ตอนที่แล้วDBWG ตอนที่ 23 เจตนาสังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDBWG ตอนที่ 25 มรดกเเก่นเเท้โลหิต

DBWG ตอนที่ 24 นักรบมังกร


ราตรีได้คืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ และหลงเฉินก็มาถึงขุนเขากันดารแล้ว

 

ขุนเขากันดาร อยู่ทางตะวันออกของเมืองไป่เห๋อหยาง เป็นกลุ่มภูเขาขนาดใหญ่ที่ทอดยาวหลายหมื่นไมล์ ที่นี่แมลงพิษสามารถพบได้ทุกที่และยังมีสัตว์ปีศาจจำนวนมากที่ซ่อนตัวอยู่ เป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงในด้านความอันตราย

 

ก่อนหน้านี้หลงเฉินเคยเข้าไปดินแดนสัตว์อสูรรกร้างซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ลึกที่สุดของขุนเขากันดาร

 

อย่างไรก็ตามความแตกต่างระหว่างพื้นที่แห้งแล้งของดินแดนสัตว์อสูรรกร้างและพื้นที่ของขุนเขากันดารก็คือพื้นที่ของขุนเขากันดารมีต้นไม้สูงพร้อมกับใบของมันที่ปกคลุมทั่วท้องนภา

 

ตอนนี้ไม่อาจได้ยินเสียงใดๆ วัตถุประสงค์ของหลงเฉินสำหรับการเข้าไปในส่วนลึกของขุนเขากันดารก็คือการหาสถานที่ที่ปลอดภัยและเงียบสงบ

 

ขุนเขากันดารเป็นพื้นที่ที่รกร้างซึ่งมีคนน้อยมากที่สามารถมองเห็นได้ ในหุบเขามีถ้ำที่มีรูปแบบธรรมชาติมากมายและส่วนใหญ่เป็นที่อาศัยของเหล่าสัตว์ปีศาจหรือสัตว์ป่าหลายชนิด แต่บางส่วนยังว่างอยู่

 

ในตอนกลางคืนหลงเฉินได้พบถ้ำที่ซ่อนไว้มากมาย หลังจากปล่อยให้หลิงซีสำรวจภายใน นางพบว่ามีเพียงกลุ่มสัตว์ปีศาจระดับปฐพีขั้นที่ 2 เท่านั้น หลงเฉินจึงเข้าไปแล้วโยนพวกมันออกมา หลังจากทำความสะอาดอีกรอบเขาได้เคลื่อนย้ายหินขนาดใหญ่เพื่อปิดทางเข้าถ้ำ

 

"ถ้าเรากบดานซ่อนตัวอยู่ที่นี่คงปลอดภัยไปชั่วขณะนึง เอาล่ะ ซีน้อย เจ้าสามารถปรับแต่งหญ้ามายาฝันนี้ได้แล้ว "

 

ขณะที่เขากล่าวหลงเฉินได้หยิบหญ้ามายาฝันออกมา มันเป็นหญ้าจิตวิญญาณสีม่วงที่ปล่อยกลิ่นหอมที่ไม่ซ้ำใคร เมื่อหลงเฉินสูดเข้าไปเขากลับรู้สึกผ่อนคลานอย่างมาก

 

"โอสถที่มีสรรพคุณในการรักษาจิตวิญญาณมีผลอย่างมากต่อการช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด หลังจากกินมันจะมีการเพิ่มระดับความสามารถได้อย่างมาก นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนๆนั้นจึงได้นำหญ้ามายาฝันนี้มาด้วย"

 

เสียงของหลิงซีเบาลง

 

หลงเฉินพลิกกระเป๋าของไป่ฉวี่ตง และลอบกล่าวว่า "นายน้อยคนนี้ แม้กระทั่งพกหยกจิตวิญญาณมามากกว่า 80 ชิ้น นี้เป็นประโยชน์มากสำหรับข้า ไม่เพียงแต่ข้าไม่สูญเสียอะไร แต่ข้าแท้จริงแล้วก็ได้รับประโยชน์ด้วย"

 

หลงเฉินแสดงอาการของคนที่ได้ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม หลิงซีต้องการจะตบเขาหลังจากได้เห็นการแสดงออกของเขา แต่นางไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ เนื่องจากนางไม่มีมือ

 

อย่างไรก็ตามกลิ่นของหญ้ามายาฝันอาจดึงดูดความสนใจของสัตว์ปีศาจบางชนิด ดังนั้นโดยไม่พูดอะไรอีก นางจึงใช้วิธีการบางอย่างเพื่อปรับแต่งหญ้ามายาฝัน

 

หลงเฉินได้เห็นดาบหลิงซีที่แนบมากับหูของเขาก่อนหน้านี้วางอยู่บนพื้น และหลังจากนั้นหมอกสีขาวเริ่มโผล่ออกมาจากดาบและเริ่มกลืนกินหญ้ามายาฝันเสียง "ซี่  ซี่" เริ่มดังขึ้นและหมอกก็ค่อยๆเล็กลงจนไม่สามารถเห็นได้

 

ในที่สุดเมื่อซับหมอกหายไป เสียงของหลิงซีก็ดังออกมาและเมื่อเทียบกับก่อนหน้ามันแตกต่างกันมาก

 

"เจ้าวายร้าย เจ้าแปลกใจมากนักหรือ?"

 

เมื่อถูกเรียกว่าเป็นวายร้าย หลงเฉินรู้สึกว่าร่างกายของเขามึนงง ดังนั้นเขาจึงยิ้มอย่างนุ่มนวลและกล่าวว่า "สิ่งนั้นน่าแปลกใจ ข้าคิดว่ายังดีกว่าไม่เกิดอะไร"

 

"เจ้าไม่มีความจริงใจ ฮึ่ม!"

 

"เอาล่ะ หยุดพยายามทำให้ข้าคาดเดา รีบขึ้นมา ข้า เจ้านายของเจ้ายังรอรับความแปลกใจจากเจ้าด้วย "

 

อย่างไรก็ตามหลิงซีไม่ได้ทำการเคลื่อนไหวใด ๆ ทันใดนั้นดาบหลิงซีก็กลับมามีขนาดเล็กลงไป เป็นตุ้มหูขนาด 1 ซม. และแนบไปกับหูของหลงฉิน

 

"สาวน้อย นี่คือสิ่งที่เจ้าเรียกว่าแปลกใจหรือ?"

 

"ไม่ต้องกังวล......"

 

ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้นข้างหูของหลงเฉินและหลงเฉินก็ตกตะลึงเพราะมีสายลมอ่อน ๆ ที่ถูกพัดขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เขาหันไปและรู้สึกตกใจในขณะที่เขาหันกลับไปจมูกของเขาก็กระแทกเข้ากับเด็กสาวคนหนึ่งที่โผล่มาข้างหน้า!

 

แม้ว่าจะมีกลิ่นหอมหวานแทรกซึมเข้าไปในจมูก แต่นี่ไม่ใช่ฉากที่ดึงดูดอย่างที่เขาคาดคิดไว้ เพราะผู้ที่ชนกับจมูกของเขานั้นมีขนาดเพียง 2 เซนติเมตร

 

นางถูกล้อมรอบไปด้วยหมอก อย่างไรก็ตามแม้จะมีร่างกายแค่ 2 เซนติเมตร หลงเฉินก็เห็นรูปร่างหน้าตาของนางที่งดงามราวกับหยก ถ้าหากร่างขนาด 2 เซนติเมตรนี้ขยายเท่ากับร่างมนุษย์ปกติ. เทพธิดาผู้นี้จะเป็นจุดกำเนิดของภัยพิบัติอย่างแท้จริง

 

หลิงซีก็เหมือนเทพธิดาตัวน้อยๆ บินอยู่รอบ ๆ นางเริ่มหงุดหงิดเมื่อตอนที่นางกระแทกเขากับจมูกของหลงเฉิน ดังนั้นนางจึงกล่าวว่า: "เจ้าเป็นคนชั่วร้าย การกระแทกนั่นเจ็บปวดจริงๆ!"

 

เมื่อมองเห็นเทพธิดาตัวน้อย หลงเฉินไม่สามารถกล่าวได้อีกต่อไป

 

แท้จริงแล้วลึกลงไปเขากำลังจินตนาการ ถ้าหลิงซีขยายร่างพร้อมด้วยกายหยาบของนาง......ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมหรือ?

 

เมื่อมองไปที่หลงเฉินผู้ซึ่งไม่กล่าวอะไรสักคำ หลิงซีเริ่มแสดงออกอย่างช้าๆ ดวงตาของนางจ้องมองเขา นางตะโกนด้วยความโกรธ: "นี่ อย่างน้อยก็กล่าวอะไรเสียบ้าง ข้าปรากฏตัวเช่นนี้ดีหรือไม่?"

 

ภาพที่น่ารักดังกล่าว ได้ทำให้ร่างกายของหลงเฉินทั้งตัวหมดเรี่ยวแรงไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้เขาได้เห็นหญิงสาวงดงามจำนวนมาก หญิงสาวในตระกูลหยางก็งดงามมาก แต่หลังจากเห็นระดับความงดงามของหลิงซีแล้ว เขาก็ตระหนักว่าใบหน้าของนาง ท่าทางของนาง และมารยาทของนางนั้นทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นอันดับหนึ่ง เขาไม่เคยเห็นใครที่มีความงดงามเช่นนี้มาก่อน

 

อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็เริ่มคืนสติกลับมาจากความรู้สึกของเขา และกล่าวเกินจริงว่า "ซีน้อย เจ้าเป็นสตรีที่งดงามที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็น เจ้าเป็นดุรณีน้อยจากสรวงสวรรค์จริง ๆ !"

 

หลังจากได้รับการชมเชยเช่นนี้โดยหลงเฉิน ใบหน้าของหลิงซีเปลี่ยนเป็นสีแดง

 

ถึงแม้ว่านางในตอนนี้จะเป็นร่างจิตวิญญาณ แต่นางก็ดูคล้ายกับตอนที่นางมีกายหยาบ ดังนั้นสำหรับหลงเฉิน แม้ว่านางจะอยู่ในหมอก แต่นางก็ไม่ต่างไปจากคนจริงๆ

 

"โอ้ ใช่ เจ้าสามารถคงรูปร่างเช่นนี้ได้ตลอดหรือไม่?"

 

หลิงซีพยักหน้าของนางและกล่าวว่า" นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ข้าได้คิดค้นก่อนหน้านี้ ก่อนหน้านี้เพราะข้าปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับร่างกายขนาดเดิม จิตวิญญาณที่แข็งแกร่งของข้าจึงลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามด้วยวิธีนี้ข้าไม่ต้องใช้พลังเท่าที่เคยใช้มาก่อนหน้าถึง พันเท่า ข้ามักจะพูดกับเจ้า แต่เจ้าไม่ได้มองข้า ดังนั้นเนื่องจากข้ารู้สึกไม่สบายใจ ข้าจึงได้ความคิดนี้ "

 

หลงเฉินรู้ว่าสตรีเกลียดการถูกเมินเฉย ดังนั้นหลิงซีคิดเช่นนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับเขา

 

หลิงซีมีความสุขมาก นางบินอยู่หน้าดวงตาของหลงเฉินเหมือนธิดาสวรรค์ตัวน้อย ๆ หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางก็หยุด ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ขณะที่นางกล่าวว่า "หญ้ามายาฝันนี้สามารถยืดชีวิตของข้าไว้ได้ประมาณหนึ่งหรือสองเดือนเท่านั้น...... "

 

เมื่อเห็นว่านางค่อนข้างผิดหวัง หลงเฉินเริ่มรู้สึกเสียใจกับนาง ดังนั้นเขารีบบอกว่า: "เเม่นางน้อย เจ้ากังวลอันใด? วันนี้ข้าสามารถหาหญ้ามายาฝันให้กับเจ้าได้และในอนาคตเมื่อข้าแข็งแกร่งขึ้น ไม่ว่าโอสถฟื้นฟูจิตวิญญาณชนิดใดที่เจ้าต้องการ เจ้าสามารถมีทุกอย่างที่เจ้าต้องการได้"

 

"อะไร เจ้าคิดว่าโอสถเหล่านี้จะเติบโตเช่นกะหล่ำปลีหรือ? เนื่องจากผู้ฝึกตนยังใช้มัน แม้ในสถานที่ที่มีโอสถเหล่านี้มากมาย มันยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมาก"

 

หลิงซีเงียบ นั่งบนบ่าของหลงเฉิน

 

ดวงตาของหลงเฉินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและกล่าวว่า "เอาล่ะ ไม่ต้องลังเลอีกต่อไป ก่อนหน้านี้เจ้ามีเวลาเหลือเพียงไม่กี่วันและข้าสามารถแก้ปัญหาได้ ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่เจ้ามีเวลาหนึ่งถึงสองเดือน หลังจากที่การแข่งขันชุมนุมล่าสัตว์ปีศาจสิ้นสุดลง ข้าจะล่าโอสถเหล่านี้ให้กับเจ้าเป็นพิเศษและให้เจ้าได้มากเท่าที่เจ้าต้องการ! "

 

แววตาของหลิงซีสาดประกายและในขณะที่มองไปที่หลงเฉินนางก็กล่าวว่า "จริงหรือ? ทำไมเจ้าถึงดูแลข้าอย่างดีเช่นนี้? "

 

"เพราะเราเป็นสหายที่ดีต่อกัน" หลงเฉินกล่าวอย่างจริงจัง

 

คำพูดของหลงเฉินทำให้หลิงซีพอใจมาก นางจึงบินไปรอบ ๆ อย่างมีความสุข และในขณะที่เขาคิดถึงตราประทับมังกรเขาถามว่า "ซีน้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่านักรบมังกรคืออะไร?"

 

หลิงซีหยุดนิ่ง นางกะพริบตามองไปที่เขาและถามว่า "เอ๋ เจ้ารู้ตำนานเรื่องนี้ได้อย่างไร?"

 

อารมณ์ของหลงเฉินปั่นป่วนอยู่ภายใน

 

ตามที่คาดไว้หลิงซีมาจากสถานที่ที่ดีกว่า เพราะสิ่งที่คนทั้งเมืองไป่เห๋อหยางไม่รู้ แต่นางรู้

 

"อย่าถามว่าทำไมข้าถึงรู้เรื่องนี้ แค่บอกข้าว่าเจ้ารู้อะไรบ้าง"

 

"หากต้องการรู้เกี่ยวกับนักรบมังกร แล้วข้าถามเจ้า เจ้ารู้เกี่ยวกับนักรบยุทธภัณฑ์และนักรบสัตว์ปีศาจหรือไม่? ข้ารู้เพียงเล็กน้อยว่านักรบมังกรเป็นนักรบสัตว์ปีศาจประเภทหนึ่ง เเต่มันก็ยังเเตกต่างกัน"

 

"ข้ารู้เรื่องนักรบสัตว์ปีศาจ" หลงเฉินคิดถึงสิ่งที่บันทึกไว้ในตำราแล้วกล่าวว่า: "ตามตำนานกล่าวว่าหลังจากที่ผู้ฝึกตนได้เสริมร่างกายของพวกเขาและเข้าสู่ขอบเขตพลังชีพจรมังกรแล้ว มันจะก่อให้เกิดเส้นโลหิตมังกร กับ ปราณฉี เมื่อใช้วิธีลับบางอย่างในการกลืนกินจิตวิญญาณของสัตว์ปีศาจ เจ้าจะสามารถใช้จิตวิญญาณสัตว์ปีศาจเป็นพื้นฐานได้ ที่จุดนี้ปราณฉีจะกลายเป็นปราณฉีสัตว์ปีศาจ และเมื่อเทียบกับปราณฉีปกติ ปราณฉีสัตว์ปีศาจยิ่งโหดเหี้ยมกว่ามากพลังโจมตีเพิ่มมากขึ้นและพวกเขายังมีความสามารถในการใช้ทักษะการต่อสู้ของจิตวิญญาณสัตว์ปีศาจตัวนั้นๆได้อีกด้วย "

 

"นักรบสัตว์ปีศาจสามารถกลืนแก่นพลังงานสัตว์ปีศาจได้ ด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถตัดผ่านขอบเขตได้อย่างรวดเร็วและกลายร่างเป็นสัตว์ปีศาจได้ ความแข็งแกร่งของสัตว์ปีศาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความสามารถของนักรบสัตว์ปีศาจ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เป็นนักรบสัตว์ปีศาจ ทักษะที่สามารถเรียนรู้ได้จะถูกจำกัด และหากผู้ฝึกตนที่อ่อนแอกลืนกินจิตวิญญาณสัตว์ปีศาจที่แข็งแกร่งเกินไปก็อาจนำไปสู่การทำลายตัวเองและความตายได้! "

 

หลิงซีพยักหน้า: "อืม เจ้ากล่าวได้ดีมาก"

 

นางหยุดอยู่ตรงหน้าดวงตาของหลงเฉินและเอียงศีรษะราวกับจะนึกอะไรได้

 

"ข้าคิดว่าเจ้าก็รู้ว่ามนุษย์อย่างเราเป็นลูกหลานของมังกรบรรพบุรุษ วันนี้มังกรบรรพบุรุษได้กลายเป็นตำนานแล้ว ท่านพ่อของข้าบอกข้าว่าโลกนี้ไม่เหลือเผ่าพันธุ์มังกรอีกและนักรบมังกรในตำนานเป็นกลุ่มคนที่เคยใกล้ชิดกับเผ่าพันธุ์มังกรบรรพบุรุษ ทักษะการบ่มเพาะของพวกเขาแตกต่างจากทักษะการบ่มเพาะของนักรบสัตว์ปีศาจ และสิ่งที่พวกเขาต้องการไม่ได้เป็นจิตวิญญาณของสัตว์ปีศาจ แต่เป็นแก่นแท้โลหิตที่แท้จริงของมังกรบรรพบุรุษ! "

 

หลังจากที่กล่าวถึงแก่นแท้โลหิตที่แท้จริงแล้ว หลงเฉินก็รู้สึกได้ว่าจี้หยกลึกลับมีการเคลื่อนไหวบางอย่าง หลงเฉินรู้สึกตกใจมากเขารีบกล่าวว่า "นี่หมายความว่าหลังจากที่ได้รับแก่นแท้โลหิตที่แท้จริงแล้วใครจะเป็นนักรบมังกรก็ได้?"

 

หลิงซีกลอกตาและพูดว่า: "ข้าจะรู้ได้อย่างไร? อย่างไรก็ตาม ตามตำนานในระดับเดียวกันนักรบยุทธภัณฑ์มีความแข็งแกร่งมากกว่านักรบสัตว์ปีศาจ และนักรบสัตว์ปีศาจมีความแข็งแกร่งมากกว่าผู้ฝึกตนทั่วไป แต่นักรบมังกรจะแข็งแกร่งกว่านักรบยุทธภัณฑ์เพราะพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ดูดซับเส้นโลหิตของมังกรบรรพบุรุษ มีข่าวลือว่าพวกเขาชอบทำลายล้างและมีความแข็งแกร่งที่เป็นภัยพิบัติของมังกรบรรพบุรุษ อย่างไรก็ตามทุกวันนี้นักรบมังกรเป็นเพียงตำนาน ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งหรือไม่ ข้าก็ไม่อาจรู้ได้"

 

ถึงแม้ว่าหลิงซีไม่ได้รู้อะไรมากนัก แต่จากคำพูดของนาง หลงเฉินรู้ว่านักรบมังกรเป็นตัวตนสุดยอดเพียงใด

 

ตั้งแต่หลงชิงหลานได้บอกหลงเฉินให้กลายเป็นนักรบมังกร หลงเฉินได้ตระหนักว่าหลงชิงหลานเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่กว่าหลิงซี

 

หลิงซีได้กล่าวว่านักรบมังกรเป็นเพียงตำนาน แต่หลงชิงหลานได้บอกให้หลงเฉินกลายเป็นนักรบมังกร ความแตกต่างนี้สามารถเข้าใจได้เกือบจะทันที!

 

"ท่านพ่อ ท่านเป็นใครกันแน่? หลิงซีรู้เรื่องต่างๆมากมายและเบื้องหลังของนางย่อมพิเศษ แต่ท่านรู้มากยิ่งกว่า! จี้หยกสลักมังกรลึกลับนี้และตราประทับมังกรของตระกูลหยางพวกมันมีสายสัมพันธ์อะไรกันแน่กับแก่นแท้โลหิตที่แท้จริง?"

 

หลิงซีมองไปที่หลงเฉินอย่างแปลกใจ ไม่อาจรู้ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

 

สำหรับหลงเฉิน หลงชิงหลานก็เหมือนกับปริศนาที่ลึกลับที่หลงเฉินไม่สามารถคลี่คลายความลึกลับนี้ได้ ดังนั้นหลังจากหลิงซีได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่านางจะทำลายการป้องกันที่ทักษะตราประทับมังกรให้ เขาหยิบทักษะตราประทับมังกรออกมาและวางไว้บนพื้นแล้วกล่าว "ซีน้อย ทำไมเจ้าไม่ลองดูว่าเจ้าสามารถทำลายการป้องกันนี้ได้หรือไม่"

 

หลิงซีตื่นเต้นและกล่าวด้วยความพึงพอใจ "ฮ่าฮ่า เจ้าตัวน้อย เจ้าไม่รู้เรื่องนี้ แต่ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้ทำงานอย่างหนักในการบ่มเพาะ ข้าก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำลายอาคมป้องกัน ยิ่งอาคมป้องกันซับซ้อนมากขึ้น จิตวิญญาณการต่อสู้ของข้ายิ่งแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นเรื่องของวันนี้เจ้าสามารถมอบให้กับข้าได้ ข้ารับประกันได้ว่าจะทำให้เจ้าพึงพอใจ!"

 

เมื่อเห็นหญิงสาวคนนี้ที่ดูเหมือนจะมีความสามารถมาก หลงเฉินกล่าวว่า "หยุดพูดจาใหญ่โต เร็วเข้าและทำมัน หากเจ้าจัดการทำลายมันได้ ข้าเจ้านายของเจ้าจะตอบแทนเจ้า!"

 

ใบหน้าของหลิงซีแดงและส่งเสียง "ฮึ่ม!" แต่แล้วร่างกายที่น่ารักของนางค่อยๆลอยลงไปบนตราประทับมังกร และหลังจากนั้นสักครู่คิ้วเล็กๆ เริ่มขมวด ดูเเล้วน่ารักเป็นอย่างมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด