ตอนที่แล้วตอนที่ 135 ของขวัญจากฮองเฮา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 137 ข้าจะทรมานเจ้าให้เจ็บปวดเจียนตาย!

ตอนที่ 136 คำขอร้อง


เฟิงเฉินหยูไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป ล้มลงที่พื้น

นี่เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงต่อฮูหยินผู้เฒ่า และเฟิงจินหยวน พวกเขารีบวิ่งไปดูเฟิงเฉินหยู พวกเขาต่างเรียนเฟิงเฉินหยู "เฉินหยู! เฉินหยู!"

ไม่ว่าพวกเขาจะตะโกนดังแค่ไหน เฟิงเฉินหยูก็ไม่ตื่นขึ้นมา นางเป็นลมหมดสติไปแล้ว

เฟิงจินหยวนตะโกนด้วยความโกรธ  "ใครที่ไปตามหมอ? ทำไมหมอยังไม่มา?"

บ่าวรับใช้รีบวิ่งไปข้างหน้า และบอกว่า "ท่านหมอมานานแล้วขอรับ แต่ด้วยพระราชโองการที่แม่นมดงนำมา ท่านหมอก็เลยกลัวที่จะเข้ามาคฤหาสน์ และยืนอยู่ข้างนอกรอขอรับ!"

เฟิงจินหยวนโกรธมาก "งั้นรีบไปเรียกเข้ามา!"

"ขอรับ!" บ่าวรับใช้ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว และวิ่งออกไป ไม่นานหลังจากนั้นหมอก็เดินเข้ามา

เฟิงหยูเฮงรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่นางจะยังอยู่ที่นี่ ดังนั้นนางจึงเดินไปหาเหยาซื่อและคว้ามือของนาง แล้วหันไปกล่าวกับฮูหยินผู้เฒ่า "อาการเจ็บป่วยของพี่ใหญ่ต้องการเวลาพักผ่อน อาเฮงจะไม่อยู่รบกวนเจ้าค่ะ" นางโค้งคำนับและเดินออกไปพร้อมเหยาซื่อ

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ อันชิก็รีบพูด "ข้าก็จะพาบุตรสาวกลับเรือนก่อนเจ้าค่ะ"

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ต้องการให้พวกเขาอยู่ต่อ จึงโบกมือให้นาง: "พวกเจ้าออกไปทั้งหมด!"

อันชิรีบดึงเฟิงเซียงหรูเดินออกไป

เฟิงเซียงหรูเดินไปอย่างรวดเร็วและจับมือเฟิงหยูเฮงแล้วถาม "พี่รอง ทำไมเมื่อคืนไม่กลับเรือนเจ้าคะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม?"

เฟิงหยูเฮงสามารถมองเห็นความกังวลบนใบหน้าของเฟิงเซียงหรูซึ่งทำให้นางรู้สึกอบอุ่นภายใน แม้ว่านางไม่ชอบครอบครัวนี้แต่ก็ยังมีบางคนที่นางรู้สึกดีด้วย

นางยกมือขึ้นแล้วลูบแก้มของเฟิงเซียงหรู "สาวน้อยคนนี้กลายเป็นคนกังวลตั้งแต่เมื่อไหร่!" ในที่สุดรอยยิ้มของเด็กอายุสิบสองปี "เจ้าไม่ต้องกังวล พี่สาวของเจ้าเป็นคนดี "

เฟิงเซียงหรูถอนหายใจด้วยความโล่งอก "เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากออกจากพระราชวัง ข้าบอกท่านพ่อว่าจะรอพี่รองที่หน้าประตู ท่านพ่อไม่เห็นด้วย หลังจากที่ข้ามาถึงคฤหาสน์ ท่านพ่อส่งรถม้าไปที่ประตูของพระราชวังเพื่อรอรับพี่ใหญ่ ท่านแม่อยากจะส่งรถม้าเพื่อรับพี่รอง แต่ท่านแม่พบท่านพ่อก่อน พวกเราถูกขังไว้ในคฤหาสน์ และท่านพ่อบอกว่าไม่มีใครออกไปทั้งนั้น" ขณะที่เฟิงเซียงหรูพูด ใบหน้าของนางเย็นชามาก หลังจากลังเลเล็กน้อย นางก็กล่าวว่า "พี่รอง เซียงหรูเกลียดท่านพ่อ"

อันชิตกใจและรีบมองไปรอบๆ แล้วเตือนว่า "อย่าเสียงดัง เจ้ามองไปรอบ ๆ และดูว่าเราอยู่ที่ไหน อย่าพูดเหลวไหล !"

เฟิงหยูเฮงยิ้มแย้มแจ่มใส "แม่รองไม่ต้องเป็นห่วง อาเฮงไม่มีความสามารถมากมายนัก แต่สำหรับการปกป้องเฟิงเซียงหรู ข้าปกป้องน้องได้"

อันชิจ้องมองและกุมมือของเฟิงหยูเฮงด้วยความห่วงใย "ข้าไม่เป็นห่วงเซียงหรู ข้าเป็นห่วงเจ้า คุณหนูรองเป็นคนฉลาด นั่นคือสิ่งที่ข้ารู้ อย่างไรก็ตามคุณหนูรองยังไม่ได้แต่งงานเหลือเวลาอีก 2 ปี และสถานการณ์ในคฤหาสน์นี้ไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้ คุณหนูรองต้องระมัดระวังมากขึ้น"

เหยาซื่อพยักหน้ากล่าวว่า "อนุอันพูดถูก อาเฮง พ่อของเจ้าเป็นเสนาบดีมาหลายปีแล้ว เจ้าอย่าต่อต้านเขาโดยตรง"

เฟิงหยูเฮงรู้ว่าทั้งสองพูดมาเพื่อประโยชน์ของนางทั้งหมด แต่นางไม่ได้พูดอะไร นางยิ้มให้ ขณะที่นางพาเหยาซื่อกลับเรือนตงเซิง

สาวใช้ของเรือนตงเซิงได้ยินว่าเฟิงหยูเฮงมาแล้ว นางได้เตรียมโจ๊กและอาหารไว้ให้แล้ว ขณะที่เฟิงหยูเฮงเข้าไปในห้อง ฉิงหยูได้ยกอาหารเข้าไปให้นาง

เหยาซื่อบอกให้นางพักผ่อนหลังจากรับประทานอาหารและห้ามทำอะไรอย่างอื่น เมื่อเห็นว่าเฟิงหยูเฮงพยักหน้ารับปาก เหยาซื่อก็ให้ฉิงหยูเฝ้าดูนางไว้ก่อนที่จะนำสาวใช้ของนางกลับมาที่ห้องของนาง

ฉิงหยูเทน้ำใส่ถ้วยแล้วกล่าวว่า "คุณหนูไม่ได้นอนทั้งคืน อย่ากินอาหารที่มีไขมันมาก โจ๊กกับผักจะสบายกระเพาะมากกว่าเจ้าค่ะ"

เฟิงหยูเฮงมองไปที่ฉิงหยูและอดยิ้มไม่ได้ "เจ้าทำงานหนักมาเกินไปทำให้เจ้าผอมลง   เงินเดือนที่ข้าให้ไม่น้อยไปใช่ไหม? ทำไมเจ้าถึงไม่กินข้าวเยอะๆ "

ฉิงหยูรู้สึกอายเล็กน้อยขณะที่นางยิ้ม ในขณะเติมน้ำแกงใส่ชาม นางกล่าวว่า "คุณหนูคือความสุขของบ่าวรับใช้คนนี้ ข้าน้ำหนักเพิ่มขึ้นแล้ว เสื้อผ้าที่ใส่ก่อนเข้าคฤหาสน์ตอนนี้ใส่ไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ"

เฟิงหยูเฮงมองเสื้อผ้าตอนนี้ของนางและจำได้ทันทีว่า "นับตั้งแต่วันที่แม่นมซันออกไป และวังซวนไปที่เซียวโจวกับเฟิงจื่อหรู ไม่มีใครดูแลเรือนตงเซิง ตอนนี้มันเป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าข้าไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าใหม่ให้เจ้า"

ฉิงหยูช่วยเติมน้ำแกงโสมเพิ่มและเฝ้าดูนางดื่มก่อนพูดว่า "สิ่งเหล่านี้คุณหนูไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าได้เตรียมเสื้อผ้าใหม่สำหรับบ่าวรับใช้ของเรือนตงเซิงแล้วเจ้าค่ะ และข้ายังเตรียมห้องบัญชีของเรือนตงเซิง ข้าจะเป็นคนตรวจสมุดบัญชีเอง ตอนนี้ข้าต้องการสังเกตการทำงานของสาวใช้คนใหม่ที่กำลังฝึก เมื่อพวกเขาเก่งขึ้น พวกเขาจะถูกนำตัวมาที่คฤหาสน์เพื่อให้คุณหนูรองดูตัว ถ้าคุณหนูรองเห็นชอบ พวกเขาก็สามารถอยู่ดูแลเรือนตงเซิงได้ ตอนนี้เรือนตงเซิงขาดแคลนบ่าวรับใช้"

เฟิงหยูเฮงรู้สึกประทับใจกับฉิงหยูมากขึ้นเรื่อย ๆ สาวใช้คนนี้ไม่เพียงแต่มีจิตใจที่ดีในการทำธุรกิจเท่านั้น แต่นางยังพิถีพิถัน นางไม่ได้เกิดและเติบโตในราชวงศ์ต้าชุน ดังนั้นจึงมีกฎมากมายจากยุคนี้ที่นางไม่เข้าใจ ฉิงหยูกล่าวถึงสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจน หลายสิ่งหลายอย่างที่เฟิงหยูเฮงไม่สามารถคิดได้ ฉิงหยูสามารถคิดแทนนางได้ นางยังกระตือรือร้นที่จะทำพวกมันซึ่งทำให้เฟิงหยูเฮงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

"เรือนนี้ข้าให้เจ้าดูแล" เฟิงหยูเฮงไว้ใจฉิงหยูมาก "ตอนนี้วังซวนไม่อยู่และงานนี้ไม่ใช่งานถนัดของหวงซวน เจ้าต้องทำงานมาก ถ้าจำเป็นต้องมีสาวใช้มากขึ้นเจ้าก็ไปหาคนมาเพิ่ม แต่เมื่อเจ้าไปหาสาวใช้ก็ดูให้ดีว่ามีสัญญาของสาวใช้ นอกจากนี้จะต้องชี้แจงสิ่งที่ได้มาจากทางการ"

ฉิงหยูพยักหน้าอย่างจริงจัง "คุณหนูรองไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ ข้าเข้าใจเรื่องเหล่านี้"

เฟิงหยูเฮงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็กล่าวว่า "รับสาวใช้ขั้นหนึ่งอีก 2 คน และสาวใช้ขั้นสองอีก 4 คน สาวใช้ขั้นหนึ่งสามารถนำมาจากคนที่เจ้าฝึกไว้ 1 คน ส่วนอีกคนซื้อมาก็ได้"

นางให้อำนาจแก่ฉิงหยูแล้ว นางอนุญาตให้ฉิงหยูเลือกสาวใช้ ฉิงหยูได้สอนความรู้ที่จำเป็นในการช่วยดูแลร้านค้าและในอีกด้านหนึ่งนางคุ้นเคยกับคฤหาสน์ตระกูลเฟิง นางอาศัยอยู่ที่นี่จึงจำเป็นต้องมีผู้ช่วย นอกจากนี้การพิจารณาของเฟิงหยูเฮงไม่ได้สิ้นสุดลงที่ตระกูลเฟิง จะมีสักวันที่นางจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คนที่นางพัฒนาในวันนี้จะกลายเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถได้ในที่สุด

"ข้าจะจำไว้เจ้าค่ะ" ฉิงหยูปฏิบัติตาม "ข้าจะออกไปและเลือกสาวใช้ คนที่ได้รับการแต่งตั้งจะถูกนำตัวมาให้คุณหนูคัดเลือกเจ้าค่ะ"

หลังจากที่เฟิงหยูเฮงกินเสร็จแล้ว ฉิงหยูก็นำชามออกไป หวงซวนวิ่งเข้าไปในห้องของนาง นางพูดเล่นกับฉิงหยูก่อนเดินเข้าไปในห้อง แล้วส่งจดหมายให้เฟิงหยูเฮง "นกพิราบที่ส่งมาเป็นของวังซวน นกพิราบที่ใช้มาจากพระราชวัง พวกมันรู้ทางกลับไปที่พระราชวัง เป่ยจื่อที่ส่งให้ทางนี้แล้ว คุณหนูรองอ่านก่อนเจ้าค่ะ"

เฟิงหยูเฮงได้รับจดหมายและเปิดออก นางได้เห็นลายมือของวังซวน "ที่เซียวโจวทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี สิ่งที่คุณหนูสั่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณชายรองจื่อหรูได้รับการถ่ายทอดความรู้จากอาจารใหญ่เย่ ข้าจะกลับไปเมืองหลวงภายในสองสามวัน คุณหนูรองไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ"

นางโล่งใจมากและส่งจดหมายไปให้หวงซวน, หวงซวนอ่านและกล่าวว่า "เรื่องที่เซียวโจวประสบความสำเร็จเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่คุณหนูจะทำกับเด็กสาวเหล่านั้นล่ะเจ้าค่ะ?"

เฟิงหยูเฮงยิ้ม จิตใจของหวงซวนไม่คมชัดเท่าวังซวน ศิลปะการต่อสู้ของนางดีแต่ใจของนางยังไม่แข็งพอ

"สอนเด็กพวกนั้นให้ดี จะได้ช่วยกระจายร้านห้องโถงสมุนไพรของเราไปทั่วราชวงศ์ต้าชุน"

หวงซวนกระซิบ "คุณหนูรอง, คุณหนูต้องการทำธุรกิจหรือเจ้าค่ะ?"

เฟิงหยูเฮงหัวเราะ "ลองคิดถึงธุรกิจนี้สิ! การวินิจฉัยโรคและการสั่งยาต้องใช้เงิน อย่างไรก็ตาม หวงซวน เจ้าต้องรู้ว่าในอนาคตร้านห้องโถงสมุนไพรของเราจะอยู่ในทุกเมืองของราชวงศ์ต้าชุน ถ้าเจ้าอยากรู้อะไรบางอย่าง เจ้าก็ต้องควบคุมบางสิ่งบางอย่าง นี่จะไม่เหมือนมีหูตาอีกมากมาย?"

หวงซวนตระหนักรู้อย่างฉับพลันว่า "คุณหนูรอง หวงซวนได้รับบทเรียนแล้ว"

เฟิงหยูเฮงพยักหน้าและพูดกับหวงซวน "ผ่อนคลายและรอวังซวนกลับมา อีกไม่นาจะเป็นวันของเรา ถ้าเจ้าติดตามข้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง"

แน่นอนวังซวนเชื่อคำพูดของเฟิงหยูเฮง นางอยู่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงมาเป็นเวลานานแล้ว คุณหนูรองไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง โดยเฉพาะลูกธนูสามดอกที่เฟิงหยูเฮงยิงที่งานเลี้ยง มันทำให้ทุกคนรู้สึกที่มั่นคง หวงซวนรู้ดีว่าถ้าคุณหนูรองของตระกูลเฟิงได้แต่งงานกับองค์ชายเก้าแล้ว บางทีธรณีประตูของตระกูลเฟิงอาจจะสึกจนกลายเป็นพื้นห้องธรรมดาเนื่องจากผู้คนที่หลั่งไหลมาสานสัมพันธ์ด้วย

เฟิงหยูเฮงนอนพักผ่อนหลังจากที่ทานอาหารแล้ว นางนอนหลับตลอดทั้งวัน นางไม่สนใจเรื่องของตระกูลเฟิง นางนอนหลับทั้งวัน

ตอนเที่ยงคืน หวงซวนไปที่เตียงของนางและปลุกนางให้ตื่นขึ้นโดยกล่าวว่า "คุณหนูรองเจ้าคะ ท่านฮูหยินผู้เฒ่ามาเจ้าค่ะ"

เฟิงหยูเฮงกำลังงุนงงและไม่ได้ยินอย่างชัดเจน "ใครมา?"

หวงซวนกล่าวอีกครั้งว่า "ฮูหยินผู้เฒ่ามาที่เรือนตงเซิงเจ้าค่ะ ต้องการพบคุณหนู"

"มีเรื่องอะไร? ตอนนี้กี่โมงแล้ว" นางขยี้ตาและรีบลุกขึ้นจากเตียง

"ตอนนี้ตีสามเจ้าค่ะ" หวงซวนก็ไม่มีความสุขมาก ในขณะที่ช่วยเฟิงหยูเฮงแต่งตัว   นางบ่นว่า "ตระกูลเฟิงนี้ไม่มีมารยาท มารบกวนในช่วงกลางดึก"

เฟิงหยูเฮงยิ้ม "ใครจะสนใจ ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตามไม่มีมารยาท แต่ถ้ามันมากเกินไปเราสามารถล้อมกำแพงอย่างแน่นหนา"

หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว หวงซวนก็พานางไปที่ห้องโถง เมื่อพวกเขามาถึง ยามก็ให้ฮูหยินผู้เฒ่าเข้าไป

เฟิงหยูเฮงคารวะฮูหยินผู้เฒ๋า กฎที่นางตั้งเอาไว้ค่อนข้างดี แม้ว่าจะเป็นฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเฟิง นางก็ไม่สามารถมาเดินเล่นที่เรือนตงเซิงได้

"ท่านย่า!" โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ เฟิงหยูเฮงรีบก้าวไปข้างหน้าและช่วยพยุงฮูหยินผู้เฒ่า เหลือบมองไปที่ยายจาว นางเห็นใบหน้าที่อิดโรย พวกเขาทุกคนที่มีอายุมากกว่านาง พวกเขาจะอดทนต่อปัญหาเช่นนี้ได้อย่างไร? "ตอนนี้ดึกมากแล้ว ท่านย่าเป็นอะไรเจ้าค่ะ? ทำไมไม่ส่งคนมาเรียกอาเฮง เรือนตงเซิงอยู่ไกลมาก เราจะทำอย่างไรถ้ามีอะไรเกิดขึ้นตอนที่ท่านย่าเดินมา!"

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ใส่ใจกับการพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ นางพูดตรงเข้าเรื่องเลย "อาการป่วยของเฉินหยูไม่ดีขึ้น หมอหลายคนที่ถูกเรียกมาต่างส่ายหน้า นางทานยาลงไปแต่นางก็ยังไม่ได้สติ อาเฮงเป็นทางเลือกสุดท้ายของข้า ไม่ว่าอย่างไรเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าไปดูนางหน่อยได้หรือไม่?" ฮูหยินผู้เฒ่าพูดด้วยน้ำเสียงขอร้อง

สีหน้าของเฟิงหยูเฮงแสดงให้เห็นถึงความลำบากใจ เมื่อนางมองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าและกล่าวว่า "ท่านย่ารู้หรือไม่เจ้าคะว่าท่านพ่อมีอคติกับอาเฮง การรักษาอาการเจ็บป่วยจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอาเฮงทำผิดพลาด ท่านพ่อจะโทษข้าอย่างแน่นอน บางทีอาเฮงจะถูกส่งไปที่ภูเขาในภาคตะวันตกเฉียงเหนืออีกครั้งหนึ่ง"

"เขาจะกล้าหรือ!" ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธ "อาเฮงไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยเจ้าเอง พ่อของเจ้าจะไม่กล้าลงโทษเจ้าแน่นอน! ตราบใดที่เจ้าไปดูที่พี่ใหญ่ของเจ้า แม้ว่าจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะยืนอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ"

เฟิงหยูเฮงทำความเคารพ "ท่านย่าพูดเกินไปเจ้าค่ะ"

ฮูหยินผู้เฒ่าจับมือของนางและพูดด้วยเสียงที่สั่น ๆ "หลานสาวที่รัก เจ้าสัญญากับข้าสิ?"

เฟิงเฉินหยูพยักหน้ากล่าวว่า "หากท่านย่าช่วยอาเฮง, อาเฮงจะไปดูพี่ใหญ่เจ้าค่ะ"

หลังจากพูดแบบนี้แล้ว ประกายแวววาวในสายตาของเฟิงหยูเฮง มีเพียงหวงซวนเท่านั้นที่มองเห็นได้

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด