ตอนที่แล้วตอนที่ 190 บังคับซื้อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 192 ไปที่สมาคมวารีล้างปฐพีเพื่อเดินเล่น

ตอนที่ 191 หินบุปผาทองคำ


หลิงฮันกะเทาะหินและแสงสีทองเริ่มส่องสว่างออกมามายิ่งขึ้น ก่อนที่มันจะกลายเป็นดวงแสงอันเจิดจ้าที่สว่างมากจนผู้คนไม่อาจลืมตาจ้องมองมันได้

แต่แล้วแสงสีทองก็ซีดลงและมัวหมองลงอย่างรวดเร็ว และในมือของหลิงฮันได้ปรากฏพืชสีทองบางอย่าง มันดูคล้ายกับดอกเบญจมาศที่ส่องแสงแวววับและโปร่งแสงที่มีความงามสุดจะพรรณนาได้

"หืม!"

"อ๊าก!"

"โอ้ว!"

ทุกคนตะโกนร้องออกมาด้วยความตกใจ มันมีวัตถุแปลกประหลาดบางอย่างกำลังเติบโตอยู่ในหิน ไม่สำคัญว่ามันคืออะไร มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก

"คืนมันให้กับข้า!" พ่อค้าแผงลอยตะโกนออกมาพร้อมกับนัยน์ตาที่แดงก่ำ แม้ว่ามันจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันสามารถคาดเดาได้ว่ามันเป็นพืชที่เติบโตอยู่ในหินและไม่ใช่ของที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินสองพันเหรียญเงิน

ตอนนี้มันเข้าใจแล้วว่า ก่อนหน้านี้หลิงฮันแกล้งทำเป็นหวาดกลัวต่อมัน และเพ่งเล็งมาที่ก้อนหินก้อนนี้

หลิงฮันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นและถามฮูหนิวว่า "หนิวหนิว เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่คืออะไร?"

ฮูหนิวสูดดมกลิ่นของมันและทันใดนั้นสีหน้าของนางกลายเป็นไม่แยแสแล้วกล่าวว่า "มันไม่อร่อย!"

หลิงฮันหัวเราะออกมาเสียงดังและกล่าวว่า "สิ่งนี้เรียกว่าหินบุปผาทองคำ มันเกิดขึ้นจากการรวบรวมพลังวิญญาณจากรอบตัวมันและสามารถเติบโตได้แค่ภายในหินเก้าพิษ มันมีประสิทธิภาพในการรักษาพิษ เพียงแค่กลีบเล็กๆของมันก็เพียงพอที่จะรักษาพิษได้มากมายในโลกใบนี้ ส่วนก้านของมันมีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งยิ่งกว่า มันสามารถรักษาพิษได้ทุกชนิด"

"น้องชาย หินบุปผาทองคำนี่มันมีมูลค่ามากถูกต้องหรือไม่?" ฝูงชนคนหนึ่งถาม

"แน่นอน" หลิงฮันพยักหน้า "มันเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับจอมยุทธหากเข้าไปในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยพิษ และเพียงแค่กลีบของหินบุปผาทองคำกลีบเดียวเข้าไปในปากของใครมันจะช่วยให้คนผู้นั้นต้านพิษได้หลากหลายชนิด บอกข้ามาว่าเจ้าคิดว่ามันมีมูลค่ามากแค่ไหน?"

"หนึ่งกลีบมีมูลค่าหนึ่งหมื่นเหรียญเงิน?" ใครบางคนถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน

"หนึ่งหมื่นเหรียญเงิน?" หลิงฮันส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้มและกล่าวว่า "สถานที่ใดที่เต็มไปด้วยอันตรายมันจะมีรางวัลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่รอคอยอยู่ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากต้องจ่ายหลายล้านหรือแม้กระทั่งหลายสิบล้านเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางดังกล่าว ด้วยเหตุนี้กลีบของมันกลีบเดียวควรจะมีมูลค่าหนึ่งแสนเหรียญเป็นอย่างต่ำ"

ฝูงชนต่างถอนหายใจออกมา ราคาอย่างน้อยหนึ่งแสนเหรียญ...นั่นเป็นราคาที่น่าสะพรึงกลัวมากเพราะหินบุปผาทองคำมันมีกี่กลีบกัน? อย่างน้อยที่สุดมันมีหลายร้อยกลีบ...ดังนั้นมูลค่าของมันจึงมากกว่าสิบล้าน!

ยิ่งไปกว่านั้น ก้านของมันยังสามารถรักษาพิษได้ทุกอย่างจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มูลค่าของมันจะเพิ่มขึ้น

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเด็กเหลือขอ เอาหินบุปผาทองคำของข้าคืนมา" พ่อค้าฟังหลิงฮันพูดอธิบายเช่นเดียวกัน และตอนนี้มันรู้คุณค่าของหินบุปผาทองคำแล้ว ทำให้มันรู้สึกตกตะลึงและรู้สึกยินดีในเวลาเดียวกัน และมันได้แอบหัวเราะหลิงฮันอยู่ในใจเพราะความโง่เง่าของเขาที่เปิดเผยความจริงของหินบุปผาทองคำในที่สาธารณะ ครั้งนี้มันกำลังจะทำเงินได้มหาศาล

"สมองของเจ้ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" หลิงฮันยิ้มออกมาอย่างเฉยเมย "สิ่งนี้มันเป็นของข้าแล้ว ดังนั้นมันเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า?"

"นี่คือเงินของเจ้า เอาของข้าคืนมา!" พ่อค้าโยนสัญญาเงินตราสองแผ่นให้กับหลิงฮัน "เอาล่ะ เอาหินบุปผาทองคำของข้าคืนมา!"

"การแลกเปลี่ยนของพวกเรามันเสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นของข้า และข้าก็ไม่มีเจตนาที่จะขายมันคืนให้กับเจ้า" หลิงฮันกล่าวอย่างจริงจัง

"ฮ่าฮ่าฮ่า ใครมันจะกล้าไม่ขายสิ่งที่ข้าหย่วนซื่อจงต้องการ?" พ่อค้ายิ้มเย้ยออกมาและเหยียดมือออกไปที่ลำคอของหลิงฮัน

ฮูหนิวเคลื่อนไหว หนึ่งการตบตีของนางทำให้หย่วนซื่อจงกระเด็นออกไปทันทีและชนเข้ากับกำลังก่อนที่มันจะตกลงมาอย่างช้าๆและหมดสติ

ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ เด็กหญิงตัวเล็กที่มีอายุประมาณ 5-6 ปีมีพละกำลังแบบนั้นได้อย่างไร?

หลิงฮันคว้าเศษผ้าขึ้นมาและห่อหินบุปผาทองคำไว้ในเศษผ้า ในพื้นที่สาธารณะแบบนี้เขาไม่กล้าที่จะเปิดเผยแหวนมิติของเขา จากนั้นเขาได้หันไปมองอันธพาลทั้งสี่คนและถามด้วยรอยยิ้มว่า "พวกเจ้าวางแผนที่จะแย่งชิงมันไปจากข้าด้วยหรือไม่?"

ชายทั้งสี่คนรีบส่ายหัวของพวกมันทันที และปรากฏชั้นเหงื่ออันหนาวเย็นบนหน้าผากของพวกมัน

หย่วนซื่อจงเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกมันทั้งห้าคน มันอยู่ระดับหลอมกายาขั้นแปดและตอนนี้มันได้หลับหมดสติโดยฝีมือของเด็กสาว ดังนั้นพวกมันจึงคาดเดาได้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของพวกมันจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่า

เจ้าเด็กนี่มันจงใจทำเป็นหวาดกลัวและพยายามที่จะเล่นกับพวกมันเท่านั้น ตอนนี้ พวกมันได้ขายสมบัติที่ล้ำค่าออกไปด้วยราคา 2000 เหรียญ เมื่อใดก็ตามที่พวกมันนึกถึงเรื่องนี้ในอนาคต พวกมันจะต้องรู้สึกเสียใจและโศกเศร้าอย่างรุนแรงถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย สำหรับพวกมันแล้ว นี่เป็นการลงโทษที่หนักที่สุด

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าเด็กเหลือขอนี่เปิดเผยหินบุปผาทองคำในที่สาธารณะเพราะมันต้องการที่จะยั่วยุพวกเขา

หลิงฮันจับมือฮูหนิวและเดินจากไป หลิ่วอู๋ตงได้ยิ้มออกมาเพราะนางรู้ว่าหลิงฮันต้องสังเกตเห็นอะไรบางอย่างในก้อนหินเขาถึงทำตัวเช่นนั้นออกมา

ผู้ใหญ่สองคนและเด็กหนึ่งคนจากไปอย่างรวดเร็วและทิ้งความรู้สึกอิจฉาและความประทับใจให้กับฝูงชน

"พี่ใหญ่ซื่อจง!" อันธพาลทั้งสี่คนรีบไปช่วยหย่วนซื่อจงทันที หลังจากที่หยิกหย่วนซื่อจงและเทน้ำเย็นใส่มัน ในที่สุดพวกมันก็ปลุกหย่วนซื่อจงตื่นขึ้นมาได้

"อ๊ากกก!" หย่วนซื่อจงตะโกนดังลั่น "สมบัติของข้า!" มันกระโดดขึ้นมาจากพื้นทันทีและตระหนักว่ามีผู้คนจำนวนมากกำลังจ้องมองมาที่มันด้วยความเพลิดเพลินกับความโชคร้ายของมัน มันจึงอดที่จะโกรธเกรี้ยวไม่ได้และยังรู้สึกอับอาย

"พี่ใหญ่ซื่อจง ตอนนี้พวกเราควรทำอะไรดี?" อันธพาลทั้งสี่คนถาม

หย่วนซื่อตงขบคิดอยู่ชั่วครู่แล้วกล่าวออกมาว่า "พวกเจ้าสองคนตามเจ้าเด็กเหลือขอนั่นไปและไปดูว่ามันไปที่ไหน ส่วนพวกเจ้าอีกสองคนกลับไปกับข้าและขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสอ้าย!"

"แต่ว่า พี่ใหญ่ซื่อจง ถ้าพวกเราขอให้หัวหน้าอ้ายช่วย ส่วนแบ่งส่วนใหญ่จะต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน!" หนึ่งในอันธพาลกล่าว

เพียะ หย่วนซื่อจงตบหน้ามันและตำหนิมันว่า "เจ้าบ้าหรือเปล่า? ถ้าพวกเราไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหัวหน้าอ้ายจัดการกับเจ้าเด็กเหลือขอนั่น พวกเราก็จะไม่ได้รับอะไรเลย ถ้าผู้อาวุโสอ้ายนำสมบัติของพวกเรากลับมาได้ อย่างน้อยพวกเราก็ต้องได้รับอะไรบ้าง"

"ใช่แล้ว ใช่แล้ว พี่ใหญ่ซื่อจงชาญฉลาดยิ่งนัก" อันธพาลทั้งสี่คนพยักหน้าเห็นด้วย

"เช่นนั้นไปกันได้แล้ว!" หย่วนซื่อจงจ้องมองพวกมัน

"แล้วของที่เหลืออยู่ที่นี่ล่ะ?" หนึ่งในอันธพาลชี้ไปที่แผงลอย

"พวกมันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายนัก ยิ่งไปกว่านั้น ใครมันจะกล้าขโมยของของข้า?"

จากนั้นพวกมันทั้งห้าคนต่างออกไปทำภารกิจของตัวเองทันที โดยที่มีสองคนเดินตามหลิงฮัน ในขณะที่อีกสามคนออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือ

"นายน้อยฮันมีใครบางคนกำลังตามพวกเราอยู่" หลิ่วอู๋ตงกล่าวออกมาอย่างกระทันหัน

"ปล่อยให้พวกมันตามมา แล้วข้าจะค่อยจัดการพวกมันทีเดียว" หลิงฮันกล่าวพร้อมกับยิ้มออกมา

"ฮูหนิวอยากตบตีพวกมันสิบคนเลย!" ฮูหนิวกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น เด็กหญิงตัวน้อยเติบโตมาพร้อมกับสัตว์อสูรและนิสัยดุร้ายจึงเป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกภาพของนาง นางเป็นคนที่ชอบความรุนแรงเป็นอย่างมาก

"ก็ได้ก็ได้!" หลิงฮันหัวเราะออกมา มันมีรากฐานวิญญาณอันแปลกประหลาดอยู่ในร่างกายของเด็กหญิงตัวน้อย ในอนาคต แม้แต่โลกทั้งใบอาจจะต้องสั่นคลอนเพราะนางมากกว่าที่นางตบตีคนสิบคนเสียอีก

หลิงอู๋ตงหดม่านตาลงเล็กน้อย หลิงฮันสอนฮูหนิวแบบนี้...ไม่ใช่ว่าเขาตามใจฮูหนิวไปหน่อยหรือ?

ขณะที่พวกเขากำลังเดิน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหอกองทัพสวรรค์

มันเป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวามาก มีห้องโถงใหญ่อยู่และมีจัตุรัสล้อมรอบอยู่ทุกด้าน มีคนจำนวนมากอยู่ในจัตุรัสนี่ และมีแม้แต่บางคนที่ยืนถือป้ายรับสมัครเพื่อสร้างกลุ่มเพื่อทำภารกิจ

หลิงฮันยิ้มออกมาและกล่าวว่า "พวกเราเองก็ทำป้ายเพื่อรับสมัครคนเหมือนกันเถอะ!"

พวกเขาไม่คิดเลยว่าการซื้อป้ายจะมีราคาแพงมาก คนขายเสนอราคาถึงสิบเหรียญเงิน หลิงฮันไม่คิดอะไรมาก แต่หลิวอู๋ตงไม่อยากใช้เงินไปอย่างไร้ค่าและจ้องมองคนขายด้วยความเกรี้ยวกราดอยู่ชั่วครู่

จากนั้นหลิงฮันเริ่มเขียนข้อความลงไปบนป้ายของเขา แล้วฝูงมันไว้กับหิน

ทันใดนั้น เขาเริ่มกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด