ตอนที่แล้วChapter 200: จุดเริ่มต้นของความผิดพลาดทั้งหมด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 202: หุ่นเชิดเวทย์มนตร์อันไร้เทียมทาน ส่วนที่ 2

Chapter 201: หุ่นเชิดเวทย์มนตร์อันไร้เทียมทาน ส่วนที่ 1


ตุบ!

ในที่สุดนักรบขวานคนสุดท้ายก็ล้มลง เขาได้ตายก่อนที่เขาจะล้มลงไปที่พื้นเสียอีก โมเรสเทิร์นถอนหายใจออกมายาวๆและเอามือไปดึงฮู้ดของผ้าคลุมที่ขาดวิ่นของเขาลงมา ในตอนนี้ กระดูกที่แตกหักและร่างกายของเขาที่ถูกนักรบขวานโจมตีมาก่อนหน้านี้ก็แทบจะพังลงพื้นแล้ว

“อา ถึงเวลาหาร่างกายใหม่แล้วสินะ” โมเรสเทิร์นพูด

แต่นี่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ เพราะเขาได้ฆ่าคนเกือบทั้งหมดของโดเรียนไปแล้ว หลังจากที่เขาออกไปจากที่นี่ได้ เขาเพียงแค่ไปหาที่ปลอดภัยและพักผ่อนซักพักนึง จากนั้นพอเขาฟื้นตัวขึ้นมาได้เล็กน้อยก็ค่อยกลับมาฆ่าโดเรียน แล้วพระราชวังใต้ดินก็จะตกเป็นของเขา

นี่มันค่อนข้างเกินกว่าที่ข้าคาดการณ์เอาไว้นะเนี่ย โมเรสเทิร์นคิด

เขามองไปที่ซากศพที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นและเขาก็อดที่จะภูมิใจในตัวเองไม่ได้  เขาไม่ได้ออกข้างนอกมากว่า 100 ปีแล้ว;ใครจะไปคิดหล่ะว่าเขายังคงฟิตปั๋งอยู่?

หลังจากพักผ่อนเล็กน้อย โมเรสเทิร์นก็เดินไปที่ทางออกและเตรียมตัวที่จะออกจากพระราชวังใต้ดิน ป้อมเงายังคงทำงานอยู่ แต่ว่ามันคงไม่มีปัญหาอะไรสำหรับเขาที่จะยกเลิกมันในตอนนี้  เพราะว่ามันไม่มีใครอีกแล้วในที่นี้ที่จะมาขัดขวางเขาได้

มานาในร่างกายของเขานั้นเกือบหมดแล้วในตอนนี้ ดังนั้นโมเรสเทิร์นจึงเอาขวดน้ำยาเรืองแสงออกมาและกินมันหมดในอึกเดียว มันคือยามานาระดับสูงซึ่งมีผลรุนแรงในการฟื้นฟูร่างกายที่มานาเกือบจะหมดแล้วให้กลับมาเต็มอีกครั้ง จากนั้นเขาก็หยิบคทาของเขาขึ้นมาแล้วส่งมานาผ่านโครงกระดูกไปที่หัวของคทาทำให้เกิดการผันผวนของมานาอันรุนแรงที่ทางเดิน

โมเรสเทิร์นนั้นคิดจะใช้มานาที่เหลืออยู่ในร่างกายทั้งหมดในการร่ายเวทย์โจมตีเลเวล 7 ที่อยู่ในคทาของเขาเพื่อที่จะทำลายป้อมเงา แต่พอกระบวนการร่ายเวทย์ดำเนินไปได้แค่ครึ่งเดียว ก็มีความคิดนึงผุดขึ้นมาในหัวของโมเรสเทิร์นซึ่งทำให้เขาหยุดในทันที

 

ถ้าเกิดว่าคนพวกนั้นรอข้าอยู่ที่ด้านนอกล่ะ? เขาคิด มันก็จะเป็นการฆ่าตัวตายสินะถ้าเกิดว่าข้าใช้เวทย์เลเวล 7 ในตอนนี้?

พอเขาคิดเกี่ยวกับมัน โมเรสเทิร์นก็กัดฟันของเขาแล้วตัดสินใจที่จะนั่งลงตรงนี้แทนที่จะออกไปข้างนอก เขารู้ว่ามีคน 3 คนรอที่จะโจมตีเขาอยู่ และหนึ่งในพวกเขาก็เป็นจอมเวทแห่งความมืดที่แข็งแกร่งที่อยู่ในพระราชวังใต้ดินนี้จริงๆ ในขณะเดียวกันนั้น, ลูกน้องของโดเรี่ยนก็ถูกจัดการหมดแล้ว ดังนั้นจึงเหลือเพียงโดเรี่ยนเท่านั้นที่จะต้องจัดการด้วย

ร่างกายของเขาอ่อนแอมากในตอนนี้ ดังนั้นมันต้องไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ๆหากจะไปต่อสู้กับโดเรี่ยน แผนการที่ดีที่สุดสำหรับเขานั้นก็คือการรออยู่อย่างเงียบๆ, ฟื้นฟูพลังของเขาและไม่ไปกระตุ้นความสงสัยของโดเรี่ยนเพื่อไม่ให้เขาออกมา

พอเขาคิดได้อย่างนั้น โมเรสเทิร์นก็หลับตาลงและเข้าสู่สถานะทำสมาธิครึ่งนึงเพื่อที่จะเร่งอัตราการฟื้นฟูร่างกายของเขา

แต่ว่าในตอนนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากส่วนลึกของพระราชวังใต้ดิน

ตุบ...ตุบ....ตุบ...

เสียงฝีเท้านั้นเบาและสม่ำเสมอ และเสียงของมันก็ไม่ได้ดูเร็วขนาดนั้น

โมเรสเทิร์นถึงกับตกตะลึง เขาลืมตาขึ้นมาในทันทีและเห็นสิ่งที่มีรูปร่างผอมเดินออกมาจากทางเข้าใหญ่ ร่างตะคุ่มๆนั้นมีความสูงประมาน 5 ฟุต 6 นิ้ว รูปร่างของเงานั้นค่อนข้างผอมและดูเหมือนผู้หญิงมาก; จุดที่น่าสงสารที่สุดก็คือส่วนหน้าอกของมันที่แบนมากๆ โมเรสเทิร์นสามารถสังเกตุได้ว่าเธอนั้นสวมชุดเดรสยาวและถูกปกคลุมด้วยเกล็ดที่เป็นประกาย ในขณะที่แขนของเธอกำลังถือดาบยาว 4 ฟุตอยู่ พอเขามองไปที่ใบหน้าของเธออีกครั้งเขาก็สังเกตเห็นว่าผิวของเธอนั้นใสและเรียบเนียนเหมือนกับเครื่องถ้วยชาม และหน้าตาของเธอก็ไร้ที่ติ ดวงตาสีดำของเธอนั้นเป็นประกายน่าดึงดูด...อา นี่มันคือความสวยงามที่แท้จริง!

“เจ้าคือ...?” โมเรสเทิร์นถามด้วยความงุนงง

เขาไม่ใช่คนที่จะถูกใครบางคนที่ปรากฏตัวออกมาอย่างโดดเด่นหลอกเอาได้ง่ายๆ แน่นอนว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นสวยงามจริงๆ แต่ที่น่าแปลกก็คือ เขาไม่สามารถสัมผัสออร่าพลังงานชีวิตจากตัวเธอได้เลย เว้นเสียแต่ความผันผวนของมานาที่ออกมาจากร่างของเธอ หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ เธอนั้นไม่ได้ต่างอะไรกับก้อนหินที่มีชีวิตเลย

ใบหน้าของหญิงสาวนั้นไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมาเลยในตอนที่เธอเดินมาหาโมเรสเทิร์นแบบไม่ช้าและก็ไม่เร็ว ในตอนที่เธออยู่ห่างจากเขาประมาณ 160 ฟุต เธอก็พูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน

“เป้าหมาย: นักเวทย์วูดู ความสูง: 5 ฟุต 8 นิ้ว น้ำหนัก: 150 ปอนด์ จุดเด่น: เวทย์ลึกลับ ระดับภัยคุกคาม: 2 ดาว”

“…?” โมเรสเทิร์นไม่เข้าใจว่าเธอพูดถึงอะไรและทำได้แค่นั่งนิ่งอยู่กับที่ แต่ว่าเขาก็เตรียมพร้อมที่จะปล่อยการโจมตี ในตอนที่เขามั่นใจว่าหญิงสาวคนนี้จะเป็นภัยคุกคามแก่เขา

เขาเปิดใช้บาเรีย 3 ด้าน, ยกคทาของเขาขึ้นมาแล้วชี้ไปที่หญิงสาวและร่ายเวทย์ “สลายธาตุ!”

แผ่นโปร่งแสงของมานาที่เหมือนกับน้ำได้พุ่งออกไปหาหญิงสาวที่แปลกประหลาดคนนี้

ชิ้ง!

อยู่ๆร่างกายของหญิงสาวก็เบลอ และเธอก็งอตัวไปด้านหลังจนร่างกายของเธอแทบจะแนบกับพื้นและหลบสลายธาตุด้วยความเร็วอันไม่น่าเชื่อ

ไหงเธอถึงเร็วขนาดนั้นได้หล่ะเนี่ย! โมเรสเทิร์นคิด  ถึงแม้ว่าเขาจะดูไม่ตื่นตระหนกเลยก็ตาม แต่ถ้าเกิดว่าผู้หญิงคนนี้สามารถหลบการโจมตีจากระยะไกลได้ แล้วถ้าเป็นการโจมตีแบบระยะกว้างหล่ะ?

“ใยแมงมุม!” โมเรสเทิร์นตัดสินใจที่จะโยนใยในครั้งนี้เพื่อที่จะทำให้เธอช้าลง

ในจังหวะที่แสงสีขาวของเวทย์มนตร์ปรากฏขึ้น โมเรสเทิร์นก็รู้สึกตัวได้ในทันทีว่าหญิงสาวนั้นได้หายตัวไปแล้ว!

“เธอหายไปไหน?” โมเรสเทิร์นพูดด้วยความงุนงง

จากนั้น เขาก็รู้สึกเย็นวาปที่หน้าผากของเขาเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างที่เย็นๆมาเจาะกะโหลกของเขา ในตอนสุดท้ายนั้นเอง เขาก็เห็นใบหน้าอันสวยงามของหญิงสาวอยู่เบื้องหน้าของเขา ภาพสุดท้ายที่อยู่ในใจของเขาก็คือดวงตาอันสดใสและเย้ายวนของเธอ

มันเป็นไปได้ยังไง?ทำไมบาเรียป้องกันของข้าถึงไม่ได้ผล?

 

นั่นคือความคิดสุดท้ายในหัวของโมเรสเทิร์น เขาตายในทันทีหลังจากนั้น และเวทย์ใยแมงมุมก็หายไปพร้อมกับเขา

“ภารกิจสำเร็จ เป้าหมายถูกกำจัด” หญิงสาวพูด เสียงของเธอนั้นบริสุทธ์และไร้เดียงสาเหมือนกับนกลาร์ค จากนั้นเธอก็หันหลังกลับและเดินกลับเข้าไปในพระราชวังใต้ดิน

ตุบ...ตุบ....ตุบ....

เธอเดินไปอย่างไม่รีบร้อน เหมือนกับว่าเธอกำลังมีความสุขไปกับการเดินเล่นในสวนสาธารณะในตอนกลางวัน

ผลั่ก!!

ร่างของโมเรสเทิร์นล้มลงกับพื้น เขาตายแล้ว ด้วยน้ำมือของศัตรูที่ไร้ชื่อ

...

ที่ด้านนอกของพระราชวังใต้ดิน

“โมเรสเทิร์นตายแล้ว” แวนซ์พูดขึ้นมา เขาได้ติดตามสถานการณ์ภายในพระราชวังใต้ดินอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด

ก่อนหน้านี้เขาได้ทิ้งรูนตรวจจับเอาไว้ด้านในเป็นจำนวนมาก ซึ่งรูนพวกนี้ได้บอกเขาว่าออร่าพลังชีวิตของนักเวทย์วูดูเลเวล 7 ที่ทรงพลังนั้นได้หายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

“เขาถูกหุ่นเชิดเวทย์มนตร์ฆ่าอย่างงั้นหรอ?” ลิงค์ถาม

แวนซ์พยักหน้าของเขา “ข้าคิดว่าอย่างนั้นนะ” เขาพูด “ถ้าเกิดว่ารูนไม่ได้ผิดพลาด  น่าจะมีนักสู้เพียงแค่สองคนที่เหลืออยู่ในพระราชวังใต้ดิน คนนึงก็คือโดเรียนและอีกคนก็คือหุ่นเชิดเวทย์มนตร์”

“พวกเราบุกเข้าไปข้างในตอนนี้เลยได้ไหม?”เซลีนถาม

“ตอนไหนก็ได้” แวนซ์ตอบ, จากนั้นแวนซ์ก็มองไปทางพระราชวังใต้ดินและเห็นว่าป้อมเงาของโมเรสเทิร์นยังคงอยู่ที่นั่น “มันต้องใช้มานาในการคงสภาพป้อมเงาเอาไว้ ตอนนี้โมเรสเทิร์นตายแล้วอีกไม่นานมันคงพังลง พวกเราควรจะรออีกซักพักนึง”

ลิงค์ได้ใช้โอกาสนี้ในการถามคำถามแวนซ์เกี่ยวกับคำถามที่ติดอยู่ในใจของเขา

“หุ่นเชิดเวทย์มนตร์ที่คุณพูดถึงดูแข็งแกร่งมากเลยนะ” เขาพูด “บอกผมเกี่ยวกับมันมาให้มากกว่านี้หน่อยสิ”

“ได้สิ แน่นอนว่าเธอแข็งแกร่งมาก!” แวนซ์ตะโกนด้วยความภาคภูมิใจอย่างเห็นได้ชัด “เธอชื่อว่านานะ ร่างกายของเธอสร้างขึ้นด้วยทองของจิ๊บที่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำและสูงมากๆได้ เธอนั้นใกล้เคียงกับคำว่าไม่สามารถทำลายได้ ผนึกเวทย์มนตร์ในร่างกายของเธอนั้นทำขึ้นมาจากทอเรียมทองที่เป็นสื่อนำมานาที่ดีที่สุดในโลก แถมข้ายังใส่ผนึกความทรงจำเวทย์มนตร์โซลอนลงไปในสมองของเธอถึง 1,028 ยูนิตด้วยเพื่อให้เธอสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์การต่อสู้ และวิวัฒนาการจนทำให้เธอเก่งขึ้นได้เรื่อยๆ...”

“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน” เซลีนพูดแทรก “ฉันแทบไม่เข้าใจที่คุณพูดเลย คุณช่วยพูดให้ง่ายกว่านี้หน่อยได้ไหม?”

“โอเค ถ้างั้น” แวนซ์พูด “เธอมีจุดแข็งสองอย่าง อย่างแรกคือความเร็วของเธอ เธอเร็วมากๆ ปกติเธอมักจะเดินแบบธรรมดาเหมือนเดินเล่น แต่ถ้าเธอต้องการ เธอสามารถเร่งความเร็วของเธอให้ถึงจุดสูงสุดได้และสามารถเคลื่อนที่ได้ 25 ไมล์ต่อวินาที”

เซลีนถึงกับกลืนน้ำลายในตอนที่ได้ฟังการเปิดเผยนี้  ตอนนี้เธอเป็นนักรบเลเวล 6 และสามารถพิจารณาได้ว่าเป็นหนึงในนักรบที่เก่งที่สุดในทวีป แต่ต่อให้เธอกางปีกของเธอออกและพุ่งไปในอากาศ ความเร็วของเธอก็ไม่ได้เร็วไปกว่า 10 ไมล์ต่อวินาที ซึ่งนั่นหมายความว่าเธอช้ากว่านานะถึง 4 เท่า!

แม้แต่ลิงค์เองก็ตะลึงและไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“นั่นมันเร็วกว่าเสียงอีกนะ!” เขาอุทาน “คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่ได้พูดเกินจริง?”

“ข้าไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก!” แวนซ์พูด เขายิ่งดูภูมิในในสิ่งประดิษฐ์ของเขาขึ้นไปอีก “ความจริงแล้ว นั่นคือความเร็วของเธอเมื่อ 400 ปีที่แล้ว! อย่าลืมนะว่านานะสามารถวิวัฒนาการให้เก่งขึ้นได้ ข้าไม่ค่อยอยากจะบอกเลย แม้แต่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเธอนั้นเร็วขึ้นมากแค่ไหนในตอนนี้ ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำไมข้าถึงต้องเตือนเธอ เซลีน เธอจะต้องป้องกันเท่านั้น อย่าพยายามที่จะโจมตีเธอหล่ะ!”

เซลีนมองบนให้กับคำพูดของลิซ เธอไม่ได้โง่หรือบ้าพอที่จะไปพยายามโจมตีสัตว์ประหลาดที่รวดเร็วขนาดนั้น นอกเสียจากว่าเธอต้องการที่จะตาย!

“แล้วจุดแข็งที่สองของเธอหล่ะ?” ลิงค์ถาม

“จุดแข็งที่สองของเธอก็คือการโจมตีจุดอ่อนของศัตรู” แวนซ์พูด เนื่องจากกลัวว่าทั้งสองจะไม่เข้าใจศัพท์เทคนิค แวนซ์จึงใช้นิ้วกระดูกของเขาวาดผนึกเวทย์มนตร์ง่ายๆลงบนพื้น

“ดูนี่นะ” เขาพูด “นี่คือเวทย์ป้องกันเลเวล 0 โล่ธรรมดา พอร่ายเวทย์ โล่แสงก็จะปรากฏขึ้นรอบๆตัวของผู้ร่ายใช่มั้ย?”

ทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน

“ถ้ามองไปที่พื้นผิวของมัน” เขาพูดต่อ “โล่แสงนี้ดูเรียบและเป็นระเบียบ แต่ความเป็นจริง มันจะมีบางจุดของโล่ที่มันเปราะบางกว่าส่วนอื่นๆ...ตามทันใช่ไหม?”

เซลีนขมวดคิ้วเพราะว่าเธอไม่เข้าใจมัน ความรู้พื้นฐานในด้านเวทย์มนตร์ของเธอนั้นมีไม่มาก ในอีกด้านนึงลิงค์พยักหน้าอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าเขาจะขมวดคิ้วด้วยก็ตาม

“จุดที่มีความแข็งแกร่งแตกต่างกันนั้นมันมีอยู่ก็จริง” เขาพูด “แต่ว่าปกติพวกมันไม่เสถียรและอยู่ได้ไม่นาน จุดอ่อนทุกที่ไม่สามารถอยู่ได้นานไปมากกว่า 0.0001 วินาทีหรอก แล้วนานะสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนั้นได้ยังไง?”

แวนซ์พยักหน้าให้กับคำถามของลิงค์

“ความจริงที่ว่าความเร็วของเธอนั้นสามารถไปถึง 25 ไมล์ต่อวินาทีได้” เขาเริ่มอธิบาย “นั่นก็พิสูจน์แล้วว่าเธอนั้นมีการตอบสนองที่เร็วมากๆ ความจริงก็คือ เมื่อ 400 ปีที่แล้ว ความเร็วในการตอบสนองของเธอก็คือ 0.002 วินาที”

“เร็วขนาดนั้นเลยหรอ?” ลิงค์ถาม เขาตกใจมาก

ตั้งแต่ที่มาที่โลกนี้  ข้อได้เปรียบที่ทรงพลังที่สุดของลิงค์ก็คือความเร็วในการคิดที่น่ากลัวของเขา เขาเคยวัดว่าขีดจำกัดของมันอยู่ที่ประมาณ  0.001 วินาที และเขาก็ไม่สามารถรักษาสถานะนั้นได้นานกว่า 2 วินาที และตอนนี้เขาก็พบกับหุ่นเชิดที่มนุษย์สร้างขึ้นที่มีความเร็วการตอบสนองพอๆกับเขา! เขาต้องยอมรับในจุดนี้ว่าแวนซ์นั้นคืออัจฉริยะที่ควรจะภูมิใจในสิ่งประดิษฐ์ของเขาจริงๆ

“ลิงค์” เซลีนพูด “ฉันคิดว่าฉันเริ่มกลัวมันหน่อยๆแล้ว” แม้ว่าเธอจะไม่ได้เข้าใจในความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดแบบละเอียดจริงๆ แต่เธอก็ยังคงรู้สึกว่าความเร็วในการตอบสนอง 0.002 วินาทีและความเร็วในการเคลื่อนที่ 25 ไมล์ต่อวินาทีนั้นแค่คิดก็น่ากลัวแล้ว

เธอคงไม่มีหวังที่จะสู้หรือป้องกันตัวเองกับสิ่งที่มีความเร็วขนาดนั้น เธออาจจะถูกฆ่าภายในเสี้ยววินาทีโดยที่ยังไม่รู้ว่าเธอโดนอะไรด้วยซ้ำ!

“ไม่ต้องกังวลนะ” ลิงค์พูดหลังจากคิดอยู่ซักพักนึง “ฉันจะปกป้องเธอจากด้านหลังเอง”

พวกเขามีกัน 3 คนและหนึ่งในนั้นก็คือลิซ 1,000 ปีเลเวล 7 ที่เป็นคนสร้างหุ่นเชิดเวทย์มนตร์ขึ้นมาเอง ถูกไหม? ความเร็วในการคิดของลิงค์เองก็เร็วมากเช่นกัน ดังนั้นเขาน่าจะสามารถปกป้องเซลีนได้อย่างไม่มีปัญหา

“ถ้างั้นก็โอเค” เซลีนพูด เธอรู้ว่าลิงค์ไม่เคยให้สัญญาลมๆแล้งๆ ดังนั้นตอนนี้เขาได้ให้สัญญากับเธอแล้ว เธอจึงรู้สึกโล่งใจ

ในตอนนั้นเอง แสงสีน้ำเงินอ่อนในพระราชวังใต้ดินก็ส่องแสงสว่างจ้าออกมา-ป้อมเงาได้พังลงแล้ว

“ถึงเวลาแล้ว” แวนซ์พูด “ไปกันเถอะ”

แวนซ์ร่ายเวทย์ไร้ร่องรอยใส่พวกเขาทั้งสามอีกครั้งและเดินนำสองคนที่เหลือเข้าไปในพระราชวังใต้ดิน เซลีนจับดาบไพลินของเธออย่างแน่นหนาและเดินตามหลังลิซไปอย่างใกล้ชิด ลิงค์เป็นคนสุดท้ายที่ตามหลังเซลีน ทั้งสามคนได้ตั้งสติเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับหุ่นเชิดเวทย์มนตร์ที่ไร้เทียมทานแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด