ตอนที่แล้วDBWG ตอนที่ 22 ดัชนีกาฬสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDBWG ตอนที่ 24 นักรบมังกร

DBWG ตอนที่ 23 เจตนาสังหาร


เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลงเฉินรู้ทันทีว่าเป็นใคร

 

หยางเสวี่ยฉิง

 

หลังจากได้ยินเสียงของหยางเสวี่ยฉิงแล้ว ไป่ฉวี่ฉือก็นิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็มองไปที่หลงเฉินทันที ในขณะที่ทักษะดัชนีกาฬสวรรค์ที่เขาสำเเดงก่อนหน้านี้ได้ถอนกลับลง

 

ส่วนหลงเฉิน เขายังไม่ได้ใช้ตราประทับมังกรไร้อรรถเช่นเดียวกัน

 

"ท่านอา พวกเราอยู่ที่นี่..... "

 

หลังจากได้ยินเสียงหยางเสวี่ยฉิง หยางหลิงฉิงที่ร้องไห้เหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งก่อนหน้านี้ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเรียกคืนความร่าเริงออกมา

 

ในตอนแรกหยางเสวี่ยฉิงได้เห็นไป่ฉวี่ฉือเพียงคนเดียวและมองไปที่ไป่ฉวี่ฉือ แต่หลังจากได้ยินเสียงของหยางหลิงฉิงแล้ว นางก็เห็นว่าคนที่ไป่ฉวี่ฉือกำลังเผชิญหน้าด้วยแท้จริงแล้วคือหลงเฉิน ดังนั้นสายตาอ่อนโยนของนางจึงถูกแทนที่ด้วยความเย็นชาอย่างเดียว

 

หลงเฉินหัวเราะอย่างน่าสยดสยอง เขาต้องกราบกรานด้วยความชื่นชมในทักษะของสตรีคนนี้ในการเปลี่ยนท่าทางการแสดงออกของนาง อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสมเพชมากที่สุดคือความจริงที่นางได้จ้องมองอย่างอ่อนโยนต่อบุตรชายของคนอื่น ขณะที่มองบุตรชายของตัวเอง นางใช้สายตาที่เย็นชา

 

หลงเฉินไม่ได้สนใจที่จะทำความเข้าใจกับความรู้สึกที่ซับซ้อนของนาง นอกจากนี้เขายังไม่อยากมองไปที่หยางเสวี่ยฉิง ในขณะที่นางกำลังมองไปที่ไป่ฉวี่ฉือด้วยความห่วงใย ดังนั้นเมื่อหยางเสวี่ยฉิงปรากฏตัวขึ้นเขาแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเริ่มเดินออกไป

 

"หยุด!"

 

เสียงเย็นชาของหยางเสวี่ยฉิงดังขึ้นข้างหูของเขา

 

หลงเฉินหันกลับมาและถามว่า "ข้าอยากจะรู้ว่าทำไมภรรยาของตระกูลไป่ถึงได้เรียกกล่าวข้าให้หยุดกัน? เป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็นเพราะเรื่องที่ข้าทุบตีเศษขยะสองชิ้นของตระกูลไป่ เลยทำให้ท่านโกรธ? นี่เป็นความผิดที่ข้ายอมรับเช่นนั้นท่านจะทำอย่างไรจัดการข้า?

 

คำพูดของหลงเฉินทำให้หยางหลิงฉิง ผู้ซึ่งรู้สึกตื่นเต้นกับการมาถึงของหยางเสวี่ยฉิงก่อนหน้านี้ถูกทำให้แฟบลงเหมือนบอลลูนเเห้ง นางมองไปที่หลงเฉินอย่างว่างเปล่า แล้วนางก็มองไปที่การแสดงออกที่น่ากลัวของหยางเสวี่ยฉิง เนื่องจากไม่ว่านางจะพยายามอย่างหนักแค่ไหนหลงฉิงก็ไม่สามารถอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ได้

 

เสียงของหลงเฉิน มีคำดูถูกอยู่เป็นนัย ซึ่งทำให้หยางเสวี่ยฉิงยากที่จะหายใจ ต่อหน้าของทุกคน หลงเฉินไม่ได้ไว้หน้านาง นางได้กลายเป็นโกรธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองเห็นความเมินเฉยที่ฉาบอยู่บนใบหน้าของเขา

 

แต่นางรู้เรื่องนี้ ตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ดีนักซึ่งจากข่าวการแต่งงานใหม่ของนาง ดังนั้นถ้านางจะทำอะไรกับหลงเฉินตอนนี้ก็จะเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ข่าวลือแพร่กระจาย นี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับตระกูลหยางหรือตระกูลไป่

 

ดังนั้นหยางเสวี่ยฉิงจึงแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินคำดูถูกของหลงเฉิน และหันกลับไปและถามไป่ฉวี่ฉือว่า "ฉวี่ฉือ เรื่องวันนี้อันดับแรกข้าต้องขอโทษตระกูลของเจ้าด้วย เกี่ยวกับที่เขาบอกว่าเขาได้ชนะสมาชิกในตระกูลไป่เป็นความจริงหรือไม่? "

 

ไป่ฉวี่ฉือพยักหน้าและกล่าวว่า "เขาทำร้ายไป่จื้อชิงและไป่ฉวี่ตงจริงๆ ข้าเพิ่งจะแก้ปัญหานี้กับเขาเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งอีกต่อไปในอนาคต เพื่อประโยชน์ของทั้งสองตระกูลของเรา แต่ท่านก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน ท่านน้าหยาง ฉวี่ฉือเชื่อใจท่านว่าท่านจะให้ความเป็นธรรมกับพวกเรา"

 

มองไปที่เด็กหนุ่มผู้มีความสมเหตุสมผลนี้ หยางเสวี่ยฉิงรู้สึกพอใจกับเขามาก นอกจากนี้ยังมีการบ่มเพาะของไป่ฉวี่ฉือด้วย การเข้าสู่ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 7 เมื่ออายุยี่สิบปีนี่ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ดังนั้นนางจึงพยักหน้าและกล่าว "ช่วยส่งความห่วงใยของข้าไปให้พ่อของเจ้าด้วย เรื่องของวันนี้ข้าจะไปขอโทษเขาด้วยตนเอง ตอนนี้ข้าขอตัวก่อน"

 

"ท่านน้าหยางโปรดดูแลตนเอง"

 

หลงเฉินมองไปที่คนทั้งสองที่แสดงการเสแสร้งนี้ เขาเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย

 

กับการปรากฏตัวฉับพลันของหยางเสวี่ยฉิง เรื่องก็จบลงเช่นเดียวกัน แต่สำหรับความแข็งแกร่งของไป่ฉวี่ฉือ และแรงกดดันที่เขามีพร้อมกับการคุกคามของดัชนีกาฬสวรรค์, หลงเฉินได้ทำให้พวกหมดทั้งหมดชัดเจนในใจของเขา!

 

"ถ้าข้าไม่มีแผนที่จะตอบโต้กับดัชนีกาฬสวรรค์นี้ในระหว่างการแข่งขันชุมนุมล่าสัตว์ปีศาจ และข้าพบกับเขาโดยที่ไม่มีใครอยู่ข้างกายข้าง ข้าจะต้องตกตายเป็นแน่!"

 

การแสดงความรักใคร่ของหยางเสวี่ยฉิงและไป่ฉวี่ฉือที่มีต่อกันทำให้หลงเฉินรู้สึกโกรธ ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้

 

"การแข่งขันชุมนุมล่าสัตว์ปีศาจและงานแต่งงานของพวกเขาคือวันเดียวกัน ถ้าข้าสามารถเอาชนะไป่ฉวี่ฉือเเละเปลี่ยนมันกลายเป็นศพ มันจะตลกถ้าพวกเขายังคิดจะเเต่งงานกันอย่างหน้าตาเฉย!"

 

สองเหตุการณ์ใหญ่ การแข่งขันชุมนุมล่าสัตว์ปีศาจและการแต่งงานทำให้หลงเฉินสูญเสียเวลา 3 วันที่ผ่านมาในการคิดจัดการกับสิ่งต่างๆ เนื่องจากเขาต้องการสร้างความหายนะในงานแต่งงานและหยุดการแต่งงาน แต่เห็นได้ชัดว่าความแกร่งของเขาตอนนี้ยังไม่เพียงพอ ไม่ต้องพูดถึงตระกูลไป่ที่ต้องการกำจัดเขาแม้แต่ตระกูลหยางก็ไม่ค่อยชี้ขี้หน้าจนคิดอยากกำจัดเขา

 

คราวนั้นหลงเฉินได้เห็นไป่จ้านซ่งได้ลักพาตัวหญิงสาวจากเรือนหยกเขียวมรกตด้วยตาของตัวเอง เขาแอบเดินตามหลังไป่จ้านซ่ง แล้วก็ได้รู้ว่าไป่จ้านซ่งใช้หญิงสาวเหล่านี้ขายให้กับกลุ่มคนที่มีจุดสีแดงอยู่ตรงกลางระหว่างคิ้วของพวกเขา

 

ครั้งสุดท้ายที่เขาได้บอกกับหยางเสวี่ยฉิงแต่หยางเสวี่ยฉิงไม่เชื่อเขา

 

หลงเฉินเคยรู้สึกว่าเหล่าสมาชิกในตรกูลไป่นี้แปลกประหลาดเล็กน้อยและหากหยางเสวี่ยฉิงกำลังจะแต่งงานกับพวกเขาผลสรุปยังไม่แน่นอน

 

แต่ในตอนนี้เขาได้คิดถึงแผนการที่จะกอบกู้สถานการณ์

 

มองอย่างเย็นชาที่หยางเสวี่ยฉิงและไป่ฉวี่ฉือที่กำลังสนทนากันอยู่ เขาคิดในใจ "มีวิธีเดียวก็คือสังหารไป่ฉวี่ฉือ หลังจากที่สังหารบุตรชายคนหนึ่งของไป่จ้านซ่งและฆ่าคนอื่นๆแล้ว พวกเขายังจะมีโอกาสได้แต่งงานอีกหรือ? "

 

และโอกาสที่ดีที่สุดที่จะสังหารไป่ฉวี่ฉือ แน่นอนว่าต้องเป็นช่วงระหว่างการแข่งขันชุมนุมล่าสัตว์ปีศาจ อย่างไรก็ตามเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ หลงเฉินยังคงต้องพัฒนาตนเองอย่างมากเเละเขาเพิ่งได้รับหญ้ามายาฝัน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในเเผนการครั้งนี้

 

หลังจากที่วางแผนอยู่ในใจแล้ว หลงเฉินก็ไม่มีความกังวลที่จะต้องเฝ้าดูต่อไป เมื่อเห็นว่าหลงเฉินแท้จริงแล้วกำลังจะจากไป หยางหลิงฉิงรีบตามเขามา

 

เมื่อมาถึงจุดนี้หยางเสวี่ยฉิงและไป่ฉวี่ฉือเพิ่งจบสิ้นการสนทนา

 

แม้ว่านางจะดูอ่อนโยน แต่ลึกๆแล้วนางโกรธมาก เเต่เพราะมีฝูงชนจำนวนมาก ดังนั้นนางจึงไม่สามารถระบายโทสะได้ แต่นางรู้ดีว่านี่เป็นแผนการของหลงเฉินที่จะฉีกหน้านาง นางจะไม่ยอมให้หลงเฉินมีช่วงเวลาที่ดีเมื่อนางกลับไปที่ที่พักอาศัยของตระกูลหยาง

 

"ข้าช่วยเจ้ากลับมาจากมือของไป่ฉวี่ฉือ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการช่วยชีวิตเจ้า แต่แท้จริงแล้วเจ้าไม่รู้จักตอบแทนความกรุณาของข้าและทำให้ข้าอับอายขายหน้าเเทนเจ้าทำข้าผิดหวังจริงๆ! "

 

"ความแข็งแกร่งของเจ้ามีเพียงน้อยนิด แต่ความหยิ่งยโสของเจ้ากลับสูงล้ำกว่ามากเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเอาชนะทุกคนได้ เเต่เจ้าคิดหรอว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะ ไป่ฉวี่ฉือได้...... "นางกล่าวพึมพัมกับตนเอง

 

มองไปที่การแสดงออกราวกับน้ำแข็งของหยางเสวี่ยฉิง ฝูงชนไม่กล้าเข้าไปใกล้นาง เดินออกจากตลาดของผู้ฝึกตน นางเห็นหลิงฉิงยืนอยู่รอนางอยู่ ดังนั้นหลังจากมองอีกครั้งนางก็ถามอย่างเหี้ยมโหดว่า "เขาไปไหนเเล้ว?"

 

หยางหลิงฉิงเริ่มรู้สึกกังวลและกล่าวว่า "เอ่อ...ขณะที่เราเดินออกมาก่อนหน้านี้เขาเห็นใครบางคน ดังนั้นเขาจึงบอกข้าว่าให้กลับไปก่อนแล้วเขาก็ไล่ตามคนๆนั้นไป ดังนั้นข้าไม่รู้อะไรเลย...... "

 

"ไล่ตามบางคน?"

 

หยางเสวี่ยฉิงงงงวยและนางหัวเราะเยาะ "นี่เป็นข้ออ้างเท่านั้น เขาเพียงแค่กลัวข้าต่อว่าเขา และใช้วิธีเด็กน้อยเช่นนี้ ตระกูลหลงถือว่าเป็นอันดับหนึ่งเรื่องกลอุบายจริงๆ...... "

 

หยางหลิงฉิงเม้มริมฝีปากของนาง ไม่กล่าวสักคำ

 

นางได้เห็นหลงเฉินไล่ตามคนอื่นจริงๆ เมื่อคนคนนั้นได้เห็นพวกเขาแล้วชายคนนั้นก็หลบหนีทันที แต่ตอนนี้หยางเสวี่ยฉิงกลับกล่าวว่ามันเป็นเรื่องโกหก ......

 

นางต้องการตอบโต้ แต่คิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลงเฉินกับหยางเสวี่ยฉิงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากกว่าที่จะไม่กล่าวอะไร

 

หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าว หยางเสวี่ยฉิงก็ถามว่า: "เสี่ยวฉิงเอ๋อร์ เจ้าสามารถบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องวันนี้ได้หรือไม่?"

 

ได้ยินเรื่องนี้หยางหลิงฉิงคิดว่านางมีโอกาสที่จะบอกกล่าวถึงเหตุผลอันสมควรในการกระทำของหลงเฉิน นางบอกหยางเสวี่ยฉิงด้วยความสัตย์จริงในเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น นางคาดหวังว่าหยางเสวี่ยฉิงที่แสดงท่าทางเย็นชาก่อนหน้านี้จะกล่าวชมเชยหลงเฉินในทันที แต่หลังจากที่หยางเสวี่ยฉิงฟังจบแล้ว ใบหน้าของนางก็ยังคงเป็นเช่นเดิมและกล่าว "โอ้? ความสามารถในการเอาชนะผู้ฝึกตนขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 6 สองคนหรือ? แม้กระนั้นก็ตามถ้าเขาต้องสู้กับผู้ฝึกตนในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 7 เขาจะไม่ไร้หนทางในการต่อสู้กลับหรือ? "

 

หยางหลิงฉิงมองภาพร่างของหยางเสวี่ยฉิงเดินจากไป แล้วนางก็เม้มริมฝีปากของนาง ตอนนี้นางก็เข้าใจทันทีว่าทำไมก่อนหน้านี้หลงเฉินจึงเผชิญหน้าไป่ฉวี่ฉือโดยไม่ต้องการที่จะหนีแม้แต่ครึ่งก้าว แม้ภายใต้แรงกดดันมหาศาล.....

 

หลังจากที่วิ่งผ่านถนนไม่กี่แห่งแล้ว หลงเฉินก็คว้าตัวผู้ที่วิ่งอยู่ตรงหน้าเขาและการปัดป้องกริชที่ชายคนนั้นพยายามจะแอบโจมตีเขา จากนั้นเขาก็กระแทกคนผู้นั้นเข้าที่ห้องน้ำที่มีกลิ่นเหม็นแทรกซึมอยู่ในอากาศ ความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่ของหลงเฉินได้ผลักดันชายผู้นี้ไปติดที่กำแพง ชายคนนี้มีใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่สามารถแม้แต่จะขยับนิ้วมือได้

 

ก่อนหน้านี้เมื่อหลงเฉินเดินออกจากตลาดของผู้ฝึกตน เขาได้ชนไหล่กับชายผู้นี้และเห็นว่ามันกำลังถือกริช

 

ตอนแรกหลงเฉินไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่เขาก็จำได้ว่าคนที่เคยพยายามลอบสังหารเขาก็ใช้กริชเช่นนี้และพวกมันก็อยู่ในขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 2 ร่างที่อยู่ต่อหน้าของเขาคล้ายกับคนเหล่านั้น ดังนั้นเขาจึงพยายามจะนึกถึงชายคนนั้น เขาไม่เคยคิดว่าเมื่อเขาเริ่มไล่ล่ามันแล้วคนที่แปลกประหลาดคนนี้เพราะความรู้สึกผิดของมันก็จึงวิ่งหนีเขา เมื่อถึงจุดนี้หลงเฉินก็ยืนยันได้ว่าชายคนนี้เป็นมือสังหารที่หนีรอดมาได้ครั้งก่อน

 

หลังจากที่ไล่ล่าในระยะเวลาอันสั้น หลงเฉินก็สามารถมันจนมุมได้ เขาหัวเราะเบาๆ  "ข้าจะไม่พูดอะไรกับเจ้ามาก บอกคนที่สั่งการลอบสังหารข้ามา ถ้าเจ้ายังไม่อยากตาย"

 

หลงเฉินได้กลายเป็นคนแข็งแกร่ง ดังนั้นมือสังหารคนนี้ได้สิ้นหวังมานานแล้ว แต่หลังจากได้ยินว่าเขามีโอกาสที่จะรอดชีวิตกลับไปในสถานการณ์เช่นนี้ เขารีบถามว่า "ถ้าข้าบอกไป เจ้าจะไม่สังหารข้าจริงหรือ?"

 

หลงเฉินพยักหน้าพลางกล่าว "แต่เจ้าต้องออกไปจากเมืองไป่เห๋อหยาง"

 

นี่เป็นไปตามความคิดของมือสังหาร ดังนั้นเขาจึงกล่าวอย่างสุภาพ "ง่ายมาก ตระกูลไป่ ไป่จ้านซ่ง"

 

หลงเฉินแปลกใจสองเรื่อง หนึ่งคือคนประหลาดผู้นี้พูดออกมาจริงๆ สองคือคำตอบของคนผู้นี้เป็นไป่จ้านซ่ง

 

"เขาแค่อยากจะแต่งงานกับแม่ของข้า ดังนั้นทำไมเขาจึงเสี่ยงที่จะต้องสังหารข้าเช่นนี้?"

 

หลงเฉินไม่สามารถคิดออกได้ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไร

 

เมื่อมาถึงจุดนี้มือสังหารกล่าวว่า "ข้าไม่ได้หลอกลวงเจ้า ที่ข้าบอกเจ้านั่นเป็นเพราะข้ายังมีความเกลียดชังต่อมัน มันตกลงที่จะปล่อยบุตรสาวของข้าไปหลังจากที่ข้าทำงานสำเร็จ แต่ตอนนี้นางได้ถูกสังหารโดยมัน! ข้ายังคงอยู่ในเมืองไป่เห๋อหยางจนถึงตอนนี้เพื่อหาโอกาสที่จะแก้แค้น! "

 

หลงเฉินมองคนตรงหน้าที่ดวงตาสองข้างแดงก่ำขณะกำลังพูดถึงไป่จ้านซ่ง เขารู้สึกว่าชายคนนี้ไม่ได้โกหกและตอนนี้คนร้ายที่แท้จริงที่สั่งการลอบสังหารเขาไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญอีกต่อไป ถ้าเป็นไป่จ้านซ่งแล้วมันก็เหมาะสม เพราะหลงเฉินต้องการจะจัดการกับเขาทางใดทางหนึ่ง

 

หลงเฉินปล่อยมือแล้วมองไปที่เขาและหัวเราะออกมาว่า "เจ้าได้เรียกร้องขอชีวิตจากข้าและในวันนี้เจ้าได้จบลงภายใต้มือของข้าแล้ว เพราะข้าสัญญาว่าจะไม่ฆ่าเจ้า ดังนั้นเพียงแค่เดินไปข้างหน้าและกินกองอึนี้!”

 

หลังจากกล่าวเรื่องนี้ก่อนที่มือสังหารจะตอบสนอง หลงเฉินก็ผลักเขาเข้าไปในกองอึ น้ำสกปรกกระเซ็นขึ้นมาและได้ยินเสียงจ๋อม หลงเฉินรีบหลบและคิดว่า: "ใกล้มาก โชคดีที่ข้าเร็วพอ ... "

 

ดวงอาทิตย์เริ่มตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก

 

"ซีน้อย ไปขุนเขากันดารกัน"

 

หลิงซีงงงวยและถามว่า: "ทำไม? เจ้ากลัวแม่ของเจ้าทุบตี? เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัวตราบเท่าที่ข้าได้ปรับแต่งหญ้ามายาฝันนี้แล้ว ข้าก็สามารถปกป้องเจ้าได้ ข้าจะไม่ปล่อยให้สตรีคนนั้นทำร้ายเจ้าอีกต่อไป"

 

หลงเฉินยิ้มและกล่าวว่า: "หญิงสาวเช่นเจ้ารู้อะไรบ้าง ข้าไม่ได้กลัวนาง แต่มีหลายคนที่อยู่ในที่พักอาศัยตระกูลหยาง ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการปรับแต่งหญ้ามายาฝันและตรวจสอบและดูว่ามีอะไรอยู่ในตราประทับมังกร มันไม่สะดวกที่จะทำพวกมันในที่พักอาศัยของตระกูลหยาง

 

"นี่คือเหตุผล ไปกันเถอะ ข้าจะได้กินของอร่อย ๆ สักที...... "

 

เสียงของหลิงซีถึงแม้จะอ่อนแอ แต่ก็เผยความร่าเริงและความสุขออกมาด้วย

 

"กิน?"

 

“......”

 

“ฮึ่ม! เจ้าไม่รู้ แต่หลังจากที่ข้าเป็นแบบนี้ ข้าไม่เคยได้กินอะไรตั้งแต่นั้นมา ก่อนหน้านี้ข้าหาโอสถจิตวิญญาณบางอย่างให้ตัวเองและรสชาติก็ไม่ได้เลวร้าย ......”

 

หลงเฉินหลังจากที่ได้ยินหญิงสาวคนนี้พูดถึงเรื่องนี้อย่างมีความสุขจริงๆ เขารู้สึกแย่มากๆอยู่ภายในใจ ไม่สามารถกินได้และเพียงแต่สามารถใช้โอสถจิตวิญญาณเพื่อสร้างรสชาติของอาหารให้กับหญิงสาวคนหนึ่งที่เคยได้รับการเลี้ยงดูมาด้วยความมั่งคั่ง เขารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนสำหรับนาง

 

"ซีน้อย...... "

 

“หือ?”

 

"วันหนึ่งมันจะมาถึง วันที่เจ้าจะได้กินจริงๆ"

 

"จริงหรือ? ข้าเป็นคนตะกละมาก ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการเลี้ยงอาหารข้ามันจะไม่ง่ายเลย หญ้ามายาฝันนี้ไม่เพียงพอที่จะกินสักคำสำหรับข้า ดังนั้นเจ้าต้องขยันให้หนักขึ้น! "

 

"ได้เลย,องค์หญิงน้อย! "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด