ตอนที่แล้วตอนที่ 157 เม็ดยาสร้างรากฐาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 159 อัตราการหลอมสำเร็จที่น่าสะพรึงกลัว

ตอนที่ 158 ปรุงยา


"สวรรค์ ทำไมวิธีแยกส่วนผสมของเขาถึงดูงดงามขนาดนี้?"

"พระเจ้า เขาสกัดส่วนผสมทั้งเจ็ดชนิดได้พร้อมกัน?"

"อะไรกัน ข้าคิดว่าการสกัดส่วนผสมเจ็ดชนิดพร้อมกันนั้นเพื่อลดเวลากระบวนการปรุงยาเสียอีก แต่กลิ่นหอมของสมุนไพรที่ออกมาดูเหมือนว่ามันจะบริสุทธิ์กว่าวิธีการปกติ!"

"นี่มันจะน่าทึ่งเกินไปแล้ว!"

บรรดาผู้ชมรู้สึกตื่นตระหนกด้วยความตกใจคือนักปรุงยาระดับดำขั้นต่ำที่ไม่ได้ดูการปรุงยาของหลิงฮันครั้งก่อน ส่วนนักปรุงยาระดับดำขั้นกลางทุกคนต่างแสดงสีหน้าไม่พอใจใส่กลุ่มที่ตกใจราวกับเป็นพวกบ้านนอกที่ไม่เคยเห็นโลกภายนอก

ถึงกระนั้นพวกเขาก็จำได้ว่าเมื่อพวกเขาเห็นหลิงฮันปรุงยาครั้งแรก ปฏิกิริยาของพวกเขาก็เป็นเหมือนกับคนเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ขณะที่หลิงฮันกำลังปรุงยาอยู่ ดวงตาของพวกเขาทุกคนยังคงเบิกกว้างและจ้องมองหลิงฮันด้วยความแน่วแน่ รวมถึงฟูหยวนเชิง สายตาของพวกเขาติดตามทุกการเคลื่อนไหวของหลิงฮันอย่างแม่นยำ

ในสายตาของพวกเขา หลิงฮันไม่ได้เป็นเด็กหนุ่มที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอีกต่อไป แต่เป็นปรมาจารย์นักปรุงยา ทุกการเคลื่อนไหวของเขาผสานเข้ากับอากาศได้อย่างสมบูรณ์และก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวที่งดงามที่มีเพียงนักปรุงยาเท่านั้นถึงรู้สึกได้

ถูกต้อง มันคือจังหวะหรือสิ่งที่เรียกว่าท่วงทำนอง

การปรุงยาสามารถเรียกได้ว่าเป็นศิลปะชนิดหนึ่ง ศิลปะในการควบคุมเปลวเพลิง ศิลปะในการเฝ้าสังเกต ขณะที่ส่วมผสมต่างๆเปลี่ยนไปและหลอมรวมเข้าด้วยกันภายใต้ความร้อนสูง มันเป็นศิลปะที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองของตัวมันเอง

อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่นี่ไม่อาจควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ พวกเขาเพียงแค่ทำตามคำแนะนำที่เป็นลายลักษณ์อักษรและทำทุกอย่างตามที่สูตรเม็ดยาได้เขียนอธิบายไว้ พวกเขาจะใส่ส่วนผสมลงไปตามเวลาที่ถูกเขียนขึ้นอยู่ในสูตรยาและใช้เปลวเพลิงบางช่วง ทุกอย่างที่พวกเขาทำไปเหมือนกับเครื่องจักรและแข็งทื่อ

แต่หลิงฮันได้ก้าวขีดจำกัดพวกนั้นไปแล้ว บางครั้ง เขาไม่ได้ทำตามคำแนะนำของสูตรยาเลย แต่เมื่อคำนึงถึงท่วงทำนองที่เชื่อมโยงทุกการกระทำของเขาแล้ว มันเป็นการแสดงที่น่าอัศจรรย์เกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด

ปรมาจารย์นักปรุงยา! ไม่ ไม่ ไม่ นักปรุงยาผู้ยิ่งใหญ่! หรือว่าจักรพรรดิปรุงยา!

พวกเขาทุกคนต่างพยักหน้า ถ้าไม่ใช่ความจริงที่ว่าหลิงฮันยังเยาว์วัยเกินไปและระดับบ่มเพาะพลังของเขายังต่ำต้อยแล้ว บางทีเขาอาจปรุงเม็ดระดับปฐพีได้แล้ว หรือแม้กระทั่งเม็ดยาระดับสวรรค์ที่เป็นดั่งตำนาน

เมื่อพวกเขาคิดเช่นนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะรู้สึกตกตะลึง ในทางทฤษฎีนักปรุงยาที่อยู่ระดับรวมธาตุจะปรุงได้แค่เม็ดยาระดับเหลืองขั้นสูงเท่านั้น เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับความสามารถปรุงยา แต่ถูกกำหนดโดยระดับบ่มเพาะพลังของนักปรุงยา  ถ้าระดับบ่มเพาะพลังของนักปรุงยาไม่สูงพอ เขาจะไม่มีทางสร้างอุณหภูมิที่สูงพอสำหรับเม็ดยาระดับสูงได้

ดังนั้น ผลลัพธ์เพียงหนึ่งเดียวที่จะออกมาคือความล้มเหลวของหลิงฮัน

แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นความสามารถในการปรุงยาอันยอดเยี่ยมที่หลิงฮันได้แสดงออกมาให้เห็นแล้วนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่คนที่จะลองทำอะไรบางอย่างหากรู้ว่ามันจะล้มเหลว

เว้นแต่ว่าเขาจะทำมันสำเร็จ...

พวกเขาทุกคนจ้องมองหลิงฮันอย่างไม่ละสายตาขณะที่ความเป็นไปได้ที่หลิงฮันจะปรุงสำเร็จได้ก่อเกิดอยู่ในใจของพวกเขา

พุบ!

เปลวเพลิงสีแดงเข้มปะทุออกมาจากฝ่ามือของหลิงฮันอย่างฉับพลัน มันเป็นจิตวิญญาณเปลวเพลิงนั่นเอง

อย่างที่คิด!

นักปรุงยาทุกคนถอนหายใจออกมาด้วยความตกตะลึงเพราะในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมหลิงฮันถึงกล้าปรุงเม็ดยาที่มีระดับใกล้เคียงกับระดับปฐพีและเอาความมั่นใจมาจากไหน

จิตวิญญาณเปลวเพลิงสามารถชดเชยข้อบกพร่องของนักปรุงยาในแง่ของระดับบ่มเพาะพลังได้ ในความเป็นจริง นักปรุงยาบางคนอาจใช้เคล็ดลับบางอย่างเพื่อช่วยเพิ่มความร้อนให้กับเปลวเพลิงของพวกเขา นี่อาจถือได้ว่าเป็นวิธีการที่ไม่สุจริต แต่มันช่วยให้พวกเขามีผลลัทธ์ที่ออกมาคล้ายคลึงกัน

แน่นอนว่าเมื่อเปรียบเทียบกับจิตวิญญาณเปลวเพลิงที่แท้จริงแล้ว เคล็ดลับทุกอย่างถือว่าด้อยกว่า

การเคลื่อนไหวของหลิงฮันเริ่มรวดเร็วยิ่งขึ้นและเหงื่อบนหน้าผากของเขาเริ่มขับออกมามากขึ้น เนื่องจากความร้อนที่แผ่ออกมาจากเตาหลอม ทำให้สัญญาณของการคายน้ำปรากฏออกมาจากตัวเขาอีกครั้งแม้แต่ริมฝีปากของเขายังแตกเล็กน้อย

การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วขึ้นของหลิงฮันทำให้ดวงตาของพวกเขามองไม่ทันราวกับว่าดวงตาของพวกเขาพร่ามัว ไม่เพียงแต่พวกเขาจะต้องจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของหลิงฮันอย่างระมัดระวัง แต่พวกเขายังต้องเข้าใจถึงเหตุผลและตรรกะที่อยู่เบื้องหลังทุกการเคลื่อนไหวของเขา หากพวกเขาขบคิดการเคลื่อนไหวของหลิงฮันอยู่ในสมองของพวกเขาอยู่ชั่วครู่ มันจะทำให้พวกเขาพลาดการเคลื่อนไหวของหลิงฮันไปจำนวนมาก

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ถ้าพวกเขาได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวได้หนึ่งหรือสอง มันก็คุ้มค่าแล้วและยังเพิ่มความสามารถของตัวพวกเขาเองในฐานะนักปรุงยาได้เป็นอย่างมาก

...หนึ่งล้านเหรียญที่พวกเขาจ่ายไปมันคุ้มค่าอย่างแท้จริง

พุบ พุบ พุบ เปลวเพลิงยังคงกระพริบอย่างต่อเนื่องและปรากฏบนมือของหลิงฮัน บางครั้งเปลวเพลิงจะรุนแรงเป็นพิเศษและบางครั้งก็จะอ่อนแอเป็นอย่างมาก มันไม่ใช่เพราะว่าเขาสูญเสียการควบคุมเปลวเพลิงของเขาไป แต่มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าระดับในการควบคุมอุณหภูมิของเปลวเพลิงของเขานั้นอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ

'ใช่แล้ว เมื่อข้าผสานกับจิตวิญญาณเปลวเพลิงมันจะทำให้ข้าก้าวหน้าไปอีกขั้น ด้วยการชี้นำของมันทำให้ข้าปรุงยาได้อย่างอิสระและง่ายดาย' หลิงฮันคิด แท้จริงแล้วเขายังคิดเรื่องอื่นอยู่ด้วย

เมื่อคนอื่นกำลังปรุงยา พวกเขาจะต้องมุ่งสมาธิทั้งหมดไปที่กระบวนการปรุงยา หากเผลอคิดฟุ้งซ่านไปชั่วครู่มันอาจทำให้เตาหลอมระเบิดได้และความพยายามทั้งหมดก็จะสูญเปล่า แต่ใครขอให้ความสามารถในการปรุงยาของหลิงฮันอยู่ในระดับที่สูงเกินไปล่ะ? เขาสามารถที่จะปรุงเม็ดยาระดับสวรรค์์ได้ด้วย ดังนั้นการปรุงยาครั้งนี้แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา

ในความเป็นจริงเขาแค่อ้อมมือไว้เท่านั้น ถ้าเขาเอาจริงเขาสามารถพูดบรรยายออกมาได้ขณะที่กำลังอยู่ในกระบวนการปรุงยา อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาทำเช่นนั้นจริง มันอาจทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ตกใจจนตาย

เพราะ...นี่เป็นเม็ดยาที่อยู่ระดับใกล้เคียงกับเม็ดยาระดับปฐพี!

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง มือขวาของหลิงฮันเริ่มสั่นสะเทือนและเปลวเพลิงสามสีได้ถูกปล่อยออกมา

สามเพลิงชี้นำ!

แน่นอนว่าสิ่งที่เห็นมันไม่ได้ดูธรรมดาเหมือนที่เห็น รายละเอียดของมันยังคงอยู่ในเทคนิคส่วนตัวของหลิงฮัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จะสอนคนนอก

เรียบร้อย!

หลิงฮันไม่ได้เปิดผาเตาทันที เม็ดยาระดับสูงประสิทธิภาพของมันจะดีขึ้นเมื่อปล่อยอยู่ในหม้อปรุงหลังจากปรุงเสร็จจนกระทั่งพวกมันเย็นลงเองตามธรรมชาติ ขณะเดียวกัน เขาเริ่มที่จะนั่งสมาธิเพื่อฟื้นฟูปราณก่อเกิดและพลังวิญญาณที่เขาได้ใช้ไป

"เม็ดยาที่เขาปรุงสำเร็จมีกี่เม็ดกัน?"

"จากส่วนผสมแล้ว มันควรจะมีเม็ดยาทั้งหมดที่ปรุงสำเร็จอยู่แปดเม็ด"

"ถูกต้อง มันควรมีเม็ดยาอยู่แปดเม็ด แต่เมื่อคำนึงถึงระดับความยากในการปรุงยาที่อยู่ระดับใกล้เคียงกับเม็ดยาระดับปฐพี หากเขาประสบความสำเร็จแค่หนึ่งเม็ดมันก็เพียงพอที่จะตื่นตาตื่นใจแล้ว"

"เม็ดยาที่ถูกปรุงสำเร็จและมีคุณภาพมากกว่าห้าดาวถึงจะถูกพิจารณาว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก"

เมื่อพวกเขาได้เห็นหลิงฮันปรุงยาจนเสร็จสิ้นกระบวนการ เหล่านักปรุงยาที่ปิดปากเงียบมายาวนานเริ่มเปิดปากพูดคุยกัน พวกเขาทุกคนกำลังคุยกับว่าหลิงฮันประสบความสำเร็จหรือไม่ ถ้าเตาหลอมระเบิดนั่นหมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสูญเปล่า แต่ถึงแม้เตาหลอมจะไม่ระเบิด แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะปรุงยาสำเร็จ บางที เม็ดยาที่เขาปรุงได้อาจมีคุณภาพต่ำที่สุดในระดับหนึ่งดาว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหลิงฮันยังคงนั่งสมาธิอยู่จึงไม่มีพวกเขาคนใดกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดผาเตาหลอมเพื่อดูผลลัพธ์ บางคนถึงขั้นใจร้อนมากยิ่งขึ้นและเริ่มยืนอยู่ไม่สุข

หลังจากผ่านไปอีกสิบนาที ในที่สุดหลิงฮันก็ลืมตาขึ้นมา เขายิ้มให้พวกเขาอย่างนุ่มนวลและกล่าวว่า "ข้ารู้ว่าพวกท่านทุกคนคงอยากรู้อยากเห็นมาก"

ทุกคนยิ้มเจื่อนๆออกมา แต่คราวนี้มันเกี่ยวข้องกับหลิงฮันด้วยว่าจะได้ใบรับรองสถานะนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงด้วยหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะรู้สึกอยากรู้อยากเห็น

"นายน้อยฮัน ได้โปรดอย่าปล่อยให้พวกเราต้องรออีกเลย ข้าใจร้อนจนตัวจะตายอยู่แล้ว" ฟูหยวนเชิงกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมา นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนคิดอยู่และอยากจะพูดออกมา

หลิงฮันยกเตาหลอมไปข้างหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า "เช่นนั้นพวกเจ้าทุกคนจงดูให้ดี!"

พวกเขาทุกคนแห่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าจำนวนคนของพวกเขามันเยอะเกินไปและเตาหลอมมีขนาดเล็ก ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ ทันใดนั้น หัวของคนหลายคนได้ชนกันเอง ทำให้คนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุบัติเหตุครั้งนี้เงยหน้าขึ้นและตะโกนออกไปว่า

"อย่าแห่กันเข้ามา ดูกันทีละคน!" เนื่องจากเขาอยู่ระดับแก่นแท้จิตวิญญาณ ทำให้ฟูหยวนเชิงสามารถคว้าเตาหลอมมาได้ ทำให้คนอื่นสาปแช่งเขาอยู่ในใจ อย่างไรก็ตาม ใครขอให้ฟูหยวนเชิงเป็นนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงกันล่ะ และยังเป็นจอมยุทธที่อยู่ระดับแก่นแท้จิตวิญญาณ แล้วผู้ใดจะมีสถานะที่สูงส่งกว่าเขารวมถึงมีพลังมากกว่าเขา?

ฟูหยวนเชิงรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยถึงขั้นมือสั้นไปมา ทันใดนั้น เขาได้ยกฝาเตาหลอมขึ้น

"นี่มันอะไรกัน?!" เขารีบตะโกนออกมาด้วยความตกตะลึง ดวงตาของเขาเบิกกว้างและสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

"ท่านฟู มันคืออะไร?"

"เป็นไปได้หรือไม่ที่ในเตาหลอมไม่มีเม็ดยาเลยแม้แต่เม็ดเดียว?"

ทุกคนถามออกมาอย่างรีบร้อน ถ้าไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาเกรงกลัวต่อสถานะและพลังของฟูหยวนเชิง แล้วล่ะก็ พวกเขาคงฉกเตาหลอมจากเขาไปแล้ว

ฟูหยวนเชิงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำและหลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ในที่สุดสีหน้าของเขาแสดงออกด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้งขณะที่เขากล่าวออกมาว่า "นายน้อยฮันเป็นนักปรุงยาผู้ยิ่งใหญ่ คำสรรเสริญของข้าที่มีต่อท่านคือหาที่เปรียบมิได้" เขาลดเตาหลอมลงและแสดงให้คนอื่นเห็น

และภายใน มันมีเม็ดยาที่ถูกปรุงสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบถึงเก้าเม็ด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด