ตอนที่แล้วChapter 5 - เงื่อนไข
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 7 - ออดิชั่น

Chapter 6 - ข่าวดี


Chapter 6 - ข่าวดี

หลังจากเรื่องเกี่ยวกับจูราสสิก ปาร์ค เสร็จสิ้นแล้ว เอริคใช้เวลาว่างทั้งวัน

ในการเขียนและแก้ไขบทของเรื่อง 17 Again เนื้องเรื่องนั้นมุ่งเน้นไปที่ ครอบครัว ความรัก มิตรภาพ

ทางเลือกในชีวิต ในส่วนนี้ไม่มีปัญหา แต่เขาต้องแก้เกี่ยวกับทุกอย่างที่เป็นเทคโนโลยีในอนาคต

อย่างพวกโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับยุคนี้

หลังจากเขียนบทหนังเสร็จสิ้นเอริคก็ไปหาเจฟตามที่ได้สัญญาไว้ก่อนหน้านี้

นับตั้งแต่ได้อ่านเรื่องจูราสสิก ปาร์ค เจฟนั้นก็ไม่ได้ดูถูกเพื่อนตัวน้อยคนนี้อีกแล้ว

เมื่อเจฟอ่านบทหนังอย่างจริงจังแล้ว เขาก็พบความไม่สอดคล้องบางอย่างเช่น

เมื่อตอนตัวเอกกลับไปที่โรงเรียนเขาสวมเสื้อยืดเป็นรูปของเควิน เฟเดอร์ไลน์ เจฟได้ถามว่าคือใครกัน

เอริคค้นข้อมูลจากความทรงจำก็พบว่าเป็นสามีคนที่สองของบริคนีย์ สเปียส์ ซึ่งในปัจจุบันเป็นเพียงเด็กสิบขวบ

หลังจากค่อยๆปรับเปลี่ยนจุดที่เจฟแนะนำเสร็จแล้ว เอริคก็ได้ส่งมอบบทหนังให้แก่ไมเคิล

หลังจากหมดเรื่องนวนิยายและบทหนัง เอริคก็ไม่รีบร้อนที่จะเริ่มงานใหม่ เขาฝึกเล่นบาสเก็ตบอลแทน เพราะมีฉากที่ต้องเล่นบาสด้วยทักษะหลายฉาก เอริคเล่นได้แค่แบบพื้นๆ เขาจึงต้องฝึกเพิ่มเติม

ในฉากเกี่ยวกับบาสแม้ว่าแชค แอฟรอนจะเล่นได้ไม่เลว แต่ตัวแสดงแทนของเขานั้นเล่นได้อย่างน่าทึ่งมากโดยเฉพาะฉากในโรงอาหารที่เขาเลี้ยงลูกบาสล้อเลียนเจ้างั่งอย่างสแตน

สัปดาห์ต่อมาหลังจากกลับจากการใช้เวลาสองชั่วโมงฝึกบาสเก็ตบอลที่สนาม เอริคก็กลับบ้าน

เมื่อกำลังคิดอะไรเพลินๆก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงโทรศัพท์ หลายวันมานี้เอริคได้รับโทรศัพท์

หลายสายจากไมเคิลที่แจ้งให้เขารู้ความคืบหน้าของจูราสสิก ปาร์คกับบทหนังเรื่อง 17 Again

สำหรับเรื่องจูราสสิก ปาร์คทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี แต่สำหรับ 17 Again ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้น

แม้ว่าหลายบริษัทจะให้ความสนใจหลังจากอ่านบทหนัง แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับการที่นักเขียนจะขอแสดงนำในภาพยนต์ พวกเขาตอบปฎิเสธในทันที แน่นอนหนังแต่ละเรื่องต้องลงทุนหลายล้าน ใครจะอยากรับความเสี่ยงเช่นนี้กัน ?

เอริคบอกไมเคิลว่า ไม่จำเป็นที่เป้าหมายต้องเป็น 6 บริษัทหนังยักษ์ใหญ่ เท่านั้น ลองหาดูผู้ลิตรายย่อย

สวัสดี นี่บ้านวิลเลี่ยมครับ เอริคปรับลมหายใจแล้วรับสาย

สวัสดีเอริค นี่ไมเคิลเอง

เอริคยิ้มอย่างใจเย็น ไมเคิล? คุณโทรหาผมเกือบสิบครั้งแล้วในวันนี้ การที่คุณโทรมาหาผมกลางดึกแบบนี้หรอจะมีข่าวดี ?

ไมเคิลได้แต่บ่นผ่านทางโทรศัพย์ว่า อย่าพูดเรื่องนี้ เอาจริงๆนะ ฉันโทรไปตั้งหลายครั้ง คุณก็ไม่เคยรับเลย !

เกี่ยวกับเรื่องนั้นผมต้องขอโทษด้วยไมเคิล ตอนนั้นผมกำลังซ้อมบาสที่สนามบาสเก็ตบอลในชุมชน

ฝึกบาสเก็ตบอล? ว้าว คุณมีความตั้งใจที่ดีนะเอริค ในหนังเรื่องนี้ฉันจำได้ว่ามันมีฉากเล่นบาสเก็ตบอลหลายฉาก

ถูกแล้ว นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ฝึกที่สนาม ผมยังฝึกหน้ากระจกตอนเช้าชั่วโมงหนึ่งด้วย

ฉันต้องบอกเลยนะว่า ฉันชื่นชมในตัวคุณ น้อยคนนักที่จะมีความพยายามอย่างนี้ แล้วก็พรุ่งนี้เรามีนัดกัน

เอริคมือสั่นเล็กน้อยทำให้ลูกบาสที่กำลังหมุนอยู่บนนิ้วชี้ตกลงบนพื้น หลังจากเสียงลูกบาสตกหยุดลง

เขาก็ถามขึ้นว่า หรือว่านี่จะเป็น....ข่าวดี ?

แน่นอนคุณเป็นคนที่โชคดี ฉันได้รับโทรศัพท์จาก เจม บรูค จาก 20th Century Fox พวกเขามองบทของคุณในแง่ดี และไม่ได้ปฎิเสธเงื่อนไขของคุณ แต่คุณต้องเข้าการออดิชั่น

ขอบคุณ ไมเคิล

ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ไมเคิลหัวเราะ แน่นอนว่าคุณต้องเข้าใจก่อนนะว่าทางนั้นได้ตกลงให้คุณออดิชั่น

หากคุณทำได้ดีก็จะได้บทไป แต่ถ้าคุณแสดงได้แย่.... ฉันคงได้แต่แสดงความเสียใจด้วย

ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องกังวล ผมฝึกซ้อมมาเยอะมาก

เอริครู้สึกนอนไม่หลับทั้งคืน ในตอนเช้าเขารีบขับรถไปสถานที่ที่ได้นัดกันไว้กับไมเคิล ไครช

ที่นี่คือสตูดิโอของ Twentieth Century Fox ? เอริคมองไปที่โกดังขนาดใหญ่อย่างเต็มไปด้วยความปรารถนา

ไมเคิลปิดประตูรถแล้วเดินไปด้านข้างของเอริคแล้วเงยหน้าพูดขึ้นว่า ใช่มันน่าประทับใจมาก....อ่า แต่ของวอร์เนอร์ มันน่าประทับใจยิ่งกว่านี้อีกรู้ไหม ? คุณควรใช้เวลาไปเยี่ยมชมพวกเขานะ ถ้ามีโอกาส

เอริคย้อนกลับไปนึกถึงภาพยนต์บางเรื่องที่ผลิตโดยวอร์เนอร์ และพยักหน้า แน่นอน ผมจะไป

เจ้าหน้าที่เดินนำพวกเขาทั้งสองเข้าไปในประตูสำนักงาน พวกเขาเคาะประตูเบาๆจากนั้นก็ถูกเชิญเข้าไปด้านใน

เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องก็เห็นคนสองคนเป็นผู้ชายกับผู้หญิง สองคนนั้นลุกขึ้นแล้วทักทายพวกเขา

ไมเคิล ไครช จับมือกับพวกเขาแล้วแนะนำว่า เจม , เพนนี ทางนี้คือ เอริค วิลเลี่ยม

เอริค ทางนี้คือ เจม บรูค เขาเป็นโปรดิวเซอร์ และทางนี้คือเพนนี มาร์แซล ผู้กำกับ

หลังจากการแนะนำตัว ไมเคิลยิ้มให้เพนนีแล้วกล่าวว่า เอริคคุณรู้ไหม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพนนี

นั้นได้เป็นผู้กำกับหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์อเมริกาที่ทำเงินได้มากกว่าร้อยล้านดอลล่าในบ็อกออฟฟิศ

เอริคยื่นมือไปจับกับเจมบรูคเบาๆ และชักมือกลับโดยเร็ว

เอริคตะหนักได้ว่าโปรดิวเซอร์คนนี้ดูเหมือนจะไม่ชอบเขานัก บางทีอาจเป็นเพราะการที่เอริคขอแสดงบทนำด้วยตัวเอง

เอริคไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจเมื่อหันไปหาทาง เพนนี มาร์แชล เธอเป็นผู้หญิงผิวขาวผมสีทอง อายุราวๆ40 ปี

เมื่อครั้งเธอเป็นนักแสดง เธอตัวอวบอ้วนเล็กน้อยจึงเป็นเรื่องยากเมื่อเข้าการคัดเลือกบท

สวัสดี คุณเพนนี ผมชอบหนังของคุณเรื่อง BIG มากครับ

ขอบคุณสำหรับคำชื่นชมเอริค การแสดงออกของเพนนี มาร์แชล นั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อเอริค พูดถึงเรื่อง BIG หนังเรื่องนี้ยังคงเข้าโรงอยู่ ทุกคนรู้สึกว่าเมื่อหนังเรื่องนี้ทำรายได้ร้อยล้านใน

บ๊อกออฟฟิศแล้วรายได้มันจะลดลง

แต่ในความจริงมันกลับเพิ่มขึ้น ยังไงก็ตามมันก็เป็นการฉายในอาทิตย์ที่ 4 แล้ว มีภาพยนต์จำนวนมากกำลังจะเข้าฉายเร็วนี้ๆ

ดังนั้นเร็วๆนี้มันคงได้ออกจากโรง

หลังจากที่พวกเขาแนะนำตัวกันเสร็จแล้ว เจม บรูค เพนนี มาร์เชลและเอริคก็ได้แยกย้ายกันนั่ง

ในไม่ช้านี้พวกเขาต้องร่วมมือกันทำให้หนังเรื่อง 17 Again ประสบความสำเร็จ เอริคยิ้มอย่างมั่นใจและนั่งลงข้างไมเคิล

ผู้ช่วยสาวสวยคนหนึ่งยกกาแฟมาบริการก่อนจะเดินจากออฟฟิศไป

เจม บรูคไม่ได้แตะถ้วยของเขา เขายกมือขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะแล้วกล่าวว่า

เอริค บทหนังของตุณมันดีมาก แต่ฉันต้องบอกเลยว่าเงื่อนไขของคุณนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยๆ...แต่คุณเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลาย

ที่ไม่มีประสบการณ์การแสดง ดังนั้นทางเราเลยอยากจะปฎิเสธ แต่คุณแบรี่ ดิวเลอร์เป็นคนพบบทหนังของคุณ แล้วเขาชอบมาก และเห็นด้วยกับข้อเสนอของคุณ แน่นอนว่าในกรณีที่คุณผ่านการออดิชั่น คุณต้องยอมรับการเรียนการแสดงขั้นพื้นฐานเสียก่อน

เอริคพยักหน้าเพื่อแสดงความเห็นด้วย เขาแปลกใจเมื่อได้ยินเกี่ยวกับ แบรี่ ดิวเลอร์ เป็นคนอนุมัติบทหนังของเขาเอง

แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จัก แบรี่ ดิวเลอร์ เขาเคยเป็น CEO ของทั้ง' Disney และ Dreamworks, ทั้งเจฟฟรีย์ แคตเซนเบิร์ก และไมเคิล ไอส์เนอร์ ก็เคยทำงานเป็นผู้ช่วยของเขาเมื่อตอนยังอยู่ที่ Paramount

แบรี่ ดิวเลอร์ โลดแล่นในฮอลลีวู้ดมากว่าสามสิบปี เขาเริ่มจากอยู่ใน Paramount และ Twentieth Century Fox จากวงการภาพยนต์จนไปถึงเครือข่ายโทรทัศน์ทั่วประเทศเขาได้ทิ้งอะไรไว้มากมายไว้เบื้องหลัง

เมื่อเขาจมไปกับห้วงความคิด ไมเคิลสกิลเขาเบาๆให้รู้ตัว

เอริคตะหนักว่าเขายังอยู่ในออฟฟิสและเจม บรูคก็กำลังมองมาที่เขาอย่างไม่พอใจ

ตั้งแต่แรกเจมไม่ได้มีความรู้สึกดีอะไรกับเอริคอยู่แล้ว การสร้างภาพยนต์ในฮอลลีวู้ดทุกอย่างจะได้รับการตัดสินใจโดยโปรดิวเซอร์ ตั้งแต่การคัดเลือกนักแสดงจนถึงฉากจบนาทีสุดท้าย เงื่อนไขที่เอริคเสนอนั้นมันเป็นเพียงแค่ภัยคุกคามสำหรับเขา

ผมขอโทษ ผมฟุ่งซ่านไปหน่อย เอริครีบขอโทษ

ไม่เป็นไร เจ้าหนู เมื่อพูดกับชายหนุ่มคนนี้นั้นน้ำเสียงของเจมก็ได้เปลี่ยนไปแล้วพูดขึ้นมาว่า

ก่อนจะพูดเรื่องอื่น เอาเป็นว่าเรามาเริ่มการทดสอบกันก่อนเถอะ....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด