตลอดเวลา

"ไปอีกหน่อยก็ถึงอาณาเขตระดับที่ 3แล้ว "

ซูชูวได้พูดออกมา

เมื่อถึงตรงนี้แล้วเธอเริ่มแสดงสีหน้าที่เป็นกังวลออกมา

หลินเทียนที่ยืนอยู่ตรงสุดขอบอาณาเขตระดับที่ 2 เองก็ได้มองไปยังอาณาเขตระดับที่ 3เพราะตอนนี้เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันมีพลังฉีของสัตว์ร้ายที่รุนแรง

"ไปกัน หากว่ามันอันตรายจริงๆเราก็กลับมาขัดเกลาตัวเองที่ขอบอาณาเขตก็ได้ "

หลินเทียนได้พูดต่อว่า

"จากคำอธิบายก่อนหน้านี้คือแก่นแท้ของสัตว์ร้ายระดับที่ 3หนึ่งอันเท่ากับแก่นแท้ของระดับที่ 2 เป็นสิบอัน"

ซูชูวได้แต่แสดงสีหน้าที่หมดหนทางออกมาก่อนที่จะพยักหน้าแล้วเดินตามหลินเทียนเข้าไปยังอาณาเขตระดับที่ 3

ต้นไม้ใหญ่ภายในอาณาเขตนี้เขียวชอุ่มเป็นอย่างมากแต่กลับไม่มีพุ่มไม้อยู่เลย

หลังจากที่เดินเข้าไปได้ไม่นานพวกเขาก็ได้หยุดลง

ที่ขอนไม้ข้างหน้ามีสัตว์ร้ายรูปลักษณ์เหมือนหมาป่าขนสีแดงฉานกำลังเดินออกมา ดวงตาของมันสีเขียวและให้ความรู้สึกที่กระหายเลือดเป็นอย่างมาก

"สัตว์ร้ายระดับที่ 3 หมาป่าโลหิต ระดับพลังเทียบเท่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 7 ความสามารถเฉพาะคือการดมกลิ่นเลือดที่อยู่ห่างไกลได้เป็นกิโลเมตร"

ซูชูวได้แสดงสีหน้าที่ตื่นตระหนกออกมา

"เขตแดนหล่อหลอมร่ายกายระดับที่ 7 แต่ก็ดี ลองหน่อยแล้วกัน "

หลินเทียนได้พูดออกมา

เขาเคยปะทะกับมนุษย์เขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 7แต่ยังไม่เคยสู้กับสัตว์ร้ายที่มีพลังเทียบเท่า

"อย่าบุ่มบ่าม "

ณ ตอนนี้ ซูชูวได้จับมือหลินเทียนเอาไว้

"เป็นอะไร ? "

หลินเทียนรู้สึกสงสัยแต่ระดับพลังพอๆกับเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 7 ก็ไม่น่าจะทำให้นางระมัดระวังแบบนี้เพราะนางเองก็อยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 7 เช่นกัน

ซูชูวได้พูดออกมาว่า

"หมาป่าโลหิตนั้นเป็นสัตว์ฝูงซึ่งโดยปกติแล้ว....."

เขาพวกของนางยังไม่ทันจบแต่ตอนนี้ก็เห็นจ่าฝูงของมันก้าวเดินออกมาด้วยดวงตาสีเขียว หลินเทียนนับคล่าวๆแล้วถึงกับต้องใจสั่นไปเพราะว่า ณ ตอนนี้มีหมาป่าโลหิตปรากฏขึ้นกว่า 30 ตัว

"วิ่ง ! "

ซูชูวได้พูดออกมา

หลินเทียนได้พยักหน้าอย่างไม่ลังเลก่อนที่จะพุ่งไปพร้อมๆกับซูชูว

หมาป่าทั้ง 30 ตัวที่มีระดับพลังเทียบเท่าเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 7 นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย

"! "

เมื่อเห็นว่าหลินเทียนและซูชูวได้พากันหนีไปนั้นฝูงหมาป่าทั้งหลายเองก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

หลินเทียนและซูชูวได้วิ่งเข้าไปในป่า ระดับพลังของพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนด้อยแต่แม้จะเป็นเช่นนั้นระยะห่างระหว่างพวกเขาและฝูงหมาป่าโลหิตก็ไม่ได้ไกลกันมากนัก

"ฝ่ามือเงาเพลิง ! "

หลินเทียนที่กำลังวิ่งอยู่ได้หันหน้ากลับมาก่อนที่จะส่งฝ่ามือออกไปด้านหลัง

เขาไม่ได้หวังว่าฝ่ามือพวกนี้จะสามารถสังหารฝูงหมาป่าได้เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ เขาเพียงต้องการบดบังทัศนวิสัยด้านการมองเห็นและลดความเร็วของมันลง

"โครม !"

"โครม !"

ฝ่ามือเงาเพลิงได้ตกกระทบกับซากไม้ก่อนที่จะส่งเสียงระเบิดออกมา ไม่นานการเคลื่อนไหวของหมาป่าโลหิตก็ได้ถูกชะลอลง

"ทำได้ดีมากๆ!"

ซูชูวได้พูดออมกา

พวกเขาได้วิ่งหนีไปไกลก่อนที่จะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหมาป่าโลหิตอีกต่อไป

พวกเขาได้เดินเข้าไปภายในป่าลึกอย่างช้าๆและระมัดระวัง

"มีคนสะกดรอบตามเรา "

หลินเทียนได้พูดออกมา

คิ้วของซูชูวได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะพูดออกมาว่า

"การที่จะสามารถเข้ามาภายในสันเขานี้นั้นจำเป็นจะต้องเป็นศิษย์ของสำนักเรา คนพวกนี้ต้องการปล้นแก่นแท้จากเรา"

การทดสอบแบบนี้มีอยู่ทุกปีดังนั้นเรื่องนี้ไม่ได้แปลกอะไร

"ปล้นแก่นแท้ ? "

หลินเทียนได้พูดออกมา

พลังวิญญาณของเขารุนแรงอย่างมากดังนั้นถึงสามารถสัมผัสได้ถึงพละกำลังของพวกมันอย่างชัดเจน ณ ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่เข้มข้น !!

การจะปล้นนี้ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมีจิตสังหาร

"มากับข้า"

เขาได้จูงมือซูชูวเดินไปอีกทาง

เมื่อถูกหลินเทียนจูงมือไปนั้นนางก็ได้แต่แสดงใบหน้าที่แดงก่ำออกมาก่อนที่จะพูดว่า

"เจ้านี่ !!"

ตั้งแต่เกิดมานี่เป็นครั้งแรกที่เพศตรงข้ามมาจูงมือเธอดังนั้นถึงได้ทำให้ใบหน้าเธอแดงก่ำทันที อย่างไรก็ตามเธอรู้ดีว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไรถึงได้ไม่ขัดขืน

ไม่นานพวกเขาก็ไปถึงสถานที่โล่งกว้างก่อนที่หลินเทียนจะหยุดเท้าลง

"ออกมา !! "

เขาได้หันหน้ากลับไปก่อนที่จะพูดออกมา

ซูชูวที่ยืนอยู่ข้างๆเขาได้มองตามสายตาเขาไป

"เฮ้! ดูเหมือนว่าประสาทการรับรู้จะดีหนิ ! "

เสียงหัวเราะที่เย็นชาได้ถูกส่งออกมาก่อนที่ชายหนุ่มห้าคนจะเดินออกมา

ท่าทางของซูชูวได้เปลี่ยนไปทันทีก่อนที่จะพูดออกมาว่า

"โม่หนิง โม่ซ่ง โม่กู่ โม่เฟย์ โม่เชียน นี่เจ้าต้องการจะทำอะไร !! "

เธอเป็นศิษย์ของมู่ชิงแถมยังอยู่ภายในสำนักมากกว่าปีดังนั้นถึงรู้จักคนทั้งห้านี้ดี พวกเขามีระดับพลังอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 7และที่สำคัญที่สุดคือทั้งห้าล้วนเป็นคนจากตระกูลโม่ซึ่งนี่ทำให้คิ้วของนางต้องขมวดเข้าหากันด้วยลางสังหรณ์ที่เริ่มจะไม่ดี

"สกุลโม่ ? "

หลินเทียนได้หรี่ตาลง

เขาไม่ใช่คนโง่ดังนั้นถึงสามารถเดาได้ว่านี่มันเรื่องอะไร เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้เขาได้ฆ่าโม่เซินไปในการทดสอบเข้าร่วมสำนักซึ่งอยู่ดีๆการที่คนสกุลโม่ทั้งห้านี้โผล่มาพร้อมกันนั้นมันคงไม่ได้กะจะมาทักทายเขาอยู่แล้วแถมฝ่ายตรงข้ามยังมาด้วยจิตสังหารอีกด้วย

"เจ้าหนูตระกูลหลิน ก่อนหน้านี้ไม่นานยังเป็นพวกกระจอกแต่ไม่คิดเลยว่าตอนนี้จะมีความกล้าใหญ่เลยหนิ กล้าแม้กระทั่งฆ่าคนตระกูลโม่ของเรา !! "

โม่หนิงได้พูดออกมาด้วยสีหน้าเย็นชาก่อนที่จะก้าวเดินออกไปแล้วพูดว่า

"คงไม่รู้สินะว่าคำว่าตายเขียนยังไง !!! "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด