ตอนที่แล้วตอนที่ 149 นี่คือบุตรสาวของตระกูลเฟิงกับฮูหยินใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 151 บัดซบ ข้าถูกลอบทำร้ายอีกครั้ง

ตอนที่ 150 หลงมัวเมากับความสุขในสุสานบรรพชน


ก่อนเที่ยงคืนเฟิงเฉินหยูสวมชุดคลุมสีเข้ม นาง และยี่หยูก็แอบออกจากประตูด้านข้างของที่พัก

ทั้งสองระมัดระวังตัวอย่างมากเพราะพวกเขากลัวว่าจะถูกพบ โชคดีที่มณฑลนี้แตกต่างจากเมืองหลวง เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีคนอยู่บนถนน ไม่มีแม้แต่ยามลับ พวกเขาผ่านเส้นทางทั้งหมดไปยังเชิงเขาซีเฟิง เฟิงเฉินหยูยืนพิงต้นไม้ขนาดใหญ่อ้าปากหอบเพื่อสูดอากาศ

“คุณหนู เราเดินเข้าไปในภูเขาอีกหน่อยดีไหมเจ้าค่ะ” ยี่หยูรู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะนางเห็นว่าเฟิงเฉินหยูดูเหมือนจะเดินต่อไปไหวอีกต่อไป

เฟิงเฉินหยูมองนางตาขวาง และสาปแช่ง “นังผู้หญิงไร้ค่า อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีแผนอะไรบ้าง ในขณะที่เราพบกับพี่ชายของข้า ข้าเห็นความคิดที่อยู่ในดวงตาของเจ้า ระวังตัวไว้ให้ดีๆ เถอะ!”

ยี่หยูเป็นคนเฉียบแหลมและให้คำสัญญากับนางอย่างรวดเร็ว “ข้าอยู่ที่นี่เพื่อติดตามคุณหนู และจะไม่เหลือบมองคุณชายใหญ่เลยแม้แต่น้อย”

“รู้จักเจียมตัวบ้างก็ดีแล้ว”

ยี่หยูเกือบร้องไห้ “ข้ายังเด็กอยู่ ข้าไม่อยากพบคุณชายใหญ่เจ้าค่ะ ที่นี่ไม่ปลอดภัย พวกเราเข้าไปในภูเขากันก่อนเถิดเจ้าค่ะ”

เฟิงเฉินหยูเฉย ๆ แต่ไม่หยุดพักต่อ นางกระชับเสื้อคลุมแน่นหนาแล้วก้าวขามุ่งหน้าไปยังภูเขา อย่างไรก็ตามนางไม่รู้ว่ามีคนสองคนเดินตามอยู่ข้างหลัง พวกเขาแต่งตัวเหมือนภูตผีที่น่ากลัว เสียงฝีเท้าของพวกเขาเบาและเงียบมาก และพวกเขาได้ยินทุกคำพูดของเฟิงเฉินหยู

เฟิงหยูเฮงยิ้มขณะเดินตามวังซวน นางกระซิบพูดออกมาว่า “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเฟิงจื่อเฮาจะเอาแม้กระทั่งสาวใช้ส่วนตัวของน้องสาว!”

วังซวนรู้สึกว่าคุณหนูของนางช่างนินทามากเกินไป แต่เมื่อคิดถึงความประพฤติของเฟิงจื่อเฮามากขึ้น มันก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจเลยสำหรับเรื่องนี้ “ไม่ใช่ว่าเขาทำแม้กระทั่งนอนร่วมเตียงกับคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิง ลูก ๆ ของตระกูลเฟิงเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ”

เฟิงหยูเฮงยกคิ้วขึ้นแล้วมองนาง ทำให้วังซวนรู้สึกตัวว่านางพูดผิด และเอ่ยแก้อย่างรวดเร็วว่า “นอกจากคุณหนูเจ้าค่ะ”

ดังนั้นเฟิงหยูเฮงยิ้มด้วยความพึงพอใจและลากวังซวนให้ติดตามต่อไป ในเวลานี้นางได้ยินเสียงของบานซูลอยกับราวกับว่ามันเป็นลม “อย่าเอาแต่สนใจพูดคุยกัน ระวังพื้นผิวของถนนด้วยขอรับ”

เฟิงหยูเฮงโมโหขึ้นมาทันทีและกัดฟันตอบว่า “เจ้านายของเจ้าไม่ได้ตาบอด”

วังซวนหัวเราะออกมา แต่ไม่พูด

สำหรับเฟิงเฉินหยูและยี่หยูไม่เคยเข้าภูเขาซีเฟิงมาก่อน ทั้งสองเดินวนไปมาเป็นวงกลมวงใหญ่ จู่ ๆ ยี่หยูก็ตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ “ท่าจะไม่ดีแล้วเจ้าค่ะ!”

เฟิงเฉินหยูตกใจและถามนางอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้น”

“จดหมายของคุณชายใหญ่กล่าวว่าพบกันในภูเขา แต่มันไม่ได้พูดว่าอยู่ที่ไหนในภูเขา? ภูเขาซีเฟิงนี้ค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นเราจะไปเจอคุณชายใหญ่ที่ไหนล่ะเจ้าคะ?”

เฟิงเฉินหยูคิดตาม ยี่หยูพูดถูกแล้ว สำหรับภูเขาซีเฟิงซึ่งมีขนาดใหญ่ พวกเขาจะไปหาเฟิงจื่อเฮาที่ไหน

นางมองไปรอบ ๆ แล้วไตร่ตรองเล็กน้อย ก่อนพูดว่า “ไปที่ยอดเขา ข้าได้ยินมาว่าพี่ใหญ่อยู่ในห้องที่ยอดเขา เราจะเจอเขาถ้าไปหาเขาที่นั่น”

เฟิงเฉินหยูจำได้เพียงว่าเฟิงจื่อเฮาอาศัยอยู่ที่ยอดเขา แต่นางก็ละเลยเหตุผลที่เขาอาศัยอยู่ที่นั่น

เพราะนั่นเป็นสุสานบรรพชนของตระกูลเฟิง และเฟิงจื่อเฮาคอยดูแลสุสานหากพวกเขาต้องการพบกับเฟิงจื่อเฮา พวกเขาต้องเห็นสุสานก่อน

ดังนั้นเมื่อทั้งสองมาถึงยอดเขาในที่สุด เฟิงหยูเฮงและวังซวนก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของทั้งสองคน  “อ๊า!” ได้อย่างน่าประหลาดใจ

เฟิงหยูเฮงยิ้มกว้าง “พวกเขาเพียงแค่เข้าไปในสุสาน จำเป็นต้องตะโกนด้วยความประหลาดใจแบบนี้ด้วยหรือ?”

วังซวนตอบอย่างจริงจัง “โดยปกติแล้วคุณหนูจากครอบครัวใหญ่ที่เข้าไปในสุสานตอนกลางคืนควรจะกรีดร้อง”

แต่เสียงกรีดร้องของเฟิงเฉินหยูดังไม่นานก็เงียบไป ยี่หยูปิดปากนางด้วยความกลัวและพูดอย่างตั้งใจ “คุณหนูอย่าเสียงดังเจ้าค่ะ! นอกจากคุณชายใหญ่แล้วยังมีสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลที่อาศัยอยู่ที่นี่!”

เฟิงเฉินหยูรู้สึกว่าเหงื่อที่ไหลเย็นเพราะสุสาน ใบหน้าของนางซีดจากความกลัวสิ่งที่ยี่หยูพูด ยี่หยูต้องการที่จะละสายตาจากใบหน้าซีด ๆ นี้

จากเมืองหลวงมาถึงมณฑลเฟิงตง เฟิงเฉินหยูทาหน้าด้วยผงสีดำ เมื่อถึงเวลากลางคืนนางก็สามารถละเว้นได้ สำหรับยี่หยูซึ่งมองใบหน้าที่ดำคล้ำของนางมาประมาณสิบวัน นางรู้สึกว่าใบหน้าสีขาวนี้ช่างน่าอึดอัดใจเล็กน้อย

“ใครอยู่ตรงนั้น?” ทันใดนั้นเสียงผู้ชายดังขึ้น และทำให้เฟิงเฉินหยูสั่นไหวด้วยความกลัวอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามดวงตาของยี่หยูนั้นสว่างขึ้น นางฟังเสียงนั้นอย่างระมัดระวังและพูดด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย “คุณหนูไม่ต้องกลัวเจ้าค่ะ นั่นคือคุณชายใหญ่เจ้าค่ะ”

สายตาของเฟิงเฉินหยูหันไปหาที่มาของเสียง แน่นอนนางเห็นร่างของเฟิงจื่อเฮาจากสุสาน

นางถอนหายใจด้วยความโล่งอกและดึงมือของยี่หยูออกจากปากของนาง นางเดินไปหาเฟิงจื่อเฮาอย่างรวดเร็ว หัวใจของนางเต็มไปด้วยความสุข

จื่อเฮาเห็นพวกนางสองคน และเดินไปหาพวกนางอย่างรวดเร็ว และรีบถามออกมาว่า “พวกเจ้ามาทำอะไรกันที่นี่? ข้าทำตามที่นัดแนะกันไว้เรียบร้อยแล้ว เจ้ามาทำไม หากเจ้าถูกจับได้ว่ามาที่นี่ตอนกลางดึก ความพยายามทั้งหมดของเราจะไม่สูญเปล่าหรือ?”

เฟิงเฉินหยูตกตะลึง “เจ้าเป็นคนส่งจดหมายให้ข้ามาหาที่นี่ไม่ใช่หรือ?”

“ข้าไม่ได้ส่งไป”

คำตอบของเฟิงจื่อเฮาทำให้หัวใจของเฟิงเฉินหยูตกไปที่ตาตุ่ม นางถูกหลอกหรือ?

เมื่อมองไปที่เฟิงจื่อเฮาอีกครั้ง นางเห็นว่าเขาไม่แม้แต่จะมองนาง เขามองไปที่ยี่หยู

ใจของเฟิงเฉินหยูกระตุกและหันกลับมาทันที แน่นอนว่ายี่หยูนั้นดูมีเสน่ห์เพราะนางมองเฟิงจื่อเฮาด้วยสายตาที่หยาดเยิ้ม ทั้งสองจ้องมองด้วยความรักอันร้อนแรง !

“เจ้าเป็นคนทำใช่ไหม!” เฟิงเฉินหยูพูดด้วยความโกรธ และตบยี่หยู “เจ้าเล่ห์! เจ้าทำแบบนี้เพื่อที่จะได้พบกับพี่ชายของข้าใช่ไหม? แล้วเจ้าคิดแผนแบบนี้เพื่อให้ข้าขึ้นมาบนภูเขา!”

ยี่หยูคุกเข่าลง มือของนางปิดหน้าด้วยความเศร้าโศก นางพูดว่า “คุณหนูโปรดสงบสติอารมณ์ไว้ก่อนเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ทำจริงๆ เจ้าค่ะ! ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย! ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยเจ้าค่ะ!”

“เจ้าเป็นคนส่งกระดาษแผ่นนั้นให้ข้า ถ้าไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใครล่ะ” ความโกรธแค้นขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจของนาง จากนั้นนางก็หันไปมองเฟิงจื่อเฮาอย่างโกรธเคือง “ข้าถูกเฟิงหยูเฮงรังแกตอนอยู่ที่บ้าน ตอนนี้ท่านย่าก็โปรดปรานนางมาก ข้าถูกบังคับให้ต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหน? ด้วยความยากลำบาก ข้าส่งคนกลับไปที่บ้านเก่าด้วยความหวังว่าแผนของเจ้าจะประสบความสำเร็จ แต่จริง ๆ แล้วเจ้าร่วมมือกับสาวใช้คนนี้เพื่อหลอกลวงข้า จื่อเฮา ใครที่เจ้าไม่ยอมแพ้? เจ้าจะปล่อยให้ทานแม่ให้ตายเปล่าหรือ?”

เฟิงจื่อเฮาตะลึงโดยการสบประมาทของนาง “ข้าร่วมมือกับใครหลอกลวงเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? เมื่อใดที่ข้าเคยหลอกเจ้า?” ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่เขาไม่ชอบที่จะเห็นมากที่สุดคือความเศร้าโศกของเฟิงเฉินหยู น้องสาวคนเล็กของเขาเกิดมาสวยเกินไป แม้แต่ตอนที่นางโกรธนางก็ดูสวยมากทำให้คนอื่นหลงใหลนางอย่างมาก เฟิงจื่อเฮาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวเพื่อกอดเฟิงเฉินหยู “น้องสาวตัวน้อย พี่ชายไม่ได้หลอกลวงเจ้าจริง ๆ”

เฟิงเฉินหยูรีบถอยห่างออกไปสองสามก้าว “อย่ามาแตะตัวข้า !” นางตบหน้าเฟิงจื่อเฮา นางดูถูกเหยียดหยามและตะโกนว่า “เจ้าเอาแม้แต่สาวใช้ส่วนตัวของน้องสาวเจ้า เจ้าไร้ยางอายเกินไป!”

หลังจากที่พูดจบแล้วเฟิงเฉินหยูวิ่งลงภูเขาทันที เฟิงจื่อเฮาเรียกหานางจากด้านหลัง “เฉินหยู! อย่าวิ่ง ฟังข้าก่อน!” เขาเรียกแค่สองสามครั้งก่อนที่จะหยุด สำหรับยี่หยู นางไม่ได้ส่งเสียงเรียกเลย

เฟิงเฉินหยูรู้สึกว่าเรื่องนี้โหดร้ายเกินไป พี่ชายคนนี้ไม่เคยทำสิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ ตอนที่เขาอายุ 12 ปี เฉินซื่อได้จัดคนที่มีความรู้ให้เขา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาดูเหมือนว่าจื่อเฮาจะติดแบบนั้น ทุกวัน และทุกคืนเขาทำซ้ำสองสิ่ง ค้นหาผู้หญิงและเปลี่ยนผู้หญิง มือของเขายื่นออกไปหาสาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ นาง นางจะมีประโยชน์อะไรกับพี่ชายคนนี้?

เฟิงเฉินหยูวิ่งพลางร้องไห้ อย่างไรก็ตามนางไม่ได้เห็นว่าก่อนที่นางจะวิ่งไปไกลมาก ยี่หยูและจื่อเฮากอดกัน

วังซวนหันหน้าของนางด้วยความอับอาย และพูดอย่างเงียบ ๆ “คุณชายใหญ่ของตระกูลเฟิงทำอะไรอยู่? นี่คือสุสานของบรรพชน !”

เฟิงหยูเฮงเย้ยหยัน “คนที่หมกมุ่นอยู่กับราคะตลอดเวลา”

ในขณะที่นางพูดอย่างนี้ เฟิงจื่อเฮาไม่สนใจว่าจะเป็นสุสานของบรรพชน เขาจับยี่หยู ลูบคลำไปทั่วร่างนาง ในช่วงเวลาสั้น ๆ เขาแหวะปกเสื้อด้านบนของนาง

สำหรับยี่หยู นางก็ยังคิดถึงจื่อเฮาอย่างมาก เมื่อถูกยั่วยุถึงขึ้นนี้ นางก็ดูมีเสน่ห์ ทั้งสองไม่ได้สนใจเวลาหรือสถานที่ พวกเขาเริ่มเพลิดเพลินกับความสุขที่สุสานบรรพชนของตระกูลเฟิง

เฟิงหยูเฮงโกรธมาก “วังซวนบอกข้า บุตรหลานของตระกูลเฟิงทำสิ่งนี้ต่อหน้าบรรพชนของพวกเขา กามารมณ์มันดีขนาดนั้นเชียวหรือ ?”

วังซวนละอายเกินไปที่จะมอง นางพยายามดึงเฟิงหยูเฮงให้หันหลังกลับ “คุณหนู เรากลับกันเถอะเจ้าค่ะ”

เฟิงหยูเฮงหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “อย่ารีบร้อนขนาดนี้ ดูอีกหน่อย วังซวน อย่าปิดตาตลอดเวลา มีสื่อการเรียนรู้ไม่มากสำหรับของแบบนี้ เจ้าจะได้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเลยเมื่อเจ้าแต่งงาน”

ใบหน้าทั้งหมดของวังซวนกลายเป็นสีแดงสดใสจากสิ่งที่เฟิงหยูเฮงพูด นางไม่เข้าใจว่าคุณหนูตระกูลเฟิงจะกล้ากล่าวเช่นนี้ได้อย่างไร!

ในขณะที่วังซวนกำลังดื้อรั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงวิ่งจากบนภูเขา

เฟิงหยูเฮงหันศีรษะของนางไปมอง และเห็นเฟิงเฉินหยูวิ่งกลับไป นางหัวเราะ “วังซวน วังซวน เจ้าเปิดตาของเจ้าเร็ว! ฉากที่ยอดเยี่ยมมันกำลังจะเริ่ม!”

วังซวนเริ่มสนใจที่นางพูด เมื่อเปิดตาของนาง นางเห็นเฟิงเฉินหยูวิ่งไปหาเฟิงจื่อเฮาและยี่หยูอย่างดุเดือด ในขณะที่นางวิ่ง นางตะโกนว่า "นังแพศยา ! ไอ้สารเลว !”

เฟิงหยูเฮงมีตาที่เฉียบคมและเห็นก้อนหินขนาดใหญ่ในมือของเฟิงเฉินหยูทันที นางคิดกับตัวเองว่าสิ่งนี้ช่างสิ้นหวัง!

แน่นอนว่าเมื่อเฟิงจื่อเฮาและยี่หยูผู้ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับราคะ เห็นเฟิงเฉินหยูกลับมา พวกเขาตกใจอย่างมาก ก่อนที่ทั้งสองจะตอบสนอง เฟิงเฉินหยูได้ยกหินขึ้นมาแล้ว เล็งไปที่หัวของยี่หยู นางทุบไปที่หัวของยี่หยูอย่างรุนแรง!

ยี่หยูผู้น่าสงสารไม่สามารถส่งเสียงได้ เพราะเฟิงเฉินหยูทุบหัวของนางจนเกิดเป็นบาดแผลฉกรรณ์ นางเสียชีวิตทันที

เฟิงหยูเฮงยิ้มกว้าง “นางร้ายจริง ๆ!”

“อ๊ะ!” ขณะที่นางพูด เฟิงจื่อเฮาส่งเสียงดังด้วยความหวาดกลัว มองไปอีกครั้งมันเป็นเฟิงเฉินหยูที่เขย่าตัวเขาหลังจากที่นางฆ่ายี่หยู

“ข้าจะฆ่านังแพศยาของเจ้า!” เฟิงเฉินหยูตะคอกใส่ เฟิงจื่อเฮารีบจับนางไว้ แต่ความแข็งแกร่งของนางนั้นไม่เทียบเท่ากับผู้ชาย หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางก็ถูกจื่อเฮาผลักออกไป

“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?” เฟิงจื่อเฮาโกรธ ในขณะที่กระแอมซ้ำ ๆ "โธ่เอ้ย มันก็แค่เรื่องผู้หญิงคนเดียว เจ้าจะคลั่งทำไมกับเรื่องนี้?”

“ผู้หญฺงคนเดียวหรือ? ฮ่า ๆ !” เฟิงเฉินหยูหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าหลงใหลกับผู้หญิงที่เป็นสาวใช้ของน้องสาวของเจ้าหรือ? หลงมัวมัวกับความสุขตรงหน้าสุสานบรรพชน ? จื่อเฮา เจ้ามันคนสารเลว ! ทำไมเจ้าถึงไม่ตายไปซะ ?” นางตะโกนด้วยเสียงแหบห้าวเพราะเส้นเลือดในตาของนางแดงมาก นางไม่เข้าใจ หญิงสาวที่ดีสมบูรณ์แบบเช่นนางมีพี่ชายแบบนี้ได้อย่างไร

เฟิงจื่อเฮาก็โกรธเช่นกัน เขารีบคว้าแขนของเฟิงเฉินหยู ตอนนี้เขาไม่มีสติอีกแล้ว “น้องสาวตัวน้อยเป็นไปได้หรือไม่ที่เจ้าหึงข้าเมื่อเห็นข้าสนใจผู้หญิงคนนั้น? อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้ ข้าจะสนใจแต่เจ้าคนเดียว พี่ชายคนนี้รักเฟิงเฉินหยูมากที่สุด!” ขณะที่เขาพูดอย่างนี้ เขาก็เดินหน้าต่อและผลักเฟิงเฉินหยูลงบนพื้น ปากที่น่าขยะแขยงเขาจูบที่แก้มของเฟิงเฉินหยู...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด