ตอนที่แล้วDBWG ตอนที่ 6 ทักษะเเก่นเเท้สวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDBWG ตอนที่ 8 เดิมพัน

DBWG ตอนที่ 7 เเก้เเค้น


เปราะ!

 

เสียงคำรามของมังกรได้ดังขึ้น ปราณฉีของเขาได้ตัดผ่านเส้นโลหิตมังกรเส้นที่สามได้สำเร็จ

 

ปราณฉีไหลเวียนอย่างบ้าคลั่งภายในร่างกายของเขา หลงเฉินต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เป็นครั้งแรกที่เขาต้องสยบปราณฉีของเขาและปรับแต่งพื้นฐานของมันให้สมบูรณ์และเขาต้องดูดซับมันด้วยตัวเอง

 

ในตอนนี้ดวงตาของเขาสาดประกายขึ้น เห็นได้ชัดว่าความเร็วในการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้!

 

"ปราณฉีจากขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 3 มีจำนวนมากกว่าขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 2 อย่างแท้จริง ถ้าข้าเจอกับหยางจ้านอีกครั้ง ควบกับทักษะหมัดดาวตก ถ้ามันต้องการจะเอาชนะข้า คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมัน!"

 

หลังจากเข้าสู่ของขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 3 แล้ว หลงเฉินค่อยๆควบคุมการหายใจของเขา ยามนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และคิดว่ายังมีเวลาอยู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น

 

"ในค่ำคืนนี้มีเมฆน้อย มองเห็นเส้นทางช้างเผือกได้จากบนฟากฟ้า ช่างงดงามยิ่งนัก"

 

"18 เส้นทางจักรวาล กอปรด้วย 9 เส้นทางแห่งรุ่งอรุณ และ 9 เส้นทางแห่งสนธยา มีคำเล่าขานว่าเส้นทางจักรวาลมีต้นกำเนิดจากดวงดาวมากมายไร้ที่สิ้นสุด ถ้าในวันข้างหน้าข้าสามารถเข้าสู่แดนสวรรค์และได้เห็น 18 เส้นทางจักวาล จึงจะกล่าวได้ว่าข้าชั่วชีวิตนี้ข้าไม่ได้มีชีวิตอยู่อย่างสูญเปล่า"

 

"ถ้าทางช้างเผือกเกิดจากดวงดาวแล้ว ข้าจะหยิบยืมพลังจากทางช้างเผือกและดวงดาว เพื่อบ่มเพาะทักษะแก่นแท้สวรรค์ต่อ!"

 

เดิมทีหลงเฉินได้หยิบยืมพลังแก่นแท้จากดวงดาราบางดวงเท่านั้น แต่ในตอนนี้เขาได้เผชิญหน้ากับกลุ่มดาวจากเส้นทางช้างเผือก แสงดาวอันเจิดจ้าพุ่งกระหน่ำมาที่ร่างของเขา

 

"แสงดาวจากดวงดาวไร้พรมเเดนนี้ แท้จริงแล้วได้แทรกซึมเข้าสู่โลหิต,เส้นโลหิตและกระดูกของข้า ความรวดเร็วนี้เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้มันกลับเร็วกว่า 100 เท่า อย่างที่ข้าคิดไว้ 18 เส้นทางจักรวาลมีต้นกำเนิดมาจากดวงดาวมากมายไร้สิ้นสุด!"

 

ในขณะที่ร่างเขาเต็มไปด้วยแสงดารา หลงเฉินรู้สึกว่าตัวของเขาถูกล้อมรอบด้วยดาวฤกษ์มากมายและแก่นแท้ของดาวฤกษ์เหล่านี้ก็ผสานเข้ากับผิวหนังของเขาและหลอมรวมเข้ากับทุกส่วนของร่างกาย หลงเฉินรู้สึกว่าภายใต้การปรับแต่งอย่างต่อเนื่องของแสงดารา ร่างกายของเขาเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ

 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ฟากฟ้า

 

แสงดาวบนร่างกายของเขาค่อยๆจางหายไป หลงเฉินกระโดดลงมาจากหลังคา แววตาของเขาทอประกายความตื่นเต้น

 

"หลังจากประสบความสำเร็จในการปรับแต่งภายใต้แสงดารา ตอนนี้ข้าได้เข้าถึงระดับเชี่ยวชาญในทักษะแก่นแท้สวรรค์แล้ว ความแข็งแกร่งและพลังอำนาจของข้าได้เพิ่มขึ้นด้วยปราณฉีของข้าในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 3... ข้า หลงเฉิน เมื่อเทียบกับเมื่อวานแล้ว ข้าแข็งแกร่งขึ้นมากกว่า 10 เท่า!"

 

หลงเฉินยิ้ม "ในที่สุดข้าก็สามารถเงยหน้าขึ้นได้ตั้งแต่วันนี้ ข้าไม่เชื่อว่าข้าไม่สามารถสู้กับหยางจ้านผู้ซึ่งอยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 4 ได้อีก! นอกจากนี้สำหรับคนที่เหลือ.. หนี้ของพวกมัน..ข้าจะทำให้พวกมันต้องชดใช้!"

 

กลับเข้าไปในบ้าน หลงเฉินนอนลงบนเตียง

 

"ไม่ได้นอนคืนหนึ่ง เวลานี้เหมาะเป็นเวลาสำหรับพักผ่อน และเมื่อข้าตื่นขึ้นมาในภายหลัง พลังของข้าก็จะเต็มเปี่ยม จึงทำให้ข้าสามารถก้าวสู่ขั้นต่อไปในแผนการณ์การบ่มเพาะของข้าได้"

 

"ทักษะแก่นแท้สวรรค์ ถ้าเชี่ยวชาญ มันควรจะสามารถแสดงพลังอันมหาศาลกว่านี้ได้ จี้หยกสลักมังกรลึกลับของท่านพ่อที่เขามอบให้ข้ามันมีปราณฉีจำนวนไม่น้อยเลย ปราณฉีในตันเถียนของข้าได้เพิ่มขึ้นเร็วกว่าผู้บ่มเพาะคนอื่นๆ แต่ข้าไม่สามารถดึงมันมาใช้ได้เกินความสามารถของข้า หากข้าต้องการบ่มเพาะพลังอย่างรวดเร็วเเล้ว ถ้าได้รับหยกจิตวิญญาณจะเป็นการง่ายขึ้น"

 

หยกจิตวิญญาณนี้ เป็นหินหยกประเภทหนึ่งสามารถนำไปใช้กับผู้ฝึกตนขอบเขตชีพจรมังกร ซึ่งบรรจุพลังงานฟ้าดินในปริมาณมหาศาล โดยปกติกลุ่มรุ่นเยาว์ที่มีความสำเร็จอันยอดเยี่ยม จะได้รับรางวัลจากผู้อาวุโสด้วยเช่นกัน

 

"ยังเหลือเวลาอีกครึ่งเดือน ข้าต้องได้รับทักษะตราประทับมังกร ดังนั้นอย่างน้อยข้าต้องเข้าสู่ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 5 การตัดผ่านแต่ละขั้นในขอบเขตพลังชีพจรมังกรเป็นเรื่องที่ยากมากอย่างน้อย 10 เท่าในแต่ละขั้นที่ตัดผ่าน หยางจ้านได้หยุดอยู่ในขั้นที่ 4 มานานกว่าหนึ่งปี ถ้าข้าต้องการเข้าสู่ขั้นที่ 5 ข้าคิดว่ามังคงไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องบรรลุให้ถึงขั้นนั้นภายในระยะเวลาไม่อันสั้นที่ไม่ถึงเดือน..."

 

"เเล้วอย่างไร ข้าหาได้สนใจไม่ ข้าเชื่อมั่นในคำพูดของท่านพ่อข้าเพื่อแก้แค้นคนที่เคยดูหมิ่นข้า และเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของข้าให้สตรีเหม็นสาบนั้นได้เห็นข้าจะต้องพยายามมากกว่านี้!"

 

[TL: สตรีเหม็นสาบที่หมายถึงก็คือแม่ของเขา]

 

ในตอนเช้า หลงเฉินตื่นขึ้นมาด้วยเสียงรบกวนบางอย่าง

 

หลังจากเข้าสู่ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 3 การรับรู้ของเขาได้แผ่ขยายวงกว้างขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะมีเดินมาหาเขาจากระยะไกล เขาจะสามารถรับรู้ได้ถึงบุคคลผู้นั้น ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นยืนและเตรียมพร้อมโดยการเข้าสู่สภาวะเตรียมพร้อมสูงสุดของเขา หลงเฉินยิ้มแล้วเดินออกจากบ้าน

 

อันที่จริง หยางจ้านเป็นผู้นำ ยืนอยู่ข้างหน้าและข้างหลังเขาเหล่าผู้ที่ติดตามมาเป็นพี่น้องทั้งบุรุษและสตรีของตระกูลหยาง อายุโดยประมาณ 14-15 ปี ตัวของพวกเขาไม่ได้สูงใหญ่สักเท่าไรนัก บางคนมีอายุมากกว่าหลงเฉิน

 

หยางจ้านแท้จริงแล้วกลับพาคนจำนวนมากมาหาเขาซึ่งมันสร้างความประหลาดใจแก่หลงเฉิน

 

หลังจากได้เห็นว่าสวะเบื้องหน้านี้ไม่ได้แสดงความกลัวใดๆต่อหน้าคนของเขาหยางจ้านหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า "เมื่อคืนข้าบอกว่าจะลงโทษเจ้า ดังนั้นวันนี้ข้าจึงไม่สามารถผิดคำพูดของข้าได้ สารเลวเช่นเจ้ามีความแข็งแกร่งขึ้นมาเล็กน้อยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เจ้าเลยมีความหยิ่งผยองมากขึ้นสินะ พวกเราเหล่าพี่น้องตระกูลหยางทุกคนล้วนไม่ชอบเจ้า ดังนั้นพวกเขาจึงได้หมอบหมายหน้าที่พิเศษนี้ให้เเก่ข้า ซึ่งข้าคงต้องอบรมสั่งสอนเจ้าเล็กน้อย"

 

หลงเฉินยิ้มบางและกล่าวว่า "ไม่แปลกใจเลย ที่เจ้าจะสร้างความปั่นป่วนใหญ่โตเช่นนี้ ครั้งแรกข้าคิดว่าเจ้าดูไปก็น่ากลัวอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ข้าเห็นได้ว่าคงเป็นเพราะจำนวนคนที่มากกว่าเช่นนี้เลยทำให้เจ้ากล้าหาญขึ้นมา"

 

หลงเฉินภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังคงเยาะเย้ยหยางจ้าน เหล่าพี่น้องตระกูลหยางต่างตกตะลึง ไม่อาจเรียกคืนสติได้ในระยะเวลาอันสั้น

 

"หืม,ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเจ้ากลับก้มหน้าก้มตาคอยเลียเเข้งเลียขาของ หยางจ้านอยู่แบบนี้ ไม่อายบ้างหรอ!"

 

ความเกรี้ยวโกรธภายในตัวของหยางจ้านปะทุขึ้นในวินาทีนั้น เปลวไฟของความเกลียดชังได้ระเบิดออกมาอย่างรุนเเรง

 

"ดีมาก ไอ้สารเลว เจ้าคงเผอิญโชคดีได้รับความแข็งแกร่งอันน้อยนิดมา ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าจะแตกต่างจากไอ้ขี้ข้าเหมือนก่อนหน้านี้ หลังจากที่เจ้าเอาชนะเฉินหลิวได้ เจ้ายังคงไร้เดียงสาคิดว่าเจ้ายอดเยี่ยมที่สุดในใต้หล้าเเห่งนี้ วันนี้เจ้าทำให้ข้าโกรธ เหล่าพี่น้องข้า บอกข้าที ข้าควรทำเช่นไรกับมันดี?"

 

"จัดการมัน!"

 

เสียงสนับสนุนดังสนั่น

 

หยางจ้านโบกมือมันและกล่าว "อย่าได้โทษข้า นี่เป็นข้อเรียกร้องจากพี่น้องของข้า การกระทำของเจ้าในวันนี้ชั่งขัดหูขัดตาพวกเรายิ่งนัก เดิมเราคิดว่าเจ้าหยางเฉิน เป็นเพียงสุนัขขี้ ตัวเจ้าก่อนหน้านี้เเลน่าดูยิ่งกว่านี้เสียอีก วันนี้ข้าจะใช้ความพยายามทั้งหมดเปลี่ยนแปลงเจ้าให้กลับเป็นเหมือนเดิม!"

 

"คิดจะจัดการข้า?หยุดพ่นวาจาเหลวไหลออกมาเหมือนเด็กน้อยไม่หัดโตเสียที คำพูดของเจ้าไม่ต่างอะไรไปกับการผายลม จริงสิ ไม่ใช่ว่าไม่ต่างเเต่เจ้ากลับนำกลุ่มคนมาผายลมเเละพ่นวาจาไร้สาระนี่สิถึงจะถูก!"

 

ประโยคสุดท้ายของหลงเฉินได้ผลักดันให้ฟางเส้นสุดท้ายของหยางจ้านขาดลงด้วยความโกรธ สำหรับมันที่ยืนอยู่ข้างบนเเละมองมาข้างล่าง หลงเฉินในใจของมันก็เหมือนกับตัวเหา และวันนี้มันได้ถูกทำให้อับอายขายหน้าโดยเหาตัวนี้ ซึ่งทำให้มันกลั้นอารมณ์โกรธที่เหมือนฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ไม่อยู่

 

"บัดซบ ไอ้สารเลว แกกำลังรนหาที่ตาย! ถ้าวันนี้ข้าไม่จัดการเจ้า ข้าจะไม่ขอใช้ชื่อหยางจ้าน!"

 

หลังจากคำพูดเหล่านี้ ปราณฉีของมันได้ระเบิดออกมา พลังของขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 4 สร้างความกดดันกดทับร่างกายของหลงเฉิน

 

"พวกเขากำลังเข้าสู้กัน!"

 

คนที่อยู่รอบๆกระจายกันออกไปทันที ที่ลานมีเพียงหยางจ้านและหลงเฉินยังคงอยู่

 

นี่อาจจะคล้ายภาพเดียวกันจากเมื่อคืน แต่ตอนนี้มันไม่สามารถจะทำให้ข้าถอยได้แม้เพียงครึ่งก้าว

 

ถึงแม้ว่าขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 4 จะแข็งแกร่ง แต่ความแข็งแกร่งของหลงเฉินในตอนนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหยางจ้านเลย ด้วยร่างกายที่แผ่กระจายแสงดาราออกมาจางๆ เพราะทักษะแก่นแท้สวรรค์ซึ่งถูกปรับแต่งโดยแสงดาราเมื่อคืนนี้ เขาไม่รู้สึกถึงแรงกดดันของฝ่ายตรงข้ามแม้เเต่น้อย

 

"เพียงแค่ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 2 เจ้ากลับต้องการเผชิญหน้ากับข้า ข้าจะทำให้เจ้าชดใช้ราคาสำหรับความโง่เขลาของเจ้า!"

 

หยางจ้านพุ่งไปข้างหน้าหลงเฉิน ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง ในระยะเวลาอันสั้นเขาได้ปลดปล่อยหมัดออกไปหลายครั้ง ซึ่งหลงเฉินหลบหลีกอย่างรวดเร็ว

 

"หึ หยางเฉินผู้นี้ดูไปก็พอมีความเเข็งเเกร่งอยู่บ้าง เดิมข้าคิดว่าเขามีเพียงเเค่ความกล้าหาญ อย่างไรก็ตามเมื่อพี่ชายหยางจ้านได้ลงมือแล้ว เขาจะต้องถูกทุบตีเหมือนหมูส่งเสียงร้องครวญคราง"

 

"เขามันก็เเค่คนโง่เขลาเท่านั้น"

 

ฝูงชนโดยรอบต่างหัวเราะลั่น เเละพูดคุยเกี่ยวกับการต่อสู้ที่เกิดขึ้น

 

หลังจากหลบการโจมตีของหยางจ้านได้อีกครั้ง หลงเฉินมองไปที่พวกมันอย่างดุร้ายและก่นด่าว่า "ก็แค่พวกโง่เขลาที่เกาะกันเป็นกลุ่ม!"

 

หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มแย้ม มองไปที่หยางจ้านแล้วกล่าวเยาะเย้ยว่า "หยางจ้าน เจ้าทำได้แค่นี้?"

 

หยางจ้านที่เผชิญหน้าในการต่อสู้ เขาแตกต่างจากพวกโง่เขลาในฝูงชน แม้ว่าหลงเฉินจะหลบหลีกอยู่ตลอดเวลา แต่การหลบหลีกของเขาแท้จริงแล้วเป็นเพราะความคล่องตัวของตัวเอง ไม่เพียงเท่านั้น หยางจ้านได้ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของมัน แต่ก็ยังไม่สามารถจะโจมตีฝ่ายตรงข้ามได้ จิตใจของมันแผดคำรามด้วยความตื่นตระหนก

 

"นี่มันไม่ถูกต้อง มันเป็นเพียงขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 2 แม้ว่าความคล่องตัวในการหลบหลีกของมันจะสูง แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้ใช้ทักษะใดใดมันกลับหลบข้าทุกการโจมตีได้อย่างไร?"

 

คิดถึงเรื่องนี้ หยางจ้านเองก็ไม่เข้าใจเเต่เขากลับยิ้มอย่างเย็นชาพร้อมกล่าว "เจ้ามันก็เเค่หนูขี้ขลาด เจ้ารู้แต่วิธีหลบหลีกเช่นนี้? ถ้าเจ้าเป็นบุรุษ ก็เข้ามาเผชิญหน้ากับข้าเเละเเสดงฝีมือของเจ้าออกมา!"

 

หลงเฉินหลังจากที่ต่อสู้มาสักพัก เขาเข้าใจขอบเขตพลังของหยางจ้านมากขึ้นเล็กน้อย ในแง่ของปริมาณฉี เขาด้อยกว่าอย่างแน่นอน

 

เเต่เนื่องจากเพราะเขาได้เรียนรู้ทักษะเเก่นเเท้สวรรค์ความเร็วของเขาเมื่อเทียบกับขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 3 ปกติ เขาแข็งแกร่งมากกว่าหลายเท่า การป้องกันของเขาเองก็ดียิ่งขึ้น ด้วยการมีสิ่งนี้รับประกัน ดวงตาของหลงเฉินสาดประกาย จากนั้นเขาจ้องมองไปที่หยางจ้านและตะโกนออกมาก่อนที่จะเหวี่ยงหมัดของเขา เข้าเผชิญหน้ากับหมัดของหยานจ้าน

"หมัดพยัคฒ์เหี้ยม!"

 

"หมัดพยัคฒ์เหี้ยม!"

 

พยัคฆ์ทั้งสองตัว ได้เข้าปะทะกันเสียงดังสนั่น!

 

ตู้มมมม!!

 

ทั้งสองฝ่ายต่างถอยหลังไปหลายก้าวจนประทับรอยเท้าแต่ละรอยบนพื้นกระเบื้องหิน เพียงเเต่ด้านหลังหยางจ้านมีรอยกระเบื้องหินที่แตกหัก!

 

"อะไรกัน มันมีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้ได้อย่างไร!?"

 

หยางจ้านในที่สุดก็ยืนได้อย่างมั่นคง และมองเห็นหลงเฉินที่ถอยหลังไปน้อยกว่ามัน มันปฏิเสธที่จะเชื่อสิ่งเหล่านี้ เเม้เเต่เหล่าพี่น้องตระกูลหยางรอยยิ้มของพวกเขาก็ถูกแช่แข็งในทันที ราวกับการโดนตบหน้า!

 

"เป็นอย่างไร? หมัดนี้พอจะเติมเต็มความกระหายของเจ้าได้หรือไม่? หยางจ้านหมัดพยัคฒ์เหี้ยมของเจ้าไม่นับเป็นอันใดสำหรับข้า!"

 

หยางจ้านรู้สึกหวาดกลัวอยู่ภายในจิตใจของมัน

 

เป็นไปได้อย่างไร!?

 

"เมื่อไม่กี่วันก่อน มันไม่ได้เป็นกระทั่งผู้ฝึกตน แต่มองไปที่มันตอนนี้ มันอยู่ในขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 3 มันสามารถที่จะเอาชนะเฉินหลิวได้ เป็นสิ่งยืนยันว่าก่อนหน้านี้มันได้ปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้ตลอด ไอ้เจ้านี่.. มันกลับสามารถต้านทานพลังของข้าที่อยู่ในขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 4 ได้?"

 

มองไปที่หลงเฉินที่ยิ้มอย่างใจเย็นจ้องมองมาที่เขา ความโกรธของหยางจ้านทำให้ร่างกายมันปกคลุมด้วยเพลิงโทสะ

 

"ไม่...เป็นไปไม่ได้ที่มันจะมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ มันจะต้องมีลูกเล่นอะไรอย่างเเน่นอน! มันอาจจะรู้จักทักษะพยัคฒ์เหี้ยม แต่สำหรับทักษะต่อไปที่ข้าจะใช้ไม่ว่ามันจะมีลูกเล่นอะไรก่อนหน้านี้ ข้าจะต้องจัดการมันในหมัดนี้ได้อย่างเเน่นอน!"

 

คิดได้ดังกล่าว หยางจ้านก็ตะโกนดังลั่น ราวกับดาวตก มันพุ่งเข้าหาหลงเฉิน พลังอันมหาศาลนี้ได้กดดันเหล่าพี่น้องตระกูลหยางจนร่นถอยออกไปทำให้พวกเขากล่าวว่า "พี่ชายหยางจ้านเป็นบุคคลพิเศษ เขายังได้เรียนรู้ทักษะระดับปฐพีขั้นกลางอีกด้วย มันเป็น[ทักษะหมัดดาวตก] ไอ้เจ้า หยางเฉินภายใต้ทักษะหมัดดาวตกนี้ เขาจะไม่เหลือแม้กระทั่งศพอย่างแน่นอน!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด