ตอนที่แล้วตอนที่ 13 คนเร่ร่อน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 หัวขโมย

ตอนที่ 14 ยุคเก่าและใหม่


ด้วยความที่หาน เซี่ยวต้องการอาหารและน้ำ เขาจึงต้องทำตามพ่อค้า

เขาถอนหายใจพลางหยิบกระสุน150นัดออกมา

ทันใดนั้น เขาก็โบกนิ้ว

“180”

หาน เซี่ยวจ้องเขา

“โอ้ๆ!น่ากลัวเสียจริง เจ้าอยากฆ่าข้าหรืออะไรกันแน่?ทุกคนมานี่เร็วเข้า!มีคนจะฆ่าข้า!”

 

ชาวเร่ร่อนนับสิบมารวมตัวกันทันที บางคนมาพร้อมไม้

“นี่คืออาณาเขตเรา เจ้าคิดทำอะไรกัน?”

“ได้ ได้ กระสุน180นัด”

หาน เซี่ยวโยนกระสุนไปเพิ่มอย่างรวดเร็ว

พ่อค้าหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์และส่งคนไปเอาของ

หลังยืนยันของ หาน เซี่ยวก็ยกนิ้วกลางขึ้นให้พ่อค้าก่อนหันหลังกลับ

ทันใดนั้น พ่อค้าก็พูดขึ้น

“เจ้าคิดเดินออกจากป่า?”

“ทำไม เจ้ามีปัญหารึ?”

“ข้ามีรถกระบะเก่าอยู่ เจ้าอยากได้หรือไม่?”พ่อค้าถาม

“ข้าไม่มีของไปแลกกับเจ้าแล้ว”หาน เซี่ยวโต้กลับ

“ข้ากลับคิดว่าเจ้าสามารถ”พ่อค้ากล่าวพลางชี้ไปที่เป้ของหาน เซี่ยว“เจ้ามีกระสุนอยู่มาก งั้นเจ้าก็ต้องมีปืนเช่นกัน”

 

กระเป๋าของหาน เซี่ยวเต็มไปด้วยปืนคุณภาพสูง เขาได้ปล้นมาจากหน่วยนกฮูกรัตติกาล เขาแม้กระทั่งมีสไนเปอร์และเสื้อเคฟล่าร์ เขาสามารถซื้อรถกระบะเก่าได้ง่ายๆ

อย่างไรก็ตาม หาน เซี่ยวกลับส่ายหัว

รถจะทิ้งร่องรอย หาน เซี่ยวย่อมไม่แข่งกับเฮลิคอปเตอร์ การเดินย่อมปลอดภัยกว่า

นอกจากนี้ หากสายลับขององค์กรต้นกำเนิดพบว่าปืนพวกเขาอยู่ที่นี่ มันย่อมเกิดหายนะแก่คนเร่ร่อนทุกคน และมันอาจสืบสาวมาถึงตัวเขา

แม้หาน เซี่ยวจะเพิ่งฆ่าคนไปมาก แต่มันก็เพื่อความอยู่รอด

อย่างไรก็ตาม พ่อค้าไม่ใช่คนที่ยอมถูกปฏิเสธง่ายๆ

เขากำลังพูดอีกครั้งแต่เสียงของผู้ชายคนหนึ่งกลับดังขึ้น“ไค่ หลัว!เจ้ากำลังเอาเปรียบคนนอกอีกแล้ว!”

 

ชายนักล่าในชุดหนังสัตว์ปรากฏด้านหลังฝูงชน ขณะที่เขาเดินผ่านใจกลางฝูงชน ทุกคนก็หลีกทางให้เขา ชายคนนั้นดูเหมือนจะเป็นที่เคารพ

พ่อค้าเคราโตร้องคร่ำครวญ

 

“หู่ ซวนจุน ข้าแค่กำลังค้าขาย เจ้าอย่ามายุ่ง!”

หู่ ซวนจุนคว้ากระสุนบนกระบะและผลักพวกมันคืนให้หาน เซี่ยว

“ของที่เจ้าต้องการไม่ได้มีค่าอะไรมากนัก คิดซะว่ามันเป็นของขวัญ รับนี่ไปสิ”

 

หาน เซี่ยวตกตะลึงกับความหาญกล้าของเขาและจ้องอย่างไม่เชื่อสายตา ชายคนนั้นเป็นชาวมองโกเลียกล้ามโต มีผมขาวอยู่ด้านข้างศีรษะและดวงตาเขาก็คมราวกับนกอินทรี เขาดูเป็นคนชอบธรรมและหาน เซี่ยวก็ขอบคุณเขาทันที

 

“เห้ แล้วข้าละ?”ไค่ หลัวกล่าวแทรก

“มันก็แค่อาหาร?ข้าจะให้เจ้าเพิ่มพรุ่งนี้”หู่ ซวนจุนตอบ

 

ไค่ หลัวโกรธ มันไม่ใช่ทุกวันที่คนต่างถิ่นจะมาแลกเปลี่ยนของกับเขา

 

“เจ้าเดินทางมาไกลและดูอ่อนแอเกินกว่าจะเดินทางคนเดียว ทำไมเจ้าไม่มาพักบ้านข้าก่อนละ?”

หาน เซี่ยวลังเล เขาต้องการที่พักฟื้นจริงๆ ไม่ว่าจะในกรณีใด หู่ ซวนจุนก็มอบความประทับใจที่ดีให้เขา ดังนั้นเขาจึงพยักหน้า

ขณะที่หาน เซี่ยวเดินตามหู่ ซวนจุน ฝูงชนก็หลีกทาง ไค่ หลัวไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้ เขาไม่กล้าตอแยหู่ ซวนจุน

หู่ ซวนจุนนำหาน เซี่ยวไปเต็นท์เขา เมื่อเขาเข้าไป เขาก็ตะโกน“แอน เรามีแขก ทำอาหารมาเพิ่ม”

“ได้!”เสียงผู้หญิงตอบกลับ...

หาน เซี่ยวเดินตามหู่ ซวนจุนไปในเต็นท์ แอนคือผู้หญิงที่ดูค่อนข้างธรรมดาและสวมกระโปรงเรียบง่าย หาน เซี่ยวสังเกตเห็นว่าเธอตาบอด

“นี่คือภรรยาข้า”หู่ ซวนจุนแนะนำด้วยรอยยิ้ม

“ยินดีที่ได้รู้จัก”แอนทักทายเมื่อพบหน้า จากนั้นก็หันไปหยิบถ้วยชาม เนื้อแห้งและผักมาจัดเรียงไว้ในเตาดินเหนียวกลางเต็นท์

 

หาน เซี่ยวและหู่ ซวนจุนนั่งลงและคุยกัน

หลังจากนั้นไม่นาน หาน เซี่ยวก็มั่นใจว่าหู่ ซวนจุนไม่ได้มีแรงจูงใจซ่อนเร้น เขาเป็นคนดีจริงๆ

 

“ข้าสังเกตเห็นก่อนหน้าว่าคนส่วนใหญ่ในชุมชนเจ้าเป็นคนขาว ทำไมเจ้าถึงมาอยู่กับพวกเขา?”หาน เซี่ยวถาม

 

มีมนุษย์อยู่4เชื้อสายบนดาวอความารีน ดำ ขาว เหลืองและชานู

 

“ไม่มีเหตุผลอะไรพิเศษ มันเกิดขึ้นตอนช่วงวุ่นวาย ข้าได้พบนักเดินทางโดยบังเอิญและตัดสินใจอยู่พวกเขาเพราะตอนนั้นแอนป่วย แม้เราจะมาจากประเทศที่แตกต่างกันรวมถึงเชื้อสาย เราก็ยังมาจากยุคเก่าและมีประสบการณ์การสูญเสียบ้านเกิดร่วมกัน ไม่จำเป็นต้องแตกแยก เราทุกคนล้วนเป็นมนุษย์”

 

เหล่าคนที่สูญเสียประเทศตัวเองเลือกเข้าร่วมกับ6ประเทศ คนอื่นเลือกเข้าร่วมกับองค์กรต้นกำเนิด ส่วนที่เหลือกลายเป็นคนเร่ร่อน  คนเร่ร่อนคิดเป็นหนึ่งในสามของประชากรดาว(เปลี่ยนจากอาณาจักรเป็นประเทศ)

อความารีนเคยมีกว่าร้อยประเทศ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่ออารยธรรมชั้นสูงได้เข้ามาติดต่อกับดาวเคราะห์  แนวคิดการพัฒนามนุษย์ชาติและก้าวสู่อวกาศก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อความยืนยง และความคิดการรวมประเทศก็ได้รับความนิยม ขณะที่มันลึกซึ้งเกินกว่าจะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าดาวได้ กลุ่มคนที่มีอำนาจก็ได้สนับสนุนแนวคิดและสมคบคิดอยู่เบื้องหลัง หลังสงครามการเจรจาและความพยายาม ประเทศทั้งหมดก็รวมเป็น6ประเทศในช่วงไม่กี่ทศวรรษ

หลายสิ่งที่ผู้คนเคยคิดว่าไม่อาจเปลี่ยนกลับถูกผลักดันโดยกระแสการเปลี่ยนแปลงและหลายชีวิตก็ถูกสังเวยในกระบวนการ

นั่นคืออารยธรรม ผู้คนก็ราวกับตะกอนในแม่น้ำ ถูกกำหนดให้ไหลไปตามกระแส

ขณะที่การรักษาสภาพเป็นอยู่เสมอนั้นง่าย การปฏิวัติก็มักมาพร้อมกับความเจ็บปวดและความทุกข์เสมอ เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับการปรับปรุงสังคม มันเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่ชมชอบอดีต คนที่เสียสละอย่างแท้จริงหาได้ยาก ไม่อย่างนั้น ความเสียสละจะไม่ถูกมองว่าเป็นคุณธรรม

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนั้นมาเร็วเกินไป

 

“การต่อสู้ของแอนเดรียคือเล็บในโลงศพ บางครั้ง ข้าก็คิดเกี่ยวกับวิธีใช้ชีวิตเรา ข้าพลาดชีวิตแสนสงบสุขไปนับแต่นั้น ใครจะคิดว่าการเปลี่ยนแปลงจู่ๆก็เกิดขึ้น?ข้าหมายถึง แม้ทรัพยากรของดาวจะหมดลง มันก็คงอีกหลายร้อยปีนับจากนี้?ทำไมเราถึงต้องตอบคำถามเช่นนั้น?”หู่ ซวนจุนกล่าว

 

หาน เซี่ยวถอนหายใจอย่างเห็นใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด