ตอนที่แล้วChapter 11 - BURNT
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 13 - MEETING A GOBLIN

Chapter 12 - YOU ARE SO SHAMELESS


Chapter 12 - YOU ARE SO SHAMELESS

เอริค...คุณคิดว่าฉันควรลดน้ำหนักไหม? อนิสตันนั่งอยู่ที่เบาะรถด้านข้างถามขึ้น ในขณะ

แสร้งมองไปที่หน้าต่างดูรถผ่านไปผ่านมา

เอริคยกริมฝีปากขึ้นรวบรวมความคิดแล้วพูดขึ้นว่า แอนนี่ ในสายตาของผมไม่ว่าคุณจะเป็นยังไง

คุณก็ดูสวยที่สุดสำหรับผมเสมอ แต่อันที่จริงผมคิดว่าหากคุณต้องการจะอยู่ในฮอลลีวู้ดจริงๆ

คุณควรจะลดน้ำหนักลงให้เหลือซักประมาณ 100 ปอนด์ (45 กก.) ก็คงจะดี

ฮึ! คนหยาบคาย ในที่สุดคุณก็พูดมันออกมา! คุณคิดว่าฉันอ้วนเหรอ! อนิสตันกรีดร้อง

เอริคไม่รู้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่ดีหรือแย่กันแน่

ผมขอโทษ ให้ผมเลี้ยงอาหารอิตาเลี่ยนคุณ เป็นการไถ่โทษนะ ?

อนิสตันลังเลก่อนจะกระซิบว่า หรือจะไปที่พักของฉันล่ะ มีอาหารหลายอย่างที่อยากให้คุณลองชิม

เอริคตอบอย่างตรงไปตรงมา ให้ผมได้รับเกียรติเถอะ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขา เข้ามาที่พักของอนิสตัน ห้องของเธอทาสีเป็นโทนอบอุ่นและตกแต่งด้วย

ตุ๊กตาสัตว์ขนฟู อากาศในห้องนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้หญิง

เอริคต้องการจะช่วยทำอาหารแต่อนิสตันไล่เขาออกจากห้องครัว ดังนั้นเขาเลยนั่งรออยู่ใน

ห้องนั่งเล่นและอ่านนิตยสารแฟชั่นที่วางไว้รอ

หนึ่งชั่วโมงต่อมาอนิสตันก็ยกอาหารมาวางบนโต๊ะเธอตบมืออย่างภูมิใจแล้วกล่าวว่า เป็นไงบ้าง?

เอริคสูดดมกลิ่นและสรรเสริญ หอมมาก ผมอดใจรอไม่ไหวแล้ว

ขอบคุณ เอริค

พวกเขานั่งลงอย่างเป็นกันเองและเพลิดเพลินไปกับอาหาร เอริคต้องยอมรับเลยว่าฝีมือของแอนนี่

นั้นอร่อยมาก หลังจากทานอาหารเสร็จอนิสตันก็ลุกขึ้นแล้วพูดว่า เออใช่!เอริค ตอนที่ฉันเดินลงไป

ซื้อเครื่องปรุงก่อนหน้านี้ ฉันเห็นอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับคุณ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวฉันจะแสดงให้คุณดู

อนิสตันหยิบเอาหนังสือพิมพ์ออกมาจากกระเป๋าและกางไว้บนโต๊ะด้านหน้าเขา

เอริคมองไปที่เธอด้วยความสงสัย อนิสตันเริ่มอ่านข้อความในหนังสือพิมพ์อย่างภาคภูมิใจ

'เอริค วิลเลี่ยม ' อัจริยะผู้ได้สร้างสรรค์ผลงาน 'จูราสสิก พาร์ค' อันเต็มไปด้วยทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์

อันยอดเยี่ยมที่สามารถนำไปสู่การฟื้นคืนชีพไดโนเสาร์ ทฤษฎีดังกล่าวถูกทดสอบโดย ดร.แฮมมอนด์

ผู้เปลี่ยนเกาะนูบลาร์ ให้กลายเป็นอุทยานแห่งชาติอันเต็มไปด้วยไดโนเสาร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ทฤษฎีความโกลาหลของมัลคอมจะนำไปสู่...

อนิสตันอ่านถึงตรงนี้ก็ข้ามไปอ่านช่วงท้ายของการรีวิวหนังสือ

ที่น่าแปลกใจก็คือนักเขียนนวนิยายเล่มนี้ เอริค วิลเลี่ยมนั้นเป็นเพียงเด็กอายุเพียงสิบแปดปีเท่านั้น

และตามแหล่งข่าวของเราเด็กอัจฉริยะคนนี้มีชีวิตค่อนข้างลำบาก....

เอริคทำหน้าตาหน้าเกลียด แน่นอนว่าเขารู้เรื่องราวที่จะเขียนถัดไปในนั้น มันถูกเขียนมาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่านให้รู้สึกเห็นใจ โดยเน้นที่อดีตอันเศร้าหมอง เขาเข้ามาใกล้แล้วหยิบหนังสือพิมพ์ออกจากมือแอนนี่

แอนนี่ พอแล้วคุณไม่จำเป็นต้องอ่านต่อ

อนิสตันไม่พอใจแล้วพยายามจะคว้าหนังสือพิมพ์กลับมา เอามานี่! พวกเขาเขียนแต่เรื่องราวดีๆของคุณน่ะ พวกเขากำลังสรรเสริญคุณ! อ่ะ มีอะไรผิดปกติรึเปล่าทำไมคุณทำท่าทางแปลกๆแบบนั้นล่ะ ?

เกี่ยวกับเรื่องนั้น เอริคขยำหนังสือพิมพ์แล้วโยนมันลงถังขยะจากนั้นก็เดินไปที่โต๊ะกินข้าวแล้วพูดว่า ถ้าคุณอยากรู้เนื้อหาในนั้น ผมสามารถบอกคุณได้

อ้ะ! ปากของอนิสตันเปิดขึ้นเล็กน้อยเธอเหลือบมองไปที่ถังขยะ ฉันอุตส่าอยากให้คุณเห็นมัน

คนบ้า! ทำไมคุณไม่ให้ฉันอ่านต่อหละ

ผมรู้เนื้อหาที่อยู่ในนั้นเพราะผมเป็นคนที่เขียนมันเองไงล่ะ

อนิสตันตกใจ อะไรนะ!

เอริคค่อนข้างรู้สึกผิด เขาพูดว่า มันเป็นเพียงแค่บางสิ่งที่ทางสำนักพิมพ์ทำเพื่อเสริมยอดขายหนังสือ

พวกเขามักจะจ้างคนมาเขียนรีวิวในหนังสือพิมพ์ ผมไปพบไมเคิลเมื่อไม่กี่วันก่อนและเขาบอกว่าไม่มีใครเข้าใจหนังสือเล่มนี้ได้ดีกว่าผม ดังนั้นเขาก็เลยให้ผมเขียนบทวิจารณ์สองสามฉบับและที่คุณอ่านก็เป็นหนึ่งในนั้น

โห

เอริคยักไหล่แล้วพูดอย่างทะเล้นว่า

เอาจริงๆนะ นี่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรการโฆษณาชวนเชื่อพวกนี้มันเป็นแค่เรื่องธรรมดา

เอริค...

หืม?

....คุณไร้ยางอายมาก หลังจากพูด อนิสตันไม่สามารถทนต่อไปได้ เธอหัวเหราะจนน้ำตาไหล

การกระทำที่ไร้ยางอายของเอริคได้แสดงออกมาอีกครั้ง เมื่อแอนนี่ไปส่งเขาหน้าห้องหลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว แต่เขายืนกรานว่าอยากจะอยู่ต่อและรบเร้าเธอ ในที่สุดเธอก็จูบลงบนริมฝีปากเขาอย่างน่าไม่อายๆ

ก่อนจะรีบปิดประตูห้องเธออย่างรวดเร็ว

สามวันต่อมาอนิสตันได้ถ่ายทำฉากในโรงเรียนหมดแล้ว ฉากที่เหลือเธอต้องรอก่อน

ดังนั้นเธอเลยกลับไปทำงานที่ร้านสะดวกซื้อชั่วคราว

เอริคพบว่าแอนนี่ดูซีดเขียวกว่าแต่ก่อน เมื่อถามถึงเรื่องนี้ เธอก็บอกเขาว่าเธอเริ่มอดอาหารลดน้ำหนัก

เขาแนะนำให้เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะอาจทำให้ร่างกายเธอได้รับอันตราย แต่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์

ในกองถ่ายวันนี้นั้น ดรูวส์ดูเหมือนเสือที่กำลังออกล่าเหยื่อนั่นทำให้เอริคแอบตัวสั่น

ยิ่งตอนที่อนิสตันอยู่ ดรูวส์มักจะเดินมาใกล้ๆแล้วเยาะเย้ยเกี่ยวกับการแสดงของเขา เอริคทำได้เพียงยิ้ม

แล้วปล่อยให้มันผ่านไป แม้กระทั่งในตอนที่เธอด่าเขา เขาก็ยังคงไม่ได้ใส่ใจ

แต่เมื่อเห็นเธอในตอนนี้เขาสงสัยจริงๆ ว่าโลกนี้เกิดบ้าอะไรขึ้นสิ่งใดทำให้เทพธิดาแห่งภัยพิบัตินี้เศร้ากัน

วันถัดไปอนิสตันได้ออกจากกองถ่ายไปแล้ว

เอริคหิวน้ำไหม ? อ่ะ ฉันให้คุณ ในช่วงพักดรูวส์ยิ้มหวานขณะที่ถามเขา

เอริคปฎิเสธเป็นนัยๆ ไม่เป็นไร ขอบคุณดรูวส์ ตอนนี้ผมไม่ได้หิวน้ำ

ดรูวส์ยืนกรานแล้วส่งขวดน้ำสองขวดที่เธอถือในมือมาให้เอริคขวดหนึ่ง รับมันไป

เอริคตอบรับอย่างช่วยไม่ได้ แต่ในไม่ช้าร่างกายของเขาก็แข็งทื่อเมื่อดรูวส์คว้าเก้าอี้มานั่งข้างๆ

แล้วเอนตัวมาพิงบนไหล่เขา

นี่..ดรูวส์ เธอกำลังทำอะไร ฉันมีแฟนอยู่แล้วเธอก็รู้ คำพูดเหล่านี้มันเป็นเพียงข้อแก้ตัว

ความจริงก็คือเอริคไม่ต้องการจะเกี่ยวข้องกับดรูวส์และชีวิตที่แสนวุ่นวานของเธอ

ฉันชอบคุณ ดรูวส์ไม่ได้เปลี่ยนท่าทาง เธอพูดออกมาห้วนๆ

พรูดด-

เอริคพ่นน้ำออกมา เหลือเกินจริงๆยัยเด็กคนนี้

แต่ว่าผม.... คำสารภาพนี้ออกมาจากปากสาวสวยคนหนึ่ง ทำให้เขาพูดไม่ออก

และไม่ต้องการจะลุกไปไหน

ตั้งแต่ที่ดรูวส์มีเป้าหมายชัดเจน เธอวางแผนไว้อย่างดี ในตอนนี้อนิสตันไม่อยู่

แล้วก็ไม่มีใครผ่านมาทางนี้สักคน

เธอเอียงลงไปขณะถูหน้าอกเล็กๆของเธอขึ้นลงบนแขนเอริคเบาๆแล้วกล่าวอย่างนิ่มนวล

เอริค...ฉันขอเป็นแฟนคุณได้ไหม? ความจริงฉันเคยมีแฟนมาก่อนแต่เขาเป็นคนที่สุดจะทนจริงๆ

ดรูวส์อย่าทำแบบนี้ เอริคเริ่มเหงื่อตกแล้วพยายามจะหาคำพูด จากนั้นก็ได้ยินเสียงเพนนี มาร์แซล

ร้องตระโกนเรียกเขาว่า เฮ้ พวกเธอสองคนหยุดทำตัวน่าเกียจ แล้วเตรียมตัวเข้าฉากต่อไปได้!

เอริครีบสบัดแขนดรูวส์แล้วเดินไปเข้าฉาก

ใบหน้าของดรูวส์เต็มไปด้วยความไม่พอใจ อนิสตัน รอก่อนเถอะ ฉันอยากจะให้

เธอเห็นจริงๆ เมื่อฉันได้สิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอมาแล้ว ฉันสงสัยจริงๆ ใครกันแน่ที่เป็นคนน่าสงสาร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด