ตอนที่แล้วตอนที่ 148 เจ้าเบื่อชีวิตหรือไม่?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 150 หลงมัวเมากับความสุขในสุสานบรรพชน

ตอนที่ 149 นี่คือบุตรสาวของตระกูลเฟิงกับฮูหยินใหญ่


ตอนที่ 149 นี่คือบุตรสาวของตระกูลเฟิงกับฮูหยินใหญ่

ผ่านการปิดล้อมของตระกูลเฉิน กลุ่มของตระกูลเฟิงเข้าสู่มณฑลเฟิงตงอย่างรวดเร็ว เฟิงจินหยวนปฏิเสธคำเชิญงานเลี้ยงของผู้พิพากษา และนำครอบครัวทั้งหมดมาที่บ้านพักของตระกูลเฟิง

ในตอนแรกผู้คนในตระกูลเฉินตามหลังกลุ่มรถม้ามาอย่างเงียบ ๆ เนื่องจากพวกเขายังคงโกรธอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อตระกูลเฟิงเข้าใกล้บ้านพักของตระกูลเฟิง พวกเขาไม่ได้ติดตามพวกเขาอีกต่อไป

บ้านพักที่นี้ของตระกูลเฟิงก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน มันเป็นสนามเล็ก ๆ ที่เรียบง่ายที่ให้ความร่มรื่น

เมื่อพวกเขามาถึง มีใครบางคนยืนอยู่ที่ประตูเพื่อต้อนรับพวกเขา เฟิงหยูเฮงมองไปที่บุคคลนั้น และเห็นว่าเป็นคนแก่ที่อายุประมาณ 80 ปีสวมเสื้อคลุมสีฟ้า ผมและเคราเป็นสีขาว ต่างจากผู้เฒ่าสองคนจากตระกูลเฉิน อย่างไรร่างกายของเขาก็ไม่ได้งอ แต่ใบหน้าของเขากลับร่าเริง

เฟิงจินหยวนและฮูหยินผู้เฒ่ารีบเดินไปข้างหน้า และคุกเข่าต่อหน้าผู้เฒ่าโดยกล่าวว่า "คารวะท่านผู้เฒ่าของตระกูล"

สมาชิกของตระกูลเฟิงก็คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว และพูดพร้อมกันว่า "คารวะท่านผู้เฒ่าของตระกูล"

ระหว่างทางเฟิงหยูเฮงได้ฟังเหยาซื่อพูดถึงเรื่องที่พักนี้ นับตั้งแต่เฟิงจินหยวนกลายเป็นขุนนางในเมืองหลวง ทุกคนในตระกูลเฟิงย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น และมีเพียงผู้เฒ่าที่อยู่ที่นี้

เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้เฒ่านี้มีอายุครบ 80 ปี และมาจากรุ่นปู่ของเฟิงจินหยวน เขามีศักดิ์ที่สูงในตระกูลเฟิง ว่ากันว่าเขาเป็นคนที่มีความยุติธรรมและเข้มงวดมาก เขาไม่เคยมีส่วนร่วมในเรื่องต่าง ๆ ระหว่างคนรุ่นใหม่ แต่เมื่อเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาจะไม่มีอคติอย่างแน่นอน

ในขณะที่นางกำลังคิดอยู่ นางได้ยินผู้เฒ่าของตระกูลพูดว่า "เฟิงจินหยวน เจ้าเป็นเสนาบดีคนปัจจุบัน ตามหลักเหตุผลเจ้าไม่ควรจัดพิธีเซ่นไหว้ให้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แต่กฎของตระกูลเฟิงไม่สามารถหายไปได้ เจ้าได้กลับมาเพื่อถวายของเซ่นไหว้แก่บรรพบุรุษของเราแล้ว แต่เจ้าคงไม่ได้มาเพื่อการนี้เพียงอย่างเดียว”

เฟิงจินหยวนกล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่าของตระกูลพูดถูกแล้วขอรับ”

“อืม” ผู้เฒ่าของตระกูลพยักหน้า “ทุกคนลุกขึ้นได้”

เฟิงจินหยวนเป็นคนแรกที่ยืนขึ้นแล้วช่วยฮูหยินผู้เฒ่าลุกขึ้น หลังจากนั้นทุกคนในตระกูลเฟิงก็ยืนขึ้น

เฟิงหยูเฮงสังเกตเห็นว่าการจ้องมองของผู้เฒ่าของตระกูลดูเหมือนจะกวาดสายตามองผ่านนาง และเฟิงเฉินหยู ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่จินเฉิน

เฟิงจินหยวนคิดอะไรบางอย่างออกทันที เรื่องของการแต่งตั้งจินเฉินยังไม่เป็นที่ทราบกันทั่วไปสำหรับคนอื่น ๆ ในตระกูล ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างรวดเร็ว “นี่เป็นอนุคนใหม่ของหลานชายขอรับ”

ผู้เฒ่าของตระกูลโบกมือ “ไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องเล็กน้อยภายในครอบครัว อนุจะไม่สามารถเข้าสู่บันทึกลำดับวงศ์ตระกูลได้ เจ้าสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ตามข้ามา”

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็หันหลังกลับและเดินเข้าไปในบ้าน มือไพร่พลัง บ่าวรับใช้บางคนนำทางคนขับรถม้าไปที่จอดรถไว้ในขณะที่สมาชิกของตระกูลเฟิงเข้าไปในเรือน

หากการกลับไปที่บ้านพักบรรพบุรุษเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกปี กฎก็จะน้อยลง สำหรับคนอย่างเฟิงจินหยวนซึ่งไม่ได้กลับมานานหลายปี กฎก็ดูมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ไม่ให้พวกเขามีโอกาสพักผ่อนในห้องที่ได้จัดเตรียมไว้ ผู้เฒ่าของตระกูลพูดว่า “ห้องโถงบรรพบุรุษเปิดแล้ว เฟิงจินหยวนพามารดา ฮูหยินใหญ่และบุตรสาวฮูหยินใหญ่ของเจ้าไปพร้อมกับข้าเพื่อเซ่นไหว้ในห้องโถงบรรพบุรุษ”

เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวขึ้น เฟิงเฉินหยูเช็ดน้ำตาด้วยความเสียใจ “ท่านผู้เฒ่าของตระกูล ท่านแม่ของข้าได้ล่วงลับไปแล้ว”

ผู้เฒ่าของตระกูลมองที่เฟิงเฉินหยูและถามเฟิงจินหยวนด้วยความสับสนว่า “นี่เป็นลูกสาวของอนุไม่ใช่หรือ? ทำไมนางไม่รู้กฎนี้?”

เฟิงจินหยวนรู้สึกอับอาย “นี่คือเฟิงเฉินหยู นางไม่ใช่ลูกสาวของอนุ นางเป็นบุตรสาวคนโตของหลานชายกับฮูหยินใหญ่”

“บุตรสาวของฮูหยินใหญ่ ?” ผู้เฒ่าของตระกูลมองเฟิงเฉินหยูและไตร่ตรองอยู่นาน “หืม เท่าที่ข้าจำได้ บุตรสาวคนโตของเจ้าชื่อเฟิงเฉินหยู แต่บุตรสาวคนโตของเจ้าไม่ใช่บุตรสาวของฮูหยินใหญ่ แต่เป็นบุตรสาวคนรอง!” เมื่อเขาพูดแบบนี้เขามองไปที่เฟิงหยูเฮงและโบกมือให้นาง “เจ้า มาหาปู่มา”

ใบหน้าของเฟิงหยูเฮงมีรอยยิ้มที่งดงาม ขณะที่นางเดินขึ้นไปโค้งคำนับผู้อาวุโสในตระกูล "อาเฮงคารวะท่านปู่เจ้าค่ะ"

ผู้เฒ่าของตระกูลช่วยประคองนางลุกขึ้นเล็กน้อย และพูดว่า “นี่คือลูกสาวของตระกูลเฟิงของข้ากับฮูหยินใหญ่”

น้ำตาไหลจากดวงตาของเฟิงเฉินหยูทันที นางหันไปเผชิญหน้ากับฮูหยินผู้เฒ่าและเฟิงจินหยวนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก แต่เมื่อผู้เฒ่าของตระกูลยืนอยู่ที่นั่น แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าก็กลายเป็นคนรุ่นหลัง นางจะพูดอะไรได้?

เฟิงเฉินหยูกัดฟันของนางอย่างรุนแรง การดำรงอยู่ของเฟิงหยูเฮงทำให้นางกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ นางเกลียดที่นางไม่สามารถโยนอีกฝ่ายเข้าไปในภูเขาเพื่อเป็นอาหารให้กับหมาป่า

เฟิงจินหยวนรู้ว่าสำหรับผู้เฒ่าในตระกูล เหยาซื่อและเฟิงหยูเฮงยังคงเป็นฮูหยินใหญ่และบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ ผู้คนจากบ้านเกิดเมืองนอนทั้งหมดยึดถือความทรงจำเก่า และเขาไม่ต้องการโต้เถียงกับผู้เฒ่าของตระกูลมากเกินไปในเวลานี้ เขาพูดกับเหยาซื่อ “ไปกันเถอะ ตามข้ามา”

เหยาซื่อเดินตามอย่างเงียบ ๆ ตามหลังเฟิงจินหยวนและฮูหยินผู้เฒ่า ใบหน้าของนางไร้อารมณ์  แม้ว่านางจะเดินผ่านผู้เฒ่าของตระกูล นางก็ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

พวกเขาเข้าไปในห้องบรรพชนและคุกเข่า สาวใช้ส่งธูปให้พวกเขา แต่ละคนมีธูป 3 ดอกที่จุดแล้ว

มีสมาชิกตระกูลที่รับผิดชอบในการสวดมนต์ หลังจากที่พวกเขาเข้าไป ในที่สุดหลังจากพิธีกรรมเสร็จสิ้น ฮูหยินผู้เฒ่าก็ปักธูปใส่กระถาง นี่คือพิธีเสร็จสมบูรณ์

เฟิงหยูเฮงและเหยาซื่อทำตามกฎ สำหรับบุตรสาวของฮูหยินใหญ่และฮูหยินใหญ่ เหยาซื่อไม่รู้สึกอะไรมากหลังจากนี้ นางคือฮูหยินใหญ่ นางไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วกับพิธีกรรมเหล่านี้ อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงมีปัญหาเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะสาวใช้คอยกำกับนาง นางก็ไม่รู้จะทำอะไร แม้จะเป็นกรณีนี้ แต่ก็ยังมีเวลาที่การกระทำของนางไม่ถูกต้อง ซึ่งทำให้คนที่สวดมนต์มองนางสองสามครั้ง

แต่เฟิงหยูเฮงไม่สนใจ หลังจากปักธูปแล้ว นางก็เริ่มที่จะขอโทษผู้เฒ่าของตระกูล “อาเฮงอยู่ในหมู่บ้านบนภูเขานานเกินไปและไม่ได้เรียนรู้กฎของตระกูล สำหรับสิ่งที่ข้าทำผิดพลาดไป ข้าหวังว่าท่านปู่จะให้อภัยเจ้าค่ะ”

เฟิงจินหยวนโกรธมากจนเขาอยากจะตบหน้าเฟิงหยูเฮง หมู่บ้านบนภูเขาแห่งนี้ หมู่บ้านบนภูเขาแห่งนั้น นางจะไม่ลืมพูดถึงหมู่บ้านบนภูเขาไม่ว่านางจะไปที่ไหน นางกลัวว่าคนอื่นจะไม่ทราบว่านางเคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านบนภูเขาเช่นนั้นหรือ?

เฟิงหยูเฮงเห็นสีหน้าของเขาอย่างชัดเจนจนอดไม่ได้ที่จะแอบเยาะเย้ยเขา

ตอนนี้ท่านพ่อรู้ไหมว่าเรื่องแบบนี้พูดง่าย แต่ฟังดูแย่ ในเวลานั้นท่านพ่อคิดอย่างไรเมื่อท่านพ่อเลื่อนตำแหน่งอนุให้เป็นฮูหยินใหญ่ สิ่งไร้ยางอายที่ท่านพ่อทำ แต่ตอนนี้ท่านพ่อต้องการให้คนอื่นไว้หน้าท่านพ่อหรือ ไม่เพียงเท่านั้น ต่อให้เป็นท่านย่า ก็ไม่ไว้หน้าท่านพ่อ ข้าต้องฉีกหน้าท่านไปอีกชั้นต่อหน้าข้าเพื่อความสนุก

“เรื่องที่อาเฮงและแม่รองเหยามาที่ห้องโถงบรรพบุรุษเพื่อเซ่นไหว้ในวันนี้ ข้าหวังว่าท่านปู่จะทำให้แน่ใจว่าไม่มีบุคคลภายนอกพูดถึงเรื่องนี้” ใบหน้าของเฟิงหยูเฮงแสดงให้เห็นถึงปัญหา ขณะที่นางพูดนางหันไปมองในทิศทางที่เฟิงเฉินหยูอยู่ด้วยท่าทีหวาดวิตก

ผู้เฒ่าของตระกูลทำท่าสับสน “ทำไม”

“เพราะ…อาเฮงไม่ใช่บุตรสาวที่เหมาะสมของฮูหยินใหญ่เลย แม่รองเหยาไม่ได้เป็นฮูหยินใหญ่อีกด้วยเจ้าค่ะ! เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้คนในตระกูลเฉินปิดกั้นถนนสู่มณฑลเฟิงตง และตะโกนเกี่ยวกับการทุบตีและสังหาร หากพวกเขาทราบว่าอาเฮงและแม่รองเหยาเข้ามาที่ห้องโถงบรรพบุรุษในขณะที่พี่ใหญ่ไม่ได้เข้ามา บางทีพวกเขาอาจจะก่อเรื่อง”

“พวกมันกล้าทำงั้นหรือ?” ดวงตาของผู้เฒ่าเริ่มแสดงให้เห็นถึงความโกรธและหนวดเคราก็สั่น เมื่อนึกถึงสิ่งที่เฟิงหยูเฮงพูด เขาถามฮูหยินผู้เฒ่า “ถ้าครอบครัวของเจ้ามีปัญหาเช่นนี้ ไม่จำเป็นที่เจ้าจะต้องกลับมาเซ่นไหว้บรรพบุรุษ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าสั่นด้วยความกลัว นางคำนับอย่างเร่งรีบ นางกล่าวว่า “ผู้เฒ่าของตระกูล เรื่องราวของครอบครัวนั้นมีความผิดพลาดโดยผู้ชราคนนี้ มันจะไม่เกิดขึ้นอีกเจ้าค่ะ” ขณะที่นางพูด ภายในใจนางกล่าวโทษเฟิงหยูเฮง มีหลายครั้งที่จะเปิดเผยความลับ แต่นางต้องทำมันต่อหน้าผู้เฒ่าของตระกูล จริง ๆ แล้วมันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมาเซ่นไหว้ที่บ้านเก่าหลังนี้ แต่สามีของนางยังคงถูกฝังอยู่ที่นี่!

เฟิงจินหยวนยังกล่าวอีกว่า “เรื่องราวของครอบครัวทำให้ท่านไม่สะดวก ตระกูลเฉินนั้นไม่ได้เป็นอะไรนอกจากกลุ่มคนที่ไม่เป็นระเบียบซึ่งไม่คุ้มค่าที่จะพูดถึง”

ผู้เฒ่าของตระกูลพยักหน้าแล้วดูกลุ่มคนที่ยืนอยู่ในสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟิงเฉินหยู รูปลักษณ์นั้นทำให้เขารู้สึกว่านางไม่ดี

เขามีชีวิตอยู่นานกว่า 80 ปี และพบกับผู้คนนับไม่ถ้วน เขาเคยได้ยินว่าเฟิงจินหยวนให้กำเนิดลูกสาวซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหงส์เพลิงมานานแล้ว แต่ถ้ามันเป็นเฟิงเฉินหยู…ไม่ว่าเขาจะดูอย่างไร นางก็ไม่ใช่

“ลืมไปเถอะ พวกเจ้าไปพักผ่อนได้ จะมีบ่าวรับใช้ที่จะพาเจ้าไปที่ห้องของเจ้า สำหรับเรื่องของบุตรสาวของฮูหยินใหญ่และบุตรสาวของอนุ ไม่ว่าเจ้าจะตัดสินใจอย่างไรมันเป็นเรื่องของเจ้าเอง แต่ที่นี่ตระกูลเฟิงนั้นรู้จักเหยาซื่อและอาเฮงเท่านั้น”

เมื่อพูดอย่างนี้ผู้เฒ่าของตระกูลก็ออกไป

เฟิงเฉินหยูหันหน้าไปอีกทาง นางไม่ต้องการมองเขา นางได้สาปแช่งชราผู้นี้ในใจนับครั้งไม่ถ้วน

เฟิงหยูเฮงมีความสุขที่ได้เห็นสีหน้าของเฟิงเฉินหยูเป็นแบบนี้ นางลากเหยาซื่อออกจากห้องบรรพชน จากนั้นนางก็หยุดต่อหน้าเฟิงเฉินหยูและกล่าวว่า “เราคงทำให้พี่ใหญ่ต้องทุกข์ทรมานในช่วงสองสามวันนี้ มันคือการตัดสินใจของท่านผู้เฒ่าของตระกูลทั้งหมด อาเฮงไม่มีอำนาจที่จะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้” ถ้าเจ้าไม่มีความสุขก็ไปพูดคุยกับท่านผู้เฒ่าเกี่ยวกับเรื่องนี้! เจ้ากล้าไหมล่ะ

เฟิงเฉินหยูจะพูดอะไรได้อีก นางเดินจากไปพร้อมยี่หยู

ฮูหยินผู้เฒ่าถามสาวใช้ “จื่อเฮาอยู่ที่ไหน”

พวกสาวใช้รู้สึกตกใจเล็กน้อย และคิดอย่างรอบคอบอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบว่า “ท่านฮูหยินผู้เฒ่าพูดถึงคุณชายใหญ่ที่เฝ้าหลุมศพใช่หรือไม่เจ้าคะ? เขาอาศัยอยู่ในภูเขา ผู้อาวุโสสร้างห้องเล็ก ๆ ติดกับหลุมศพให้ และให้บ่าวรับใช้ส่วนตัวไว้คอยดูแลคุณชายใหญ่เจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกเสียใจแทนเขา และอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เฟิงจินหยวน

เฟิงจินหยวนไม่คิดว่าผู้อาวุโสตระกูลจะไล่เฟิงจื่อเฮาขึ้นไปอยู่บนภูเขา แต่เป็นเขาที่บอกให้เฟิงจื่อเฮาดูแลหลุมฝังศพ ตอนนี้เด็กคนนั้นกำลังเฝ้าหลุมศพอยู่จริง          ๆ เขาจะพูดอะไรดี เขาทำได้แค่ปลอบโยนฮูหยินผู้เฒ่าว่า “พรุ่งนี้เช้าตรู่ข้าจะขึ้นไปบนภูเขาเพื่อพบเขา”

สาวใช้พาทุกคนไปที่ห้องของตน เฟิงหยูเฮงช่วยเหยาซื่อเก็บของก่อน หลังจากนั้นนางกลับไปที่ห้องของนางเอง

วังซวนช่วยนางปูผ้าปูที่นอนในขณะที่หวงซวนได้รับอาหารที่ส่งมาจากสาวใช้ “คุณหนูทานข้าวก่อนเจ้าค่ะ ข้าเห็นสาวใช้บางคนนำอาหารมาให้ฮูหยินแล้วเช่นกัน”

แม้ว่าจะมีสมาชิกไม่กี่คนที่บ้านของตระกูลเฟิง แต่ก็มีบ่าวรับใช้มากมาย ส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสมาชิกตระกูลที่กลับมาเป็นครั้งคราว

เมื่อเฟิงหยูเฮงกินนางก็มองไปรอบ ๆ ห้องนี้อีกครั้ง นางสังเกตเห็นว่ามีพู่กันและหมึก ในพริบตานางก็เกิดความคิดขึ้นมา

นางเดินไปที่โต๊ะที่มีพู่กันและหมึก บ่าวรับใช้สองคนสับสนและได้แต่เดินตามมา พวกเขาเห็นเฟิงหยูเฮงฉีกกระดาษ หยิบพู่กันขึ้นมา แล้วเขียนลายมือไก่เขี่ยออกมา

หวงซวนทำหน้าตกใจ “คุณหนู ท่านฝึกเขียนอักษรมานานแล้ว ทำไมท่านยังเขียนไม่สวยอีกล่ะเจ้าคะ”

เฟิงหยูเฮงกลอกตามองไปที่หวงซวน “เจ้ามองดูดี ๆ แล้วดูว่าลายมือนี้คล้ายกับลายมือของผู้ใด ?”

วังซวนจริงจังและเพ่งดูตัวอักษรมากขึ้น นางเห็นว่าเฟิงหยูเฮงเขียนว่า “มาที่ภูเขาซีเฟิงคืนนี้ ลายมือ และคำพูดเช่นนี้…เฟิงจื่อเฮา?”

เฟิงหยูเฮงมองอย่างพอใจ จากนั้นวางไว้ในมือของวังซวน “หาโอกาสวางมันไว้ในห้องของเฟิงเฉินหยู ทำให้แน่ใจว่านางจะเห็นมัน”

วังซวนแปลกใจ “ทำไมต้องทำแบบนี้เจ้าคะ ?”

เฟิงหยูเฮงไม่ได้คาดเดา นางอธิบายว่า “เฟิงเฉินหยูพยายามอย่างมากที่จะพาเรามาที่มณฑลเฟิงตง ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? เจ้าเชื่อจริง ๆ หรือว่าแค่มาเซ่นไหว้บรรพบุรุษ”

“คุณหนูคิดว่านางและเฟิงจื่อเฮาวางแผนจะวางแผนจัดการคุณหนูหรือเจ้าคะ”

“มันเป็นเพียงการคาดเดา ไม่ว่าการเดาของข้าจะถูกหรือผิดก็ตาม การสร้างปัญหาให้นางจะไม่ส่งผลกระทบต่อเรา”

เมื่อทำสิ่งที่ไม่ดี อารมณ์ของนางก็ดีมาก เฟิงหยูเฮงทานข้าวสองชามก่อนนอนพักผ่อน

หนึ่งชั่วยามต่อมายี่หยูพบจดหมายนี้ก่อนนอน นางส่งให้เฟิงเฉินหยู “คุณหนูลองเปิดอ่านเจ้าค่ะ”

เฟิงเฉินหยูเปิดจดหมายอ่าน นางตัดสินใจทันทีว่ามันมาจากเฟิงจื่อเฮา นางบอกยี่หยู “จุดเทียนแล้วเผาจดหมายนี้ซะ”

ยี่หยูทำตาม แต่นางก็ถามอย่างสงสัยว่า “เป็นจดหมายที่คุณชายใหญ่ส่งมาจริงหรือเจ้าคะ ?”

เฟิงเฉินหยูจ้องที่นางแล้วพูดเยาะเย้ย “เป็นไปไม่ได้ที่ไม่ใช่พี่ใหญ่ คืนนี้เจ้าไปกับข้า ไปที่ภูเขาซีเฟิง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด