ตอนที่แล้วบทที่ 20 วางแผน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 22 นายน้อยเย่ที่น่าอนาถ

บทที่ 21 เทิดทูนฉันเป็นเทพ


บทที่ 21

เทิดทูนฉันเป็นเทพ

 

แปลโดย : ราตรีสีทา

เกลาสำนวนโดย : ราตรีสีเทา

แก้คำผิดโดย : ราตรีสีเทา

 

เซี่ยวไฮไม่ได้คิดอะไรมากนัก ถึงแม้ว่าคนที่นายน้อยเย่ต้องการให้พิการจะเป็นนักเรียนของเซ็กเก้นไฮเหมือนกัน มันน่าจะไม่แปลกอะไร ที่เขาเหมือนจะคุ้นเคยคนๆนั้นอยู่บ้าง เซี่ยวไฮเห็นเจียงซิ่วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ดังนั้นเขาจึงเดินตามเข้าไป

 

คนอื่นๆ เองก็ปิดประตูทันที เพื่อจะไม่ให้เจียงซิ่วหนีออกมา รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินชวู ขณะที่เขาพูดคุยกับเย่เหวินเฉินที่อยู่ข้างๆ “เขาถูกขังอยู่ข้างในแล้ว”

 

“นายต้องการทุบตีเขา เพื่อระบายความโกธรของตัวเองหน่อยไหม?”

 

มือข้างนึงของเขาล้วงกระเป๋าอยู่ ขณะที่อีกข้างนึงดันแว่นกรอบทองเบาๆ อาการดูหมิ่นกระพริบผ่านสายตาของเขา “นี่เป็นงานของพวกชั้นต่ำ”

 

“หลินชวู นายต้องไม่ลืมสถานะของตัวเอง แวดวงของพวกเราไม่ได้ถูกนับรวมกับพวกชั้นต่ำเหล่านั้น”

 

หลินชวูพยักหน้ารับคำแนะนำ

 

สิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้คือการนั่งรอและดูโชว์ดีๆที่กำลังเกิดขึ้น

 

เซี่ยวไฮเข้าห้องน้ำตามหลังเจียงซิ่วไป เขาเดินเข้าไปใกล้เจียงซิ่วจากด้านหลัง มุมมองจากด้านหลังนี้เริ่มคุ้นเคยมากขึ้น เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ยิ่งไปกว่านั้น มุมมองจากด้านหลังแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกถึงสิ่งที่น่าหวาดหวั่นบางอย่าง นี่มันเป็นแค่ความรู้สึก แต่ความรุนแรงมันเหมือนจะเป็นของจริง จากมุมมองด้านหลังเช่นนี้ มันค่อยๆทับซ้อนกับภาพมุมมองด้านหลังอันกล้าหาญ ที่อยู่ลึกลงไปในความทรงจำของเขา

 

แต่เดิมเขาต้องการที่จะผลักหลังของคนๆ นั้น แต่หัวใจของเขากลับเต้นแรงขึ้นในกระทันหัน ขณะที่เขาหยุดเดินเนื่องจากอาการตกใจ คนที่อยู่ตรงหน้าเขาก็หยุดเดินเช่นกัน และค่อยๆ หันกลับมา เมื่อเซียวไฮเห็นรูปร่างของเขาอย่างชัดเจน วิญญาณของเขาเกือบจะหลุดออกจากร่าง เนื่องจากความกลัว

 

“มันคือคุณ!”

 

ตาของเซี่ยวไฮแทบจะถล่นออกมา

 

มันคือเขา ใครบางคนที่ตบพวกนั้นคว่ำลงพื้นได้ภายในพริบตาที่อาคารศิลปะการต่อสู้ มันจะเป็นเขาไปได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่นายน้อยเย่ต้องการที่จะจัดการ?

 

ในตอนนี้ หัวใจของเซี่ยวไฮรู้สึกราวกับว่าม้าโคลนหญ้า(ม้าผสมแกะ)หลายพันตัวพุ่งมากระแทกหน้าของเขา

 

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?!

 

ไม่มีใครจากแผนกศิลปะการต่อสู้ รวมถึงกัปตันซือถูเชิงที่อยู่ที่นั้น มีโอกาสได้เห็นการเคลื่อนไหวของเขาแม้แต่ครั้งเดียว ต้องการให้เขาเป็นคนพิการ? มันคงจะเป็นความเมตตาของพระพุทธเจ้าแล้ว ที่เขาไม่ทำให้คนอื่นพิการนะสิ!

 

เจียงซิ่วเองก็จำเขาได้เหมือนกัน “เป็นนายนั้นเอง นายเองก็มาสนุกเหมือนกัน?”

 

เมื่อพูดถึงมัน นี้แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างบังเอิญทีเดียว ผู้คนจากแผนกศิลปะการต่อสู้ พวกเขาได้รับการยกเว้นให้เข้าชุมนุมวันจันทร์ เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในตอนการแข่งขัน พวกเขาเลยไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเจียงซิ่ว บุคคนที่กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในโรงเรียนเมื่อเร็ว ๆนี้ ซึ่งเป็นคนๆนี้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ แต่ฉากอันน่ากลัวในวันนั้น ก็มากพอแล้วที่จะทำให้เขาตื่นตระหนกตกใจ

 

ท่าทางของเซี่ยวไฮกลายเป็นหม่นหมอง ขณะที่ที่เหงื่อไคลไหลลงมาจากหน้าผากเขาอย่างท้วมท้น เขารู้สึกราวกับว่าปากของเขาไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเอง ขณะที่เขาพูด ปากของเขาจะสั่น “สวัดดี... ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น”

 

เจียงซิ่วหัวเราะ มันเป็นโชคชะตาที่เราได้พบกัน เทพคนนี้จะให้คำแนะนำบางอย่างเอง “ศิลปะการต่อสู้ที่นายฝึกควรจะเป็น Longfist(ลองฟิส)? นายรู้สึกว่าไม่สามารถดึงพลังออกมาจากหมัดตัวเองได้อีกแล้ว ใช่หรือเปล่า?”

 

[โน้ตผู้แปล : 长拳: Changquan หรือ Longfist เป็นศิลปะการต่อสู้ภาคเหนือของเส้าหลิน]

 

เซี่ยวไฮพยักหน้าและรู้สึกมึนงง เขาสูง 180 เซนติเมตร แต่น้ำหนักหมัดของเขามีเพียงแค่ 43 กิโลกรัม มันน้อยกว่าคู่ต่อสู้ในการแข่งศิลปะแบบผสมมาก นี้ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจจริงๆ เขารู้สึกราวกับว่าไม่สามารถแสดงพลังของตัวเองออกมาได้

 

“มีอยู่ 38 จุดที่ผิดพลาดของ Longfist ที่นายเลือกใช้ หนึ่งจุดที่ร้ายแรงที่สุดเลย ก็คือความตึงเครียดที่มากเกินไปก่อนที่นายจะออกหมัด ซึ่งนั้นจะทำให้นายใช้พลังได้แค่ครึ่งเดียวจากที่นายมี จำเอาไว้ ว่าต้องผ่อนคลายก่อนที่จะปล่อยหมัด และต้องระเบิดพลังออกมาโดยฉับพลันโดยอ้างอิงจากลมหายใจเป็นหลัก ดึงกำลังออกมาจากส่วนลึกและระเบิดมันออกมาทันที”

 

“ลองมัน!”

 

เซี่ยวไฮไม่เชื่อ แต่ก็ยังคิดตามพร้อมกับท่าทางประกอบไปด้วย เล็งไปด้านหน้า เขาผ่อนคลายร่างกายและในทันทีก็ชะงักลมหายใจ และปล่อยหมัดออกไปในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะนั้นเอง เขารู้สึกราวกับว่าพละกำลังทั้งหมดในร่างกายของเขา กำลังมองหาที่หลบหนีออกมา และพลังมันไหลออกมาตามกำปั้นของเขาและพุ่งออกไป ปั๊ง หมัดทำให้เกิดเสียงสนั่น ซึ่งทำให้กระจกกั่นระหว่างกลางห้องน้ำ ที่อยู่ห่างออกไป 1-2 เมตร สั่นสะเทือนเพราะพลังหมัด

 

“โอ้พระเจ้า!”

 

เซี่ยวไฮตื่นตระหนก เขาไม่อยากจะเชื่อว่าหมัดนี้จะสำเร็จได้เพราะคนตรงหน้า เสียงเอียดๆยังคงดังออกมาจากกระจก มองดูแล้วราวกับว่ามันกำลังจะแตก

 

“152 กิโล นี้ใช้ได้เลยทีเดียว”

 

เซี่ยวไฮมองไปที่กำปั่นของตัวเอง ตาของเขาดุดันขึ้น ปัญหาที่ยากลำบากนี้ ทำให้เขาโง่งมมามากกว่า 10 ปี จากวัยเด็กของเขา แม้ว่าเขาจะมีรูปร่างใหญ่ แต่เขาก็ไม่สามารถลบข้อบกพร่องนี้ออกไปได้ เขาไม่เคยคาดหวังเลยว่าจะได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายแบบนี้ ด้วยวิธีการการจี้จุดที่ผิดำลาดเพียงครั้งเดียวของเจียงซิ่ว

 

น้ำหนักหมัดของฉันเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า ในการแข่งขันครั้งต่อไป ฉันสามารถบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามโดยสมบรูณ์ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะใช้ทักษะอะไรก็ตาม ฉันต้องการเพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้น ฉะนั้นนี่ก็คือสิ่งที่หมายถึง ‘บดขยี้ด้วยพลังอย่างสมบรูณ์’ สินะ

 

เขาสามารถจินตนาการไปถึงภาพที่ตัวเขา กำลังเข้าร่วมหาวิทยาลัยผ่านคำแนะนำได้

 

“คุณคือคนที่ช่วยชีวิตฉัน!”

 

เซี่ยวไฮคุกเข่าลงตรงนั้น

 

“จำคำพูดของเทพคนนี้ไว้ ด้วยระดับปัจจุบันของนาย การต่อยมวยต้องการพลังงานอย่างมาก นายควรที่จะเก็บมันไว้ก่อน เพื่อออมแรง ถ้านายต้องการที่จะเข้ารอบต่อไป”

 

เซี่ยวไฮถอยออกมาจากห้องน้ำ เต็มไปด้วยความตื่นเต้นไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้เขารู้สึกมีพลังและอยากให้วันแข่งขันมาถึงเร็วๆ นี้

 

พ่อคนนี้จะชนะ!

 

ทั้งหมดนี้ต้องยกยอดให้กับเจียงซิ่วเพียงคนเดียว เซี่ยวไฮโค้งคำนับอย่างลึกซึ้งที่หน้าห้องน้ำ มันเป็นการโค้งที่สมบรูณ์แบบและเฟอเฟกก์มาก เขาอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานและไม่ขยับตัวเอง

 

“เซี่ยวไฮนี่แกกำลังทำอะไร?”

 

คนจากแผนกศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดที่อยู่หน้าประตูห้องน้ำ ทั้งหมดกลายเป็นตกตะลึง

 

ที่ชั้นบน เย่เหวินเฉินและหลินชวูที่กำลังมีแพลนรอดูการแสดงที่น่าอัศจรรย์อยู่ ก็ยกคิ้วขึ้นมาด้วยเช่นกัน “เขากำลังทำอะไรอยู่? ทำไมเขาถึงโค้งคำนับห้องน้ำ? เขาสติดีอยู่รึเปล่า?”

 

ราวกับว่าห้องน้ำกลายเป็นศาลเจ้าไป

 

“สถานการณ์ณ์ภายในเป็นยังไงบ้าง?”

 

เซี่ยวไฮยังคงคำนับตัวแป็นมุมฉากอยู่ กู่เชี่ยนเริ่มร้อนใจ เขากล่าว “ฉันจะไป!”

 

เขารีบเข้าไปข้างใน มีโอกาสไม่มาก ที่จะได้โชวความสามารถต่อหน้านายน้อยเย่ ฉันจะต้องพึ่งพาผู้มีอิธิพลใหญ่คนนี้ในอนาคต

 

หลังจากนาทีผ่านไป กู่เชี่ยนก็ออกมาจากข้างใน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและตาเองก็แดง

 

เช่นเดียวกับเซี่ยวไฮ เขาโค้งคำนับให้กับห้องน้ำอย่างสมบรูณ์แบบ

 

ทุกคนกลายเป็นโง่งม

 

“เชี่ย! สองคนนี้เป็นอะไรไป?”

 

เฉินหยางรู้สึกงงวงย สิ่งที่อยู่ในห้องน้ำมันจะแค่ไหนกันเชียว พวกเขาทำราวกับว่าตัวเองกำลังบูชาพระเจ้า “อั้ยย๊า พวกแกทั้งคู่ถูกผีสิง หรือพวกแกเมา?”

 

เขาเองก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ หลังจากนั้นไม่กี่นาที เขาก็วิ่งออกมา และทำอะไรที่น่าหัวร่อกว่าทั้งสองคน เขาคุกเข่าลงกับพื้น และเริ่มหมอบคลาน เหมือนมีแรงศรัทธาที่มากล้นเกินไป

 

“เชี่ยอะไรกัน นี่….”

 

เมื่อโดนฉากนี้ครอบงำ ดังนั้นมันจึงทำให้ทุกคนกำลังเฝ้าดูอยู่งงงวย

 

มันดูราวกับว่าความลับขนาดใหญ่ถูกซ่อนไว้ในห้องน้ำ เป็นไปได้ว่าปาฏิหาริย์อาจจะกำลังจะเกิดอยู่ขึ้นภายใน นั้นเอง สมาชิกแผนกศิลปะการต่อสู้จึงเข้าไปข้างในเป็นรายคน พวกเขาออกมาไม่นานหลังจากนั้น และแต่ละคนก็ดูเหมือนจะถูกครอบงำ และเริ่มหมอบคลานให้กับห้องน้ำ

 

นี่ไม่ใช่เรื่องตลก! แม้แต่เย่เหวินเฉินและหลินชวูเองก็กลายเป็นโง่งม

 

พวกเขาคนใดคนหนึ่งควรจะไปที่นั้น

 

“ในนั้นมีนายน้อยที่ทรงอิทพลอยู่? ความบังเอิญแบบนี้ มันคงเป็นไปไม่ได้ ใช่ไหม?” หลินชวูเริ่มจิตการถึงความร่ำรวยของคนๆนั้น เขาไม่สามารถคิดถึงความเป็นไปได้อื่น นอกเสียจากว่ามีคนที่น่ากลัว และเก่งกาจกว่าอยู่ภายใน ใครกันที่ทำให้คนเหล่านั้นต้องหลอบคลานอยู่หน้าประตูได้ มันราวกับว่าเขากำลังเคารพบูชาพระเจ้าอยู่ก็มิปาน

 

นายน้อยที่มีพลังอำนาจแบบนั้น จะมาสนุกในสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร?

 

เย่เหวินเฉินส่ายหัวของตัวเอง ดวงตาของเขาสาดประกายขึ้นในฉับพลัน “มันคงจะเป็นพี่ใหญ่เหล่ย?”

 

พี่ใหญ่เหล่ยเป็นผู้ปกครองเขตซินเฉิง ด้วยพลังอำนาจที่มี ก็มากพอแล้วที่จะทำให้คนอื่นหวาดกลัวได้ สถานบังเทิงในเขตซินเฉิง เขาเป็นคนดูแลมัน เขามีพี่น้องประมาณอยู่ 1000 คนภายใต้อานัญของเขา ทั้งในโลกสีขาวและโลกใต้ดิน เมื่อพูดถึงเขา ใครบ้างหล่ะที่ไม่อยากเป็นแบบคนๆนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวลือยังบอกอีกว่า เขาค่อนข้างเป็นคนเหี้ยมโหดและมีลักษณะผิดปกติ การที่ทำให้คนคุกเข่าลง ถือเป็นการละเล่นแบบเด็กๆ สำหรับเขา

 

หากคนเหล่าวิ่งไปเจอพี่ใหญ่เหล่ยข้างใน ก็คงจะรู้กันอยู่ว่าความโชคร้ายของพวกเขามากมายขนาดไหน

 

“นั้น คะ คน... กำลังออกมา!”

 

ได้ยินเสียงฝีเท้าของเจียงซิ่ว ทุกคนในแผนกศิลปะการต่อสู้ เตรียมพร้อมราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับเชื้อสายแห่งพระเจ้า บูชาเขาดุจเทพ

 

“จริงๆแล้วมันเพราะสารเลวเจียงซิ่วคนนี้!”

 

“นี่... เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

 

ฉากปัจจุบันได้โคนล้มความเชื่อของเขาทั้งหมดที่เคยมีมาก่อน มันไม่ได้เป็นนายน้อยคนหนึ่งที่มีอำนาจ และก็ไม่ได้เป็นพี่ใหญ่เหล่ยที่น่ากลัว ทั้งหมดมันเกิดเพราะเจียงซิ่ว

 

เมื่อมองไปที่สมาชิกของแผนกศิลปะการต่อสู้ ที่ราวกับว่าพวกเขากำลังจ้องมองเทวดา

 

“พวกมันโง่รึเปล่า?”

 

“พวกเขาไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเอง?”

 

“เกิดอะไรขึ้นกับความซื่อสัตย์ของพวกเขา?”

 

แม้จะมีคำกล่าวไว้ว่า ทองคำนั้นอยู่ที่หัวเข่าของมนุษย์ แต่คนพวกนั้นก็ยังคุกเข่าให้เขา และยังร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกด้วยเล็กน้อย เจียงซิ่ว!

 

เจียงซิ่วเดินผ่านระหว่างพวกเขาไป และกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง เย่เหวินเฉินและหลินชวูลงมาที่ชั้นแรกด้วยความโกรธ หลินชวูตะคอก “พวกแกกำลังทำอะไร? พวกแกได้รับคำสั่งให้จัดการเขา แต่กลับกันเลย พวกแกไปคุกเข่าให้เขา!”

 

หวังยี่หนานพูด “พวกเราขออภัย นายน้อยหลิน พวกเราไม่สามารถรับเงินของนายน้อยเย่ได้อีก  โปรดหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมากกว่านี้ สำหรับงานนี้เถอะ”

 

“พี่น้องเราไปหาสถานที่ฝึกซ้อมกันเถอะ!”

 

หลังจากพูดแบบนั้นแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็หันหลังและออกไป เย่เหวินเฉินขมวดคิ้มจนมันเชื่อมติดกัน หลินชวูอยากจะเรียกพวกเขาไว้ แต่ก็หยุดลง มันเป็นขณะเดียวกันกับที้เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง  เจตนารมณ์ของพวกเขาค่อนข้างที่จะชัดเจน ดังนั้นเขาจึงไม่มีคำพูดใดๆที่จะพูดออกมาได้

 

“พวกขยะ พวกนั้นคิดว่านายน้อยคนนี้ ไม่สามารถทำอะไรกับเจียงซิ่วได้ หากไม่มีพวกเขา?”

 

เย่เหวินเฉินกล่าว “นายน้อยหลิน นายรู้จักใครบางคนที่อยู่ในแวดวงของพี่ใหญ่เหล่ยรึเปล่า? ปล่อยให้พวกอันธพาลจัดการเรื่องนี้ให้ดีกว่าเนื่องจากเป็นผู้คุมกฎของที่นี่ แบบนี้อาจจะฉลาดกว่ามาก”

 

หลินชวูมีสีหน้าปั้นยากแต่ก็ยังคงพยักหน้า

 

ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องน้ำ

 

“ลองเสนอราคาให้สูงกว่าที่เราเสนอให้พวกแผนกศิลปะการต่อสู้ดู เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา สิ่งที่ฉันต้องการก็คือ การทำเรื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ” เย่เหวินเฉินคบคิด

 

ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็พลันมืดลง  กระสอบใบเก่าถูกใช้คลุมหัวพวกเขา และจากนั้น การโจมตีหลายประเภทก็พุ่งเข้ามายังตัวเขา บางทีมันอาจจะเป็นหมัดและบางทีมันอาจจะเป็นไม้เคร็กเก็ต(คลายๆไม้เบสบอลแต่มันแบนกว่า) พวกเขาได้รับการทักทายอย่างดี

 

หลินชวู กระเด็นออกไปด้านข้าง และร้องเสียงแหลมเหมือนหมู

 

หลังจากนั้น หัวของพวกเขาก็ถูกจุมลงไปในโถ่ส้วม กลิ่นเหม็นสุดทานทน ทำให้พวกเขาสำรอกออกมาอีกครั้ง และอีกครั้ง พวกเขาไม่สามารถมองเห็นผู้ลอบโจมตีได้ขณะที่พวกเขากำลังถูกกระสอบสวมหัวไว้แน่น แต่นั้นก็เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย ถ้าเทียบกับพวกเขาที่กำลังโดนทุบตีการกับอยู่ในนรก

 

“อ๊ากก ชะ ช่วย ช่วยด้วยยย! จะตายแล้ว!”

 

 

ติดตามข่าวสารได้ก่อนใครที่ เพจ INdy-Novel

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด