ตอนที่แล้วบทที่ 50 มิสเตอร์เจียง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 52 ชั่วชีวิตที่เขาเคยเห็น

บทที่ 51 ขอบคุณ


บทที่ 51

ขอบคุณ

 

หลินเยี่ยหลิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ออกมานอกอาคารแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร แต่เขาต้องเป็นคนที่น่าทึ่งมาก ที่ถึงกับทำให้หวังเฮาต้องสั่นกลัวได้ คนๆนั้นคุกเข้าต่อหน้าของลูกชายเธอจริงๆ เธอกำลังจะถามลูกชายของเธอ และขอให้เขาธิบายเกี่ยวกับเรี่องนี้ให้ชัดเจน

 

อย่างไรก็ตาม เสียงตะโกนว่า ‘มิสเตอร์เจียง’ ก็ดังก้องกังวานไปทั่วทั้งถนนสายนี้ ราวกับท้องฟ้าทั้งหลายถล่มทลายลงมา

 

ถนนสายธารเมฆาเต็มไปด้วยชายชุดสูทที่สวมแว่นตาดำ พวกเขาเรียกขานดังสนั่น และมันเปลี่ยมไปด้วยพลัง กลิ่นอายรุนแรงเช่นนี้ เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนสั่นสะเทือน

 

“เขาคือ... มิสเตอร์เจียง?”

 

“เจียงซิ่วลูกชายของเยี่ยหลิง?”

 

การแสดงออกทางใบหน้าของพี่สาวเอ๋อหลินที่ยังอยู่ในอาคารอยู่ กลายเป็นน่าเกลียด “เป็นไปได้อย่างไร? นี่มันผิดกันไปหมดแล้ว”

 

“ลูกของหลินเยี่ยหลิงเป็นเพียงแค่สารเลวขายผลไม้”

 

“ไม่มีทางที่เขาจะเป็นมิสเตอร์เจียงได้”

 

ทั้งถนนตกอยู่ในความโกลาหล แต่เจียงซิ่วยังคงสงบ หัวใจของเขาสงบ ฉากนี้ไม่นับเป็นอะไรเลยสำหรับเขา บนทวีปการต่อสู้นิรันดร์ เขามีประสบการณ์มากมายกว่าหลายล้านด้าน แม้แต่เซียนอมตะ ก็ยังคุกเข่าลงต่อหน้าเขา ฉากเล็กๆน้อยๆที่ถังเฉิ่นเชียนจัดขึ้นมานี้ ไม่นับเป็นอะไรเลยสำหรับเขา

 

เขามองไปยังถังเฉิ่นเชียน ขณะเดียวกัน เขาก็เดินไปหาเขาด้วยสายตาที่เฉยเมย

 

“ถะ ถะ ถัง...”

 

หวังเฮารู้สึกว่าขาของเขาสั่นเครื่อ เมื่อเขาเห็นปู่เหล่ยคุกเข้าลงต่อหน้าเจียงซิ่ว สัญญาณเตือนบางอย่างก็เริ่มปรากฏขึ้นอย่างเลือนลางขึ้นในหัวของเขา เขาไม่กล้าคิดว่าเขาจะต้องเป็นคนแบบไหน ที่จะทำให้ปู่เหล่ยคุกเข่าลงและตบตัวเองได้ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการการคิดไปวนมา เมื่อเขาเห็นถังเฉิ่นเชียนปรากฎขึ้น หัวใจของเขาเกือบจะหยุดเต้น “เรื่องประเภทไหนกันแน่ ที่พี่ใหญ่ได้ทำผิดไป?”

 

ถังเฉิ่นเชียนมาด้านหน้าของเจียงซิ่วและยิ้ม “หวังว่าเราคงจะไม่ได้มาขัดเรื่องของมิสเตอร์เจียง”

 

ทรัพยากรทางการเงิน รวมทั้งความสามารถในการซื้อถนนสายธารเมฆาทิศใต้ได้ทั้งหมดเพียงแค่ระยะเวลาสามสิบนาทีนั้น มีบุคคลเพียงแค่เล็กน้อยในเมืองเจียงแห่งนี้ ที่จะสามารถบรรลุผลได้ดังกล่าว

 

เจียงซิ่วกล่าว “มันไม่ช้าเลย”

 

เกิดความวุ่นวายขึ้น หลังจากที่ผู้คนได้ฟังคำตอบของเจียงซิ่ว เช่นนี้ก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่าเขาเป็นมิสเตอร์เจียงตัวจริง

 

“จริงด้วย!”

 

“โอ้พระเจ้า ลูกชายของเยี่ยหลิง เป็นมิสเตอร์เจียงจริงๆ”

 

“เขาไม่ได้พูดโอ้อวด และเขาก็ซื้อถนนสายธารเมฆาทิศใต้ทั้งหมดมาจริงๆ”

 

คนที่ตกใจมากที่สุดก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากหลินเยี่ยหลิง เธอรู้จักลูกชายของเธอเป็นอย่างดี เขาเป็นหนอนหนังสือ และเป็นเด็กที่เชื่อฟัง เขาไม่เคยพลาดการเข้าชั้นเรียนเลยซักครั้ง และเมื่อเขาเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็จะละเลยเรื่องการนอนและแม้แต่กระทั่งอดอาหาร

 

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่เขากลายเป็นมิสเตอร์เจียง?

 

อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้านี้ แม้แต่กระทั่งหลินเยี่ยหลิง ก็ไม่ทราบว่าชายที่อยู่ตรงหน้าของลูกชายเธอนั้นเป็นใคร แต่เธอก็สามารถจับจุดได้ว่า เขาน่าจากมาจากตระกูลที่มีอิทธิพล อันที่จริงแล้ว นี่เป็นเรื่องที่บังเอิญมาก ถังเฉิ่นเชียนเกษียณจากกองทัพเนื่องจากอายุของเขา และก็กลับมาที่เมืองเจียงหลังจากไม่กี่ปีที่ครอบครัวเจียงประสบปัญหา ถ้าครอบครัวเจียงไม่ได้ตกต่ำลง พวกเขาอาจจะกลายเป็นคนคุ้นเคยกัน ในข้าราชการก็เป็นไปได้

 

ผู้ใต้บังคับบัญชามีความรวดเร็วในการทำงานมาก พวกเขาจัดเก้าอี้และโต๊ะที่มีผ้าปูโต๊ะสีขาวขึ้นอยู่ตรงกลางถนน มันดูคล้ายกับโต๊ะอาหารของฝรั่งเศส และเปิดขวดเหล้า Bordeaux(บอร์โดซ์) ปี 1971 มาดื่มกิน

 

มีทนายความอยู่ที่นั่นด้วย เขามอบเอกสารให้ “มิสเตอร์เจียง นี่คือสัญญาณซื้อขาย โปรดลงชื่อตรงนี้ ผมจะจัดการขั้นตอนต่อไปเอง หลังจากที่กลับไปที่บริษัทกฎหมายแล้ว”

 

นี้เป็นข้อสัญญาตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทกฎหมายมีอำนาจเต็มที่ ในการจัดการกับสิ่งต่างๆสำหรับตัวเขาเอง เจียงซิ่ว โดยธรรมชาติเขาไม่ได้มีเวลามากมายในการลงนามมากกว่า 1,000 ข้อเสนอ ดังนั้นแล้ว ทุกๆอย่างจึงถูกทนายความที่ไว้วางใจได้จัดการ

 

เขาจับปากกาและเซ็นชื่อไว้ด้านบน

 

เจียงซิ่ว!

 

ทนายความพยักหน้า และหยิบเอกสารกลับคืน เขามองไปที่คนเช่าทั้งหมดที่อยู่บนถนน “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถนนสายธารเมฆาทิศใต้ทั้งหมดแห่งนี้ ตั้งแต่สายธารเมฆาที่1 ไปจนถึงสายธารเมฆาที่1027 จะเป็นของมิสเตอร์ทั้งหมด”

 

แม้ว่าทุกคนจะตระหนักถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว พวกเขายังคงเกิดความสับสนวุ่นวาย หลังจากที่ได้ฟังมัน ลูกของหลินเยี่ยหลิง เจียงซิ่ว จะเป็นพี่ใหญ่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กลายเป็นว่าเขาได้ดำรงชีวิตอยู่เหนือความเข้าใจของพวกเขาไปแล้ว

 

สำหรับหวังเฮาและพี่สาวเอ๋อหลิน พวกเขาถูกดันเข้าไป ถูกผลักดันเข้าไปในทะเลของผู้คนที่อยู่บนท้องถนน

 

“มิสเตอร์เจียง ตาฉันมันมืดบอด!”

 

“ละเว้น! โปรดละเว้นฉันไปด้วย!”

 

พี่สาวเอ๋อหลินอ้อนวอนขณะที่กำลังหมอบคลาน เธอเข้าใจดีว่าเรื่องทั้งหมดนี่เป็นเรื่องจริง ไอสารเลวผลไม้นี่ โชคชะตามันจะผกผันกลับไปมา ได้อย่างยิ่งใหญ่ มากเกินไปแล้ว

 

“มิสเตอร์เจียง ฉันเฝ้าดูคุณมาเสมอ เมื่อเวลาที่คุณเติบโตขึ้น!”

 

“ได้โปรดละเว้นฉันไปด้วย!”

 

สายตาของเจียงซิ่วเปลี่ยนไป เขารู้สึกว่าเขาจะตกต่ำลง ถ้าเขาลดตัวลงไปจัดการกับคนประเภทนี้ ถ้านี้เป็นที่ทวีปการต่อสู้นิรันดร์ เพียงแค่การสะบัดแขนเขา ก็เพียงพอแล้วที่จะฆ่าคนเช่นนี้ไป มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะทำให้มือของเขาสกปรกด้วยสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม เป็นมันที่เป็นคนที่ทำร้ายครอบครัวเขาในช่วงระยะเวลาก่อนหน้านี้ และเป็นคนที่สร้างความอัปยศให้แม่เขาด้วยเช่นกัน

 

“เยี่ยหลิง เรารู้จักกันมามากกว่า10ปีนะ!”

 

มองไปที่ท่าทางเย็นชาของเจียงซิ่ว เขารู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ดังนั้นเธอจึงคลานไปหาหลินเยี่ยหลิงแทน

 

ในตอนนี้ เธอกลับจำได้แล้วว่า พวกเธอเป็นคนรู้จักกันมานานกว่า 10 ปี

 

“โปรดยกโทษให้ฉันด้วย”

 

หลินเยี่ยหลิงรู้สึกมึนงง ชั่ววินาที เธอรู้สึกราวกับว่าเธอได้ย้อนกลับไปยังอดีตที่ผ่านมา กลับไปยังชั่วเวลลาที่เธอยังคงเป็นเจ้าหญิงแห่งตระกูลหลินอยู่ เธอรู้สึกราวกับว่าเธอได้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมา

 

เธอมองไปที่เจียงซิ่ว ลูกชายของเธอทำให้เธอได้รู้สึกถึงสิ่งที่คุ้นเคยนี่...

 

“ลูก!”

 

เจียงซิ่วกวาดสายตาไปยังพี่สาวเอ๋อหลิน “ไปให้พ้น อย่าปล่อยให้เทพคนนี้เห็นแกที่นี่อีกครั้ง นับแต่นี้ต่อไป แกจะไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวเข้ามาแม้แต่ครึ่งเก้า ในถนนสายธารเมฆาแห่งนี้!”

 

ตาของพี่สาวเอ๋อหลินเบิกกว้าง ขณะที่เจียงซิ่วซื้อทั้งถนน ยกเว้นร้านของเธอไว้ ถ้าเธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา เธอก็จะไม่สามารถปล่อยร้านให้เช่าได้

 

ขณะที่เธอครุ่นคิดว่าจะหลีกหนีภัยพิบัตินี้ได้อย่างไร เจียงซิ่วก็หันไปทางหวังเฮา “นอกจากนี้แกเองก็ออกไปให้พ้นจากที่นี้ด้วยเหมือนกัน ถ้าเธอกล้าที่จะรั้งเท้าเข้ามาภายในถนนสายธารเมฆา อีกครั้ง ทำลายขาของเธอให้ฉันซะ”

 

หวังเฮาทำหน้าเหมือนเป็นผู้ได้รับการนิรโทษกรรม(ไม่มีโทษแต่ต้องชดใช้ความเสียหายแทน) “ขอบคุณ มิสเตอร์เจียง ขอบคุณ! ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเข้ามาที่นี่แม้แต่ครึ่งเก้า!”

 

พี่สาวเอ๋อหลินถูกทิ้งไว้ให้กลายเป็นเหลอหลา

 

นี่เป็นวิธีที่ไร้ความปราณี ผู้มีพระคุณที่เธอเรียกมา กลายเป็นว่าเป็นตัวซวยของเธอเอง นี่เป็นการขุดหลุมฝังศพของตัวเอง

 

ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเจียงซิ่วถึงไม่ได้ซื้อร้านเธอ เป็นเพราะเขาต้องการที่จะยึดมันโดยการบังคับ แต่มันก็ไม่ได้จำเป็นอยู่แล้ว ร้านเล็กๆ ของเธอในตอนแรกเป็นสถานที่ทิ้งขยะ หลังจากทำความสะอาดมันเล็กน้อย และก่อสร้างกำแพง มันก็ได้รับการยกระดับขึ้น เธอไม่ได้มีแม้แต่สิทธิในทรัพย์สินใดๆ แต่เนื่องจากสภาพการมันเคยเป็นเช่นนั้นมาก่อน

 

หลายคนไม่ได้มีสิทธิ์ในทรัพย์สิน แต่เจียงซิ่วก็ยังคงใช้เงินเพื่อซื้อสถานที่ของพวกเขา ทว่าเขาไม่ได้ให้อะไรกับเธอเลย และยังไม่อนุญาตให้เธอปล่อยร้านเช่าได้อีก นี่ก็เท่ากับที่เขาได้ใช้มันไปฟรีๆ

 

ในขณะเธอมีความคิดนี้แวบผ่าน เธอก็วางแผนที่จะสร้างความวุ่นวายขึ้น แต่หวังเฮาก็ยังคงจ้องมองเธอด้วยความเย็นชาอยู่ เธอจึงตระหนักได้ว่าอนาคตในอนาคตลูกชายของหลินเยี่ยหลิง คือบางสิ่งบางอย่างที่แม้แต่หวังเฮาก็ไม่กล้ารุกราน นับประสาอะไรกับตัวเธอ เธอจึงรู้สึกหมดหวังและเศร้าเสียใจ

 

ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของถังเฉิ่นเชียนไล่ออกไป ขณะเดียวกันนั้น เธอก็ถูกคนของหวังเฮาหิ่วออกไปจากถนนแล้ว นับแต่นี้ต่อไป เธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในถนนแห่งนี้

 

ภายในศาลาเล็กๆ  เจียงหยี่กำลังเล่นหมากรุกอยู่ เขาอายุเพียง 40 ปี แต่กลับมีผมหงอกแล้ว ร่างกายของเขาผอมบาง และแววตาเหมือนปลาตาย

 

แม้ว่าจิตใจของเขาเหมือนจะเดินทางที่ไหนสักแห่ง ฝ่ายตรงข้ามของเขาก็เหมือนจะไม่ได้ตระหนกถึงมัน ผู้ชมหลายคนแนะนำวิธีการโต้กลับให้เจียงหยี่

 

เสียงของรถตำรวจที่ดังขึ้นเข้าใกล้มา หนึ่ง สอง สามคัน...

 

“อะไร? มันเกิดอะไรบางอย่างขึ้น?”

 

“แกยังไม่ได้ยิน? พี่ใหญ่ปรากฏตัวขึ้นในถนนสายธารเมฆาแล้ว!”

 

ผู้ชมก็อยากรู้อยากเห็น แม้แต่เจียงหยี่ก็ยังเงยหน้าขึ้น

 

“นั้นเป็นความจริงหรือ?”

 

อันที่จริงแล้ว แม้แต่คนที่ไม่รู้สถานการณ์ ก็ตระหนักได้ ถนนทั้งสายถูกปิดกั้นในตอนนี้ และคนจำนวนมากได้ล้อมรอบในพื้นที่ พวกเขาทั้งหมดย่อมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน

 

“พวกเขาบอกว่ามีคนกลับบ้านมา หลังจากที่ทำเงินก้อนใหญ่ได้แล้ว”

 

“พวกนั้นได้มันโชว์พลังอำนาจของตัวเองที่นี่”

 

ทุกคนหยุดเล่นหมากรุก ขณะที่พวกเขาต้องการที่จะวิ่งเข้าไปในถนน แต่ตำรวจก็กำลังปิดกั้นอยู่ตรงนั้น นอกจากนี้ บอดี้การ์ดยืนอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน ยืนค้างอยู่ประดุจรูปปั้น อยู่ที่เบื้องหลังเจ้าหน้าที่ ด้วยจำนวนที่มากสุดระยะตาเห็น พวกเขาทั้งหมดแต่งตัวในชุดโทนสีดำ และก็มีร่างกายยักษ์ใหญ่

 

เจียงหยี่แสดงความคิดเห็น “ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องใหญ่”

 

“แกได้ยินไหม? ดูเหมือนว่ามีคนซื้อถนนสายธารเมฆาทั้งหมดของเราไปแล้ว”

 

ทุกคนอุทานออกมาดังๆ นั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก

 

เจียงหยี่เองก็ตกใจมาก

 

ในปี 2008 เมื่อเศรษฐกิจยังคงไม่ได้เติบโตมากนัก คนรวยใหม่หายาก เรื่องที่ฟุ่มเฟือยเช่นการซื้อถนนทั้งสาย ไม่เคยมีให้ได้ยินมาก่อน เพียงแค่ได้ยินบางสิ่งบางอย่างเช่นนี้ ก็มากแล้วพอที่จะทำให้ผู้คนตกใจ

 

“โอ้ ไม่นะ!” เจียงหยี่ในที่สุดก็ตระหนักได้ ถ้าทั้งถนนถูกซื้อ ไม่ได้หมายความว่าแผงผลไม้ของครอบครัวเรา ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ?

 

เขาต้องการที่จะกลับบ้านไปเพื่อดู ดังนั้นแล้วเขาจึงพยายามที่จะเบียดตัวเองด้วยแรงทั้งหมดของเขา

 

“คุณตำรวจให้ฉันเข้าไป ครบครัวฉันอยู่ข้างใน”

 

ตำรวจตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จะไม่มีใครได้รับการอนุญาตให้เข้า แม้ว่าครอบครัวของคุณจะอาศัยอยู่ภายใน แต่คุณจะสามารถรับความรับผิดชอบได้ ถ้าคุณเกิดล่วงเกินพี่ใหญ่ในนั้นไป”

 

“รออยู่ที่นี่ด้วยความสงบ”

 

เจียงหยี่ทำได้แต่เพียงยอมแพ้อย่างหมดหนทาง

 

ในขณะนั้นเอง มีบางคนได้ร้องออกมา “ผู้ว่าการเขตกำลังมา!”

 

พวกเขาดูมีสายที่ดูกระตื้อรือล้น พวกเขาจ้องมองไปตามที่ผู้ว่าการเชี่ยน ชี้ เขามีหัวและใบหูที่มัน เขาไม่ได้เข้าไปภายในล้อม แต่วิ่งไปหาเจียงหยี่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาจับมือเจียงหยี่ และกล่าวว่า “เพื่อนบ้านเก่า คุณมีลูกชายที่ดีมาก ชาวสายธารเมฆาต้องขอขอบคุณคุณ”

 

เจียงหยี่กลายเป็นโง่งม

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด