ตอนที่แล้วChapter 9 - IN THE FLESH
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 11 - BURNT

Chapter 11 - BURNT


Chapter 11 - BURNT

"Cut ! เอาหล่ะเอริคคุณพักผ่อนและเตรียมพร้อมสำหรับฉากต่อไปได้ เพนนี มาร์แชล

โบกมือของเธอ ในตอนนี้เหล่าทีมงานกำลังยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง

ฉากที่กำลังจะถึงคือไมค์สวมชุดสูทตัวใหญ่ที่กำลังเปียกโชกเดินไปรอบโรงเรียน

เพื่อค้นหาภารโรงลึกลับมันเป็นช่วงบ่ายของวันแรกในการถ่ายทำภาพยนต์เรื่องนี้ พวกเขายกกองถ่ายไปที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเบเวอร์ลีฮิลส์ เมื่อทางโรงเรียนรู้เกี่ยวกับเนื้อหาของภาพยนต์ พวกเขาก็พร้อมจะให้ถ่ายสถานที่ฟรีโดยมีขอแลกเปลี่ยนว่าชื่อโรงเรียนในภาพยนต์นั้นต้องถูกเปลี่ยนเป็นชื่อของพวกเขา

นี่เป็นผลประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายโดยทางทีมงานก็ได้ประหยัดงบประมาณและทาง

โรงเรียนก็ได้รับการประชาสัมพันธ์ที่ดี ทีมงานคุยกันไม่นานก็เห็นด้วยอย่างรวดเร็ว

พวกเขาถ่ายฉากทั่วไปง่ายๆหลายฉากในตอนเช้า พวกเขาตัดสินใจถ่ายฉากของไมค์

ที่กำลังมองหาภารโรงในตอนบ่าย

เอริค คุณแต่งตัวตอนนี้มันดูแย่มากๆ คุณดูยังกับลูกโป่งสกปรกในสลัมเลย

ดรูวส์ แบร์รี่มอร์หัวเราะเยาะเอริคขณะเธอนั่งอยู่บนเก้าอี้

(TL: เพื่อคนไม่เคยดูหนัง ฉากนี้เป็นฉากที่ตัวเอกที่เพิ่งตกน้ำแล้วจากเป็นเด็กหนุ่ม ทำให้หลวมและก็เปียก

ซึ่งสูทนั้นตัวใหญ่กว่าร่างหนุ่มแล้วก็เปียกน้ำทำให้สกปรก ดรูวส์เลยเปรี่ยบแบบนั้น)

เอริคไม่สนใจเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงสิบสามปีเขาตอบอย่างไม่แยแสว่า

เฮ้ แม็กกี้เธอไม่ควรพูดกับพ่อของเธอแบบนี้นะ

ดรูวส์เยาะเย้ย เจ้าเวอร์จิ้นวัยสิบแปด นายใช้เวลานานไปนะ

(TL:ไม่เก็ตคำด่านี้อ่ะโทษทีครับ)

อนิสตันที่ถือผ้าเช็ดตัวให้เอริคอยู่ในตอนนี้ ได้ยินดรูวส์เยาะเย้ยคนรักของตัวเอง

เธอก็โต้แย่งขึ้นมาในทันที เขาก็ยังดีกว่าใครบางคนเป็นร้อยเท่า

ดรูวส์มองตั้งแต่หัวจรดเท้าของอนิตตัน เธอเผยรอยยิ่มเยาะเย้ยเธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตัวเอง

และจงใจทำท่าทางโชว์หุ่นและเอวอันบอบบางของเธอ

เอริคมองไปที่การเคลื่อนตัวนั้น

ร่างอวบๆของอนิสตันนั้นเป็นจุดอ่อนของเธอ จุดเดือดของเธอปะทุขึ้นเล่นมาล้อเลียนหุ่นเธอต่อหน้า

ผู้ชายที่เธอชอบแบบนี้ อนิสตันเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง เธอโยนผ้าขนหนูและประจัญหน้ากับดรูวส์

ไม่ใข่แค่ผู้หญิงที่มีรอยยิ้มหวานมีเสน่ห์และดูบริสุทธิ์ แอนนี่ยังเป็นผู้หญิงที่ทำงานตัวคนเดียว

ในลอสแองเจลิส ทำไมคนอย่างเธอจะไม่รู้การป้องกันตัว ?

เมื่อฉากสงคราวกำลังจะเกิดขึ้น เอริคได้มารีบหยุดยั้งอนิสตัน เขากุมมือและเอามืออีกข้างวางไว้ที่บ่าเธอ

อย่างนุ่มนวลและกระซิบอะไรบางอย่าง อนิสตันรู้สึกได้ถึงลมหายใจจองเอริคที่ต้นคอ เธอหัวเราะคิกคัก

แล้วเอากำปั้นเธอกระแทกไหล่เขาออก เอริคคุณแย่มาก พูดแบบนั้นได้ยังไง

ดรูวส์โน้มหูของเธอแต่ไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เอริคพูด เธอย่นจมูกของเธอแล้วแสร้งทำเป็นไม่สนใจ

เอริค เตรียมพร้อมถึงฉากของคุณแล้ว

โอเค เพนนี เอริคลูบมือน้อยๆของแอนนี่แล้วลุกขึ้นเดินไปเข้าฉาก

ส่วนเหตุผลที่ดรูวส์แหย่เอริคตั้งแต่เช้านั้น มันจากที่เอริคและแอนนี่ทุกคนไม่รู้เกี่ยวกับ

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาใกล้ชิดกันมาก บางคนอาจรู้สึกสนุก

บางคนอาจจะอิจฉา ส่วนดรูวส์นั้นรู้สึกรำคาญ

เธอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่เมื่อเธอเห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนม

มันทำให้ดรูวส์รู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่เห็นอนิสตันเผยรอยยิ้ม

อย่างมีความสุขในฐานะผู้หญิง ดังนั้นเธอจึงแหย่เอริคทุกครั้งที่เจอ ยกเว้นตอนที่เข้าฉากด้วยกัน

ทีมงานทุกคนรู้ว่าเอริคกับดรูวส์เป็นเหมือนน้ำกับไฟเมื่อเผชิญหน้ากัน แต่เมื่อเข้าฉากแสดงด้วยกัน

ทั้งคู่มีความเป็นมืออาชีพพวกเขาแทบจะไม่เคยแสดงผิดพลาดเลย เพราะถ้าหากท่าทางของดรูวส์

ไม่ส่งผลกระทบต่อการถ่ายทำเพนนีกับเอริคก็ไม่ได้สนใจอะไร

ทั้งๆที่เมื่อครึ่งเดือนก่อนธอยังดูเป็นผู้ใหญ่อยู่แท้ๆแต่ตอนนี้กลับดูเหมือนเด็ก

เฮ้ ยัยสาวไซต์ยักษ์ ผู้ชายคนนั้นบอกอะไรกับเธอ ? ดรูวส์ไม่สามารถแสร้งไม่สนใจได้อีก

เธอถามออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

เธอรู้ไหม เธอดูน่าสงสารมากๆ หลังจากเอริคออกไป อนิสตันก็สงบใจลง แต่คำพูดของเธอ

รุนแรงขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่เขาไม่อยู่

น่าสงสาร ? ฉันเนี่ยนะ ? ดรูวส์มองไปที่อนิสตันด้วยสายตาเบิกกว้าง

ฮ่าฮ่า ตางที่น่ารักของอนิสตันขยับเมื่อเธอหัวเราะ

ห้ะ เรื่องตลกน่า! ฉันเป็นนักแสดงนำของหนังเรื่องนี้ในขณะที่เธอเป็นแค่ตัวประกกอบ ที่โผล่มา

หน้าจอไม่กี่นาที เธอประสาทรึเปล่าที่พูดแบบนั้นออกมา

อนิสตันกล้าววาส แล้วไงหละถึงเธอจะเป็นนักแสดงนำแต่ก็เป็นได้แค่กระเป๋าสตางค์ของแม้ บทฉัน

อาจจะเล็ก แต่อย่างน้อยฉันก็มีอิสระ แล้วฉันยังมีแฟนที่มีพรสวรรค์และอ่อนโยนเป็นคนเขียนบทหนัง

ทั้งที่เพิ่งอายุ 18 เท่านั้น และเป็นนักแสดง อ่อแล้วนิยายเล่มใหม่ของเขาก็ได้วางขายแล้วด้วย

แล้วเธอหละ ? พ่อของเธอทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนและในสายตาแม่ก็เป็นแค่ครื่องมือในการหาเงิน

เธอไม่สามารถรับความจริงได้ก็เริ่มดื่มเหล้าและเสพยาเพื่อหนีความเป็นจริง ฉันเห็นเอริคไม่ค่อย

แยแสเธอ พอเห็นฉันกับเขาก็เลยทำให้เธออิจฉาสินะ เด็กผู้หญิงที่เจ็บปวดและไร้อิสระ สาวน้อยผู้น่าสงสาร

ตู้มมม -

ราวกับมีระเบิดขึ้นในหัวใจเธอ ดรูวส์รู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางฤดูอันหนาวเหน็บ

แม้ว่าเธอจะดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ในความจริงเธอก็ยังเป็นแค่เด็กอายุ13ปีเท่านั้น เด็กหญิงวัยนี้

นั้นส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและคาดหวังในความรักครั้งแรกของพวกเขา

ถ้อยคำของอนิสตันได้ฉีกแผลในใจที่ดรูวส์พยายามจะปิดมันเอาไว้

เมื่อเห็นดรูวส์เงียบ อนิสตันก็แสดงรอยยิ้มพอใจ ถ้าหากเอริคอยู่ที่นี่แน่นอนว่าเขาต้องทำ

ทุกอย่างเพื่อไม่ให้เธอพูดคำพูดโหดร้ายออกมาอย่างแน่นอน

หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำ เอริคก็เดินเข้ามาบริเวณที่พักและรู้สึกประหลาดใจที่เห็นดรว์นั่ง

ขดตัวกอดเข่าอยู่ที่มุมห้องแล้วเอาหัวเล็กๆซุกไปยังแขนของเธอด้วยความอยากรู้เขาถามว่า

แอนนี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณสองคนเงียบกันจัง

อนิสตันตอบอย่างภูมิใจ ฉันชนะเธอได้ด้วยคำพูด เธอถึงกับพูดไม่ออกไม่สามารถโต้แย่งได้

โห น่าทึ่งแฮะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับปากของดรูวส์ เอาหละถึงฉากของเธอแล้วนะ

รีบไปกันเลยเพื่อให้ผู้กำกับประทับใจ

ฉันจะไป

เมื่อเห็นฉากทั้งสองคนเดินกันอย่างใกล้ชิดออกไปจนลับสายตา พายุในใจก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะผ่านไป

หรือว่าที่จริงแล้ว......

ในการถ่ายทำฉากต่อไปดรูวส์ก็หยุดยั่วยุเอริค และเงียบผิดปกติ เอริคและอนิสตันกำลังยุ่งอยู่กับการถ่ายทำ

เลยไม่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมผิดปกติของเธอ

เยี่ยม ทำได้ดีมากทุกคน! ในช่วงท้ายของกำหนดเวลาถ่ายทำ ฉากสุดท้ายของวันได้เสร็จสิ้นลงไป

เพนนี มาร์แชลถือปากกาในมือเธอพูดกับเอริคว่า ตอนแรกเราวางแผนจะถ่ายให้เสร็จสมบูรณ์ภายในสิบวัน

แต่ตัดสินจากที่ดูวันนี้ ดูเหมือนจะใช้เวลาแค่สัปดาห์เดียวก็น่าจะทัน ฉันรู้ตั้งแต่ได้เห็นการออดิชั่นของคุณ

แต่ว่าฉันต้องบอกเลยนะเอริค ผลงานการแสดงของคุณมันยอดเยี่ยมจริงๆทั้งที่ไม่มีประสบการณ์คุณทำได้ยังไง?

เอริคหัวเราะ จริงๆแล้วเพนนี ผมโกหก ผมเคยเล่นภาพยนต์หลายเรื่องในชีวิตที่แล้วของผม แล้วดูเหมือนผมยัง

คงเก็บรักษาประสบการณ์นั้นไว้อยู่

ชีวิตที่แล้ว ? อ่อ คุณกำลังพูดถึงทฤษฎีการกลับชาติมาเกิดของพุทธศาสนาสินะ แพนนี มาร์แขล นั้นคิดว่า

ความจริงที่เอริคพูดนั้นเป็นเพียงเล่นมุขตลก ดูเหมือนแฟนตัวน้อยของคุณกำลังรออยู่ แล้วพรุ่งนี้อย่ามาสายหล่ะ

เจอกันพรุ่งนี้เพนนี

เจอกันพรุ่งนี้

เอริคสตาร์ทรถและออกไปพร้อมกับอนิสตัน

ไม่มีใครสังเกตถึงร่างอันโดดเดี่ยวของดรูวส์ แบร์รี่มอร์ ที่ยืนในมุมจอดรถแล้วมองรถที่ออกไปด้วยความไม่พอใจ

แล้วพึมพัมว่า รอดูเถอะ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ยัยสารเลวน้อย เราจะได้เห็นดีกัน ฉันจะทำให้เธอเสียใจกับสิ่งที่เธอพูดวันนี้

Ch.12 - CH 12 - YOU'RE SO SHAMELESS

CH 12 - YOU'RE SO SHAMELESS

เอริค...คุณคิดว่าฉันควรลดน้ำหนักไหม? อนิสตันที่นั่งอยู่บนเบาะรถด้านข้างถามขึ้น ในขณะ

แสร้งมองไปที่หน้าต่างดูรถผ่านไปมา

เอริคยกริมฝีบากขึ้นรวบรวมความคิดแล้วพูดขึ้นว่า แอนนี่ ในสายตาของผมไม่ว่าคุณจะดูเป็นยังไง

คุณก็ดูสวยที่สุดสำหรับผมเสมอ แต่อันที่จริงผมคิดว่าหากคุณต้องการจะอยู่ในฮอลลีวู้ดจริงๆ

คุณควรจะลดน้ำหนักลงให้เหลือซักประมาณ 100 ปอนด์ (45 กก.) ก็คงดี

ฮึ! คนหยาบคาย ในที่สุดคุณก็พูดมันออกมา! คุณคิดว่าฉันอ้วน! อนิสตันกรีดร้อง

เอริคไม่รู้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่ดีหรือแย่กันแน่

ผมขอโทษ ให้ผมเลี้ยงอาหารอิตาเลี่ยนคุณเป็นการขอโทษนะ ?

อนิสตันลังเลก่อนจะกระซิบว่า หรือเราอาจจะไปที่พักของฉันกันมีอาหารบางอย่างที่อยากให้คุณลองชิม

เอริคดอบอย่างตรงไปตรงมา ให้ผมได้รับเกียรติเถอะ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่เขามาที่พักของอนิสตัน ห้องของเธอทาสีเป็นโทนอบอุ่นและตกแต่งด้วย

ตุ๊กตาสัตว์ขนฟู อากาศในห้องนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้หญิง

เอริคต้องการจะช่วยทำอาหารแต่อนิสตันโยนเขาออกจากห้องครัวดังนั้นเขาเลยนั่งรออยู่ใน

ห้องนั่งเล่นและอ่านนิตยสารแฟชั่นที่วางไว้รอ

หนึ่งชั่วโมงต่อมาอนิสตันก็วางอาหารลงบนโต๊ะเธอตบมืออย่างภูมิใจแล้วกล้าวว่า เป็นไงบ้าง?

เอริคสูดดมกลิ้นและสรรเสริญ มันมีกลิ่นที่ดี ผมอดใจรอที่จะกินมันไม่ได้เลย

ขอบคุณ เอริค

พวกเขานั่งลงอย่างเป็นกันเองและเพลิดเพลินไปกับอาหาร เอริคต้องยอมรับเลยว่าฝีมือของแอนนี่

นั้นอร่อยมาก หลังจากทานอาหารเสร็จอนิสตันก็ลุกขึ้นแล้วพูดว่า เออใช่เอริค ตอนที่ฉันเดินลงไป

ซื้อเครื่องปรุงก่อนหน้านี้ ฉันเห็นบางอย่างเกี่ยวกับคูณ ไม่เป็นไรนะที่ฉันจะแสดงให้คุณดู

อนิสตันหยิบเอาหนังสือพิมพ์ออกมาจากกระเป๋าและกางไว้บนโต๊ะด้านหน้าเขา

เอริคมองไปที่เธออย่างสงสัย อนิสตันเริ่มอ่านข้อความในหนังสือพิมพ์อย่างภาคภูมิใจ

'เอริค วิลเลี่ยม' อัจริยะผู้ได้สร้างสรรค์ผลงาน 'จูราสสิก พาร์ค' อันเต็มไปด้วยทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์

อันยอดเยี่ยมที่สามารถนำไปสู่การฟื้นคืนชีพไดโนเสาร์ ทฤษฎีดังกล่าวถูกทดสอบโดย ดร.แฮมมอนด์

ผู้เปลี่ยนเกาะนูบลาร์ ให้กลายเป็นอุทยานแห่งชาติอันเต็มไปด้วยไดโนเสาร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ อย่างไรก็ตาม

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ทฤษฎีความโกลาหลของมัลคอมจะนำไปสู่...

อนิสตันอ่านถึงตรงนี้ก็ข้ามไปอ่านช่วงท้ายของการรีวิวหนังสือ

ที่น่าแปลกใจก็คือนักเขียนนวนิยายเล่มนี้ เอริค วิลเลี่ยมนั้นเป็นเพียงเด็กอายุสิบแปดปีเท่านั้น

และตามแหล่งข่าวของเราเด็กอัจฉริยะคนนี้มีชีวิตค่อนข้างลำบาก....

เอริคทำหน้าตาหน้าเกลียด แน่นอนว่าเขารู้สิ่งที่เขียนถัดไปในนั้นมันถูกเขียนมาเพื่อดึงดูดความสนใจ

ของผู้อ่านให้รู้สึกเห็นใจ โดยเน้นที่อดีตอันเศร้าหมอง เขาเข้ามาใกล้แล้วหยิบหนังสือพิมพ์ออกจากมือแอนนี่

แอนนี่ พอแล้วคุณไม่จำเป็นต้องอ่านต่อ

อนิสตันไม่พอใจแล้วพยายามจะคว้าหนังสือพิมพ์กลับมา เอามาให้ฉันดูสิ! พวกเขาพูดในสิ่งที่ดี

พวกเขากำลังสรรเสริญคุณนะ ! อ่ะ มีอะไรผิดปกติรึเปล่าทำไมคุณทำท่าทางแปลกๆแบบนั้นล่ะ ?

เกี่ยวกับเรื่องนั้น เอริคขยำหนังสือพิมพ์แล้วโยนมันลงถังขยะจากนั้นก็เดินไปที่โต๊ะกินจ้าวแล้วพูดว่า

ถ้าคุณอยากรู้เนื้อหาในนั้น ผมสามารถบอกคุณได้

อ้ะ! ปากขอบอนิสตันเปิดขึ้นเล็กน้อยเธอเหลือบมองไปที่ถังขยะ ฉันอุตส่าอยากให้คุณเห็นมัน

คนน่าเกลียด ! ทำไมคุณไม่ให้ฉันอ่านต่อหละ

ผมรู้เนื้อหาที่อยู่ในนั้นเพราะผมเป็นคนที่เขียนมันเองไงล่ะ

อนิสตันตกใจ อะไรนะ!

เอริคค่อนข้างรู้สึกมีความผิดเขาพูดว่า มันเป็นเพียงแค่บางสิ่งที่ทางสำนักพิมพ์ทำเพื่อเสริมยอดขายหนังสือ

พวกเขามักจะจ้างคนมาเขียนรีวิวในหนังสือพิมพ์ ผมไปพบไมเคิลเมื่อไม่กี่วันก่อนและเขาบอกว่าไม่มีใคร

เข้าใจหนังสือเล่มนี้ได้ดีกว่าผม ดังนั้นเขาก็เลยให้ผมเขียนบทวิจารณ์สองสามฉบับและที่คุณอ่านก็เป็นหนึ่งในนั้น

โหเฮะ

เอริคยักไหล่แล้วพูดอย่างทะเล้นว่า

เอาจริงๆนะ นี่ไม่ใข่เรื่องผิดปกติอะไรการโฆษณาชวนเชื่อพวกนี้มันเป็นแค่เรื่องธรรมดา

เอริค...

หืม?

....คุณไร้ยางอายมาก หลังจากพูด อนิสตันไม่สามารถทนต่อไปได้เธอทิ้งและหัวเหราะจนน้ำตาไหล

การกระทำที่ไร้ยางอายของเอริคได้แสดงออกมาอีกครั้ง เมื่อแอนนี่ไปส่งเขาหน้าห้องหลังจากกินอาหาร

เสร็จแล้ว แต่เขายืนกรานว่าอยากจะอยู่ต่อและรบเร้าเธอ ในที่สุดเธอก็จูบลงบนริมฝีปากเขาอย่างอายๆ

ก่อนจะรีบปิดประตูห้องเธออย่างรวดเร็ว

สามวันต่อมาอนิสตันได้ถ่ายทำฉากในโรงเรียนหมดแล้ว ฉากที่เหลือเธอต้องรอก่อน

ดังนั้นเธอเลยกลับไปทีงานที่ร้านสะดวกซื้อชั่วคราว

เอริคพบว่าแอนนี่ดูซีดเขียวกว่าแต่ก่อน เมื่อถามเรื่องนี้ดูเธอก็บอกเขาว่าเธอเริ่มอดอาหารลดน้ำหนัก

เขาแนะนำให้เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะอาจทำให้ร่างกายเธอได้รับอันตราย แต่ดูเหมือนไร้ประโชน์

ในกองถ่ายวันนี้นั้น ดรูวส์ดูเหมือนเสือที่กำลังออกล่าเหยื่อนั่นทำให้เอริคแอบตัวสั่น

เมื่อตอนที่อนิสตันอยู่ ดรูวส์มักจะเดินมาใกล้ๆแล้วเยาะเย้ยเกี่ยวกับการแสดงของเขา เอริคทำเพียงยิ้ม

แล้วปล่อยให้มันผ่านไป แม้กระทั่งในตอนที่เธอด่าเขา เขาก็ยังคงไม่ได้ใส่ใจ

แต่เมื่อเห็นเธอในตอนนี้เขาสงสัยจริงๆ ว่าโลกนี้เกิดบ้าอะไรขึ้นสิ่งใดทำให้เทพธิดาแห่งภัยพิบัตินี้เศร้ากัน

วันถัดไปอนิสตันได้ออกจากกองถ่ายไปแล้ว

เอริคต้องการน้ำบ้างไหม ? ฉันให้ขวดนี้คุณ ในช่วงพักดรูวส์ยิ้มหวานถามเขา

เอริคปฎิเสธเป็นนัยๆ ไม่เป็นไร ขอบคุณดรูวส์ ตอนนี้ผมไม่ได้หิวน้ำ

ดรู์ยืนกรานแล้วส่งขวดน้ำสองขวดที่เธอถือในมือมาให้เอริคขวดหนึ่ง รับมันไป

เอริคตอบรับอย่างข่วยไม่ได้ แต่ในไม่ช้าร่างกายของเขาก็แข็งทื่อเมื่อดรูวส์คว้าเก้าอี้มานั่งข้างๆ

แล้วเอนตัวมาพิงบนร่างเขา

นี่..ดรูวส์ เธอกำลังทำอะไร ฉันมีแฟนอยู่แล้วเธอก็รู้ คำพูดเหล่านี้มันเป็นเพียงข้อแก้ตัว

ความจริงก็คือเอริคไม่ต้องการจะเกี่ยวข้องกับดรูวส์และขีวิตแสนวุ่นวานของเธอ

ฉันชอบคุณ ดรูวส์ไม่ได้เปลี่ยนท่าทางเธอพูดมันออกมาห้วนๆ

พรูดด-

เอริคพ่นน้ำออกมา เหลือเกินจริงๆยัยเด็กคนนี้

แต่ว่าผม.... คำสารภาพนี้มาจากสาวสวยคนหนึ่ง คงจะโกหกหากเขาบอกว่าเขา

ไม่ต้องการจะลุกออกไป ในตอนนี้เขาอับจนคำพูด

(TL: ไม่ใช่สาวสวย แต่มันมาจากเด็กอายุ 13 ต่างหาก ไอ้เจ้าโลลิค่อน!)

ตั้งแต่ที่ดรูวส์มีเป้าหมายขัดเจน เธอวางแผนไว้อย่างดี ในตอนนี้อนิสตันไม่อยู่

แล้วก็ไม่มีมาทางนี้สักคน

เธอเอียงลงไปขณะถูหน้าอกเล็กๆของเธอขึ้นลงบนแขนเอริคเบาๆแล้วกล่าวอย่างนิ่มนวล

เอริค...ให้ฉันเป็นแฟนคุณได้ไหม? ความจริงฉันเคยมีแฟนมาก่อนแต่เขาเป็นคนที่สุดจะทนจริงๆ

ดรูวส์อย่าทำแบบนี้ เอริคเริ่มเหงื่อตกแล้วพยายามจะหาคำพูด จากนั้นก็ได้ยินเสียงเพนนี มาร์แซล

ร้องตระโกนเรียกเขาว่า เฮ้ พวกเธอสองคนหยุดทำตัวขี้เกียจ แล้วเตรียมตัวเข้าฉากต่อไปได้!

เอริครีบหนีออกจากแขนดรว์แล้วเดินไปเข้าฉาก

ดูแผ่นหลังเขาหายไป ใบหน้าของดรูวส์เต็มไปด้วยความไม่พอใจ อนิสตัน รอก่อนเถอะ ฉันอยากจะให้

เธอเห็นจริงๆ เมื่อฉันได้สื่งที่มีค่าที่สุดของเธอมาแล้ว ฉันสงสัยจริงๆ ใครกันแน่ที่เป็นคนน่าสงสาร

Ch.13 - CH 13 - MEETING A GOBLIN

อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาการถ่ายทำฉากที่โรงเรียนก็เสร็จสิ้นลง

ทางทีมงานได้ยกกองถ่ายไปถ่ายทำยังสถานที่อื่นๆ

ว้าว ! ซูซาน ซาแรนดอน เข้ามาหาเอริคยื่นมือออกไปบีบหน้าเขา

และร้องขึ่นว่า เธอดูคล้ายสามีฉันมากเลย

ฮะๆๆ

แปลก มันแปลกมาก

ใช่แปลกจริงๆ เอริคเห็นด้วย

เกิดอะไรขึ้น ? ซูซานพูด

(TL: นี่เป็นฉากในหนังครับ ซูซานคือคนที่เล่นเป็นเมียของไมค์ที่เอริคแสดง ในตอนวัยผู้ใหญ้)

เมื่อมองไปยังหน้าจอมอนิเตอร์เพนนี มาร์แซลตะโกนว่า Cut! เอริคคุณหลุดหัวเราะอรกแล้วนะ

นี่เป็นครั้งที่ห้าแล้วนะ ครั้งที่ห้า ! หัดควบคุมตัวเองหน่อยสิ

คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับมันจะอารมณ์ไม่ดี เพราะพวกเขามีคาดมุ่งหวังในผลงาน ทุกครั้งที่นักแสดงถ่ายพลาด

พวกเขาเสียทั้งเงินทั้งเวลา มันเป็นช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะหงุดหงิดหากปล่อยให้พวกเขาเป็นให้อย่างนี้ต่อไปก็อาจจะคลั่งได้

เมื่อเป็นเช่นนี้เอริคได้แต่ขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า ผมขอโทษด้วยเพนนี ผมสัญญาจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก

เพนนี มาร์แซลกรอกตาไปมานี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เอริคให้สัญญาเช่นนี้

ทุกคนเตรียมพร้อม เราจะเริ่มกันอีกครั้ง !

ซูซาน ซาแลนดอน ที่นืนอยู่ข้าวเอริคพูดขึ้นว่า เอริคครั้งต่อไปที่ฉันบีบหน้าคุณ พยายามอย่ามองมาที่ฉัน

คุณซาแลนดอน ผมจะพยายามลองทำดู

ทั้งๆที่เนื้อเรื่องในฉากนี้ไม่ได้ตลก แต่ไม่รู้ว่าทำไมเอริคถึงหลุดหัวเราะออกมาทุกครั้ง

เมื่อพวกเขาเริ่มถ่ายทำกันอีกครั้ง เขาพยายามทำตามคำแนะนำของซูซาน ซาแรนดอน แม้ว่าเขาเกือบ

จะหลุดขำออกมาหลายครั้ง แต่เขาก็พยายามจะยับยั่งตัวเอง แล้วในที่สุดเขาก็ผ่านมันไปได้ในครั้งที่หก

ระหว่างช่วงพักเอริคเดินไปหาผู้หญิงคนนั้นแล้วกล่าวว่า คุณซาแรนดอลขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณครับ

แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอกเอริค แต่คุณมีพรสวรรค์มากจริงๆรู้ไหม ฉันไม่เคยเห็นใครแสดงเป็นครั้งแรกได้ขนาดคุณ

ขอบคุณมากครับซูซาน เอิ่ม ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณหน่อย ?

หืมม ?

เอริคกล่าว คือว่าแบบนี้รูปร่างของคุณมันดูดีมาก คุณทำได้ยังไง ?

โอ้ว้าว เอริคคุณกำลังจะจีบฉันหรอ? ซูซานยักคิ้วแล้วยิ้ม

เอริคเข้าใจความหมายของสิ่งที่เธอพูดในฮอลลีวู้ดดาราหญิงที่มีอายุมักมองหาแฟนหนุ่มที่อายุน้อยกว่า

มันไม่ใช่เรื่องหายากที่ผู้หญิงวัย 60ปี พยายามยื่นมือไปแตะต้องหนุ่มวัย 30 ปี

(TL: -___- เอาจริงดืเห้ย )

ไม่ใช่แบบนั้นซูซาน....จริงๆแล้วแฟนผมกำลังพยายามลดน้ำหนักเมื่อไม่นานมานี้

ผมเลยอยากจะขอคำแนะนำจากคุณ

อ่อ ฉันเข้าใจล่ะ การลดน้ำหนักมันไม่ใช่เรื่องงายเลย พอดีฉันรู้จักเทรนเนอร์ฝีมือดีในเบเวอร์ลีฮิลส์

เธอเปิดฟิตเนสออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะและยังเป็นนักโภชนาการมือฉกาจอีกด้วย

คุณสามารถลองให้แฟนของคุณไปรับคำแนะนำที่นั้นได้ เธอจะให้โปรแกรมการลดน้ำหนักที่เหมาะสม

แก่แฟนของคุณ

คุณช่วยบอกที่อยู่ของที่นั่นหน่อยได้ไหม?

ซูซาน ซาแรนดอน ขอกระดาษและปากกาจากผู้ช่วยของเธอ จากนั้นเธอก็ทำการเขียนแล้วมอบให้เอริค

เขาบอกขอบคุณเธอแล้วเดินจากไป

เมื่อเขากลับไปยังจุดพักและกำลังนั่งลง ดรูวส์รีบเข้ามาดึงเก้าอี้เขาไปนั่งแล้วถามว่า

นี่เอริค ซูซานเขียนอะไรให้คุณ ? หรือมันจะเป็นจุดนัดกันไปเดท ?

เอริคสังเกตเห็นดรูวส์ทำตัวเป็นยัยหนูเจ้าเล่ห์ เขาพูดว่า เธอนี่ฉลาดดีจริงๆนะ สำหรับเด็กอายุสิบสาม

ฮะๆ! ดรูวส์หัวเราะออกมาเสียงดัง เธอพยายามกวนประสาทเอริคหลายครั้งแต่เขาก็ไม่ได้ตอบสนอง

เธอพูดว่า ฉันเคยได้ยินว่าคุณโตขึ้นมาโดยไม่มีแม่ นั่นอาจจะส่งผลทำให้คุณกลายเป็นโรคติดแม่ก็ได้นะ

แน่นอนว่าเอริคเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ครอบครัวของดรูวส์

เฮ้ดรูวส์ อย่าพูดเรื่องนั้นออกมาดีกว่านะ

ดรูวส์คิดว่าเขาโกรธเพราะเธอพูดถึงแม่ของเขาออกมา เธอแลบลิ้นใส่เขา

(TL: ในบทนี้ดรูวส์ล้อว่า เอริคโตขึ้นมาโดยขาดแม่ จะทำให้เป็นโรคติดแม่ ในต้นฉบับเขาใช้คำว่า Oedipus complex

ซึ่งเป็นการล้อเลียนเอริคกับซูซาน, ส่วนที่เอริคไม่อยากให้ดรูวส์พูดเรื่องพวกนี้เพราะกลัวว่าเรื่องที่พูดจะเข้าตัวดวรู์เอง)

ฉันจะพูดมันทั้งเลยเอริค ยกเว้นคุณจะชวนฉันไปกินอาหารเย็นด้วยกัน โอเคมั้ย ?

เอริคส่ายหัว ผมต้องถามแอนนี่ก่อน

ยัยสาวไซต์ยักษ์นั่นอีกแล้ว! คุณวางแผนจะรับ T-Rex มาเลี้ยงหรอไงห้ะ ?

เอริครู้สึกประหลาดใจที่ว่ายุคนี้เริ่มใช้คำแสลงเกี่ยวกับไดโนเสาร์กันแล้ว

(TL: ไม่ต้องแปลกใจเลยเป็นเพราะเอ็งนั่นหละ หนูดรูวส์คงจะอ่านจูราสสิก ปาร์คแล้วเอามาใช้แหงๆ)

Tyrannosaurus Rex ? ดรูวส์เธอไม่ควรพูดแบบนั้นต่อหน้าผมนะรู้ไหม ? ถ้าคุณเป็นผู้ชายผมคงได้อัดคุณไปแล้ว

คุณอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะเหยุผลเดียวที่ยัยนั่นได้บทนี้ ก็เพราะเห็นแก่หน้าคุณ เพราะว่าคุณชอบเธอ แต่ด้วยความศักดิ์ศรีโง่ๆ

ของยัยอ้วนนั่น เธอเลยไม่ยอมเป็นแฟนอย่างเป็นทางการกับคุณจนกว่าจะปิดกองถ่าย ฮึ! ยัยผู้หญิงเจ้าเล่ห์

ดรูวส์ ท่าทางของเอริคดูเคร่งขรึมขึ้น ถ้าคุณพูดอะไรแบบนี้อีก ผมจะไม่สนใจคุณอีกต่อไป

ก็ได้ ก็ได้ เธอยกมือขึ้นยอมแพ้ แต่หลังจากเราไปกินข้าวกันที่ไหนซักแห่งแล้วคุยกันเกี่ยวกับหนังสือที่คุณแต่ง

จูราสสิก ปาร์คมันยอดเยี่ยมจริงๆ มันทำให้ฉันกลายเป็นแฟนคลับชองเอริค วิลเลี่ยม

เอริคกล่าว หยุดก่อนดรูวส์ แม่คุณเห็นด้วยเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือยัง?

ผู้หญิงคนนั้น? ดรูวส์แสดงสีหน้ารังเกียจ ตราบเท่าที่เธอได้รับเช็คของฉัน เธอก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับฉันแม้แต่น้อย

ดูเหมือนดรูวส์จะมีอคติเกี่ยวกับแม่ของเธอเข้ากระดูกดำ ไม่แปลกใจเลยที่ในอดีตเธอตัดความสัมพันธ์ทั้งหมด

กับครอบครัว

วันนี้เอริคมีฉากที่ต้องถ่ายหลายฉากจนเขาถ่ายจนหมดแรง แม้ตอนนี้เขาจะจะมีร่างกายที่เยาว์วัยก็ตาม

หลังเสร็จจากการทำงานยุ่งทั้งวัน เขาก็เดินอย่างเหน็ดเหนื่อไปที่ลานจอดรถ ไม่นานนักเขาก็พบดรูวส์เดินตามมา

เอริคคุณสัญญาแล้วว่าจะทานอาหารเย็นกับฉัน คุณไม่ได้รับอนุญาติให้ไปไหนทั้งนั้น

เอริคหยุดเดินแล้วพูดว่า ดรูวส์อย่าเข้าใจผิดสิ ผมไปสัญญากับคุณตอนไหนกัน ? นึกดูดีๆสิ

ไม่เอา ดรูวส์รีบคว้าแขนของเอริค ท่าทางหยิ่งของเธอยามปกติได้กลายเป็นท่าทางน่าสงสารแทน

ฉันให้ผู้ช่วยของฉันกลับไปแล้ว คุณจะปล่อยให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉันกลับบ้านคนเดียวหรอ

ถ้าฉันเกิดถูกข่มขืนแล้วถูกฆ่าตายขึ้นมาจะทำไง ?

เอริคได้พัฒนาภูมิต้านทานต่อดรูวส์ขึ้นแล้ว เขาบอกเธอโดยไม่ทุกข์ไม่ร้อนว่า ไม่ คุณกลับบ้านคนเดียวเถอะ

วันนี้ทำงานหนักมาทั้งวัน ผมอยากรีบกลับไปพักผ่อนเต็มทีแล้ว

ดรูวส์ตระหนักว่าแผนของเธอล้มเหลวแล้ว เธอยกมือขึ้นขยี้หัวจนยุ่งและฉีกเสื้อผ้าออกเล็กน้อย

แล้วค่อยๆขูดผิวของเธอจนเป็นรอยแดง เธอต้องมองเอริคพร้อมปรากฎน้ำตาแล้วพูดว่า

ถ้าคุณไม่ยอม ฉันจะนั่งอยู่บทพื้นและตะโกนขอความช่วยเหลือ มาดูกันว่าตำรวจจะว่ายังไงกับคุณ

เอริคตบหน้าผากของเขาแล้วกุมขมับตอนนี้เขากำลังถูกขู่

อมิตตาพุทธ ผมจะจัดการกับวิญญาณร้ายตัวนี้ได้ยังไง พระพุทธองค์กำลังทดสอบผมอยู่ใช่ไหม ?

เอริคเปิดประตูรถแล้วเขาไปนั่งเขาถามดรูวส์ ก็ได้ เธอชนะดรูวส์ แล้วต้องการจะไปที่ไหน ?

ไปที่ Mastro's ฉันอยากกินเสต๊ก

(TL: Mastro's Steakhouseเป็นร้านอาหารที่อยู่ในย่านเบเวอร์ลีฮิลส์ )

เข้าใจแล้วกับตัน แล้วที่นั่นมันอยู่ที่ไหน ?

คอนแรกดรูวส์มองเอริคอย่างดูถูกก่อนนะเปลี่ยนเป็นตื่นเต้น งั้นให้ฉันขับพาไปเอง

ไม่มีทาง ผมไม่อยากมีปัญหาที่หลัง รีบๆบอกที่อยู่ของที่นั่นมา ไม่งั้นผมจะสุ่มเอาสักร้าน

ดรูวส์เม้มปากอย่างไม่เต็มไปและเอริคก็ได้เริ่มขับรถไป

Ch.14 - CH 14 - BAD TIMING

CH 14 - BAD TIMING

รีบๆกินเร็วเข้า แล้วผมจะพาคุณกลับบ้าน เมื่อกี๊ผมเห็นคุณหาว ผมรู้ว่าคุณเหนื่อย

ดรูวส์จิบน้ำผลไม้ช้าๆอย่างมีเสน่ห์ คุณต้องการจะพาฉันกลับไปที่บ้าน(คุณ) ? แน่นอนฉันไม่ได้รังเกียจ

หาาา... เอริคตกตะลึงจนอ้าปากกว้างจนผ้าเช็ดที่ถูกไว้ที่คอหลุดออกมา เอริคถลึงตาดุใส่เธอ

ยัยหนูคนนี้พิเรนจริงๆ

ไม่กี่นาทีต่อมาเอริคก็พบว่าดรูวส์ค่อยๆกินช้าลงแหละน้อยลงไปอีก จนในที่สุดมือเธอก็สั่น

จนไม่สามารถจับมีดกับส้อมเอาไว้ได้

เขากำลังจะถามเธอว่ารู้สึกไม่สบายที่ไหนรึเปล่า แต่เขาก็นึกออกในทันทีจากความจำในชีวิตที่แล้วของเขา

แล้วเห็นเธอตอนนี้ เขาก็มั่นใจได้ทันทีว่าสิ่งที่เกิดนี่เป็นอาการอยากยาเสพติดของดรูวส์

เอริคยิ้มอย่างขมขื่นในขณะมองไปที่ดรูวส์ที่กำลังพยายามอดทนอย่างดีที่สุด เขาตะโกนอย่างเร็วว่า

พนักงาน ขอเช็คบิลหน่อย!

เขาอยากจะออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แม้ว่าเรื่องยาเสพติดของดรูวส์จะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป

เพราะได้มีการกล่าวถึงโดยหลายบทความทางหนังสือพิมพ์ แม่จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตาม

แต่ในใจของใครหลายคนดรูวส์ยังคงเป็นเด็กน้อยน่ารักที่จูบมนุษย์ต่างดาวใน E.T. ถ้าถูกจับได้หรือถูกถ่ายภาพ

ในสถานที่สาธารณะนั่นอาจส่งผลร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของเธอ

หลังจากจ่ายเงินเสร็จ เอริคทองไปที่สาวน้อยที่ดูเหม่อลอยและกล่าวว่า ดรูวส์ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปส่งบ้าน

พวกเขาเดินออกจากร้านอาหารโดยจับแขนกันและกัน เอริครู้สึกได้ว่าร่างกายเล็กกะทัดลัดของเธอกำลังสั่น

เขารู้สึกสงสารอย่างช่วยไม่ได้

ในรถดรูวส์นั่งตัวสั่นในที่นั่งผู้โดยสารและทันทีที่เอริคสตาร์ทรถเธอก็พูดว่า เอริคคุณช่วยฉันซื้อ...ซื้อ...

ไม่ เอริคปฎิเสธอย่างเด็ดขาด ดรูวส์อดทนหน่อยนะ บอกที่อยู่ผมมา ผมจะพาคุณกลับบ้าน

ไม่เอา! ดรูวส์รีบส่ายหัว เธอตะโกนอย่างบ้าคลั่งว่า ฉันไม่ต้องการที่จะกลับไป ถ้าผู้หญิงคนนั้นเห็นฉันตอนนี้

เธอต้องส่งฉันไปบำบัดแน่ๆ ฉันจะไม่กลับ ฉันจะไม่กลับ!

เอริครับรับปากดรูวส์ เข้าใจแล้ว เราจะไม่ไปที่นั่น จากนั้นเขาก็เริ่มขับรถตรงไปยังบ้านของเขา

เอริคได้นำรถในจอดในโรงรถและดรูวส์ที่กำลังสับสนเข้าไปในห้องนอนเขา

เอริค เอริค ฉันขอร้องหละ ฉันขอร้องโปรดช่วยซื้อมันให้ฉันที.... ดรูวส์ขดตัวในอ้อมแขนของเขา

เธอคว้าปกเสื้อของเขาแล้วอ้อนวอนทั้งน้ำตา

อุววแหวะ -

แม้แต่เด็กสาวที่สวยงามก็ดูไม่ค่อยดีเมื่อยามเธออ้วก สเต็กที่เพิ่งถูกกินได้ออกมาอยู่บทเตียงและบางส่วน

ก็เปรอลงบนเสื้อเขา ทั่วทั้งห้องนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

เอริคขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อมองไปที่หญิงสาวที่กำลีงดิ้นรนสีหน้าของเขาก็นุ่มนวลลง

ความรู้สึกเย็นเยือกผ่านเข้ามาในร่างกายของเธอ ดรูวส์จับตัวเอริคอีกครั้งและพึมพัมในขณะที่ตัวสั่นว่า

คุณ.....ถ้าคุณไม่ช่วยฉันซื้อ...ฉันจะ....

เอริคกอดดรูวส์และบอกว่า ดรูวส์ คุณต้องอดทนให้ได้ ฟังนะถ้าผมทำสิ่งเหล่านั้นให้คุณมันจะให้ผลตรงข้าม

พวกมันไม่จำเป็นกับคุณ คุณต้องเข้มแข็ง จำได้ไหมคุณคือสาวน้อยผู้โชคดีที่ได้จูบมนุษย์ต่างดาว ?

ฉัน...ไม่ใช้...เด็กสาว..ผู้โชค..ดี

เอริคไม่รู้วิธีจัดการเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ถึงแม้ว่าเขาจะได้พบกับคนที่เสพยาหลายคนในชีวิตที่แล้ว

แต่เขาก็ไม่เคยพบว่าตัวเองจะอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน ในเวลานี้เขาคิดว่าถ้าอุณหภูมิร่างกาย

ของเธออุ่นขึ้นอาจจะช่วยเธอได้บ้างดังนั้นเขาจึงได้ดึงเธอมากอดในอ้อมแขนของเขาและลูบหลังของเธอ

เขาพยายามจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น

ดรูวส์นั้นทั้งขอร้องทั้งข่มขู่และสาปแช่งเอริคนานกว่าหนึ่งชั่วโมง แต่หลังจากรั้งตัวเธอไว้แน่น

เขาอดทนพยายามที่จะปลอบโยนเธอ ในที่สุดเขาก็พบว่าเธอนั้นได้หลับลงในอ้อมแขนเขาแล้ว

เขาอยู่ตำแหน่งเดิมมานาน ทำให้ขานั้นเริ่มจะแข็งทื่อ

เขาพยายามจะวางเด็กสาวลงบนเตียง แต่ใครจะรู้ทันทีที่ปล่อยมือไปเด็กสาวคนที่ก็เริ่มดิ้นรน

ราวกับปลาพ้นจากน้ำ มือของเธอโบกไปมาราวกับพยายามจะหาบางอย่าง

เอริคถอนหายใจ เขาหาตำแหน่งที่สะดวกสบายมากขึ้นแล้วนำเด็กสาวเข้าในอ้อมแขนอีกครั้ง

เมื่อหัวของดรูวส์แตะที่หน้าอกของเขา ลมหายใจหอบๆของเธอก็กลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง

เมื่อกอดเธอเช่นนี้เอริคก็นึกถึงภรรยาและลูกชายของเขาจากชีวิตที่แล้วของเขา

ลูกชายของเขานั้นอายุ 5 ขวบและภรรยาของเขาเคยทำงานเป็นสเมียน แต่เธอลาออก

มาเป็นแม่บ้านเต็มเวลานับตั้งแต่เงินเดือนของเขาพอจะเลี้ยงดูเธอได้ เขาสงสัยว่าตอนนี้

พวกเขาทั้งสองคนจะเป็นเช่นไรบ้างหลังการจากไปอย่างกะทันหันของเขา หวังว่าพวกเขาจะไม่เป็นไรนะ

ดรูวส์ฝันว่าตัวเองเป็นนางเอกของภาพยนต์เรื่องหนึ่ง เธอร่วงลงและพบว่าตัวเองอยู่ในป่าที่มืดมิด

เธอสับสนและอยู่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยว จากนั้นเจ้าชายก็โผล่มาช่วยเธอจากแอปเปิ้ลพิษของแม่เลี้ยงเธอ

ดรูวส์เข้าร่วมกับเขาและคนแคระต่อสู้กับการกดขี่ของราชินีผู้ชั่วร้าย แล้วพวกเขาก็ได้จัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่

ในพระราชวังที่ตกแต่งด้วยขนมและเค้ก เจ้าชายอุ้มเธอไปที่ห้องหอ เขาวางตัวเธอไว้บนเตียงที่มีฝ้าห่มฝืนหนา

และดึงตัวเธอเข้าในอ้อมอกในขณะที่เธอยิ้มอย่างมีความสุขราวกับดอกไม้บาน

จากนั้นเธอก็ตื่นขึ้นมา

เธอพบว่าตัวเองเอนกายอยู่ภายในอ้อมกอดแสนอบอุ่นของชายคนหนึ่งและแขนของเธอก็เกาะแน่นบนเอวเขา

หลังจากเริ่มสับสน เธอก็เริ่มระลึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนได้แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม

เธอมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเอริคเล็กน้อย สายตาของเธอดูลุ่มหลง เส้นผมสีบลอนด์ของเขากระจายออก

และผิวของเธอก็รู้สึกถึงลมหายใจอันอ่อนโยนของเขา มันทำให้หัวใจของเธอกระหน่ำเต้นเร็วขึ้น

ทุกคนคิดว่าดรูวส์เป็นลูกคนโปรดของพระเจ้า เธอเป็นเป็นคนอายุน้อยที่มีชื่อเสียงและมีโอกาสที่ไม่จำกัด

แต่เธอไม่เคยรู้สึกมีความสุข ความไม่แยแสและไม่ใส่ใจของพ่อเธอ ความโลภไม่สิ้นสุดของแม่เธอ

ทำให้เธอรู้สึกหดหู่เหมือนนกที่อยู่ในกรงที่ไม่ต้องการอะไรอื่นนอกจากการเป็นอิสระ

ดังนั้นเธอเลยหลงมัวเมาไปกับสิ่งเลวร้ายเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อชีวิตของเธอ

หลังจากรู้ว่าหญิงสาวเริ่มใช้สิ่งนั้น แม่ของดรูวส์ไม่ได้เป็นห่วงตัวเธอ แต่กังวลว่าเธออาจจะไม่สามารถทำเงินได้อีกต่อไป

ความเย็นชาเช่นนี้นำไปสู่การติดยาเสพติดที่มากขึ้นของดรูวส์

สาวน้อยคนไหนไม่ฝันถึงเจ้าชายผู้ทรงเสน่ห์ ? แล้วเขาก็ต้องอ่อนโยน ตัวสูง หล่อและมีพรสวรรค์ไม่ทำตัวหยาบคาย

เขาต้องมีความอดทน พัดลมให้เวลาเธอร้อน กอดเธอเมื่อรู้สึกหนาว และเมื่อเธอเป็นหวัดก็ต้องดูแลเธอ แม้ว่าเธอ

กำลังจะตายเขาก็จะขี่มังกรของเขามุ่งไปยังขุมนรกแล้วนำเธอกลับมา......

(TL: ยัยหนูเอ้ย เพ้อมากช่วยแรกๆนี่ก็ยังกับพวกคนใช้ แต่ช่วงท้ายนี่ไม่ใช่เจ้าชายแล้ว พระเอกนิยายบู๊แฟนตาซีชัดๆ )

และตอนนี้เจ้าชายคนนั้นก็ปรากฎตัวขึ้นมาจริงๆ แม้ว่าจะต่างกับจินตนาการเล็กน้อย ตรงที่คนที่เขารักไม่ใช่เธอ

แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่รายละเอียดเล็กน้อย

แผนเดิมของดรูวส์คือแย่งเอริคไปจากเจนนิเฟอร์ อนิสตัน เพื่อโต้ตอบคำพูดแสนร้ายกาจ

แต่ตอนนี้สิ่งนั้นได้พัฒนาไปจนถึงจุดที่ว่าเธอไม่สามารถถอนตัวไปจากเขาได้

บางทีเพราะรู้สิ่กได้ถึงบางอย่างเอริคเปิดตาก็เห็นดรูวส์มองเขา เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวว่า คุณตื่นแล้วต้องหิวแน่ๆ

ผมจะทำอาหารเช้าให้ ในระหว่างนี้คุณไปอาบน้ำก่อน กลิ่นพวกนี้มันเหม็นเหลือทนจริงๆ

เอริคทำไมคุณถึงทำดีกับฉัน ?

เอิ่มมม... เอริคสะดุ้ง เขาเอื้อมออกไปแล้วลูบหัวดรูวส์เบาๆ เพราะเราเป็นเพื่อนกัน

(TL: เพื่อน ? ไม่เชื่อเฟ้ยยย ไอ้คนหลอกลวงงง)

เขาลุกขึ้นนั่งลง ดรูวส์ได้เข้ามาจูบที่ใบหน้าเขาอย่างรวดเร็ว

อ้ะ ดรูวส์ปากคุณเหม็น เอริคกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ดรูวส์คล้องไปที่คอเขา เอริคฉันรักคุณ

ก็ดีฉัน... เอริควางดรูวส์ลงและเปิดม่านออกแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดแสงเข้ามา

ดรูวส์มองไปที่แผ่นหลังของเขาแล้วบุ้ยปาก ฉันแค่อยากให้คุณรู้ไว้

อ่า ผมรู้แล้ว เอริคบีบใบหน้าที่น่ารักของดรูวส์

เอริคฉันเพิ่งรู้บางสิ่ง

อะไรหรอ ?

คุณกอดฉันทั้งคืนโดยไม่ได้ทำอะไร ฉันคิดว่าคุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับตรงนั้น

ถ้าคุณต้องการให้ฉันจะตรวจสอบให้ไหม ? ฉันจะทำให้ฟรี !

คุณใจดีจริงๆ ดร.แบร์รี่มอร์ แต่ผมอยากจะให้คุณรีบไปอาบน้ำก่อนพวกเราจะไปสาย

คุณต้องการจะเข้าด้วยกันกับฉันไหม?

ไม่ล่ะ ผมจะไปอาบข้างล่าง

อ้ะ นี่มันไม่ถูกต้องเอริคเราควรใช้ทรัพยากรน้ำอย่างประหยัด เราต้องไม่สิ้นเปลือง คุณลองคิดเกี่ยวกับ

คนในแอฟริกาสิ ที่นั่นขาดแคลนน้ำมากจนบางคนขาดน้ำมากๆจนตายได้เลยนะ

ถูกของคุณ ผมจะเริ่มประหยัดตั้งแต่พรุ่งนี้ ขอให้วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะใช้น้ำอย่างฟุ่มเฟือย

คุณอ่ะ....

ฤดูร้อนปี 1988 เด็กสาวที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดได้พบกับแสงสว่างที่แสนอบอุ่น ดั่งเช่นเดียวกับ

เมื้อเด็กที่กำลังจมน้ำ เธอคว้ามันไว้แน่นด้วยแรงนั้นหมดที่เธอสามารถรวมมันได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด