ตอนที่แล้วบทที่ 44 เอาไงดี 2 (2) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 45 เอาไงดี 3 (2) [อ่านฟรี]

บทที่ 45 เอาไงดี 3 (1) [อ่านฟรี]


บทที่ 45 เอาไงดี 3 (1)

บู๊ม!!!!

บู๊มมมมมมมมม!!!!!!!!!!!

เสียงระเบิดดังขึ้นติดต่อกันสองครั้งโดยอานุภาพความรุนแรงของมันอาจไม่สามารถเทียบได้กับการระเบิดก่อนหน้านี้ได้ ทุกคนต่างหมอบตัวลงแนบพื้นและยกมือป้องกันศีรษะของตน

“โอ้ยย!!!!!!!!!!”

“โอ้ย!!!!...แข.....แขนของข้า”

“อ๊ากกกกกก!!!!!!!”

เสียงกรีดร้องของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ที่เสียชีวิตจากการได้รับแรงระเบิดต่างปกคลุมไปทั่วทั้งจัตุรัสกลางเมือง

ทันใดนั้น

ฟิ้ว วิ้ว วิ้วว วิ้ว~~

เสียงลมกระโชกรุนแรงที่ฟังเหมือนเสียงสายฝนกระหน่ำต่างพัดผ่านศีรษะของผู้คน กลุ่มคนที่อยู่ตรงกลางของจัตุรัสต่างถูกฝุ่นจากพื้นดินเข้าปกคลุมลำตัว ในขณะที่กลุ่มคนที่อยู่ใกล้บริเวณน้ำพุต่างก็เปียกโชกไปทั่วร่าง ก่อนที่พวกเขาจะค่อยๆยกศีรษะขึ้นมา

สิ่งแรกที่พวกเขาทั้งหมดมุ่งสายตาไปคือสิ่งที่อยู่ทางด้านทิศเหนือ ‘เหล่าเชื้อพระวงศ์แห่งอาณาจักรโรมัน’ไม่มีเหล่าเชื้อพระวงศ์องค์ใดที่ได้รับบาดเจ็บเพราะมีการสร้างโล่ป้องกันไว้ได้ทันแต่ผู้คนที่อยู่รายล้อมต่างได้รับบาดเจ็บ

กลุ่มคนที่ได้รับบาดเจ็บคือเหล่าชาวเมืองที่เข้ามาในจัตุรัสกลางเมืองนี้ก่อนใครเพื่อรอเข้าเฝ้าพระราชา นอกจากนี้ยังมีเหล่าข้ารับใช้ ทหารองครักษ์และนักเวทย์ที่ไม่มีเวลามากพอที่จะสร้างโล่ป้องกันให้แก่ตนเองได้ทัน

กลุ่มคนเหล่านี้บ้างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสในขณะที่บางคนก็เสียชีวิต ฝุ่นสีดำที่ฟุ้งไปทั่วบริเวณนั้นยากที่จะมองเห็นเส้นผมสีบลอนด์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์ได้ชัด สำหรับผู้ที่รอดชีวิตต่างยกศีรษะของพวกเขาให้สูงขึ้นและหันไปมองเหล่าขุนนางและเหล่าชาวเมืองที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก

เคร้ง!!!!!!!!!

โล่สีเงินเริ่มที่จะแตกออกจากกันช้าๆไม่ต่างจากเศษแก้วและปีกสีเงินก็ร่วงหล่นลงมาเช่นกัน ตอนนี้ฝุ่นสีดำที่ฟุ้งไปทั่วบริเวณเริ่มจางลงและแน่นอนว่าคนที่อยู่ภายในนั้นไม่มีแม้แต่เศษชิ้นเนื้อหรือเลือดสักหยดปรากฏให้เห็น

ทุกคนต่างรู้สึกขนลุกชันไปทั่วร่างกาย สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงความรุนแรงของระเบิดพลังเวทย์นี้ได้ สายตาของพวกเขามุ่งไปยังจุดเดียวกันและมันเป็นจุดสิ้นสุดของเส้นแสงสีเงินนั่น

“นายน้อยคาร์ล!!!!!!”

โรสลินที่ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่ใช้เวทย์ล่องหนของมังกรดำอีกต่อไป เธอรีบเข้าไปพยุงคาร์ลไว้อย่างรวดเร็วเมื่อมองเห็นว่าเข่าของคาร์ลค่อยๆทรุดลงราวกับคนหมดแรงและเริ่มที่จะล้มลงไป เธอมองสลับไปมาระหว่างร่างของคาร์ลและโล่สีเงินที่ค่อยๆสลายไปก่อนจะเหลือบไปมองเหล่าเชื้อพระวงศ์ทั้งหมด นี่เป็นการเกิดระเบิดที่รุนแรงถึงสองครั้งติดต่อกัน

โรสลินรู้ว่าโล่ของมังกรดำสามารถลดแรงกระแทกจากระเบิดไว้ได้ส่วนใหญ่แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นโล่สีเงินของคาร์ลก็ได้ทำในสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก

‘และนั่นหมายความว่าแรงหดตัวกลับของมันย่อมรุนแรงเช่นกัน’

โรสลินแตะไปที่แขนของคาร์ลเพื่อเรียกสติและส่งเสียงร้องเรียกเขา คาร์ลยังคงยืนอยู่พลางเงยหน้าของตนขึ้นช้าๆ

“นายน้อยคาร์ล....ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?....นายน้อยคาร์ล!”

คาร์ลเริ่มสบถในใจ

‘.....เจ็บเป็นบ้าเลย!!!!’

คาร์ลได้ลดพลังของโล่สีเงินลงหลังจากที่เห็นมังกรดำสร้างโล่ของตัวมันเองก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้น ต้องขอบคุณที่การหดตัวกลับของโล่ไม่รุนแรงเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามมือของเขาก็ยังคงสั่นอยู่ คาร์ลไม่สิ...คิมร็อกโซรู้สึกว่าตนจะพูดเกินจริงเมื่อความเจ็บปวดเริ่มมาเยือนช้าๆ

แม้ว่ามันจะเป็นความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าเจ็บปวดอยู่ดี เขาพยายามที่จะฝืนตัวเองให้ยืนทรงตัวไว้ให้มั่น

“ท่านคาร์ล!”

“นายน้อยคาร์ล!”

เสียงร้องเรียกชื่อคาร์ลเข้ามาใกล้เขาช้าๆก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้น

“คาร์ล....เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ข้าไม่เป็น...ไร..แค่ก!!!”

“..เ...เลือด!!!!”

ใบหน้าของอีริคซีดเผือดลงและทำให้เขาเกือบจะหงายหลังเป็นลมล้มคว่ำไป

อย่างไรก็ตามคาร์ลกลับเริ่มรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่เขากระอักเป็นเลือดออกมาเล็กน้อย

‘ ‘พละกำลังแห่งดวงใจ’เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ’

ความเจ็บปวดในร่างกายของเขาได้เลือนหายไปและร่างกายเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเวลาที่รวดเร็ว แต่จะว่าไปเขารู้สึกว่าร่างกายของเขาในตอนนี้มีความแข็งแรงมากกว่าเดิมด้วยซ้ำเมื่อพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ‘พละกำลังแห่งดวงใจ’เริ่มทำงานขึ้น มันเป็นความรู้สึกสดชื่นที่คล้ายกับความรู้สึกเมื่อเขาสามารถนอนหลับได้เต็มตื่นเมื่อไม่มีรอนคอยกวนใจ  เขาค่อยๆหลับตาลงช้าๆและเริ่มตระหนักถึงร่างกายของตนเองในตอนนี้

‘แขนและขาของฉันยังคงแนบติดกับร่างกายอยู่...มือของฉันที่สั่นระริกก่อนหน้านี้หรือแม้แต่อาการเจ็บปวดที่มากกว่าการถูกกระดาษบาดนั่นมันก็หายไป....ร่างกายของฉันดูแข็งแรงขึ้นหลังจากที่กระอักเลือดออกมาเพียงครั้งเดียว’

คาร์ลเข้าใจความคิดของเหล่าวีรบุรุษที่เลือกจะไม่โยนทิ้งพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณเหล่านี้ออกไปแม้ว่ามันจะไม่จำเป็นต่อตัวของพวกเขาเลยก็ตาม อย่างน้อยมันก็มีประโยชน์ มันช่วยในการบรรเทาอาการเจ็บปวดได้มากกว่าที่เขาคาดไว้และตอนนี้เขารู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงเริ่มหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความพอใจ

แต่ผู้คนรอบข้างตัวเขาในตอนนี้กับมีสีหน้าที่ยุ่งเหยิงมากกว่าเดิม

“ท่านคิดว่าตอนนี้มันเป็นเรื่องตลกหรือไง?....หยุดหัวเราะได้แล้ว!”

คาร์ลค่อยๆลืมตาขึ้นหลังจากที่ได้ยินน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความตกใจและกังวลใจของเทย์เลอร์ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นอย่างเต็มตาเมื่อสำรวจร่างกายของตนจนพอใจและตระหนักได้ว่าทุกๆอย่างมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆจนบรรยายไม่ถูก แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นแสงแดดที่แรงมากเกินไปก็ทำให้เขาต้องหรี่ตาให้เล็กลง

“หยุด....ไม่ต้องพยายามลืมตาของท่านขึ้นด้วย!”

‘หืม?....เกิดอะไรขึ้นกับเขากันนะ?’

คาร์ลเหลือบมองไปที่เทย์เลอร์ด้วยความสับสนในขณะที่เขาค่อยๆนั่งลงกับพื้นด้วยการช่วยเหลือของโรสลิน ขุนนางไม่ควรทำอะไรแบบนี้แต่สำหรับเขามันจะรู้สึกดีมากกว่าหากทิ้งร่างของตนลงไปกับพื้นในสถานการณ์เช่นนี้ คาร์ลหย่อนตูดของเขาลงไปกับพื้นโดยไม่คิดที่จะสนใจกับสิ่งที่คนอื่นคิด

ก่อนที่มังกรดำจะเอ่ยให้เขาได้ยิน

~ เจ้ามนุษย์อ่อนแอ...เจ้าตายไม่ได้นะ!....เจ้ามันอ่อนแอเกินไป...หากเจ้าตายข้าจะทำลายทุกอย่าง!..ข้าจะลงมือฆ่าทุกคน..ฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้าและเมื่อทุกอย่างหายไปรวมถึงศพของเจ้า...ข้าก็จะฆ่าตัวเองเช่นกัน! ~ 

มังกรดำดูเหมือนจะกังวลใจเป็นอย่างมากแต่คำพูดที่ออกมาจากปากของมันช่างดูโหดร้ายเกินไป คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วมุ่นกับสิ่งที่มังกรดำกล่าวออกมา

“นายน้อยคาร์ล....ข้าจะไปตามนักบวชมาดูอาการท่าน!”

“ข้าจะไปกับท่านด้วย!”

อามูร์และกิลเบิร์ตเอ่ยออกมาก่อนที่จะรีบพากันไปหาเหล่านักบวชที่กำลังเดินเข้ามาทางประตูทางเข้านั่น พวกเขาทั้งสองไม่ได้สนใจกับสภาพร่างกายและเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงของพวกเขาเลยสักนิด เมื่อเห็นพวกเขารีบวิ่งออกไปเช่นนั้นคาร์ลก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะเอ่ยออกมาว่าเขาไม่ได้เจ็บปวดอะไรเลย

‘มันไม่ได้เจ็บถึงขนาดต้องรีบเช่นนั้น...แต่ฉันคงต้องแกล้งว่าเจ็บหนักเสียแล้วสินะ?’

มันจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคาร์ลหากนักบวชมาตรวจดูอาการของเขา

อีริค วิลส์แมนยืนอยู่ข้างๆคาร์ลและกำลังจ้องมองเหล่าขุนนางจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือคนอื่นๆที่อยู่ไม่ไกลนักพร้อมทั้งกวาดสายตาไปมองเหล่าขุนนางจากภูมิภาคอื่นๆเช่นกันเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้พวกเขาเข้ามาใกล้ตัวคาร์ลได้

คาร์ลไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เมื่อเขากำลังเฝ้าดูการสนทนาที่อาจสร้างความวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม

“.....โปรดหลีกทางให้แก่ข้าด้วย!”

“ไม่มีทาง...พลเรือนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในได้!”

“พลเรือนเช่นนั้นรึ?....ใครเป็นคนคิดกฎไร้สาระเช่นนี้ขึ้นมากัน?!”

เชวฮันตะโกนใส่หน้าเหล่าทหารองครักษ์ที่กำลังดูแลเหล่าขุนนางอยู่ด้วยน้ำเสียงและสายตาที่เย็นชา คาร์ลได้กำชับกับเชวฮันไว้ว่าเขาจะต้องไม่ปรากฏตัวออกมาในบริเวณนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม คาร์ลเริ่มมีใบหน้าบึ้งตึงและโบกมือไล่ให้เชวฮันที่กำลังขัดคำสั่งเขาออกไปจากบริเวณนี้

เชวฮันมองเห็นปฏิกิริยาเช่นนั้นของคาร์ลจึงกัดริมฝีปากของตนไว้แน่นก่อนที่จะก้มศีรษะของตนลง

“กระผมขอโทษ”

‘ฉันบอกแล้วว่าอย่าออกมา...แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่นายจะต้องมาขอโทษฉันสักหน่อย’

จากนั้นคาร์ลก็ละสายตาไปมองล็อกที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของเชวฮัน ออนและฮงก็เกาะอยู่บนไหล่ของล็อกเช่นกัน คาร์ลเริ่มยิ้มออกมาเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้พวกเขาเห็นว่าตนนั้นสบายดีและดึงสายตาของตนกลับมาเมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งหมดได้หายออกไปจากบริเวณนั้นแล้ว

“นายน้อยคาร์ล...เจ้าดีขึ้นแล้วใช่มั้ย?”

คาร์ลพยักหน้าตอบรับกับคำถามของโรสลินและยกมือเช็ดเลือดที่มุมปากของตน

“ใช่...ข้าไม่เป็นไรจริงๆ”

การเคลื่อนไหวของคาร์ลดูเป็นปกติดีเมื่อเขาเช็ดเลือดสีแดงสดที่ไม่ต่างจากเส้นผมของเขาออกช้าๆ อย่างไรก็ตามโรสลินตระหนักถึงสิ่งที่คาร์ลทำ องค์หญิงเช่นเธอจะสามารถทำอะไรเช่นนี้ได้หรือไม่นะ? เธอเริ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“......ข้าไม่เข้าใจในตัวเจ้าจริงๆ?”

อย่างไรก็ตามเธอเพียงแค่จ้องมองคาร์ลอยู่เงียบๆไปชั่วครู่ เมื่อคาร์ลหันกลับมามองโรสลินเขาก็ต้องแปลกใจมากกว่าเดิมเมื่อตระหนักได้ว่าเธอไม่ได้จ้องเขาอยู่แต่มองเลยผ่านเขาไปก่อนที่เขาจะละสายตาหันกลับไปมองรอบๆตัว

“อ่า......”

นักเวทย์เล่นเลือด ตอนนี้เขากำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศและก้มลงมามองพวกเขาที่พื้นเบื้องล่าง

“ข้าไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์จะเปลี่ยนไปเช่นนี้....แต่มันก็สนุกดีเหมือนกัน”

‘เรดิก้า’นักเวทย์เล่นเลือดคนนี้กล่าวออกมาพลางกวาดสายตาไปมองเหล่าเชื้อพระวงศ์ เหล่านักเวทย์เริ่มใช้เวทย์ลอยตัวอีกครั้งและแม้แต่ทหารยามของเมืองหลวงก็พุ่งตรงไปยังตัวเรดิก้าราวกับลูกธนูที่ถูกยิงออกไปโดยทันที

เรดิก้าค่อยๆหันมาทางเหล่าขุนนาง

เขาสบตาเข้ากับคาร์ลก่อนที่จะสังเกตเห็นโรสลินที่อยู่ด้านหลังของคาร์ลด้วย แม้ว่าผมของเธอจะถูกย้อมเป็นสีน้ำตาลแต่เขาก็สามารถจดจำโรสลินได้ทันที ‘ผู้หญิงที่อยู่ในหมู่บ้านเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินนั่นสินะ?’ เสียงชวนให้แสบแก้วหูราวเสียงกระทบของโลหะดังกึกก้องไปทั่วจัตุรัสกลางเมืองอีกครั้ง

“ว้าว..มีแต่เลือดสีต่างๆที่ข้าชอบเป็นยิ่งนัก!”

ในจังหวะนั่นเหล่านักเวทย์ก็ได้ส่งพลังเข้าโจมตีเรดิก้าในทันที

“จัดการมัน!”

ติดตามเราได้ที่ Trash of the Count's Family แปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด