ตอนที่แล้วตอนที่ 133 เล่ห์เหลี่ยมของคุณหนูรอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 135 ของขวัญจากฮองเฮา

ตอนที่ 134 ช่วยฮ่องเต้ควบคุมโลก!


สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลเฟิงไม่ทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในงานจัดเลี้ยงที่พระราชวังเป็นอย่างไร แต่เฟิงจินหยวนเข้าข้างเฟิงเฉินหยู ดังนั้นเขาจึงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยกับคำพูดเหล่านั้น ในเมื่อเฟิงหยูเฮงกล่าวอย่างนี้แล้ว ทุกคนก็ทราบ ดูเหมือนว่าเฟิงเฉินหยูสวมชุดเสื้อผ้าสีแดงและแอบเข้าไปในวัง นอกจากนั้นนางยังกล้าที่จะขโมยหยกหลากสี!

อันชิมองไปที่เฟิงเฉินหยู และส่ายหน้า "คุณหนูใหญ่อยากจะเข้าพระราชวัง ข้ายังพอเข้าใจได้ แต่ทำไมท่านถึงต้องการทำร้ายท่านพี่? คุณหนูก็รู้ดีว่าพวกเขาอยู่ตรงหน้าฮ่องเต้และฮองเฮา! แม้ข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย บทลงโทษก็คือความตาย !"

ทุกคนเห็นด้วยและพยักหน้า เฟิงจินหยวนรู้ว่าเฟิงเฉินหยูต้องการทำร้ายเฟิงหยูเฮง แต่น่าเสียดายที่ความคิดของนางตื้นเขินเกินไปและเฟิงหยูเฮงล่วงรู้แผนการของนาง

"เป็นความผิดของพ่อเอง อย่าโทษพี่ใหญ่ของเจ้าเลย" เฟิงจินหยวนกล่าวกับเฟิงหยูเฮง เขาต้องการที่จะจ้องหน้าเฟิงหยูเฮง แต่เขานึกถึงความกลัวที่เขารู้สึกตอนอยู่ที่เรือนซูหยาจึงลดสายตาลง

เฟิงหยูเฮงทำหน้าลำบากใจและมองไปที่เฟิงจินหยวนพูดว่า "ทำไมท่านพ่อทำแบบนั้น? อาเฮงเป็นลูกสาวของอนุ ข้าจะกล้ากล่าวหาพี่ใหญ่ได้อย่างไร? ท่านพ่อต้องการส่งอาเฮงไปที่ไหน?"

"เจ้า... " เฟิงจินหยวนรู้สึกว่ามันยากที่จะเข้าใจคำพูดที่ออกมาจากปากของบุตรสาวคนนี้ได้ บุตรสาวคนนี้มีความคล้ายคลึงกับองค์ชายเก้ามาก นางมีความสามารถในการพูดกลับจากสีดำเป็นสีขาว จากสี่เหลี่ยมเป็นวงกลมในเวลาเดียวกัน

เฟิงหยูเฮงมองใบหน้าที่เปลี่ยนไปของบิดาและรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างตลก เสนาบดีระดับสูงไม่สามารถดูแลตระกูลได้อย่างดี เขาเชื่อว่าสามีที่ทุ่มเทตัวเองอย่างเต็มที่ให้กับประเทศเป็นสิ่งที่ดี แต่เขาไม่ทราบว่าถ้าครอบครัวไม่มีความสุขก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปได้

เหยาซื่อยืนอยู่ข้าง ๆ อันชิ และเฝ้ามองขณะที่บุตรสาวของนางต่อปากต่อคำกับเฟิงจินหยวน ราวกับว่านางไม่เคยเห็นอะไร บางทีนางพูดกับอันชิเบา ๆ และไม่สนใจเรื่องนี้เลย

อันชิก็พบว่าเรื่องนี้น่าแปลกใจ ดูเหมือนว่าสามปีทีอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือไม่ได้เปลี่ยนเพียงแค่เฟิงหยูเฮง แต่ยังเปลี่ยนเหยาซื่อด้วย

"ท่านพ่อ" ในที่สุดเฟิงเฉินหยูที่นั่งอยู่บนเตียงก็พูด เครื่องสำอางค์ได้ถูกลบออกจากใบหน้าของนางเหลือเพียงใบหน้าที่สีขาวซีด "ท่านแม่เสียชีวิตแล้ว ตำแหน่งเฟิงเฉินหยูในฐานะบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ก็คงไม่ใช่ของเฟิงเฉินหยู ท่านพ่อจะมอบตำแหน่งนี้แก่น้องรองหรือไม่เจ้าคะ เฉินหยู..เฉินหยูจะไม่ทักท้วงเลยเจ้าค่ะ"

เมื่อนางพูดถ้อยคำเหล่านี้ออกมา น้ำตาสองหยดลงอย่างช้า ๆ และหล่นลงบนผ้าห่ม สิ่งที่เห็นนี้ทำให้เฟิงจินหยวนยิ่งรักนางมากขึ้น

ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจและพูดว่า "เจ้าพูดอะไรแบบนั้น? บุตรสาวของฮูหยินใหญ่ก็คือบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ ตรรกะแบบไหนที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา?"

ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกเสียใจทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา นางรู้ว่านางได้ทำผิดพลาดขณะที่นางมองไปรอบ ๆ ห้อง นอกจากเฟิงเฉินหยูและเฟิงจินหยวน ทุกคนมองไปทางนางด้วยสายตาที่ราวกับจะบอกว่าบุตรสาวของฮูหยินใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่หรือ ?

ฮูหยินผู้เฒ่าหลบหน้าทุกคน เฟิงเฉินหยูหยุดพักสักครู่แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และพูดอย่างดังว่า "ท่านพ่อ เฟิงเฉินหยูไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว ตำแหน่งนี้เป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ คงจะดีกว่านี้ถ้าไม่ใช่ข้า"

"เหลวไหล ! " เฟิงจินหยวนโกรธมาก "เจ้าเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ของตระกูลเฟิง จุดนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง! "

"แต่…"

"ไม่มีแต่!" เฟิงจินหยวนเตือนเฟิงเฉินหยู "เจ้าไม่ได้สูญเสียอะไร จำไว้ว่า มันเคยเป็นมาอย่างไรในอดีต มันก็จะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไปในอนาคต! ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าต้องสูญเสียไป เจ้าต้องพยายามที่จะนำมันกลับมา!"

ตาของเฟิงเฉินหยูเป็นประกาย ขณะที่นางมองไปที่เฟิงจินหยวนด้วยความคาดหวังว่า "แล้วปิ่นปักผมหงส์เพลิง ... "

"ฮ่าๆ!" เฟิงหยูเฮงหัวเราะอย่างไม่สุภาพ นางรอโอกาสนี้

เฟิงเฉินหยูกล่าวอย่างมีเหตุผลว่า "ทุกคนรู้ดีว่าสิ่งที่เรียกกันในนามของหงส์เพลิงคืออะไร ปิ่นปักผมหงส์เพลิงนั้นดูดีในขณะที่มันยังคงอยู่ในพระราชวัง แต่ตอนนี้มันออกมาจากพระราชวังแล้ว มันจะทำให้องค์ชายสามคิดอย่างไรเจ้าคะ?"

เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เฟิงจินหยวนเริ่มไตร่ตรอง

สิ่งที่เฟิงเฉินหยูกล่าวมาไม่ผิด ปิ่นหงส์เพลิงเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จัก เฟิงเฉินหยูได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นหงส์เพลิง และนี่ไม่ใช่ความลับ แม้ว่าจะไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างเต็มที่แต่ก็มีกลุ่มคนจำนวนมากที่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้

ตอนที่ปิ่นหงส์เพลิงกลายเป็นของเฟิงหยูเฮงแล้ว องค์ชายสามจะตัดสินใจสนับสนุนตระกูลเฟิงได้อย่างไร?

เฟิงจินหยวนมองไปทางเฟิงหยูเฮงโดยไม่รู้ตัวและได้เห็นสายตาดูถูกของนางที่มองเขา ไม่ต้องรอให้เขาพูด เฟิงหยูเฮงกล่าวว่า "ท่านพ่อคงไม่ต้องการให้ข้ามอบปิ่นหงส์เพลิงให้พี่ใหญ่ใช่หรือไม่เจ้าคะ?"

เหยาซื่อไม่อาจทนดูเรื่องนี้อีกต่อไปและกล่าวว่า "นั่นคือของขวัญที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทานให้เจ้า จะให้คนอื่นได้อย่างไร?"

เฟิงจินหยวนไม่กล้าทำอะไรเฟิงหยูเฮง แต่เขาจ้องไปที่เหยาซื่อ "ในฐานะผู้หญิง เจ้าจะเข้าใจอะไร? เมื่อไหร่กันที่เจ้ามีสิทธิ์พูด?"

"ในขณะที่ตระกูลเฟิงพาท่านแม่ของข้าเข้ามาในคฤหาสน์บนเกี้ยวของนาง ท่านพ่อลืมหมดแล้วหรือ?" เฟิงหยูเฮงตีหน้าเศร้า

เฟิงจินหยวนไม่กล้ามองนางแต่เขาโกรธมาก เขาจึงตะโกนว่า "นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว"

"อะไรนะ" เฟิงหยูเฮงโกรธ "ดูเหมือนว่าในอนาคตเมื่อท่านพ่อพูดอะไรบางอย่าง เพียงแค่ฟัง หลังจากนั้นมันก็ไม่สามารถกลายเป็นความจริงได้"

"อาเฮง" ฮูหยินผู้เฒ่าไม่สามารถทนเฝ้าดูได้อีกต่อไป "อย่าโกรธท่านพ่อของเจ้าเลย" เสียงของนางไม่ดังนักและเห็นได้ชัดว่าไม่มีความมั่นใจ

เฟิงหยูเฮงยิ้มให้ฮูหยินผู้เฒ่า "ท่านย่า ข้าขอตัดสินใจเองเจ้าค่ะ"

"ตัดสินใจอะไร?" เฟิงจินหยวนนั่งข้างเตียงของเฟิงเฉินหยู ขณะที่เขาปลอบโยนเฟิงเฉินหยู เขากล่าวด้วยท่าทางที่แสดงตนด้วยตนเองว่า "มันอยู่ในมือของเจ้าแล้วดังนั้นจึงเป็นของเจ้า เจ้าสามารถมอบให้คนอื่นได้ ! "

"ท่านพ่อจะขโมยมันไปหรือไม่?" เฟิงหยูเฮงก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและมองไปที่เฟิงจินหยวน นางรู้สึกว่าเรื่องนี้ตลกมาก "ท่านพ่ออยากได้ของบุตรสาว มันจะเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์! เช่นนี้ทุกอย่างของอาเฮงที่ได้รับจากใครมา แม้แต่เรือนก็เป็นของขวัญจากคนอื่น ท่านพ่อ ถ้าท่านคิดเช่นนี้ ท่านก็สามารถขโมยมันไปได้ทั้งหมด !" ขณะที่นางพูดแบบนี้นางมองไปที่เฟิงเฉินหยู "พี่ใหญ่ต้องการแค่ปิ่นหงส์เพลิงอย่างเดียวก็คงไม่พอใจ  เรือนตงเซิงของข้าดีกว่าเรือนนี้ของท่านพี่ ท่านพี่อยากได้หรือไม่เจ้าค่ะ?"

"โอหัง" เฟิงจินหยวนรู้สึกโกรธมาก ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อ "ทำไมข้าต้องมีลูกสาวอย่างเจ้า"

"ดี เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ท่านพ่อไม่สามารถตำหนิข้าได้" เฟิงหยูเฮงยิ้มเยาะ ซึ่งทำให้ใบหน้าของเฟิงจินหยวนเปลี่ยนเป็นสีแดง "ตั้งแต่ข้าเกิดท่านพ่อไม่เคยสั่งสอนกับข้า ตอนนี้ท่านพ่อเสียใจ แล้วท่านพ่อจะตำหนิใครได้?"

เฟิงจินหยวนหันศีรษะไป เขาต้องการที่จะโต้เถียงกับเฟิงหยูเฮง แต่เมื่อคำพูดติดอยู่ที่ริมฝีปาก เขาไม่กล้าที่จะพูดกับบุตรสาวคนนี้ต่อไป มีหลายครั้งที่เขาสงสัยจริง ๆ ว่านางเป็นบุตรของเขาจริงหรือไม่ ในความรู้สึกของเขา เฟิงหยูเฮงแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

เขาหันมาและปลอบเฟิงเฉินหยู: "อย่าโต้เถียงกับนาง ไม่ต้องกังวล อะไรเป็นของเจ้า ไม่ช้าก็เร็วจะกลายเป็นของเจ้า"

เฟิงเฉินหยูเช็ดน้ำตาของนางและพยักหน้า แต่นางได้ยินเฟิงหยูเฮงกล่าวว่า "เป็นเช่นนั้นหรือ? ท่านพ่อ ท่านพ่อไม่ต้องเสียใจเลย"

หลังจากพูดแบบนี้แล้ว นางหันไปทางฮูหยินผ็เฒ่าและโค้งคำนับ "อาเฮงไม่ชอบที่นี่และจะกลับเรือนก่อน ท่านย่าดูแลตัวเองดี ๆ  พรุ่งนี้อาเฮงจะตรวจท่านย่าตอนที่ไปคารวะท่านย่าในตอนเช้าเจ้าค่ะ"

ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แม้ว่าหลานสาวคนนี้จะเต็มไปด้วยหนามเล็ก ๆ แต่เฟิงหยูเฮงก็ยังรักษานางได้ดี ฮูหยินผู้เฒ่าเดิมชอบเฉินซื่อเพราะของขวัญอัญมณีของนาง หลังจากที่เฟิงหยูเฮงกลับมา นางเริ่มค่อย ๆ เบื่อหน่ายสิ่งเหล่านั้นและเริ่มมองเฟิงหยูเฮงที่คอยดูแลรักษาอาการป่วยของนาง

ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจด้วยอารมณ์บางอย่าง นางมองดูเฟิงหยูเฮงที่เดินจากไป แล้วนางก็มองไปที่ยังเฟิงเฉินหยู ในที่สุดสายตาของนางหยุดที่เฟิงเซียงหรู

แต่นางตกใจกับสิ่งที่มองเห็น นางไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่นางสามารถมองเห็นร่องรอยของเฟิงหยูเฮงบนใบหน้าของเฟิงเซียงหรูได้ ความเย็นชา ความเหี้ยมโหด และ...ความสิ้นหวัง

อันชิได้สังเกตเห็นฮูหยินผู้เฒ่าที่กำลังจ้องมองเซียงหรูอย่างตกใจเล็กน้อย นางค่อย ๆ เดินไปข้างหน้าสองก้าวเพื่อบดบังสายตาของฮูหยินผู้เฒ่า

เฟิงเซียงหรูเงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย แววตาของนางมีความเย็นชามากขึ้น นางรู้อยู่เสมอว่าครอบครัวนี้ไม่แยแส นางได้เห็นมันครั้งแล้วครั้งเล่าและนางรู้สึกผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า คราวนี้นางเริ่มสิ้นหวัง

นางเดินออกมาจากด้านหลังของอันชิและโค้งคำนับฮูหยินผู้เฒ่า เพิกเฉยต่อเฟิงจินหยวน นางรีบเดินตามเฟิงหยูเฮงออกไป

แต่ก่อนที่นางจะได้ไกล เสียงตะโกนจากข้างนอก "พระราชโองการของฮ่องเต้ได้มาถึงแล้ว!"

คนในตระกูลเฟิงตกใจมาก เฟิงจินหยวนเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนขณะที่เขามองดูเฟิงเฉินหยูด้วยความกระวนกระวาย

เฟิงเฉินหยูที่ยังกลัวอยู่ นางคุกเข่าอยู่นอกประตูพระราชวังตลอดคืน สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าฮ่องเต้และฮองเฮายังไม่หายโกรธและส่งพระราชโองการมาเพื่อลงโทษนาง

"ท่านพ่อ... " นางสั่นขณะที่นางพูด นางเกาะแขนเฟิงจินหยวน ใบหน้าขาวซีดของนางดูน่าสงสารมาก

เฟิงจินหยวนตบหลังมือของนาง "เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าเป็นเสนาบดี สิ่งที่ฮ่องเต้กล่าวจะไม่มากเกินไป เจ้าพักผ่อนอยู่ที่ห้องก่อน ข้าจะออกไปดู"

เฟิงจินหยวนนำทุกคนไปที่ลานด้านหน้า ยกเว้นเฟิงเฉินหยู

พวกเขาออกไปช้า เมื่อพวกเขามาถึง เฟิงหยูเฮงอยู่ที่นั่นและพูดคุยกับขันทีที่มาเพื่อมอบพระราชโองการ

เฟิงจินหยวนตกใจเมื่อเห็นขันที จางหยวน? พระราชโองการของฮ่องเต้ถูกนำมาโดยขันทีจางหยวน?

"ขันทีหยวนยังไม่ได้พักผ่อนตลอดทั้งคืน แต่ถึงกระนั้นท่านก็มามอบพระราชโองการ ท่านทำงานหนักอย่างแท้จริง"

จางหยวนเป็นขันทีที่อยู่ข้างฮ่องเต้ โดยปกติ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญเขาจะไม่มาส่งมอบพระราชโองการด้วยตัวเอง วันนี้เขามาถึงคฤหาสน์ตระกูลเฟิง ไม่แน่ชัดว่าเป็นพระราชโองการแบบใดที่เขานำมา

เฟิงจินหยวนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินเข้าไปถึง เขากำลังจะคารวะ แต่ขันทีจางหยวนกล่าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาเปิดพระราชโองของฮ่องเต้และประกาศว่า "คุณหนูรองตระกูลเฟิง เฟิงหยูเฮงรรับพระราชโองการ !"

เฟิงจินหยวนตกใจ ไม่ใช่ของเฟิงเฉินหยู?

ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปที่เฟิงหยูเฮง สัญชาตญาณบอกนางว่านี่เป็นการยกย่องอย่างแน่นอน ตั้งแต่เฟิงหยูเฮงกลับมาที่เมืองหลวง นางไม่เคยตกต่ำเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีอะไรที่ไม่ดี? หรือเป็นข่าวร้าย? ตอนนี้มีพระราชโองการมาแล้ว มันน่าจะเป็นยังไง?

ทุกคนในตระกูลเฟิงคุกเข่าพร้อมกับเฟิงจินหยวน ขันทีจางหยวนเปิดพระราชโองการและประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ คำพูดยังคงเป็นคำเดียวกันและคำสั่งก็ยังเหมือนเดิม ในท้ายที่สุดมันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการรับรู้ทักษะการยิงธนูอันงดงามของนางในงานเลี้ยง

แต่เมื่อเขาอ่านได้ครึ่งหนึ่ง ทางทหารยามพระราชวังผู้ที่อยู่เบื้องหลังขันทีจางก็เดินไปข้างหน้ามีธนูอยู่ในมือ

"ธนูโฮยี่ คันธนูที่ดีที่สุดของราชวงศ์ต้าชุน นับจากนี้ไปเป็นต้นไปจะเป็นของเฟิงหยูเฮง ซึ่งเป็นคุณหนูรองของตระกูลเฟิง คนที่ได้รับธนูอาจเข้าค่ายทหารช่วยกองทัพ ช่วยฮ่องเต้และควบคุมโลก! "

ทุกคนตกใจ!

แม้แต่เฟิงหยูเฮงก็ตกใจ นางเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ

ตัวคันธนูทำจากหยกสีดำ และเชือกที่ทำจากจักระน้ำแข็ง1 มีอัญมณีหลากสีมากมาย เมื่อมันอยู่ในมือของคน มันก็สว่างขึ้นราวกับว่ามีชั้นแสงอยู่ มันดูลึกลับมาก

"พระชายาได้รับพระราชโองการ และคันธนู!" จางหยวนมองไปที่ทหารยามเพื่อให้ไปรับคันธนูจากเฟิงหยูเฮง "นี่เป็นของขวัญพิเศษจากองค์ฮ่องเต้ พระชายาโปรดดูแลมันอย่างดี นอกจากนี้ยังมีอีกอย่างที่ฮ่องเต้ต้องการแจ้งพระชายา ปิ่นหงส์เพลิงและธนูโฮยี่เป็นหนึ่งในสมบัติของราชวงศ์ต้าชุน ไม่เพียงแต่พระชายาควรดูแลพวกมันอย่างดี พวกมันไม่สามารถถูกส่งต่อไปยังบุคคลอื่นได้! ใครก็ตามที่ปรารถนาจะเอาปิ่นหงส์เพลิงไป จะถูกลงโทษเช่นเดียวกับการขโมย"

 

 

1 : ไม่แน่ใจว่าจะเรียกอย่างไร ดังนั้นแปลตามตัวหนังสือ

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด