ตอนที่แล้วDivine King Of All Directions - 025
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDivine King Of All Directions - 027

Divine King Of All Directions - 026


Divine King Of All Directions - 026

 

ขั้นตอนการผสมหมึกนี้จะไม่เพียงดูดกลืนพลังวิญญาณและพลังฉีภายในร่างของปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมเท่านั้นแต่มันจะดูดพลังชีวิตไปด้วย หลินเทียนได้จดจ่ออยู่กับของเหลวตรงหน้าพร้อมทั้งพยายามคอบคุมพลังของตัวเองเพื่อผสมมันอย่างช้าๆ

ปุ๊ด !

ขนาดของเหลวนั้นประมาณกำปั้นและขณะที่หลินเทียนได้อัดฉีดพลังฉีและพลังวิญญาณเข่าไปก็ทำให้ขนาดของมันค่อยๆลดน้อยลง จนกลายเป็นวัตถุดิบสีดำข้น

หลินเทียนได้พยายามอัดฉีดพลังของเขาระหว่างที่หมุนวนเคล็ดวิชาบ่มเพาะหนึ่งวิญญาณสวรรค์เพื่อคงรูปของเหลวเหล่านี้อย่างระมัดระวัง ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความแม่นยำเป็นอย่างมาก ความประมาทสามารถทำให้ล้มเหลวได้โดยทันที

ช่วงเวลานี้พลังชีวิตของหลินเทียนได้ถูกดูดกลืนไปอย่างหนักและตอนนี้เองที่ส่งผลให้พลังฉีและพลังวิญญาณที่เขาอัดฉีดเข้าไปเกิดความสับสน

"ซวยแล้วสิ ! "

ตัวเขาสัมผัสได้ถึงลางร้ายโดยทันที

ตัวของเขารีบผสมของเหลวอย่างรวดเร็วแต่น่าเสียดายที่หลังจากที่ผิดพลาดไปเพียงนิดเดียวแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เขาได้แต่สร้างข้อผิดพลาดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

!

เสียงน้ำกระจายได้ถูกส่งออกมาก่อนที่ของเหลวตรงหน้าจะระเบิดออกและกระจายไปทั่ว

หลินเทียนได้แต่มองลงไปยังกลุ่มของเหลวที่พื้นขณะที่เจ็บช้ำอยู่ภายในใจ นั่นมันเป็นเงินมูลค่ากว่า 80 เหรียญเลยนะ มันเพียงพอสำหรับครอบครัวธรรมดาๆอยู่หลายปีแต่ตอนนี้กลับถูกทำลายไปหมดแล้ว วินาทีนี้เองที่หลินเทียนรู้สึกอีกครั้งว่าการเป็นปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมนี่มันเป็นการผลาญเงินชัดๆ พวกเขาคนธรรมดาๆคนไหนจะแบกรับได้ ?

หลังจากที่ใช้ความคิดแล้วเขาก็ได้หลับตาลงก่อนที่จะหมุนวนเคล็ดวิชาซือจี่และเคล็ดวิชาหนึ่งวิญญาณสวรรค์อีกครั้งเพื่อพื้นคืนพลังฉีและพลังวิญญาณของตัวเอง เขาระลึกถึงการผสมก่อนหน้านี้และให้หาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ความล้มเหลวครั้งนี้เป็นความล้มเหลวแรกในสังคมนี้ดังนั้นมันไม่ได้ทำให้เขาหมดกำลังใจแม้แต่น้อย

ค่ำคืนได้คืบคลานเข้ามาปกคลุมโลกใบนี้

หลินเทียนยังคงไม่ได้พักผ่อนแต่ยังคงฝึกฝนขั้นตอนผสมหมึกต่อไป หลังจากที่ให้บทสรุปจากความล้มเหลวครั้งแรกแล้วการผสมครั้งที่สองก็เป็นไปได้อย่างราบเรียบยิ่งกว่าเดิมแต่น่าเสียดายที่มันก็ยังคงล้มเหลวเช่นเคย

"160เหรียญ"

หลินเทียนได้ฝืนยิ้มออกมา

หลังจากที่ผิดพลาดครั้งที่สองนั้นหลินเทียนก็ไม่ได้ผสมต่อไปแต่กลับระลึกถึงข้อผิดพลาดที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ในสองครั้งแรกแทน

ไม่นานเวลาได้ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง

หลังจากที่ลืมตาขึ้นอีกครั้งแววตาของเขาก็เปลี่ยนไป

"มา อีกรอบ ! "

เขาได้พูดออกมา

แร่วิญญาณเหินหาวได้ถูกบดอย่างรวดเร็วก่อนที่จะผสมเข้ากับไขกระดูกพร้อมทั้งอัดฉีดพลังวิญญาณและพลังฉีลงไปเพื่อผสมมันเข้าด้วยกัน ไม่นานของเหลวก็กลายเป็นของเหลวสีดำข้น

ตอนนี้หลินเทียนจ้องมองไปยังของเหลวตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากล้อเหลวมาสองรอบนั้นขั้นตอนดำเนินการของเขาก็ราบเรียบขึ้น ไม่นานของเหลวสีดำตรงหน้าก็ลดขนาดลงเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว

และตอนนี้เองที่ของเหลวได้เปล่งประกายออกมาอย่างเห็นได้ชัด

"ได้แล้ว ! "

หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมาทันที

เขาควบคุมน้ำหมึกตรงหน้าด้วยพลังฉีของตัวเองก่อนที่จะเอามันไปใส่ในแก้วที่เตรียมมาไว้ก่อนแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ได้แต่มองไปยังหมึกที่เปล่งประกายระยิบระยับ

"หมึกนี่มันไม่ธรรมดาจริงๆ "

หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้น

การผสมสำเร็จในครั้งที่สาม !

เมื่อเก็บความตื่นเต้นไปแล้วหลินเทียนก็ได้นำน้ำหมึกนั้นเก็บไปก่อนที่จะเริ่มการผสมครั้งต่อไป เขาได้ซื้อวัตถุดิบมากว่าสิบชุดซึ่งตอนนี้ก็ใช้ไปเพียงแค่สามชุดเท่านั้น ยังมีอีกเจ็ดชุดรอให้เขาทำการผสมอีก

เวลาได้ผ่านไปก่อนที่แสงแรกแห่งยามเช้าจะสาดส่องลงมายังโลกใบนี้

บนยอดของที่พักหลินเทียนได้ปาดเหงื่อของเขาออกก่อนที่จะแสดงสีหน้าที่พึงพอใจออกมา ตรงหน้าเขามีหมึกอยู่หกขวดที่เขาใช้เวลาตลอดทั้งคืนผสมมันขึ้นมา

"เห้ออ....."

เขาได้ปาดเหงื่ออีกครั้งก่อนที่จะเก็บหมึกทั้งหมดกลับมา

ใช้เวลาไปตลอดทั้งคืนนี้หลินเทียนเองก็ง่วงนอนเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้คัมภีร์และหมึกมาแล้วเขาก็เริ่มเตรียมตัวงีบสักระยะ

สำหรับเขาแล้วเวลาเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากๆ เขาอยากจะสร้างข่ายอาคมผสานให้เร็วที่สุดแต่เขาก็ไม่ควรจะหักโหมเพราะหากว่ายังคงดำเนินการวาดข่ายอาคมต่อในขณะที่ร่างกายเหนื่อยล้าก็จะทำให้เสียวัตถุดิบไปเปล่าๆ

หลังจากที่ได้สูดอากาศแล้วหลินเทียนก็เดินกลับเข้าที่พักเพื่อเริ่มการพักผ่อนของเขา

เขาใช้เวลาพักผ่อนไปทั้งหมด 6 ชั่วโมง

หลังจากผ่านไป 6 ชั่วโมงแล้วหลินเทียนก็ได้ตื่นขึ้นและพบว่าข้างเตียงของเขามีอาหารถูกจัดวางเอาไว้ซึ่งดูๆแล้วมันธรรมดาอย่างมากแต่กลับส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายออกมา

หลังจากที่มองไปยังอาหารพวกนี้แล้วท่าทางของเขาก็เปลี่ยนเป็นอบอุ่นเพราะว่าเขาคุ้นเคยกับอาหารนี้มาก แค่ดูก็รู้แล้วว่าหลินซี่เป็นคนเตรียมมันขึ้นมาและเมื่อนางเห็นว่าเขากำลังพักผ่อนอยู่ถึงไม่ได้ขัดจังหวะแล้ววางเอาไว้ข้างเตียงของเขา

หลินเทียนได้ยิ้มออกมาเพราะว่าเด็กสาวคนนี้เป็นคนที่รู้ใจเขาจริงๆ

เมื่อลุกออกจากเตียงแล้วหลินเทียนก็ได้เก็บกวาดก่อนที่จะทานอาหารที่ถูกเตรียมเอาไว้แล้วกลับขึ้นไปบนยอดของที่พักอีกครั้ง

สองขั้นตอนแรกของการฝึกคือเตรียมหมึกและคัมภีร์ที่ตัวเขาได้เตรียมเอาไว้แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้นซึ่งก็คือการวาดลวดลายลงไปยังคัมภีร์โดยใช้พลังฉีและพลังวิญญาณ เมื่อได้ข่ายอาคมมาแล้วเขาก็แค่เลือกว่าจะใส่ทักษะอะไรลงไปในข่ายอาคมผสานนี้

อานุภาพของทักษะนั้นจะเป็นตัวชี้วัดมูลค่าของม้วนคัมภีร์นี้ พูดง่ายๆหากว่าใส่ทักษะระดับต่ำลงไปแล้วในข่ายอาคมก็จะกลายเป็นข่ายอาคมระดับต่ำแต่หากว่าเราใส่ทักษะระดับกลางเข้าไปแล้วทักษะที่ข่ายอาคมจะสำแดงออกมาก็จะเป็นทักษะระดับกลาง

จริงๆแล้วจะผสานทักษะอะไรลงไปนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของลวดลายที่ใช้วาดข่ายอาคมด้วย หากว่ามันเป็นข่ายอาคมที่อยู่ในระดับธรรมดาๆก็แน่นอนอยู่แล้วว่าจะไม่สามารถผสานเข้ากับทักษะระดับสูงได้และท้ายที่สุดผลลัพธ์ก็จะได้มาเพียงข่ายอาคมที่มูลค่าไม่มากนัก

หลินเทียนได้นั่งขัดสมาธิก่อนที่จะหลับตาลงแล้วค้นหาสัญลักษณ์ของข่ายอาคมผสานภายในห้วงความคิด ไม่นานเขาก็ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัญลักษณ์ทั้งหมดของข่ายอาคมนี้ไม่ว่าจะเป็นการตวัดลายเส้นหรือทุกๆมุมของลวดลายล้วนกระจ่างชัดเจน

ข่ายอาคมนี้มีทั้งหมดหกลวดลายเชื่อมกัน ทั้งหมดนี้เป็นศิลปะที่มีเสน่ห์ที่พิเศษ พลังวิญญาณของหลินเทียนนั้นแข็งแกร่งอยู่แล้วแถมข่ายอาคมนี้ยังเป็นข่ายอาคมพื้นฐานด้วยดังนั้นเขาจึงใช้เวลาเพียงแค่วันเดียวก็สามารถเข้าใจเนื้อหาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

"งั้นก็มาถึงขั้นตอนการลงลวดลายแล้วสิ "

หลินเทียนได้พูดกับตัวเอง

การที่เขาสามารถทำความเข้าใจกับข่ายอาคมก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะวาดลวดลายของมันออกมาได้ง่ายๆซึ่งหากเทียบกับสองขั้นตอนก่อนหน้านี้แล้วเขาคิดว่ามันยากกว่าเป็นสิบๆเท่าด้วยซ้ำ

เมื่อพักผ่อนไปนิดหน่อยแล้วหลินเทียนก็ยังไม่ได้หยิบเอาหมึกออกมาวาดลวดเลยเลยแต่เอากระดาษและหมึกธรรมดาออกมาลองฝึกวาดดูก่อน ตัวของม้วนคัมภีร์น่ะไม่เท่าไหร่หรอกแต่ตัวหมึกนั้นมีราคาสูงลิ่วแถมยังเป็นเรื่องยากกว่าจะผสมมาได้ดังนั้นเขาถึงไม่กล้าที่จะลงลวดลายเลย

ที่เขาคิดคือการฝึกวาดในกระดาษธรรมดาๆดูก่อนและหลังจากที่เชี่ยวชาญแล้วก็ค่อยวาดลงในม้วนคัมภีร์จะได้เป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด

หลังจากที่คิดได้แบบนั้นแล้วเขาก็เริ่มที่จะส่งพลังฉีและพลังวิญญาณออกไปก่อนที่จะเริ่มวาด

การวาดลวดลายนั้นไม่ได้อาศัยปากกาแต่เป็นการใช้พลังฉีและพลังวิญญาณเป็นสื่อกลางระหว่างหมึกและตัวม้วนคัมภีร์ หลินเทียนได้ซื้อกระดาษและหมึกธรรมดากลับมาเป็นโหลดังนั้นถึงได้เริ่มควบคุมหมึกโดยพลังฉีของเขาก่อนที่จะฝึกฝนอย่างตั้งใจ

เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ผ่านไปถึงห้าวัน

ในห้าวันนี้นอกจากทานข้าวและพักผ่อนแล้วเขาเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการวาดลวดลายของข่ายอาคมผสานลงในกระดาษธรรมดาซึ่งตอนนี้เขาได้ใช้กระดาษไปเกือบพันแผ่นแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นตัวของหลินเทียนไม่ได้รู้สึกเสียดายเลยเพราะว่ากระดาษทั้งหมดนี้รวมกันมีราคาไม่ถึงสองเหรียญด้วยซ้ำ หากว่าเทียบกับค่าวัตถุดิบใหม่แล้วมันไม่ได้ถือว่าระคายผิวด้วยซ้ำ

วันนี้เป็นวันที่เขาฝึกเป็นครั้งสุดท้าย

"บึ้สส ! "

แสงได้ถูกเปล่งออกมาจากร่างของหลินเทียนที่กำลังหมุนวนเคล็ดวิชาเพื่อเติมเต็มพลังฉีและพลังวิญญาณของตัวเอง

"เริ่มได้ !"

แววตาของเขาได้เปลี่ยนไปเป็นกระจ่างใส

เขาได้กางม้วนคัมภีร์ออกก่อนที่จะขยับมือขวาเล็กน้อยเพื่อเรียกเอาหมึกที่อยู่ข้างๆขึ้นมารวมกันที่มือ ตอนนี้เขาระลึกถึงภาพและความรู้สึกของการฝึกหลายวันก่อนหน้านี้พร้อมทั้งควบคุมหมึกที่มือขวาอย่างช้าๆ

ณ ตอนนี้ลวดลายต่างๆได้ปรากฏขึ้นในสมองของเขา ด้วยการตวัดมือของเขาก่อให้เกิดลวดลายที่แหลมคมเหมือนดั่งกรงเล็บของนกอินทรีย์ ระหว่างนี้เขาได้กวัดแกว่งข้อมือของตัวเองช้าๆเพราะถึงอย่างไรก็ตามเขาก็คุ้นเคยกับการฝึกก่อนหน้านี้ไปหลายพันครั้งแล้ว สำหรับเขาในตอนนี้การวาดลวดลายของข่ายอาคมผสานนี้เป็นอะไรที่เขาสามารถใช้มือตวัดไปมาได้อย่างสบายใจ

ไม่นานก็เกิดลวดลายพื้นฐานขึ้น ตอนนี้หลินเทียนยังคงไม่หยุดมือก่อนที่จะใช่นิ้วทั้งห้าสร้างลวดลายลงบนม้วนคัมภีร์นี้ ลวดลายต่างๆได้เชื่อมต่อกันและเผยให้เห็นถึงเส้นโค้งต่างๆอย่างช้าๆ

"ดีมากๆ !"

เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกพึงพอใจกับการกระทำของตัวเองมากๆ

ใช้เวลาฝึกไปกว่าห้าวันและมันก็เห็นผลในที่สุด

หลินเทียนไม่ได้คิดสิ่งอื่นใดพร้อมทั้งจดจ่อไปกับการลงลวดลายเหล่านั้น ตอนนี้เขาได้ลงลวดลายสำเร็จไปกว่า 3 ใน 5 แล้ว

แต่มันเป็นตอนนี้เองที่ท่าทางของเขาต้องเปลี่ยนไปอย่างหนักเพราะพลังฉีของเขากำลังจะหมดลง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด