ตอนที่แล้วตอนที่ 80 : ไม่ใช่ว่าลูกสาวของเจ้าชอบรองเท้าหรอกหรือ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 82 : อาเฮง, ผู้มีอิทธิพล !

ตอนที่ 81 : ชุดของเจ้าไม่ได้มีค่าเท่าชามของข้า


เฟิงหยูเฮงมองไปในทิศทางที่องค์หญิงวู่หยางชี้ และพบว่ามีเด็กสาว 3 คนยืนอยู่หน้าร้านซาลาเปา หนึ่งในนั้นสวมชุดสีเหลืองอ่อน และได้รับซาลาเปาจากผู้ดูแลร้าน นางไม่สนใจภาพลักษณ์ของนาง นางได้กัดซาลาเปาต่อหน้าทุกคน

เมื่อเห็นเช่นนั้น มุมปากของเฟิงหยูเฮงก็หยักยิ้มขึ้น พวกนางเป็นสหายของเทียนเก้อนั้น ตามที่คาดไว้ พวกเขาทั้งหมดแตกต่างกันมาก!

ขณะที่ซวนเทียนเก้อดึงเฟิงหยูเฮงไป บ่าวรับใช้หนุ่มวิ่งไปทันที และเริ่มบ่นว่า "

พระองค์วิ่งเร็วเกินไปนะขอรับ! ถ้าหากพระองค์หายไป ข้าก็ไม่สามารถตามทันได้ขอรับ!"

"ทำไมเจ้าไม่พูดว่าเจ้าโง่และช้า?" ซวนเทียนเก้อล้อเลียนบ่าวรับใช้หนุ่มคนนั้น และดึงเฟิงหยูเฮงไปหาเด็กหญิงทั้ง 3 คน กล่าวว่า "นี่เป็นบุตรสาวของป้าหรู นางจะเป็นว่าที่น้องสะใภ้เก้าของข้า!"

เฟิงหยูเฮงขุ่นเคืองใจ

สาวน้อยที่กินซาลาเปาก็ยังเคี้ยวซาลาเปาต่อ เมื่อกลืนหมดแล้วนางรีบพูดว่า "เจ้าคือเฟิงหยูเฮงที่คว้าองค์ชายเก้าไป" ขณะที่นางพูด นางก็ยื่นมือออกไป "สวัสดี ข้าชื่อ..."

ขณะที่นางพูด นางนึกได้ว่ามือข้างนี้ดูสกปรกมาก นางจึงรีบดึงมือของนางกลับมา นางเช็ดมันบนชุดของนางแล้วยื่นมืออีกครั้ง "ข้าชื่อเฟิงเทียนหยู ท่านพ่อของข้าเป็นเสนาบดีในราชสำนัก และเป็นศัตรูของบิดาเจ้าด้วย"

เส้นเลือดสีดำปรากฏบนหน้าผากของเฟิงหยูเฮงอีกครั้ง การสานสัมพันธ์แบบใด สหายแบบใดที่ซวนเทียนเก้อมี? นางรีบเอื้อมมือออกไปและจับมือเฟิงเทียนหยู "มันเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร สวัสดีบุตรสาวของศัตรู"

"โอ้ ฮ่า ๆ" เฟิงเทียนหยูหัวเราะคิกคักและพูดว่า "น่าสนใจมาก! เสนาบดีทั้งสองคน คนหนึ่งแซ่เฟิง และอีกคนหนึ่งก็แซ่เฟิง" 1

เฟิงหยูเฮงพยักหน้า "ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลมของตระกูลเจ้าจะสามารถพัดหงส์เพลิงของตระกูลของข้าให้ปลิวไปไกล ยิ่งไกลเท่าไรก็ยิ่งดี" 2

เฟิงเทียนหยูกระพริบตาไม่กี่ครั้ง "ถ้าหงส์เพลิงปลิวไป เจ้าไม่จำเป็นต้องปลิวไปด้วยใช่หรือไม่ ?"

"แทบจะไม่" เฟิงหยูเฮงยกมุมริมฝีปากของนางว่า "ข้าเป็นพระชายาขององค์ชายเก้า สิ่งที่เกิดขึ้นกับหงส์เพลิงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า"

"ถูกต้อง" สาวอีกคนหนึ่งสวมชุดสีชมพูพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเฟิงหยูเฮงว่า "การแบ่งปันความสุขคือโชคชะตา ความสามารถในการแบ่งปันความขมขื่นจะขึ้นอยู่กับความรักซึ่งกันและกัน ใคร ๆ ก็ทราบว่าตระกลูเฟิงปฏิบัติกับอาเฮงเช่นไร เมื่อพวกเขาตกทุกข์ได้ยาก พวกเขาจะบังคับให้อาเฮงต้องทนทุกข์ทรมานกับพวกเขาได้อย่างไร?" ขณะที่นางพูด นางโบกมือทักทายเฟิงหยูเฮง "ข้าชื่อเหรินซีเฟิง ข้าเป็นบุตรสาวของแม่ทัพปิงหนาน"

เฟิงหยูเฮงยิ้ม และทักทายนางด้วยว่า "ข้าเคยได้ยินองค์ชายกล่าวถึงแม่ทัพ พระองค์กล่าวว่าการประยุกต์ใช้กลศึกของแม่ทัพปิงน่านนั้นยอดเยี่ยมมาก พระองค์ใช้ประโยชน์จากเขาบ่อย ๆ ในระหว่างการเดินทางไปทางตะวันตกเฉียงเหนือก่อนหน้านี้"

เหรินซีเฟิงหัวเราะคิกคักและโบกมือของนาง "องค์ชายเก้าเป็นคนใจดีเกินไป ท่านพ่อของข้าเป็นคนที่สรรเสริญพระองค์ว่าเป็นวีรบุรุษตัวน้อย" เหรินซีเฟิงมองไปที่เฟิงหยูเฮง ไม่ว่านางจะมองอย่างไรนางก็รู้สึกว่านางเป็นคนที่จริงใจจริง ๆ "ในความเป็นจริง เราเคยได้พบกันเมื่อเรายังเด็ก แต่เจ้าจำไม่ได้ และข้าก็จำไม่ได้"

"พวกเราเคยพบกับตอนที่เรายังเด็กเช่นนั้นหรือ ?" เฟิงหยูเฮงเอ่ยถาม

เหรินซีเฟิงพยักหน้า "แน่นอน เมื่อวานนี้เมื่อเทียนเก้อมาหาข้าที่คฤหาสน์ นางได้กล่าวถึงเจ้า และท่านพ่อของข้าได้พูดถึงหมอหลวงเหยาซึ่งเคยมาเยือนที่คฤหาสน์ในฐานะแขกคนหนึ่ง เขาได้พาเจ้าไปด้วย ตอนนั้นเจ้าอายุเพียง 8 เดือน และข้าอายุเพียง 9 เดือนเท่านั้น"

เฟิงหยูเฮงอยากจะบอกว่าพวกเขาเป็นคู่รักวัยเด็ก! ก่อนที่นางจะสามารถเล่าเรื่องตลกนี้ได้ ซวนเทียนเก้อกล่าวว่า "พวกเจ้าทั้งสองคนหยุดพูดก่อน ให้ฟูหรงแนะนำตัวเองกับอาเฮงบ้าง!" ขณะที่นางพูด นางผลักดันสาวน้อยที่ขี้อายออกมา "ฟูหรงพูดสิ"

เด็กสาวที่ชื่อฟูหรงมองไปที่เฟิงหยูเฮงด้วยรอยยิ้มที่ขี้อายอย่างมาก "สวัสดี คุณหนูเฟิง ข้าชื่อเป่ยฟู่หรง"

เฟิงหยูเฮงเห็นว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ได้เรียกนางเหมือนคนอื่น ๆ ที่เรียกนางว่าอาเฮง เสื้อผ้าของนางไม่ดีเท่าคนอื่น สาวใช้ที่อยู่ข้างนางดูธรรมดาไม่สามารถเปรียบเทียบกับพระราชวังขององค์หญิง คฤหาสน์ของเสนาบดีและคฤหาสน์ของแม่ทัพ นางคาดเดาได้ไม่น้อยโดยส่วนใหญ่เป็นไปได้ว่าบิดาของเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีตำแหน่งที่สูงมาก เขาไม่ได้ใช้ชีวิตที่เหนือกว่าคนอื่นและไม่สามารถให้อะไรกับเด็กสาวคนนี้ได้มากนัก

แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เนื่องจากเด็กสาวคนนี้ได้อยู่กับคนอื่น ๆ นางคงไม่ได้มาจากครอบครัวธรรมดา

"เรียกข้าว่าอาเฮง!" เฟิงหยูเฮงกล่าวแล้วยื่นมือขึ้นเพื่อหยิกแก้มของหญิงสาวคนนั้น โอ้ ใบหน้ากลม ๆ ของเด็กสาวผู้นี้น่าสนใจมาก

"คนบ้า!" เช่นเดียวกับที่นางคิด ผู้หญิงคนนี้ขี้อาย ใครจะรู้ว่าการที่แก้มของนางถูกหยิก นางจะเปิดเผยบุคลิกที่แท้จริงของนางออกมาทันที "เทียนเก้อ สหายแต่ละคนที่เจ้าเชิญมาก็เหมือนกัน ทุกครั้งที่ข้าเจอกับพวกเขา พวกเขาก็จะหยิกแก้มข้า"

"อืม..." เฟิงหยูเฮงมองคนอื่น ๆ และกล่าวว่า "เจ้าก็ทำเช่นนี้ด้วยหรือ ?"

เหรินซีเฟิงพยักหน้า "ถ้าจะโทษอะไร ก็ต้องโทษแก้มของเจ้าที่มันน่าหยิก ใครบ้างที่เห็นแล้วไม่อยากหยิกแก้มเจ้า!"

เฟิงเทียนหยูกล่าวอย่างเห็นพ้องด้วยว่า "ในตอนนั้นข้าหยิกแก้มนางนิดเดียว นางก็กัดข้าแล้ว"

เฟิงหยูเฮงปาดเหงื่อออก ซวนเทียนเก้อ สหายของเจ้าก็เหมือนกับเจ้า

ซวนเทียนเก้อหัวเราะจนตัวงอ นางชี้ไปที่เป่ยฟู่หรง นางกล่าวว่า "ต่อให้เจ้าทั้งสองคนพยายามปกปิดตัวเองเช่นไร เจ้าก็ดูเหมือนหมาป่าที่ห่มหนังแกะ เจ้าไม่รู้สึกเหนื่อยบ้างหรือ?"

เป่ยฟู่หรงไม่พบว่าเหนื่อยเลย "ท่านแม่บอกว่าถ้าข้าไม่ทำตัวเหมือนลูกแกะสีขาวตัวเล็ก ๆ ก็จะไม่มีใครมาสู่ขอข้า ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า มองไปที่ตัวเจ้าเอง นอกจากอาเฮง ใครที่อยากจะแต่งงานกับเจ้า ?"

การวิเคราะห์นี้ถูกต้อง 10 ส่วน คำพูดเหล่านี้ทำให้ที่เหลือทั้งสามคนปิดปากเงียบ เป่ยฟู่หรงกล่าวกับเฟิงหยูเฮงว่า "อาเฮง อย่าเป็นเหมือนพวกเขา! พวกเขาเป็นหมาป่าทั้งหมด อืม ใช่แล้ว ครอบครัวของข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกเขาได้ ท่านพ่อเป็นเพียงช่างเครื่องประดับและไม่มีตำแหน่งใดใด สำหรับข้า ขอบคุณคุณหนูทุกท่านที่ไม่รังเกียจข้า วันนี้จึงมีนัดทานอาหารและดื่มกับพวกเขา"

เฟิงหยูเฮงค่อนข้างพอใจกับเรื่องนี้ เป่ยฟู่หรง! นางไม่มีภูมิหลังที่งดงาม แต่นางก็ยังสามารถพูดได้อย่างอิสระ นี่คือคนที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง

พวกเขาต่างถอดแบบกันมา และพวกเขาตัดสินใจที่จะไปที่โรงเตี้ยมครัวเทพเพื่อเฉลิมฉลอง

ซวนเทียนเก้อกล่าวว่านางจะเป็นเจ้าภาพเอง ดังนั้นเป่ยฟู่หรงกล่าวอย่างไม่เกรงใจว่านางต้องการกินกุ้งที่แพงที่สุด

หลังจากที่สาว ๆ มาถึงโรงเตี้ยมครัวเทพ นอกเหนือจากจานที่พวกเขาสั่งแล้ว เจ้าของร้านก็จัดส่งอาหารที่มีชื่อเสียงของโรงเตี้ยมมาให้ทุกจานทำให้พวกเขาสับสน

ซวนเทียนเก้อบิดหูของเสี่ยวเอ้อในขณะที่เขากำลังวางอาหารลงบนโต๊ะและถามว่า "เจ้าต้องการทำอะไร? ข้าอาจมีเงิน แต่ข้าจะไม่ให้เจ้าขูดรีดเงินข้า เข้าใจหรือไม่ ? "

แต่เสี่ยวเอ้อกล่าวว่า "องค์หญิง อาหารเหล่านี้ไม่ได้นำมาให้พระองค์ขอรับ แต่อาหารเหล่านี้เจ้าของร้านมอบให้พระชายา เจ้าของร้านบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติที่พระชายาจะมาที่นี่ ดังนั้นสุราและอาหารที่ดีที่สุดจะต้องถูกนำขึ้นมาที่นี่เพื่อให้พระชายาได้รับความเพลิดเพลิน"

พวกเขาเข้าใจแล้ว อาหารเหล่านี้ถูกนำมาให้เฟิงหยูเฮง!

เป่ยฟู่หรงดูมีความสุขมาก ๆ นางมองไปที่ตะเกียบของนางและชี้ไปที่เฟิงหยูเฮงกล่าวว่า "อาเฮง ข้าถามหน่อยว่าเราสามารถห่อกลับบ้านได้หรือไม่ ถ้าเราทานไม่หมด ? ท่านแม่ชอบทานอาหารจากโรงเตี้ยมครัวเทพ แต่ข้าไม่สามารถจ่ายได้  ถ้าไม่เช่นนั้น  พวกเจ้าต้องทานให้น้อยลงเพื่อที่ข้าจะได้ห่อกลับบ้าน"

เฟิงหยูเฮงที่กำลังดื่มน้ำเปล่าแทบจะสำลักน้ำตาย นางมองไปที่เสี่ยวเอ้อและถามว่า "เจ้าได้ยินนางพูดหรือไม่ นำอาหารไปห่อ แล้วนำมาให้คุณหนูเป่ย"

เสี่ยวเอ้อไม่ได้คิดอะไร และพูดทันทีว่า "รับทราบขอรับ!" ในพริบตาเขาก็หายตัวไป

เทียนเก้อเงยหน้าขึ้นเท้าคางด้วยมือข้างเดียวและดึงผมของเฟิงหยูเฮง "อาเฮง พี่เก้าของข้าจะจ่ายค่าอาหารให้หรือ แม้แต่พี่เจ็ดมาทานเขาก็ยังต้องจ่ายเงิน นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นโรงเตี้ยมครัวเทพยกเว้นค่าอาหารให้คนอื่น !"

เฟิงหยูเฮงหยิบซี่โครงแกะไว้ด้วยมือของนาง และเริ่มกิน ขณะที่นางกิน นางถาม "เจ้าบอกข้าสิ เมื่อซวนเทียนหมิงมาทาน เขาต้องจ่ายเงินหรือไม่ ?"

ซวนเทียนเก้อกล่าวว่า "แน่นอน เขาไม่ได้จ่าย"

"ดี" เฟิงหยูเฮงโบกมือขณะซี่โครงแกะอยู่ในมือของนาง "ถ้าเขาไม่จ่ายเงินเมื่อทานอาหารที่นี่ แล้วทำไมข้าต้องจ่าย? เงินที่ใช้จ่ายทั้งหมดข้าก็ได้มาจากเขา หากว่าข้าจ่ายเงินก็เหมือนเขาจ่าย มีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง?"

ซวนเทียนเก้อพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยกับคำชี้แจงของนาง เหรินซีเฟิงและเฟิงเทียนหยูมองหน้านางแล้วก็ยกนิ้วให้นาง สำหรับเป่ยฟู่หรง นางลุกขึ้น "ข้าจะไปดูอาหารอร่อยๆ ที่โต๊ะอื่น ๆ สั่งไว้ ถ้าไม่ต้องจ่ายเงินแล้ว เราต้องสั่งของมากินเยอะ ๆ "

ขณะที่นางพูดแบบนี้นางก็เดินออกจากห้อง ขณะที่นางออกจากห้อง เสี่ยวเอ้อก็มาพร้อมกับอาหาร เด็กสาวอีกคนหนึ่งจากห้องอื่นก็ลุกขึ้นเดินอย่างรวดเร็ว ทั้งสามคนเดินชนกันโดยบังเอิญ

เสี่ยวเอ้อก็ตกใจและทำชามซุปหกราดไปที่ชุดของเด็กสาวอีกคนซึ่งออกมาจากห้องถัดไป

เฟิงหยูเฮงมองไปที่ชุดสีขาวที่มีคราบน้ำ และรู้สึกแย่

ผู้ที่ต้องรับผิดชอบอุบัติเหตุครั้งนี้มากที่สุดคือเป่ยฟู่หรง เป็นเพราะนางมัวแต่พูดกับบรรดาสหายที่อยู่ข้างหลังนาง นางไม่สนใจมองทางเดินข้างหน้า สำหรับเด็กสาวจากประตูถัดไปและเสี่ยวเอ้อ ก็เป็นเพราะนางได้ปิดกั้นการมองเห็นของพวกเขา ทำให้พวกเขาชนกัน

เป่ยฟู่หรงคิดได้ว่านี่เป็นความผิดของนาง ดังนั้นนางจึงขอโทษอย่างรวดเร็ว "ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า สำหรับเจ้า ข้าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แน่นอน ดูเหมือนว่าเจ้าถูกน้ำร้อนลวกด้วย"

นี่เป็นคำขอโทษอย่างจริงใจ แต่ใครจะรู้ว่าเด็กสาวที่มาจากประตูอีกห้องไม่ได้สนใจฟัง นางยกมือขึ้นและตบหน้าเป่ยฟู่หรงและเสี่ยวเอ้อ

เป่ยฟู่หรงรู้สึกงุนงงหลังจากที่ถูกตบ ในขณะที่เสี่ยวเอ้อคุกเข่าลงบนพื้นและขอโทษไม่รู้จบ

ด้านเฟิงหยูเฮงและอีกสามคนผุดลุกขึ้นยืนทันที เป่ยฟู่หรงถูกตบที่ใบหน้า ไม่ว่าใครจะถูกตำหนิในสถานการณ์เช่นนี้ แต่ว่าพวกเขาได้ขอโทษแล้วและยอมรับว่าพวกเขาจะชดใช้ค่าเสียหาย แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงทำแบบนี้และตบคนอื่น?

เฟิงหยูเฮงมองไปที่เด็กสาวที่ตบพวกเขา และรู้สึกว่านางเคยเห็นหน้าเด็กสาวคนนี้ นางตระหนักว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้า นางเป็นบุตรสาวของเจ้าเมืองติงอัน  ฉิงเล่อ

"ฉิงเล่อ?" ตอนนี้เป่ยฟู่หรงเงยหน้าขึ้นมอง และนางรู้จักเด็กสาวคนนี้

ฉิงเล่อมองไปที่เป่ยฟู่หรงด้วยใบหน้าที่รังเกียจ "ข้าจะเอาอะไรจากบุตรสาวของช่างฝีมือ เจ้ากล้าเรียกชื่อข้าเช่นนี้ ?"

ถึงแม้ว่าเป่ยฟู่หรงจะสนิทกับซวนเทียนเก้อและคนอื่น ๆ แต่นางก็รู้ว่าฐานะครอบครัวของนางด้อยกว่าคนอื่น ๆ เมื่อออกไปข้างนอก นางจะหลีกเลี่ยงปัญหาที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันนี้มันเป็นความผิดของนางที่ทำให้ชุดของอีกฝ่ายสกปรก อีกฝ่ายเป็นบุตรสาวของขุนนาง ดังนั้นนางจึงยอมรับผิด

ตอนนี้นางไม่สนใจว่านางถูกตบ นางเพียงแค่ก้มศีรษะลงและกล่าวขอโทษ "คุณหนูติงอัน ข้าขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า ข้าจะชดใช้ค่าเสียหายให้ท่าน"

"เจ้าจะชดใช้ค่าเสียหาย ?" ฉิงเล่อหัวเราะอย่างน่ารังเกียจ "เจ้าจะมีเงินชดใช้หรือ ดูจากเสื้อผ้าที่เจ้าใส่ เงินเดือน 10 ปีของพ่อของเจ้าก็ไม่สามารถชดใช้ค่าเสื้อผ้าได้"

ในความเป็นจริง ฉิงเล่อได้พูดความจริง ช่างฝีมือมีเงินเดือนเท่าไร จริง ๆ เงินเดือน 10 ปีไม่จ่ายสำหรับค่าเสื้อผ้าของนางได้

เป่ยฟู่หรงรู้ถึงจุดนี้ได้อย่างรวดเร็ว และกล่าวว่า "คุณหนูติงอันอย่าได้กังวล  ข้าสามารถยืมคนอื่นมาคืนท่านได้ ไม่สำคัญว่ามันจะราคาเท่าไหร่"

"เป็นเช่นนั้นหรือ?" ฉิงเล่อหัวเราะเยาะและมองไปที่เป่ยฟู่หรง "10,000 เหรียญเงิน เจ้าสามารถหายืมตอนนี้ได้หรือไม่"

"อะไรน่ะ" เป่ยฟู่หรงเริ่มขุ่นเคืองกับการถูกล้อเลียน "ข้าอยากจะถามคุณหนูติงอันว่าชุดนี้ทำจากวัสดุอะไร? จริง ๆ แล้วมันราคาถึง 10,000 เหรียญเงินหรือ"

ไม่ต้องรอให้ฉิงเล่อตอบ เฟิงหยูเฮงที่ยืนอยู่ข้างหลัง และได้ออกคำสั่งกับเสี่ยวเอ้อที่คุกเข่าอยู่ว่า "ไปบอกเจ้าของร้านของเจ้า บอกว่าถ้วยชามที่ดีที่สุดของโรงเตี้ยมครัวเทพแตกเพราะคุณหนูติงอัน นางต้องชดใช้ค่าเสียหาย 30,000 เหรียญเงิน"

------------------------------------------------------------------------------------------------------

1 : แซ่ของนางใช้อักษรคนละตัวกับของเฟิงหยูเฮง แต่ออกเสียงเหมือนกัน แซ่ของเฟิงเทียนหยูคือ风 , ขณะที่ของเฟิงหยูเฮงเป็น凤

2 : แซ่ของเฟิงเทียนหยูหมายถึงลม แซ่ของเฟิงหยูเฮงหมายถึงหงส์เพลิง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด