ตอนที่แล้วChapter 43 - บทสวด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 45 - เรื่องตลก

Chapter 44 - ขูดรีด


Chapter 44 --- ขูดรีด

" สุภาพบุรุษ ออฟฟิศพวกนี้ถูกเลือกมาตามที่คุณได้กำหนดไว้ มีที่หนึ่งในเขตเบอร์แบงค์, อีกที่เขตซานต้าโมนิก้า, โอ้และมีอีกที่แถวๆฮอลลีวูด้วยราคามันจึงค่อนข้างแพง "

ในห้องของศูนย์จัดตั้งเอเจนซี่ เจ้าหน้าที่ผู้มีทักษะที่ชื่อ เรย์มอนสตี ได้ส่งเอกสารให้กับ เอริค และ เจฟฟี่ เนื่องจากพวกเขาได้ตัดสินใจตั้งบริษัทหนังใหม่ขึ้นมา พวกก็ควรที่จะเช่าออฟฟิศและนั่นคือสถานการณ์ตอนนี้

พวกเขาได้ฟังที่ เรย์มอน พูดพร้อมกับคุยกันเรื่องรายละเอียด

เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่ เอริค รู้สึกว่า เรย์มอน นั้นมีสายตาแปลๆ เขาน่ะเกือบรู้สึกถึง...ความกระตือรือร้น สุดท้ายจากช่องว่างการสนทนา เรย์มอน ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา - " ขอโทษทีแต่คุณใช่ คุณวิลเลียม รึเปล่า ? ผู้กำกับของ Home Alone น่ะ ? "

เอริค ยักคิ้วและมองไปที่ชายตรงหน้าอีกครั้ง ชายวัยกลางคนนี้ดูไม่เหมือนแฟนคลับเขาเลย ใช่มั้ย? เขาพยักหน้า - " ฉันเองแหละ คุณสตี คุณถามทำไม ? "

เรย์มอน พูดขึ้นมา -" คุณวิลเลียม ฉันสงสัยว่าคุณสนใจในแมนชั่นที่เบเวอรี่ฮิลล์มั้ย เราน่ะมีว่างที่หนึ่งพอดี พื้นที่ก็ 6,000 ตร.ฟุต มันใกล้กับถนนซันเซ็ตแต่ที่สำคัญที่สุด....มันรักษาความเป็นส่วนตัวได้อย่างดี "

เมื่อพูดจบ เรย์มอน ก็มีท่าทีผิดปกติ ชัดแล้วว่าเขาอ่านหนังสือพิมพ์เมื่อเช้าและได้ไอเดียในการขายแมนชั่น

เอริค ต้องยอมรับว่ามันถือว่าสะดวกมาก นอกจากนี้กันพวกปาปารัฐซี่ได้สักพัก แน่นอนว่าเขาต้องย้ายออกจากที่เดิมในไม่ช้า

เจฟฟี่ เองก็พูดขึ้นมา - " เอริค ฉันเองก็คิดว่านายต้องเปลี่ยนที่อยู่ ด้วยเงินของนายตอนนี้ มันไม่ปลอดภัยเลยที่จะอยู่ที่นั่น "

เอริค พยักหน้าและถามออกมา - " คุณสตี ฉันสนใจนะ เราไปดูที่นั่นได้ตอนไหน ? "

เรย์มอน ดีใจขึ้นมา เขารีบพยักหน้าและพูดขึ้นมา - " เราไปตอนนี้เลยก็ได้ เจ้าของบ้านน่ะให้เราจัดการเรื่องนี้ กุญแจเลยอยู่กับฉัน "

เอริค ไม่ได้อยากอยู่เลือกออฟฟิศต่อ เขาได้ทิ้งเช็คไว้ให้ เจฟฟี่ ตัดสินใจและได้ขับไปที่เบเวอรี่ฮิลล์กับ เรย์มอน

หลังจากที่ขับไปตามทางที่ เรย์มอน บอก ครึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเขาก็ได้มาจอดที่หน้าแมนชั่นบนเนินเขา - " เราถึงแล้ว คุณวิลเลียม "

เมื่อลงจากรถ สิ่งแรกที่ เอริค เห็นคือกำแพงสูงกว่า 2 ม.โดยมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมรั้วเต็มไปหมด

เรย์มอน รีบพูดขึ้นมา - " คุณวิลเลียม อย่างที่เห็น บ้านนี้สร้างขึ้นมาเน้นความเป็นส่วนตัว กำแพงสูงน่ะเต็มไปด้วยต้นไม้ด้านใน ความเสี่ยงที่พวกช่างภาพจะได้รูปไปนั้นไม่มี อีกอย่าแล้วไม่มีถนนรอบๆ มีประตูแค่สองที่ อันหนึ่งด้านหน้าและอีกอันด้านหลัง มันเหมาะสำหรับบุคคลสาธารณะ "

เอริค พยักหน้าด้วยความพอใจ - " งั้น คุณสตี เราเข้าไปดูด้านในหน่อยได้มั้ย ? "

" แน่นอน " - เรย์มอน รีบเอากุญแจออกมาเพื่อเปิดประตูบ้านและเชิญ เอริค เข้าไป

" เข้ามาเลย นี่คือบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ถูกออกแบบโดย เอดเวิดไนล์ มันมีสี่ห้องนอน, 7 ห้องน้ำ, 2 ห้องครัวและโรงรถที่จอดได้ถึง 10 คัน ที่นั่นเรามีที่อาบน้ำกลางแจ้ง, สนามบาส โอ้จากที่ระเบียงชั้นสอง คุณสามารถมองเห็นทั้ง LA ได้ ฉันต้องบอกว่าวิวตอนกลางคืนน่ะสวยมากๆเลย.."

เอริค ฟังรายละเอียดและรอจนกระทั่งพวกเขาเดินไปเกือบทั้งทั่วบ้าน

" คุณสตี แมนชั่นนี่ราคาเท่าไหร่ ?"

เรย์มอนสตี ถึงกับสะอึก ก่อนที่เขาจะหันกลับมาตอบ เอริค ไม่ได้ถามรายละเอียดมากมายแต่ถามมาที่จุดสำคัญ เขาถามถึงราคา มันเหมือนว่าจะขายบ้านนี้ได้แล้ว

หลังจากที่สร้างแมนชั่นนี้มา เจ้าของขาดทุนไปเยอะตอนที่ตลาดหุ้นปีที่แล้วตกและต้องเอาบ้านนี้มาขายแต่เขาขอราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นบ้านจึงขายไม่ออกมาเกือบครึ่งปี

เขากดความดีใจเอาไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น - " 2 ล้านดอลลาร์ คุณวิลเลียม "

' ถูกขนาดนั้นเลย ? ! ' นี่คือความคิดแรกของ เอริค แต่ไม่นานเขาก็จำได้ว่านี่คือปี 1988 ราคาที่ดินน่ะยังไม่ถึงตัวเลขที่น่าตลกของศตรวรรษที่ 21 ไมเคิลแจ็กสันได้ซื้อที่ดิน 11 ตร.กม.เป็นเงิน 19.5 ล้านดอลลาร์ แมนชั่นราคา 2 ล้านนี่ชัดแล้วว่าแพง

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินแต่ เอริค เกลียดที่จะถูกโดนเอาเปรียบ เขามองไปที่อีกฝ่ายและพูดขึ้น - " คุณสตี นายควรเข้าใจว่าฉันคิดจะซื้อจริงๆ งั้นการบอกราคา 2 ล้านนั่นคงไม่เข้าท่า "

เรย์มอนสตี เผยสีหน้ากังวลออกมาและพูดขึ้น - " งั้น 1.95 ล้านดอลลาร์ ฉันลดมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว "

" 1 ล้าน " - เอริค บอกราคาของตัวเองออกมา

เรย์มอน เกือบสะดุ้ง เขาตะโกนขึ้นมาด้วยความแปลกใจ - " เป็นไปไม่ได้หรอก ! "

ตอนนี้คนจีนไม่ใช่คนที่มีทั่วไปในอเมริกาเหนือ ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่ เรย์มอนสตี ได้จอกับการต่อราคาที่สุดยอดแบบนี้...นายมาล้อเล่นกับใคร เอริค ชัดแล้วว่าพยายามที่จะขูดรีดอีกฝ่าย

ราวกับว่าเขาโดนดูถูกอย่างมาก สีหน้าของ เรย์มอน บิดเบี้ยวขึ้นมาและเขาก็ได้พูดขึ้นเสียงแข็ง - " คุณวิลเลียม นอกซะจากว่าคุณจะสนใจ งั้นก็ไม่ควรทำแบบนี้อีก "

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายโกรธจริงๆ เอริค ก็รีบหัวเราะขึ้นมา - " ฮาฮา ฉันล้อเล่นน่ะแต่ฉันว่านายไม่จริงใจนะกับการลดแค่ 50,000 ดอลลาร์เนี้ย..."

เรย์มอน ยังคงไม่พอใจเล็กน้อยแต่คนตรงหน้านั้นยังไงซะก็คือลูกค้าคนสำคัญและถ้าเขาขายแมนชั่นนี้ได้ เขาก็จะได้ค่าคอมมิสชั่นจำนวนมาก เขาจึงรีบสงบอารมณ์ตัวเอง - " คุณวิลเลียม แมนชั่นนี้ตกแต่งมาเรียบร้อยแล้วและเจ้าของบ้านก็ได้ใช้ค่าตกแต่งไปถึง 5 แสนดอลลาร์ พวกเขาน่ะอยากขายที่ราคา 2 ล้าน หลังจากที่พูดคุยกันมา ฉันสามารถให้ราคาต่ำกว่านี้เล็กน้อยและพวกเขาก็ตกลงไว้ที่ 1.9 ล้านซึ่งเป็นราคาต่ำที่สุดที่ฉันให้ได้แล้ว "

หลังจากที่พูดจบ เรย์มอน ก็เงียบไปรอให้ เอริค ตัดสินใจ นี่คือท่าทางที่บอกว่าไม่ให้ต่อรองอีก

เอริค คิดสักพัก เขาชอบบ้านหลังนี้ เขาได้พยักหน้าตอบรับ - " คุณสตี ถ้าฉันตัดสินใจซื้อ ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะย้ายเข้ามาได้ ? "

เรย์มอน พูดขึ้น - " ถ้าคุณจ่ายในทีเดียว เราสามารถจัดการเรื่องการโอนได้ทันทีและคุณก็สามารถย้ายมาได้ในสามวัน ถ้าคุณต้องการกู้ธนาคาร มันคงใช้เวลามากกว่าเดิม "

แน่นอนน่ะเงินน่ะหามาแล้วใช้ไป เอริค จำได้ว่าเพื่อนจากชีวิตก่อนน่ะซื้อบ้านใน LA และไปๆกลับกว่าเดือนก่อนที่จะย้ายมาอยู่ได้

เขาเลือกที่จะจ่ายมันทันทีและชายทั้งสองก็ได้กลับไปที่บริษัทของ เรย์มอน เอริค เรียก เอดเวิดเลวิส และบอกให้อีกฝ่ายส่งทนายไปจัดการ ที่เขาต้องทำก็แค่เขียนเช็คและเรื่องที่เหลือก็ให้ตัวแทนของเขาจัดการ

เจฟฟี่แฮนสัน เองก็เลือกออฟฟิศใกล้กับเบอร์แบงค์ให้เป็นสำนักงานของ Firefly และ เอริค ก็แสดงสีหน้าพอใจออกมากับตัวเลือกของชายวัยกลางคนคนนี้

หลังจากที่ยุ่งมาทั้งวัน เด็กหนุ่มก็ได้กลับไปที่บ้านในตอนเย็นและเห็นปาปารัซซี่อยู่รอบๆบ้าน คนพวกนี้ชัดแล้ว่ามาที่นี่หลังจากที่เห็นข่าวเมื่อเช้าเพื่อหาข่าวไปขายอีก

เอริค แค่ทำท่าไม่เห็นพวกนี้

หลังจากที่กินมื้อเย็นแล้ว เขาก็ได้กลับไปที่ห้องนอนและถอดชุดเพื่อไปอาบน้ำ เขาคิดว่ามันได้เวลาที่เขาต้องเขียนบทเรื่อง Pretty Woman ไมเคิลเคลาส์ ทำเขาหงุดหงิดหลายครั้งแล้วเรื่อง Resident Evil ดังนั้น เอริค จึงเลือกที่จะยืดการเขียนบทออกไปแต่ตอนนี้มันถึงเวลาแล้ว และแม้ว่า ไมเคิล จะมาบ่นเขาแต่เขาก็ชินกับมันแล้ว

หลายวันมานี้ เอริค ได้ช่วย เจฟฟี่ ในการจัดการบริษัทในตอนกลางวันและเขียนบทในตอนกลางคืน เขาเองยังหวังว่าด้วยการทำแบบนี้ข่าวเรื่อง ดรูว์ และ อนิสตัน จะซาลง ยังไงซะคนอื่นก็สนใจแต่เรื่องเขาไม่ได้เมื่อมีเรื่องอื่นเด่นกว่า ปาปารัซซี่พวกนี้น่ะไม่ควรที่จะไม่ตามข่าวอื่น...ใช่มั้ย?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด