ตอนที่แล้วChapter 195: พวกเราจะต้องยืดหยุ่นเพื่อที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 197: อัจฉริยะผู้บ้าคลั่ง แวนซ์

Chapter 196: ช่างเป็นสภาพอากาศที่เลวร้ายอะไรเยี่ยงนี้


สองวันต่อมา, ดอเรียสได้เข้ามายังที่รกร้างเฟิร์ดด้วยกันกับลิงค์และเซลีน

หลังจากวิ่งผ่านพื้นที่มาเป็นเวลาประมาณสิบนาที, ดอเรียสก็อดแสดงความคิดเห็นไม่ได้ “ลิงค์, นี่เป็นดินแดนของนายจริงๆหรอ? นี่เป็นดินแดนที่แห้งแล้งที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาตลอดชีวิต 400 ปีในฟิรุแมนของฉันเลยนะ นายไม่สามารถหาที่ที่เหมาะสมในการขี้ได้ด้วยซ้ำ”

เซลีนเองก็ขมวดคิ้วพอเห็นภาพของที่ดิ้นนี้ในขณะที่เธอพูด “นี่มันแย่ยิ่งกว่าที่ฉันจินตนาการเอาไว้ซะอีก”

ระหว่างทาง, ลิงค์ได้เตือนพวกเขาทั้งสองเอาไว้แล้วว่าดินแดนของเขานั้นแห้งแล้งมากๆดังนั้นให้พวกเขาเตรียมใจกับสิ่งที่จะเจอเอาไว้ ตอนแรกเซลีนกับดอเรียสคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับที่ราบที่จะแห้งแล้งและไม่ได้คิดอะไรมากนัก อย่างไรก็ตาม, มันยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาในการยอมรับมันในตอนที่พวกเขาเห็นหน้าตาที่แท้จริงของที่รกร้างเฟิร์ดนี้

นี่มันยิ่งกว่าคำว่าแห้งแล้งแล้ว ทั้งพื้นที่มีแต่เศษหินดินทรายที่ดูเหมือนจะไม่สามารถกอบกู้ได้ไม่ว่าจะลงทุนเหรียญทองไปมากแค่ไหนก็ตาม

แม้ว่าลิงค์จะเป็นคนที่ทะเยอทะยานและมีแผนการโดยละเอียดอยู่ในหัวแล้ว, แต่มันก็ยังปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่าสถานการณ์ในตอนนี้นั้นไม่เป็นที่น่าพอใจเอาซะเลย เขาหัวเราะออกมา “มันจะดีกว่านี้ นี่มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหล่ะ”

ขณะที่คำพูดมองโลกในแง่ดีพวกนี้ถูกพูดออกมา, สภาพอากาศก็เริ่มเปลี่ยนแปลง มันเป็นแค่ลมกรรโชกเล็กน้อยในตอนแรก, แต่สิบนาทีต่อมา, สายลมก็เริ่มหวยหวนและเม็ดฝนก็สาดกระเซ็นใส่ร่างกายของพวกเขาอย่างชัดเจน มันใช้เวลาไม่นานนักก่อนที่สภาพอากาศจะเลวร้ายอย่างสมบูรณ์, มีพายุพร้อมกับลูกเห็บและฟ้าผ่าเกิดขึ้น นี่คือวิธีต้อนรับแขกใหม่สองคนที่เข้ามายังพื้นที่แห่งนี้

“ไม่แปลกใจเลยที่นายอยากจะเปลี่ยนสภาพอากาศ” เซลีนตกใจในขณะที่เธอรู้สึกกลัวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างกระทันหันนี้ ดอเรียสเปิดใช้โล่ธาตุลมของเขาในทันทีและปกป้องพวกเขาจากห่าฝนและลูกเห็บ อย่างไรก็ตาม, คนธรรมดาก็คงจะไร้พลังเมื่อเผชิญหน้ากับสภาพอากาศแบบนี้ มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะปลูกพืชหรือปลูกบ้านชาวนาในพื้นที่นี้

ขณะที่ดอเรียสเดินผ่านโคลนอย่างระมัดระวัง, เขาก็ถาม “นายบอกว่าจะมีคนมารับใช้ฉัน ฉันขอไม่รับข้อเสนอนั้นแล้วได้ไหม? ปล่อยฉันไปที่ป่าเกอเวนท์เถอะแล้วให้ฉันซ่อนตัวจนถึงบั้นปลายชีวิตของฉัน”

ดอเรียสรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะกับเสือนภาที่จะเรียกว่าบ้านเอาซะเลย ช่วงชีวิตของเขาคงจะสั้นลงไป 100 ปี

“พวกเราทำข้อตกลงกันแล้วนะ แกกำลังจะกลับคำพูดหรอ? แล้วความภาคภูมิใจของเผ่าเสือนภาไปไหนซะหล่ะ?” ลิงค์ตอกหน้า

ดอเรียสคำรามด้วยความเศร้าและมุ่งหน้าต่อไปอย่างจนปัญญา เขารู้สึกเหมือนกับถูกหลอก เขาไม่สามารถกลับคำพูดของเขาได้เพราะเขาต้องปกป้องสิ่งที่สืบทอดกันมาของเผ่าเสือนภา นอกจากนี้, ลิงค์ก็ได้สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะหาเสือตัวเมียมาให้เขาด้วย

เทือกเขามอดไหม้อยู่ในระยะสายตาหลังจากผ่านมาครึ่งวัน

ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปที่ค่าย, ลิงค์ได้มอบจี้อันประณีตให้เซลีน

“นี่เป็นจี้ปกปิดออร่า แล้วมันยังสามารถเป็นจี้เก็บของได้ด้วยนะถ้าเธอต้องการ”

นี่เป็นจี้ที่ลิงค์สร้างขึ้นในรถม้าในระหว่างที่เขามุ่งหน้าไปทางใต้ แม้ว่ามันจะเป็นงานเร่งด่วน, แต่ลิงค์ก็ยังทำให้มั่นใจว่ามันจะออกมาละเอียดอ่อนและน่าประทับใจเพื่อที่มันจะไม่ได้ไปกระตุ้นความปั่นป่วนที่อยู่ในจิตใจของเขา

จี้นี้ถูกสร้างขึ้นมาจากโคเรียมและเปล่งประกายด้วยสีม่วงอ่อน มีร่องรอยของทอเรียมถูกใช้ด้วยเช่นกัน, ซึ่งทำให้มันเป็นจุดสีเงินเหมือนกับดวงดาวในค่ำคืน สุดท้าย, ลิงค์ก็ได้ใช้หินโดคุนคุณภาพสูงเพื่อสร้างฟังก์ชันมิติเก็บของขึ้นมาในจี้ หินนี้มีสีขาวเหมือนนมและถูกลิงค์ขัดจนแทบหมดจด, ทำให้มันเป็นคริสตัลละเมียดละไมและสดใส

เซลีนชอบจี้เส้นนี้ทันทีที่ตาเห็น อย่างไรก็ตาม, เธอไม่ได้รับมันจากมือของลิงค์ แต่เธอเงยคางขึ้นเล็กน้อยและพูดขณะที่หันหลังให้ลิงค์แทน “สวมมันให้ฉันสิ”

ลิงค์ยิ้มแล้วสวมจี้ที่รอบคอเพรียวบางของเซลีนอย่างอ่อนโยน จากมุมของเขา, เขาสามารถมองเห็นฉากล่อใจภายใต้เสื้อของเซลีนได้ลางๆ

ลิงค์ตื่นเต้นขึ้นมากระทันหันและเบือนสายตาหนีในทันทีแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย “ดอเรียส, อย่าอารมณ์เสียในตอนที่แกเข้าไปในค่ายนะ แล้วก็, อย่าล้อเล่นมากเกินไปด้วย; แกอาจจะทำให้ผู้คนตื่นตระหนกได้”

“ก็ได้ อย่าลืมสัญญาก็แล้วกัน”

จากนั้นลิงค์ก็หันไปหาเซลีนแล้วพูด “เธอก็อย่าแสดงพลังของเธอเหมือนกันนะ อยู่อย่างลับๆก็พอ”

“ถ้างั้นตัวตนของฉันจะเป็นยังไงหล่ะ?” เซลีนมองลิงค์อย่างคาดหวังขณะที่เธอพูด

คำถามนี้ถือว่ายากเอาการ ลิงค์คิดอยู่พักนึงแล้วพูด “เธอเป็นเพื่อนที่ฉันพามาจากทางใต้...เพื่อนที่ดีมากๆ แค่นั้น”

เขาอยากจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูสนิทสนมกันกว่านี้, แต่ในเวลาเดียวกันนั้น, เขาก็กลัวว่าเซลีนจะไม่มีความสุข แล้วมันก็คงจะไม่ถูกต้องที่จะทำให้มันดูเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นคนแปลกหน้า ดังนั้น, เพื่อนคงจะเป็นความสัมพันธ์ที่ถูกต้องที่สุด

เซลีนยอมรับอย่างง่ายดาย; มันเป็นไปไม่ได้ที่จะดูจากสีหน้าของเธอว่าเธอรู้สึกยังไงกับตัวตนนี้

มันเป็นเวลาแค่สี่วันเท่านั้นตั้งแต่ที่ลิงค์ออกไปจากเทือกเขามอดไหม้ อย่างไรก็ตาม, สภาพอากาศในช่วงนี้ก็ยังถือว่าหายนะ จากที่ไกลๆ, ลิงค์มองเห็นหลุมบ่อและไม้กระดานที่ถูกพัดออกจากหลังคาด้วยพายุหนัก บางครั้งจะมีเงาคนปรากฏขึ้นมาแค่ไม่กี่วินาที, เพื่อรีบไปยังที่พักพิงถัดไปที่พวกเขาพบ

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำการก่อสร้างต่อในสภาพอากาศเช่นนี้ แล้วลิงค์ก็มั่นใจว่าการพัฒนาอื่นๆทั้งหมดก็หยุดชะงักเช่นกัน ทุกคนอาจจะอยู่ในบ้านของพวกเขาและรอให้ฟ้าสงบ

นี่มันไม่ดีเอาซะเลย ปัญหาสภาพอากาศต้องได้รับการแก้ไขให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้! ลิงค์รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการพัฒนาที่ดินของเขาอย่างมหาศาล

ในตอนที่ดอเรียสเข้ามาในระยะ 150 ฟุตของกำแพงปราสาท, ลิงค์ก็ได้ยินเสียงดังของไซเรนสะท้อนไปทั่วดินแดนเฟิร์ด ดูเหมือนว่ากลุ่มทหารรับจ้างฟลามิงโก้จะยังคอยเฝ้าระวังอยู่แม้จะอยู่ในสภาพอากาศที่เลวร้ายก็ตาม

ไม่นานหลังจากนั้น, การ์ดประจำปราสาทที่ตอนแรกหลบภัยอยู่ที่มุมกำแพงปราสาทก็วิ่งฝ่าพายุออกมา สิบวินาทีต่อมา, แจ็คเกอร์เองก็ปรากฏตัวบนกำแพงปราสาทในสภาพชุดเกราะเต็มยศ

ลิงค์รู้สึกดีใจมากๆกับความเร็วในการตอบสนองนี้

ในตอนนั้นเอง, แจ็คเกอร์ก็เหลือบเห็นลิงค์นั่งอยู่บนหลังเสือยักษ์ เขาเช็ดหน้าที่เปียกโชกไปด้วยน้ำฝนของเขาและยกมือขึ้นเป็นสัญญาให้นักธนูอยู่ในท่าเตรียม “นั่นนายท่าน, ลดอาวุธลงซะ!”

พอรู้ว่าเป็นลิงค์, บรรยากาศตึงเครียดก็หายไปในทันที

แรงกดดันที่มาจากสัตว์ยักษ์สูงกว่า 12 ฟุตนั้นรุนแรงมาก อย่างไรก็ตาม, พอเห็นว่าเจ้านายของพวกเขากำลังนั่งอยู่บนหลังของมันอย่างสบายใจ, ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ในสายตาของพวกเขา, นายท่านสามารถทำได้แทบทุกอย่าง ต่อให้เขานั่งบนหลังเสือยักษ์กลับมาพร้อมกับมีสาวงามอยู่เคียงข้าง, ก็ไม่มีอะไรให้ประหลาดใจ

พอลิงค์เข้ามาในเทือกเขามอดไหม้, เซลีนกับเขาก็ลงมาจากหลังของดอเรียส แจ็คเกอร์, ลูซี่, และกิลเดิร์นรออยู่ท่ามกลางพายุเพื่อต้อนรับเขา

ลิงค์โบกมือของเขาแล้วพูด “อย่ามัวอยู่ข้างนอกเลย ไปคุยกันในบ้านเถอะ”

จากนั้นเขาก็พูดกับหัวหน้าลูกจ้าง “ไปหาคนงานมาจำนวนนึง, จำนวนที่เหมาะสมที่จะสร้างเพิงขนาดใหญ่ที่นี่ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงให้ดอเรียส นี่เป็นการเตรียมการที่เร่งด่วน ดังนั้นจะได้รับผลตอบแทนตามความเหมาะสม”

จากนั้นลิงค์ก็ส่งเงินสิบเหรียญทองให้หัวหน้าลูกจ้างคนนี้

คนงานที่อยู่ในที่ดินของเขานั้นทุกคนมาจากป่าเกอร์เวนท์เพื่อหาเงิน คำพูดของเขาในฐานะลอร์ดของที่รกร้างเฟิร์ดนั้นไม่ได้มีอำนาจเหนือพวกเขาเพราะพวกเขาไม่ใช่ประชาชนของพื้นที่นี้ ดังนั้นเขาต้องใช้เหรียญทองเพื่อระดมกำลังพวกเขาแทน สำหรับการจ่ายค่าตอบแทนนั้น, พวกเขามีข้อตกลงอย่างละเอียด ยกตัวอย่างเช่น, งานแบบนี้ซึ่งจำเป็นต้องระดมคนงานในทันทีและทำงานกลางพายุฝนจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้คนงานอย่างน้อยหนึ่งเหรียญเงิน

ลิงค์ไม่เคยเบี้ยวการจ่ายค่าตอบแทนของเขา ดังนั้น, แม้ว่าเงื่อนไขจะยาก, แต่ก็มีคนงานจำนวนนึงที่ตัดสินใจทำให้ที่รกร้างเฟิร์ดเป็นฐานของพวกเขา

“ครับท่าน” หัวหน้าลูกจ้างพูดแล้วออกไปจัดกำลังคนในทันที

จากนั้นลิงค์ก็หันไปหาลูซี่ “ไปบอกให้พ่อครัวย่างวัวทั้งตัวให้ดอเรียสด้วย เอ้อ, ดอเรียสเป็นชื่อของเสือตัวนี้นะ”

จากนั้นดอเรียสก็พูดออกมา “ตัวเดียวไม่พอหรอก ฉันต้องการวัวสองตัว แล้วก็ไม่ต้องเอาไปปรุงนะ; เอามาทั้งอย่างนั้นหล่ะ, ฉันหิวแล้ว”

ความสามารถในการพูดของเขานั้นทำให้ทุกคนที่นี่ตกใจ อย่างไรก็ตาม, นี่ก็หมายความว่ามันเป็นไปได้ที่จะสนทนากับเขา, ทำให้เขาดูน่ากลัวน้อยลงมาก

จากนั้นลูซี่ก็ไปเอาวัวที่คอกในทันที ดอเรียสตามหลังไปติดๆเพราะเขาหิวมาก

คนที่เหลือเข้าไปในบ้าน

พอพวกเขาไปถึงห้องโถง, ลิงค์ก็แนะนำ “นี่เซลีน ฟลังดร์, นักเวทย์ฝึกหัด, และเพื่อนที่ดีของฉัน”

ส่วนของนักเวทย์ฝึกหัดนั้นเป็นส่วนที่ลิงค์เพิ่งจะคิดได้ เขาจำได้ว่าเซลีนเคยศึกษาเวทย์มนตร์ในสถาบันเวทย์มนตร์เฟลมมิ่ง หลังจากนั้นเขาก็แนะนำแจ็คเกอร์กับคนที่เหลือให้เซลีน

พวกเขาแลกเปลี่ยนการทักทายกันในขณะที่เซลีนตอบสนองด้วยรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้าของเธอ ลิงค์สังเกตุสีหน้าของเธอเพราะเขาต้องการอ่านความคิดของเธอ อย่างไรก็ตาม, ดูเหมือนว่าทักษะการสังเกตุอันเฉียบแหลมของเขานั้นจะล้มเหลวในครั้งนี้ หลังจากล้มเหลวในการเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการ, เขาก็ยอมแพ้ในที่สุด

จากนั้นลูซี่ก็กลับมา, แล้วลิงค์ก็แนะนำเธอให้เซลีนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้

ลูซี่มีสีหน้าที่เฉียบแหลมบนใบหน้าของเธอ หลังจากมองสลับกันระหว่างลิงค์กับเซลีน, เธอก็เผยรอยยิ้มออกมาและให้การต้อนรับอย่างลึกซึ้ง “เซลีน, เธอดูน่ารักมากเลยนะ”

คำพูดเหล่านี้เป็นคำที่แม่ของลิงค์, ลิลิธเคยใช้กับเธอในวันนั้น

เซลีนยิ้มแล้วพูด “คุณลูซี่, คุณเองก็สวยเหมือนกันนะคะ”

ลูซี่ถอนหายใจออกมา “ฉันแก่แล้วหล่ะ”

ขณะที่ลูซี่พูด, เธอก็มองลิงค์โดยไม่รู้ตัว, อีกด้านนึง, ลิงค์ก็กำลังยุ่งอยู่กับการพูดคุยกับแจ็คเกอร์ เซลีนสังเกตุเห็นความผิดหวังในดวงตาของลูซี่และระมัดระวังในทันที ไม่ดีแล้ว! ลูซี่เป็นศัตรูที่น่ากลัว; ดูเหมือนว่าเธอจะชอบลิงค์เหมือนกันนะ!

ลิงค์ไม่ได้รู้ถึงการต่อสู้ทางจิตวิทยาที่กำลังเกิดขึ้นนี้เลย, เขานั่งลงที่โต๊ะยาวก่อนที่จะพูดออกมา “สภาพอากาศที่นี่เลวร้ายจริงๆ แต่ว่า, ฉันพบวิธีแก้ปัญหาแล้ว ในเวลาหนึ่งสัปดาห์, ฉันจะออกไปอีกครั้ง, และเมื่อฉันกลับมา, พวกเราก็จะสามารถเริ่มงานได้”

นี่ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจของทีมสั่งการได้ เศษเสี้ยวแห่งความหวังสามารถมองเห็นได้บนใบหน้าของพวกเขาขณะที่ลิงค์พูดคำพูดพวกนี้ออกมา แม้ว่าดินแดนจะแห้งแล้งจริงๆ, แต่ยังไงซะก็ยังมีความหวัง เรื่องที่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาเพียงอย่างเดียวก็คือสภาพอากาศ, ซึ่งพวกเขาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหายังไง ดังนั้นคำประกาศของลิงค์จึงทำให้รู้สึกโล่งใจอย่างมาก

บรรยากาศเบาขึ้นในทันทีในขณะที่ทุกคนเริ่มออกความคิดเห็นในการพัฒนาในอนาคต ลิงค์ฟังอย่างตั้งใจและพูดขัดบ้างในบางครั้ง พอจบการประชุม, พวกเขาก็คิดสิ่งที่เป็นไปได้บางอย่างที่พวกเขาสามารถทำได้ขึ้นมาได้

ในตอนนั้น, คนที่ปรากฏขึ้นที่ประตูก็คือนักเวทย์คาริโด้

ช่วงนี้คาริโด้จะอยู่ที่ป่าเกอร์เวนท์เพราะเขารับผิดชอบในเรื่องธุรกิจเวทย์มนตร์ เขาเป็นคนกลางระหว่างลิงค์กับพ่อค้าวาร์เตอร์, คอยจัดการอุปกรณ์เวทย์มนตร์ทั้งหมดที่ลิงค์สร้างและเอาเงินที่ได้มาให้กับดินแดน ดังนั้น, เวลาส่วนใหญ่ของเขาจึงไม่ค่อยอยู่ในดินแดนสักเท่าไหร่นัก

เขาทักทายลิงค์อย่างเคารพก่อนที่จะส่งจี้เก็บของให้ “ท่านครับ, นี่คือรายได้ในรอบนี้ครับ”

ลิงค์เอามาดูและพบว่ามีเงิน 15,000 เหรียญทองอยู่ในจี้ มันเป็นการค้าที่กำไรงามอีกครั้งนึง หลังจากที่คิดอยู่ซักพัก, เขาก็ส่งจี้เก็บของกลับไปให้คาริโด้แล้วพูด “เอาเงินนี้ไปที่สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟแล้วตามหาจอมเวทย์วิสมัลเลอร์ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างหุ่นเชิดเวทย์มนตร์ บอกเขาว่าฉันต้องการหุ่นเชิดขนาดยักษ์หนึ่งตัวที่สามารถทำงานขุดไถแบบดั้งเดิมได้” ความเชี่ยวชาญในการสร้างหุ่นเชิดเวทย์มนตร์ของวิสมัลเลอร์นั้นมีหลักฐานอยู่ในสมุดของเขา คนแรกที่ลิงค์คิดในตอนที่เขาต้องการหุ่นเชิดเวทย์มนตร์สักตัวแน่นอนว่าต้องเป็นเขา

คาริโด้ไม่เข้าใจมันในตอนแรก “หุ่นเชิดเวทย์มนตร์สำหรับงานขุดไถหรอครับ?”

ลิงค์อธิบาย “ใช่, ฉันสังเกตุเห็นว่าพื้นที่ด้านในของดินแดนแห่งนี้มีดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกอยู่ พวกเราแค่จำเป็นต้องกำจัดชั้นกรวดประมาณ 2 ฟุตบนหน้าดิน”

โดยปกติ, ดินบนพื้นผิวของที่ดินทั่วไปนั้นเหมาะสมแก่การเพาะปลูก อย่างไรก็ตาม, ที่รกร้างเฟิร์ดนั้นเป็นสถานที่แปลกๆที่พื้นผิวของดินนั้นจะถูกปกคลุมด้วยก้อนกรวดแทน ดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกของดินแดนแห่งนี้ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ชั้นของหินกรวดหนาสองฟุต ดังนั้นหุ่นเชิดเวทย์มนตร์ตัวนนี้จะมีหน้าที่ในการพลิกหน้าดิน นอกจากนี้, ลิงค์ยังเตรียมที่จะใช้ประโยชน์จากดินต่อต้านเวทย์มนตร์ที่สามารถหาพบได้ในดินแดนแห่งนี้ด้วย

คาริโด้พยักหน้าแล้วพูด “ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”

“ไม่จำเป็นต้องรีบหรอก พักสักหน่อยเถอะ” ลิงค์โบกมือของเขาก่อนที่เขาจะส่งหนังสือเวทย์มนตร์ที่มีชื่อว่า ‘ลมหายใจแห่งสายลม’ ให้คาริโด้ จากนั้นเขาก็พูดออกมา “หนังสือเล่มนี้น่าจะมีประโยชน์กับนายนะ ลองใช้เวลาว่างอ่านมันดูสิ”

คาริโด้ถูกเติมเต็มด้วยความรู้สึกขอบคุณในทันที เขารับหนังสือมาแล้วเก็บมันอย่างระมัดระวัง

หนังสือที่ลิงค์แนะนำนั้นมักจะเป็นอีกระดับนึง เขาอ่านหนังสือแบบนี้มาห้าเล่มแล้วจนถึงตอนนี้และมีความเข้าใจในเวทย์มนตร์ที่ต่างจากเดิมอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้เขาสามารถถูกพิจารณาว่าเป็นนักเวทย์กึ่งทางการได้เลยเพราะการสั่งสอนของลิงค์

หลังจากที่คุยกันสัพเพเหระ, ลิงค์ก็เริ่มจัดการเรื่องที่พักให้เซลีน

ลูซี่พูด “ตอนนี้ค่ายเต็มอยู่ คุณเซลีนสามารถมาอยู่กับฉันได้ในตอนนี้ และเธอก็สามารถย้ายไปยังบ้านไม้หลังใหม่ได้ในตอนที่งานสร้างเสร็จสมบูรณ์ค่ะ”

ลิงค์คิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีแล้วมองไปที่เซลีน, ซึ่งเธอก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเธอในการทดสอบเจตนาที่แท้จริงของลูซี่ หลังจากนั้น, ลิงค์ก็ออกจากห้องโถงและกลับไปที่ห้องของเขาเพื่อสร้างอุปกรณ์เวทย์มนตร์ให้วาร์เตอร์ แล้วเขาก็สร้างคทาเวทย์มนตร์ของแวนซ์ด้วย ด้วยความที่ปัญหาสภาพอากาศนั้นมันน่ากดดันจริงๆ, เขาจึงต้องรีบดำเนินการและทำภารกิจที่พำนักใต้ดินให้สำเร็จโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ขณะที่ลิงค์ออกจากบ้านไม้, เขาก็เห็นดอเรียสกำลังนั่งอย่างสบายใจภายใต้เพิงของเขาในขณะที่กำลังเคี้ยวเนื้อบาบีคิวชิ้นใหญ่อยู่ นอกจากนี้ยังมีชิ้นเนื้อดิบอยู่ข้างๆเขาด้วย, แต่เขาก็ไม่สนใจมันเลยสักนิด

ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตตัวนี้จะถูกเทคนิคการทำบาบีคิวของพ่อครัวเผด็จศึกเรียบร้อยแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด