ตอนที่แล้วChapter 50: ออกจากสำนัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 52: เข้าสู่ดินแดนวิเศษ

Chapter 51: เมืองจักรพรรดิ


ทุกคนได้ออกจากประตูวาร์ปไป นอกจากนักดาบคลั่ง, เยล และ เฮรัค แล้ว ทุกคนต่างก็อ้วก ความรู้สึกที่ผ่านประตูนี้มาไม่ใช่ง่ายๆที่ทุกคนจะรับไหว

สำหรับนักดาบคลั่งแล้วมันไม่เป็นอะไรและ เฮรัค นั้นหมดสติอยู่ เขาไม่ได้รู้สึกอะไร

เยล เองก็ไม่ได้รู้สึกดีแต่ [Pain Tolerance] ของเขาเองก็ส่งผลกับความรู้สึกแบบนี้ ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ต้องมีสภาพที่แย่เหมือนคนอื่น  ไวบร้า เองก็อยู่ในสภาพที่แย่งเช่นกันแต่ เยล ได้ใช้ [Basic Healing] ให้กับเธอและทำให้เธอฟื้นตัวได้  [Basic Healing] เองก็ใช้รักษาอาการเหล่านี้ได้

พวกเขาได้มาโผล่กันที่ด้านนอกเมืองจักรพรรดิหลังจากที่ออกจากประตูมาแล้วแต่พวกเขานั้นอยู่ไม่ไกลจากทาง แค่ชั่วโมงเดียวพวกเขาก็น่าจะไปถึงที่ประตูเมืองและเข้าไปยังเมืองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในอาณาจักรได้

คนในเมืองนิคาไซนั้นไม่รู้จักอาณาจักรนี้มากเท่าไหร่ แม้แต่ เยล เองก็เคยอ่านเจอมันในหนังสือเล่มเดียวจากหนังสือที่เขาอ่านมานับไม่ถ้วน

ในเงื่อนไขปกติแล้วผู้คนเมืองอื่นอย่างเมืองนิคาไซนั้นไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับอาณาจักรเลย อาณาจักรนี้เรียกว่าอาณาจักรเรเวนแต่ เยล ไม่รู้ว่ากี่ปีที่มันถูกสร้างมา มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้

นักดาบคลั่งอธิบายเรื่องเมืองจักรพรรดิและอาณาจักรให้เด็กๆฟังนิดหน่อย อย่างน้อยนักดาบคลั่งก็ต้องการให้พวกเขามีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเมืองจักรพรรดิและอาณาจักร มันน่าอายที่เด็กส่วนมากนั้นไม่รู้แม้แต่ชื่ออาณาจักรแม้ว่าพวกเขากำลังจะไปที่เมืองจักรพรรดิ

“ในเมืองจักรพรรดิมีแค่พวกที่มาจากสมาคมชั้นสูงรึตระกูลจักรพรรดิที่สามารถมีแซ่ได้ คนธรรมดานั้นจะไม่ได้รับอนุญาต ถ้าใครกล้าที่จะใช้แซ่ในเมืองนี้ล่ะก็ การคุกคามนั้นจะต้องจ่ายด้วยชีวิต ดังนั้นแล้วระวังในตอนที่แนะนำตัวด้วย”

ในเมืองจักรพรรดิ สถานะทางตระกูลนั้นสำคัญอย่างมาก ไม่สำคัญว่าจะมีพรสวรรค์เพียงใด เมื่อไม่ได้มีคนหนุนหลังจากตระกูลชั้นสูง คุณก็ไม่สามารถที่จะพูดอะไรที่มีสิทธิเทียบเท่ากับคนที่อยู่ในชนชั้นสูงได้ แน่นอนสมาคมได้รับอัจฉริยะมาจากด้านนอกและให้พวกเขาใช้แซ่ได้  ในอดีตนั้นนักดาบคลั่งเคยได้โอกาสนั้นแต่เพราะมันเป็นบางอย่างที่ขัดต่อบุคลิกของเขา เพราะการเข้าร่วมสมาคมนั้นมีวิธีที่ต้องแต่งงานกับคนในสมาคม แม้ว่าการแต่งงานนั้นจะเป็นแค่พิธีการแต่ นักดาบคลั่ง นั้นซื่อสัตย์ต่อคนรักในอดีตแม้ว่าเธอจะตายไปแล้วก็ตาม อีกอย่างแล้วแม้ว่าจะเข้าสมาคมชั้นสูงนั้นจะมีผลประโยชน์อย่างมากแต่มันก็ยังเป็นการกักขังคนที่เข้าไปและนักดาบคลั่งเองก็ไม่ชอบแบบนี้

นักดาบคลั่งไม่ได้อธิบายให้เด็กๆฟังว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเข้าสมาคมชั้นสูงเพราะพวกเขาคงไม่มีหวัง

พวกเดียวที่มีโอกาสนั้นคือ เฮรัค และ เยล  คนแรกนั้นเป็นศพในสายตาของนักดาบคลั่งและ เยล เองก็มีบุคลิกคล้ายกับเขาที่ไม่ชอบการกักขังในการแลกเปลี่ยนสถานะ

“พวกเจ้าควรที่จะจำไว้ว่าที่นี่น่ะพวกเจ้าไม่ใช่อัจฉริยะ เด็กจากสมาคมชั้นสูงน่ะมีพรสวรรค์ทีดีกว่าเจ้า เจ้าน่ะอยู่แค่ระดับต่ำสุดในการเข้าสำนักในเมืองนี้ได้ถ้าเจ้าโชคดีแต่มันไม่มีทางที่เจ้าจะมีเงินจ่ายค่าธรรมเนียมที่พวกเขาต้องการได้  สำนักนิคาไซนั้นต้องใช้เงินที่สำนักมีครึ่งหนึ่งเพื่อจ่ายเงินเพื่อเด็กคนเดียว”

สำนักนิคาไซนั้นรวยที่สุดในเมืองนิคาไซ แต่ละสมาคมรวยกันไม่ถึงครึ่งของสำนัก จำนวนเงินที่ต้องใช้ในการร่วมสำนักในเมืองนี้น่าตะลึงจริงๆ

สำนักนิคาไซเองก็มีค่าธรรมเนียมสำหรับการทดสอบเพื่อรับศิษย์แต่ราคานั้นถูกอย่างมาก สมาคมที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นต้องจ่ายมากกว่าสมาคมธรรมดาและคนธรรมดาที่ไม่มีภูมิหลังอำนาจอะไรสามารถเข้าทดสอบได้ฟรีๆ  นั่นเพราะด้วยการที่ไม่มีภูมิหลังนั้นจะมีโอกาสที่จะซื่อสัตย์ต่อสำนักมากว่าหลังจากที่แข็งแกร่งไปแล้วแต่ในเมืองนี้มันไม่ได้สำคัญ การสอนเด็กของสมาคมชั้นสูงรึลูกหลานจากตระกูลจักรพรรดินั้นถือว่าเป็นเกียรติต่อสำนัก ส่วนเด็กธรรมดาที่ไม่มีอำนาจหนุนหลังนั้นล้วนแต่ไร้ประโยชน์สำหรับพวกเขา ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงรับการทดสอบสำหรับพวกคนที่สามารรถจ่ายค่าธรรมเนียมได้ สำหรับชนชั้นสูงและตระกูลจักรพรรดิแล้วนั่นยังถือว่าถูก

เด็กทุกคนต่างก็เงียบเมื่อได้ยินคำพูดของนักดาบคลั่ง พวกเขาคิดว่าเมืองนี้ต่างจากเมืองนิคาไซแต่ไม่คิดว่าจะแตกต่างขนาดนี้

สมาคมชั้นสูงและตระกูลจักรพรรดิได้กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัว แน่นอน เฮรัค นั้นไม่รู้เรื่องนี้และถ้า ลอร์ ลืมที่จะอธิบายเรื่องนี้ให้เขาฟังงั้น เฮรัค อาจไปคุกคามสมาคมชั้นสูงบางกลุ่มเข้า แม้แต่บรรพบุรุษของมันก็ไม่อาจทำอะไรได้เพราะเขาไม่อาจที่จะคุกคามสมาคมชั้นสูงได้  ยังไงซะสมาคมชั้นสูงไหนก็มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะถล่มเมืองนิคาไซให้ราบเป็นหน้ากอง ไม่มีสมาคมข้างนอกสมาคมไหนที่มีค่าพอในสายตาของสมาคมชั้นสูง

ในตอนที่เดินอยู่นั้นพวกเขาได้เห็นเมืองจักรพรรดิ มันมีตึกสูงมากมายและแตกต่างจากเมืองที่พวกเขาอยู่  มันสมควรถูกเรียกว่าเมืองหลวงของอาณาจักรเรเวน

เมื่อพวกเขามาถึงที่ประตู  นักดาบคลั่งได้เอาเหรียญยืนยันตัวตนที่ผู้เชี่ยวชาญลึกลับได้ให้กับเขาไม่กี่วันก่อนออกมา ด้วยเหรียญนี่เขาจะสามารถเข้าไปในเมืองพร้อมกับเด็กแปดคนได้

“แล้วสัตว์อสูรล่ะ ?”

ยามได้ถามอกมาแล้วชี้ไปที่ ไวบ้า ที่ซึ่งอยู่ในอ้อมแขนของ เยล

“นั่นมันสัตว์อสูรที่ทำสัญญาแล้ว มันทำสัญญาชีวิต มันไม่มีอะไรที่จะต้องกังวล”

ยามนั้นไม่ค่อยเชื่อนักดาบคลั่งแต่เมืองเห็นว่านักดาบคลั่งนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนและความจริงที่ว่าเขามีเหรียญของทางการ พวกเขาก็ปล่อยให้ ไวบ้า เข้าไป สัตว์อสูรที่ทำสัญญาแล้วนั้นสามารถเข้ามาในเมืองได้กับเจ้านายตัวเองแต่เจ้านายต้องรับผิดชอบสำหรับความเสียหายที่สัตว์อสูรทำ

หลังจากที่พวกเขาได้เข้ามาในเมือง เด็กๆต่างก็อุทานออกมาด้วยความแปลกใจเพราะเมืองนี้สวยงามอย่างมาก

“หยุดมองเมืองและตามข้ามาเงียบๆ”

เด็กทุกคนกำลังจะแสดงความเห็นตัวเองออกมาเกี่ยวกับเมืองนี้ต่างก็หุบปากและตามนักดาบคลั่งไปเงียบๆ

นักดาบคลั่งไม่ได้ชอบเด็ก เขาชอบแค่ศิษย์ของตัวเอง เด็กคนอื่นนั้นล้วนแต่น่ารำคาญสำหรับเขา  ดังนั้นเขาจึงเลือกให้พวกนั้นเงียบปากเอาไว้

พวกเขาได้เข้าไปที่โรงแรม มันคือโรงแรมที่คุณภาพต่ำที่สุดในเมืองแต่ก็ยังถือว่าหรูหรากว่าในเมืองนิคาไซ

ผู้เชี่ยวชาญลึกลับได้ทำการจองไว้ให้พวกเขาเก้าห้อง ดังนั้นทุกคนจึงมีห้องของตัวเอง สำนักนิคาไซนั้นไม่สามารถที่จะจ่ายเงินสูงขนาดนี้ไหว

“ดินแดนพิเศษจะเปิดในอีกหนึ่งอาทิตย์ ข้าห้ามไม่ให้พวกเจ้าออกไปด้านนอกโรงแรมโดยไม่ขออนุญาติ”

เมื่อพูดจบนักดาบคลั่งได้เดินไปที่ห้องของตนและทุกคนก็ทำแบบเดียวกัน ไม่มีใครกล้าที่จะไม่เชื่อฟัง หลังจากนั้นนักดาบคลั่งก็ได้ไปที่ห้องของ เยล และจากนั้นพวกเขาก็ได้คุยถึงแผนการที่จะจัดการกับ เฮรัค

เยล และนักดาบคลั่งไม่ได้วางแผนที่จะทำอะไรกับมันจนกว่ามันจะเข้าไปในดินแดนพิเศษ

ถ้ามันตายข้างใน งั้นก็ไม่มีความหมายที่จะรู้เหตุผลของการตาย นอกซะจากว่าคนอื่นจะพูดมันออกมาแต่มีไม่กี่คนที่กล้าที่จะคุกคามนักดาบคลั่งสำหรับคนที่ตายไปแล้ว

ถ้า เยล ไม่สามารถที่จะจัดการมันได้ข้างในรึ เฮรัค ไม่ตายเพราะองค์ประกอบอย่างอื่น  นักดาบคลั่งจะฆ่ามันทันทีที่มันออกมาและเหตุผลก็คงเป็นพิษที่มันติดจากในดินแดนพิเศษนั้น

นั่นคือแผนของพวกเขาแต่นักดาบคลั่งเองก็ได้บอก เยล ว่าเรื่องสำคัญที่สุดของเขาควรจะเป็นได้รับของดีๆด้านในมา

หลังจากที่นักดาบคลั่งได้กลับไปแล้ว เยล ก็เตรียมตัวที่จะทำการฝ่าระดับ ดินแดนพิเศษนี้อันตราย ไม่มีทางเลยที่ เยล จะเชื่อว่ามันเป็นสถานที่พิเศษที่จะให้ประโยชน์กับเขาโดยไม่มีความเสี่ยง

ดังนั้นแล้วการที่เขาแข็งแกร่งขึ้น มันจะดีกว่า

“ผู้ใช้ได้มาถึงเลเวล 3 เติมเต็มเงื่อนไขทั้งหมด”

“ขีดจำกัดของสเตตัสและพลังกำเนิดเพิ่มขึ้นเป็น 30 หน่วย”

“พลังกำเนิดเพิ่มขึ้นและฟื้นฟู”

“ข้อกำหนดเพื่อไปถึงเลเวล 4 : เพิ่มสเตตัสและพลังกำเนิดให้ถึงขีดจำกัดก่อนที่จะอายุ 11 ปี”

“ผู้ใช้ได้เพิ่มระดับ เควสไดนามิคจะให้รางวับต่อ”

“รางวัลจากเควสไดนามิคสำหรับการต่อสู้ครั้งที่ห้า : ค่า Vitality เพิ่มขึ้นเป็น 22 หน่วย”

“รางวัลจากเควสไดนามิคสำหรับการต่อสู้ครั้งที่ห้า : ค่า Strength เพิ่มขึ้นเป็น 23 หน่วย”

“รางวัลจากเควสไดนามิคสำหรับการต่อสู้ครั้งที่ห้า : ค่า Vitality เพิ่มขึ้นเป็น 23 หน่วย”

“รางวัลจากเควสไดนามิคสำหรับการต่อสู้ครั้งที่ห้า : ค่า Agility เพิ่มขึ้นเป็น 23 หน่วย”

“รางวัลจากเควสไดนามิคสำหรับการต่อสู้ครั้งที่ห้า : ค่า Intelligence เพิ่มขึ้นเป็น 23 หน่วย”

“รางวัลจากเควสไดนามิคสำหรับการต่อสู้ครั้งที่ห้า : ค่า Wisdom เพิ่มขึ้นเป็น 23 หน่วย”

“รางวัลจากเควสไดนามิคสำหรับการต่อสู้ครั้งที่ห้า : ค่า Dexterity เพิ่มขึ้นเป็น 23 หน่วย”

“รางวัลจากเควสไดนามิคสำหรับการต่อสู้ครั้งที่ห้า : ค่าพลังกำเนิดเพิ่มขึ้นเป็น 22/22 หน่วย”

“รางวัลจากเควสเสร็จสิ้น”

หลังจากที่ฝ่าระดับมาได้แล้ว โอกาสรอดของ เยล ในดินแดนพิเศษนั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด