ตอนที่แล้วChapter 44 - ขูดรีด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 46 - การโทรมาของแอนนี่

Chapter 45 - เรื่องตลก


Chapter 45 ---- เรื่องตลก

ไม่กี่วันต่อมาก็อย่างที่ เอริค คาดเอาไว้ Los Angeles Daily ได้เผยถึงรูปของ จูเลีย ที่ออกจากบ้านของเขาและพูดถึงรายละเอียดของ ' ความดุร้าย ' ที่เขาได้จัดขึ้นที่บ้าน มันพูดถึงทีมงานของ Home Alone ที่อยู่ที่นี่แต่เน้นเรื่อง ' สาวๆ ' ที่เข้าร่วมงาน

หนังสือพิมพ์บางอันนั้นตามข่าวนี้แต่เพราะพวกเขาไม่ได้มีอะไรให้เขียนต่อ พวกเขาจึงเริ่มวิจารณ์เรื่องพฤติกรรมของ เอริค เปลี่ยนจากเด็กหนุ่มผู้มีแรงบันดาลใจเป็นเพล์บอยที่ทิ้งแฟนสาวไปหาเด็กที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์

"... เอริควิลเลียบม น่ะเป็นเด็กหนุ่มที่มีประสวรรค์จริงๆแต่หลังจากที่ได้รับเงินมามากมายได้ง่ายๆ เด็กหนุ่มนั่นก็เริ่มตกต่ำลง...."

" ...หลังจากที่ทิ้งแฟนสาวและนอนกับ ดรูว์ แบรี่มอร์ เอริควิเลียม ก็ไปอยู่กับคนอื่นอีก ตามแหล่งข่าวของเราแล้ว ผู้หญิงในภาพเป็นนักแสดงนำในเรื่อง Mystic Pizza ....."

" ....มันยากที่จะคิดได้ว่า เอริควิลเลียม ไปพัฒนาความสัมพันธ์กับเด็กวัย 13 ดรูว์แบรี่มอร์ แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการกระทำของเขานั้นผิดกฎหมายแคลิฟอร์เนีย ฉันอดไม่ได้ที่จะต้องนึกถึง โรมันโปแลนสกี ที่ซึ่งเป็นผู้กำกับที่มีพรสวรรค์ซึ่งได้ทำเรื่องแบบเดียวกัน เพื่อที่จะไม่ให้ช้ำกับอดีต เอริควิลเลียม คงต้องหนีไปที่สีลังกา ฉันรู้สึกว่า L.A.P.D คงต้องรีบจัดการเขาให้เร็วที่สุด...."

และแม้แต่ข่าวในวงการบันเทิงก็ยังเริ่มสนใจในข้อกล่าวหานี้ ภาพลักษณ์ของ เอริค ที่สร้างขึ้นมานั้นเริ่มสั่นครอน

20th Century Fox ราวกับโดนพายุพัดเข้าใส่ 17 Again นั้นยังคงออกฉายอยู่และพวกเขาก็ได้ซื้อสิทธิของ Home Alone มาแล้ว ดังนั้นถ้าพวกเขาปล่อยให้ภาพลักษณ์ของ เอริค ต้องสั่นคลอน พวกเขาก็จะต้องขาดทุนอย่างมาก

สำหรับ Columbia นอกจากคอยทำตามสัญญาแล้ว พวกเขาก็แค่นั่งรออยู่เฉยๆ ลูกจ้างบางคนจากแผนกสื่อสารถึงกับเสนอให้หัวหน้านั้นมาแถลงข่าวต่อสาธารณะแต่ความคิดพวกนั้นก็ถูกปฏิเสธอไป เบาท์โคเฮนร ต้องอยู่ในสภาพขมขื่นโดย เอริค และแผนกสื่อสารนั้นถึงกับสงสัยตัวหัวหน้าว่าอาจจะมีส่วนในเรื่องยุ่งทั้งหมดนี้ ดังนั้นพวกเขาเลยไม่ยอมออกแถลงข่าวในเรื่องเด็กหนุ่มคนนี้

Fox ได้ทำจัดการมันเป็นพิเศษกับพวกที่ลดเครดิตพวกเขาเพื่อไม่ให้กระทบยอดขาย

ไม่นานภายใต้การนำของบริษัท การตอบโต้ก็ถูกปล่อยอกมาและผ่านวิธีทางต่างๆ พวกเขาก็ได้ปล่อยการคาดเดาถึงนักแสดงและผู้กำกับที่โต้แย้งกัน สักพักหนังสือพิมพ์ของอเมริกาเหนือก็ต้องวุ่นวายและความสนในเรื่อง เอริค ก็เริ่มลดลง

ผู้คนเริ่มที่รู้สึกว่าพลาดบางอย่างไป แม้ว่าสื่อจะดีในการแสดงถึงปัญหาต่างๆแต่ไม่ใช่ว่าพลเมืองทุกคนน่ะโง่

ไม่นานหนังสือพิมพ์ที่ไม่ดังชื่อ Hollywood News ก็ได้ปล่อยข่าวออกมาซึ่งปกติแล้วจะไม่ได้รับการสนใจแต่เรื่องนี้น่ะทันตามกระแสซึ่งมันได้ดึงดูดความสนใจอย่างมาก

' เรื่องตลกของคริสมาสต์ : โทษบ็อกออฟฟิศ '

" ช่วงรายจ่ายประจำปีของคริสมาสต์ใกล้มา ในปีก่อนหน้าบริษัทหนังทำได้ดีกับการโปรโมตหนังระหว่างช่วงนี้แต่ครั้งนี้พวกเขาได้ใช้วิธีน่ารังเกียจเพื่อลดเครดิตของคู่แข่ง และทั้งหมดนี้ก็ต้องขอบคุณเด็กชายแสนวิเศษ เอริควิลเลียม "

" หลังจากที่ปล่อยออกมาได้หนึ่งอาทิตย์ หนังสองเรื่องของเขาก็ขึ้นฮิตติดชาร์จบ็อกออฟฟิศ "

" มันคือสิ่งที่ควรรู้ ตัวเลขที่โรงฉายที่เปิดให้บริการระหว่างช่วงคริสมาสต์นั้นมีจำกัดซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันของสตูดิโอต่างๆทุกปี ดังนั้นครั้งนี้เพื่อที่พวกเขาจะได้เค้กก้อนโตนี้ไป พวกเขาจึงลาก เอริควิลเลียม ออกมาด้วยเรื่องอื้อฉาวและการวิจารณ์ต่างๆ "

" หากไม่สนเรื่องความผิดของผู้กำกับหนุ่ม --- ซึ่งยังไม่ได้ถูกพิสูจน์ ฉันอยากบอกกับค่ายหนังใหญ่ๆ โปรดกลับไปแข่งแบบเดิมกันเถอะ หยุดใช้วิธีสกปรกเพื่อจัดการคู่แข่งและให้แข่งกันอย่างแฟร์ๆ "

สำหรับหนังสือพิมพ์ค่ายใหญ่แล้ว หัวข้อของ Hollywood News นั้นเหมือนขู่มากกว่าคำเตือน : หยุดสิ่งที่ทำอยู่ เรามีคนหนุนหลัง --- นี่แหละที่มันต้องการบอก พวกเขารู้ตัวอย่างรวดเร็วว่าเด็กหนุ่มไม่ได้สู้เพียงลำพังและดูเหมือนว่าเขาเป็นคนของ Fox

ในตอนที่สำนักข่าวต่างก็เลิกสนใจเรื่องนี้ พวกสำนักข่าวที่ซึ่งเข้าใจถึงสถานการณ์ตอนนี้ก็หยุดไล่ตามข่าวนี้ทันที

พายุดูเหมือนว่าจะผ่านพ้นไป

ไม่กี่วันต่อมา เอริค ที่ซึ่งตอนนี้ก็ยังโดนห้อมล้อมโดยปาปารัซซี่ในทีสุดก็ได้ย้ายไปยังแมนชั่นใหม่และทำการเก็บตัว เขาไม่ได้ออกมาที่ระเบียงเขาเลยด้วยซ้ำ เขาแค่มองจากหน้าต่างแล้วมองเห็นรถที่จอดอยู่หน้าบ้านหลังใหม่ อ่ะ นั่นคือพวกปาปารัซซี่ !

เจฟฟี่แฮนสัน มองไปยังแมนชั่นด้านหลังกำแพงสูงด้วยสายตาอิจฉาและกดออดที่หน้าประตู หลังจากนั้นไม่กี่นาที เอริค ก็เปิดประตูมาต้อนรับเพื่อเขาด้วยตัวเอง

เมื่อมองรถที่จอดด้านนอก เจฟฟี่ ก็ได้ถามขึ้นมา - " เอริค นายต้องอยู่ที่บ้านหลายวัน นายจัดการกับมันยังไง ? "

เมื่อเรื่องนี้ถูกพูดขึ้นมา เอริค ก็สลด โปรดิวเซอร์สำหรับบริษัท Firefly ไม่ได้ต้องการความเหลือจากเขามากมายนักและทุกอย่างก็ดำเนินการไปได้ตามที่เขาต้องการ เทียบกับอดีตของเขาแล้วที่แม้แต่พวกเก็บตัวก็ยังมีชีวิตที่สดใสได้แต่ยุคนี้น่ะไม่มีทั้งอินเตอร์เน็ตรึสมาร์ทโฟน เขาน่ะเบื่อแทบตายเลย

" เขียนนิยาย, เขียนบท , ดูทีวี...เรื่องน่าเบื่ออื่นๆอีก ด้วยสภาพตอนนี้ฉันไม่กล้าออกไปข้างนอกอีก ครั้ง เจฟฟี่ ฉันไปที่ร้านค้าเพื่อซื้อเครื่องดื่มและวันต่อมาสำนักข่าวก็เอามาเขียนหัวข้อเรื่องที่ฉันจะไปจีบพนักงานขายอีก "

เจฟฟี่ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น

เอริค ได้พาเพื่อนไปในห้องสมุดซึ่งอยู่ที่ชั้นสอง พวกเขาเพิ่งเข้าไปและ เจฟฟี่ ก็ได้พบกับกระดานอันใหญ่ที่แขวนอยู่บนกำแพงโดยมีหนังสือพิมพ์ต่างๆถูกตัดแล้วปักหมุดเอาไว้

" นี่เพื่ออะไร ?" - เจฟฟี่ เดินเข้าไปและถามด้วยความสงสัย

" ไม่มีอะไร " - เอริค เดินเข้ามาแล้วหัวเราะพร้อมกับดึงหมุดอันหนึ่งออกมา - " ฉันเบื่อน่ะ เลยรวบรวมการวิเคราะห์ของหนังสือพิมพ์ต่างๆเอาไว้หวังว่าจะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เพื่อที่ในอนาคตฉันจะได้....จัดการมัน "

เจฟฟี่ แหย่ขึ้นมา - " ด้วยการที่เชอร์ล็อกโฮร์มมาทำคดีนี้ คนพวกนั้นคงต้องระวังไว้ดีๆแล้ว "

เอริค ยักไหล่ อันที่จริงเขาก็ถือว่าโชคดีที่มี Fox หนุนหลัง มันทำให้เขาสลัดเรื่องยุ่งนี้ออกมาได้ เขายังไม่ได้มีชื่อเสียงขนาดว่าแฟนๆนั้นต้องเศร้ากันกับการตายของเขาเหมือน ไมเคิลแจ็กสัน ในชีวิตเก่า ดังนั้นเขาจึงประมาทไม่ได้

หลังจากที่บ่นไม่นาน เอริค ก็ได้ถามขึ้นมา - " ใช่ เจฟฟี่ ทุกอย่างเป็นไงบ้าง ? "

ตอนที่ชายกลางคนได้ยินแบบนั้น เขาก็ดึงกองเอกสารออกมาจากกระเป๋าแล้วบ่นออกมา - " นาย บอสจะมาสันหลังยาวได้ไง ฉันต้องทำทุกอย่างคนเดียว ใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนกว่าจะตกแต่งออฟฟิศเสร็จ และนี่คือข้อมูลที่นายขอเรื่องค่านายหน้า เอริค นายตั้งใจจะซื้อมันและตั้งเอเจนซี่จริงๆเหรอ ?"

เอริค ดูข้อมูลพวกนั้นแล้วพูดขึ้น - " แน่นอน นายเห็นที่ CAA ได้ตัว สจ๊วตรังเคิล ไปมั้ย ถ้าฉันไม่มีวิธีจัดการ ดาวดังที่ฉันปั้นขึ้นมาคงถูกแย่งไปหมด "

" แต่ค่ายหนังน่ะมีพวกตัวแทนตัวเองไม่ได้ "

เอริค ที่อ่านเอกสารในมือพูดขึ้นมาโดยไม่เงยหน้าขึ้น - " ฉันรู้ ฉันไม่ได้วางแผนที่จะรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน พวกมันจะทำงานแยกกัน ดังนั้นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาทางกฎหมายอะไร "

" ได้ ฉันจะให้นายจัดการเรื่องนี้ละกัน ใช่สิ นายบอกว่าบทหนังนายเสร็จแล้วนิ ? "

เอริค หยิบบทขึ้นมาจากโต๊ะแล้วส่งให้กับ เจฟฟี่ - " เสร็จแล้ว นายอยากดูหน่อยมั้ยล่ะ ? "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด