ตอนที่แล้วGE66 ภูติผีทาส [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE68 รักษาสตรีผู้งดงาม เหว่ยเหลียงผู้บริสุทธิ์ [ฟรี]

GE67 เริ่มแผนการ สตรีสองนางที่ใจเต้นรัว [ฟรี]


รุ่งเช้ามาเยือน หมอกภายในป่าต้องแสงตะวันระยิบระยับ หนิงฝานสดชื่น สถานที่ดีๆเช่นนี้กลับไม่มีมนุษย์อยู่อาศัย

หนิงฝานเปิดประตูบ้านออกมา ยามนี้ สตรีทั้งสองนางที่เฝ้าจับตาหนิงฝานสมควรแยกย้ายไปพักผ่อน หนิงฝานจึงสามารถท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ

“ในเผ่าครามต้องเฝ้าระวังเป็นอย่างดี เพราะภูติผีที่เข้าร่วมเผ่า ล้วนมาด้วยหลายเหตุผล”

หนิงฝานหันมองภูติผีที่เริ่มเปิดประตูบ้าน และออกเดินออกตามถนนในหมู่บ้าน

ภูติผีแต่ละตัวย่อมมีเป้าหมายเป็นของตน เมื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ พวกมันย่อมทำทุกสิ่งเพื่อพลัง!

แม้เป็นยามกลางวัย ผู้ที่ทำให้หน้าที่คุ้มกันคลังสมบัติยังคงเฝ้าระวังเป็นอย่างดี

ผู้ที่คิดช่วงชิงสมบัติไม่ได้มีเพียงหนิงฝานคนเดียว หากจะกล่าว สมควรเป็นภูติผีทั้งเผ่า!

คลังสมบัติของเผ่าตั้งอยู่ส่วนลึกของป่า ที่นั่นมีข่ายอาคมที่มองไม่เห็นปกคลุม ผู้ที่ทำหน้าที่เฝ้าคลังสมบัติก็ซ่อนตัวอยู่บริเวณนั้น

หนิงฝานเดินไปยังคลังสมบัติเพื่อสำรวจภูมิประเทศ และหาโอกาสในการชิงมุกภาวนา

ภูติผีที่ถูกหนิงฝานสังหารเพื่อเข้าร่วมเผ่าเป็นนักปรุงโอสถประจำเผ่า นักปรุงโอสถสามารถไปยังคลัเพื่อของสมุนไพรได้ในทุกๆเดือน ทำให้หนิงฝานเข้าใกล้คลังของพวกมันได้

เมื่อหนิงฝานเดินไปถึงรอบนอกของคลัง เขาพบภูติผีที่กำลังพยายามจะแอบเข้าไปในคลังเพื่อขโมยสมุนไพร แต่มันกลับถูกข่ายอาคมตรึงไว้

มันเป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น หากเทียบในแคว้นเยว่แล้ว มันนับเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลัง เพียงแต่สัมผัสเทพของมัน ยังไม่อาจสัมผัสได้ว่ามีข่ายอาคมขวางกั้นอยู่

เมื่อข่ายอาคมทำงาน สีหน้าของภูติผีตนนั้นแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันเร่งถอยหลังแต่สายเกินไป... ข่ายอาคมถ่ายพลังใส่ร่างของมัน ทำให้มันเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด และสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน

“เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น แต่กลับคิดหวังช่วงชิงสมุนไพรในคลัง”

น้ำเสียงเย้ยหยันดังมาจากภายในคลัง คำกล่าวของมันราวกับเย้ยหยันภูติผีที่ตาย รวมถึงหนิงฝานที่มา

ดูคล้ายว่า ผู้ที่เข้าร่วมเผ่าครามส่วนใหญ่มาเพื่อชิงสมุนไพรเท่านั้น ความจริงข้อนี้ไม่ยากจะคาดเดา เพราะส่วนใหญ่ผู้ที่เข้าใกล้คลังก็ล้วนมาด้วยเหตุผลนี้ทั้งสิ้น

หนิงฝานรั้งฝีเท้า เบื้องหน้าของเขาคือข่ายอาคมที่มองไม่เห็น ภายในข่ายอาคมมีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังซ่อนตัวอยู่ พวกมันซ่อนตัวเป็นอย่างดี หากหนิงฝานไม่ใช้สัมผัสเทพ คงไม่อาจสัมผัสถึงพวกมันได้

หนิงฝานมองหา ‘ตา’ ของข่ายอาคม

เขาพบตำแหน่งที่เป็นตาทั้งหมด 108 แห่ง แต่ละแห่งเป็นแหล่งพลังงาน และสิ่งที่เป็นแหล่งพลังงานไม่ใช่หยกสวรรค์หรือแร่สวรรค์ แต่เป็นมุกภาวนา!

หนิงฝานจ้องมองมุกภาวนาทั้ง 108 ก้อนด้วยความเสียดาย การนำมุกภาวนาจำนวนมากขนาดนี้มาใช้กับข่ายอาคม นับว่าเสียของ

แต่นั่นไม่ถือว่าแปลก เพราะสิ่งล้ำค่าของภูติผีคือสมุนไพร มุกภาวนานั้น หากสังหารภูติผีตนอื่นก็ได้มาครอง... นอกจากใช้สร้างอาวุธและข่ายอาคมแล้ว มุกภาวนาเหล่านั้นก็ไร้ค่า พวกมันไม่ใช่มนุษย์ จึงไม่อาจดูดซับพลังจากมุกภาวนาได้

ภูติผีที่ตายเมื่อครู่ จิตวิญญาณของมันสูญสลายและก่อตัวเป็นมุกภาวนาที่งดงาม แต่ในระหว่างนั้น เส้นแสงสีครามเคลื่อนเข้ามา หยิบเอามุกภาวนาและจ้องมองหนิงฝาน

“เจ้าเป็นผู้ที่เพิ่งเข้าร่วมเผ่า... เจ้ามารนหาที่ตายที่นี่หรืออย่างไร?”

ภูติผีจ้องมองหนิงฝานด้วยสายตาเย็นชา

ภูติผีที่ปรากฏตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูง และเป็นผู้เฝ้าคลังสมบัติ

“ซัวหมิงจะกล้าปล้นคลังสมบัติได้อย่างไร... ซัวหมิงเป็นนักปรุงโอสถ แต่ยามนี้ขาดแคลนสมุนไพร ที่ข้ามาก็เพื่อขอสมุนไพร เพราะตามกฏของเผ่าแล้ว ข้าสามารถมาขอรับสมุนไพร 100 ปีได้ในทุกเดือน และอย่างน้อย ข้าต้องปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ให้เผ่า 1 เม็ด”

สีหน้าหนิงฝานเรียบเฉย เขาป้องมือแล้วกล่าว

ความสงบของหนิงฝานทำให้อีกฝ่ายนับถือ แววตาที่มันจ้องมองหนิงฝานก็แปรดีขึ้น

“เจ้าปรุงโอสถชนิดใดได้?”

“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสมีนามว่าอะไร?” หนิงฝานยังไม่ตอบ เขาเพียงยิ้มพลางกล่าวถาม

“ฮ่าฮ่า... เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น แต่กลับกล้าถามนามข้า ช่างรนหาที่ตาย... แต่ช่างเถอะ เห็นแก่เจ้าเป็นนักปรุงโอสถ ข้าจะยกโทษให้ครั้งหนึ่ง แต่จงจำไว้ ข้ามีนามว่า ‘ฉู่หาน’”

คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะกล่าวตอบ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญตนอื่นๆที่ซ่อนตัวอยู่ตกตะลึง เหตุใดผู้อาวุโสที่ไม่เคยพบซัวหมิงมาก่อนถึงได้ใจดีกับมันนัก

หากจะกล่าว เรื่องนี้นับว่าไม่แปลก เพราะน้อยนักที่ภูติผีตนใดจะปรุงโอสถได้ หากเป็นภูติผีที่ปรุงโอสถได้ ก่อนตายมันต้องเป็นนักปรุงโอสถมาก่อน แม้ยามที่ตายจะสูญสิ้นความทรงจำไปส่วนมาก แต่วิชาในการปรุงโอสถยังคงอยู่

หนิงฝานเพิ่งเข้าร่วมเผ่าเมื่อวาน หากนับเรื่องความแข็งแกร่ง ย่อมไม่ทำให้ผู้อาวุโสผู้นี้สนใจ แต่หากสามารถปรุงโอสถได้ สถานะของหนิงฝานก็สูงขึ้น จนอาจเทียบเคียงผู้อาวุโสในขอบเขตแก่นทองคำขั้นกลาง หรืออาจกลายเป็นคนสำคัญของเผ่าไป

ฉู่หานกวาดตามองหนิงฝานด้วยความสงสัย เหตุใดภูติผีเบื้องหน้าถึงได้คงสีหน้าสงบได้

“ผู้อาวุโสฉู่หาน... ผู้เยาว์ซัวหมิงเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2”

หนิงฝานไม่ได้กล่าวว่าตนเป็นนักปรุงยาโอสถผันแปรที่ 4 เพราะนั่นอาจกลายเป็นจุดสนใจมากเกินไป และยากที่จะลงมืออย่างที่ตั้งใจไว้

“อืม... เป็นเพียงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2” ผู้อาวุโสฉู่หานเป็นสตรีที่งดงาม ยามนี้ แววตาของนางเผยความผิดหวังและเย็นชามากขึ้น

นักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 มีน้อยก็จริง แต่ไม่ได้หาตัวยากขนาดนั้น ที่สำคัญ โอสถผันแปรที่ 2 แทบไม่เป็นประโยชน์กับผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ

“ฉู่เฉิน... เจ้านำมันไปเลือกสมุนไพร แต่ให้มันเลือกได้เพียงสมุนไพร 100 เท่านั้น หากคิดช่วงชิง สมุนไพร 500 หรือ 1000 ปี เจ้าควรทราบว่าจะประสบชะตากรรมเช่นใด”

นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงด้วยเจตนาสังหาร หลังกล่าวจบ เงาร่างของนางก็หายไปราวกับไม่อยากพูดคุยกับหนิงฝานต่อ

และในพริบตานั้น ชายชราที่ถือแผ่นข่ายอาคมได้ปรากฏตัว มันยิ้มให้หนิงฝาน

“ข้าฉู่เฉิน ยินดีที่ได้พบปรมาจารย์ซัว”

แม้ชายชราที่ปรากฏจะดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น และแม้มันจะกล่าวกับหนิงฝานด้วยความเคารพ แต่ทันทีที่มันปรากฏตัว หนิงฝานกลับเสียวสันหลัง ชายชราผู้นี้อันตราย

แปลกนัก! ต่อให้เผชิญหน้าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูง หนิงฝานยังไม่รู้สึกอันตรายขนาดนี้ ชายชราผู้นี้ไม่ธรรมดา!

หนิงฝานจ้องมองชายชรา และสัมผัสได้ถึงบางสิ่งจากกลิ่นอายของมัน

ดวงจิตแรกเริ่ม... ชายชราผู้นี้คือครึ่งก้าวบรรลุดวงจิตแรกเริ่ม ตัวตนระดับมันสมควรเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่า และหนิงฝานกลัวว่าชายชราจะเป็นอย่างที่คิด

หนิงฝานขบคิด บางทีชายชราผู้นี้อาจมีเป้าหมายเดียวกัน มันปลอมระดับพลังและลอบเข้าเผ่า การที่มันเป็นผู้เฝ้าคลังสมบัติ เป้าหมายของมันย่อมเป็นสมุนไพร

“ผู้เยาว์ซัวหมิงคารวะผู้อาวุโสฉู่ เชิญท่านพาข้าไปเลือกสมุนไพรด้วย”

แม้หนิงฝานจะขบคิดหลายสิ่ง แต่สีหน้ายังคงสงบราวกับไม่เกิดสิ่งใด เขาป้องมือคารวะชายชรา จากนั้นก็เข้าสู่คลังพร้อมกัน

ชายชราเป็นคนช่างพูด มากประสบการณ์ราวกับผ่านเรื่องราวต่างๆมานับไม่ถ้วน แต่สิ่งที่ชายชราเล่าขานยังคลุมเครือ บางสิ่งราวกับถูกปิดบังยามที่หนิงฝานกล่าวถามรายละเอียด

หนิงฝานตอบคำถามของชายชราเพียงเล็กน้อย เรื่องราวของจักรพรรดิสวรรค์ เขาไม่อาจบอกเล่าให้ชายชราฟังได้

แม้หนิงฝานไม่เป็นคนช่างพูด แต่ก็เข้ากับชายชราได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องราวที่เล่าขาน ยังทำให้ชายชราขมวดคิ้ว

“ข้าคือผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าม่วง ก่อนข้าตาย ข้าออกท่องเที่ยวไปทั่วโลกพิรุณ แต่หลังจากตายไป ข้าจึงเก็บตัวฝึกฝนกว่า 1000 ปี ทำให้มีพลังระดับนี้... เด็กนั่นสมควรมีอายุ 17 ปี แต่กลับร่วมสนทนากับข้าได้อย่างกลมกลืน มันระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี เมื่อรู้ว่าข้าเริ่มจะหลอกถามที่มาของมัน มันก็กล่าวตอบเพียงเล็กน้อย ราวกับรู้ว่าหากกล่าวออกไป จะนำปัญหามากมายมาให้... เด็กนี่สมควรมีบางสิ่งแอบแฝง บางทีที่มันเข้าร่วมเผ่าครามอาจเพราะต้องการชิงสมบัติ มันมีจุดประสงค์เดียวกับข้า แต่สิ่งที่ข้าหมายตาไว้ เด็กนั่นมีทางชิงไปได้”

ชายชราขบคิดเรื่องของหนิงฝานในใจ... หลังจากหนิงฝานเข้าสู่คลังสมบติ เขาพบว่าในนี้มีข่ายอาคมลับที่ชายชราผู้นี้อาบวางไว้

คลังสมบัติแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนที่ 1 มีการป้องกันอ่อนด้อยที่สุด หากหนิงฝานระมัดระวัง เขาย่อมช่วงชิงสมบัติในส่วนนี้ได้ แต่ช่างน่าเศร้าที่สมบัติที่ว่ามีเพียงสมุนไพร 100 ปีเท่านั้น

ส่วนที่ 2 เป็นสถานที่เก็บมุกภาวนาและสมบัติวิญญาณ ส่วนที่ 3 เป็นที่เก็บสมุนไพร 500 ปี และส่วนที่ 4 เป็นที่เก็บสมุนไพร 1000 ปี

หนิงฝานแอบดีใจ ดูเหมือนมุกภาวนาไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดของเผ่า ข่ายอาคของส่วนที่ 2 ก็ยังไม่ถึงระดับดวงจิตแรกเริ่ม หากใช้กระบี่แยกสวรรค์ หนิงฝานมั่นใจว่าสามารถทำลายข่ายอาคม และชิงมุกภาวนามาได้

แต่ยามนี้หนิงฝานยังทำสิ่งที่คิดไม่ได้ เพราะยามนี้ เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเฝ้าคุ้มกันคลังอยู่ สัมผัสเทพของพวกมันพุ่งเป้ามาที่ตัวเขา หากเขาลงมือ พวกมันจะกระตุ้นข่ายอาคมเผาหนิงฝานจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

ต้องรอโอกาสวันหน้าในการลอบชิงสมุนไพรของพวกมัน

“สมุนไพร 100 ปีในส่วนที่ 1 นี้ เชิญประมาจารย์ซัวเลือกได้ตามอัธยาศัย” ชายชรากล่าวพลางยิ้มเล็กน้อย แล้วเฝ้าสังเกตุหนิงฝาน

หนิงฝานกวาดตามองสมุนไพร 100 ปีทั้งหมดอย่างเรียบเฉย

ภายในห้องมีข่ายอาคมอยู่ มันช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ใดช่วงชิงสมุนไพร ทั้งยังป้องกันไม่ให้ปราณของสมุนไพรสลาย

หนิงฝานกวาดตามองสมุนไพรอย่างรวดเร็ว เขาขบคิด ในโลกพิรุณ สมุนไพรเป็นสิ่งที่หาได้ยาก หลายชนิดสูญพันธุ์ แต่สมุนไพรเหล่านั้นกลับมีในป่าแห่งภูติพราย

แต่ในคลังแห่งนี้ มีสมุนไพรอยู่สองชนิดที่ต้องตา นั่นคือสมุนไพรของโอสถเสริมวิญญาณ และสมุนไพรของโอสถยกระดับวิญญาณ

โอสถเสริมวิญญาณไร้ประโยชน์กับหนิงฝาน แต่โอสถยกระดับวิญญาณ เป็นโอสถที่ช่วยทะลวงขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูงสุดไปยังแก่นทองคำได้!

ที่โลกภายนอก โอสถยกระดับวิญญาณหาได้ยาก ราคาขายจึงสูง ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำมักจะประมูลกันอยู่บ่อยๆ เพื่อเก็บไว้ให้คนรุ่นต่อไปได้ใช้

เดิมทีหนิงฝานไม่ได้สนใจสมุนไพร 100 ปีชนิดอื่น แต่เมื่อเห็นสมุนไพรจำนวนมากที่หาได้ยาก เขาจึงมีความคิดบางอย่าง

ขโมยสมุนไพร 100 ปีของโอสถเสริมวิญญาณ แม้โอสถชนิดนี้จะไร้ประโยชน์กับตน แต่เป็นปนะโยชน์กับกองทัพเทพปีศาจทมิฬ

ภายใน 10 ปี หนิงฝานเชื่อว่าทหารทั้งหมดในกองทัพ ต้องบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณ!

ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ 1400 คน! แม้หนิงฝานยังไม่บรรลุดวงจิตแรกเริ่ม แต่ด้วยกองทัพที่ทรงพลัง เขาสามารถทำลายนิกายจี๋หลิงได้ไม่ยาก

หนิงฝานเก็บความตั้งใจไว้ พลางเลือกสมุนไพรทั่วไป 10 ชุดอย่างสงบ จากนั้นจึงกล่าวลาชายชรา เขาไม่เลือกสมุนไพรของโอสถเสริมปราณ หรือโอสถยกระดับวิญญาณเพราะเกรงว่าชายชราจะสงสัย

หลังจากหนิงฝานกลับไป ชายชราเข้าพบฉู่หาน และรายงานว่าหนิงฝานเลือกสมุนไพรชนิดใดไปบ้าง

“มันเลือกสมุนไพร 100 ปีไป 3 ชนิด ที่ใช้สำหรับปรุงโอสถรักษาวิญญาณ... เด็กนั่นไม่มีพิรุจ แต่ฉู่เฉิน ข้าขอเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จงอย่าได้คิดขโมยสมุนไพรในคลังอีก”

ฉู่หานนั่งนิ่งและหลับตา นางไม่สนใจหนิงฝาน

“ฮ่าฮ่า ข้าฉู่เฉินเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นแรก ข้าไม่คิดขโมยสมุนไพรในคลังเพื่อรนหาที่ตายหรอก แต่หากข้าบรรลุแก่นทองคำขั้นสูงสุด ข้าอาจลงมือ”

ชายชราหัวเราะแล้วกล่าวลาฉู่หาน มันจ้องมองหนิงฝานที่กำลังเดินห่างออกไปด้วยแววตาสงสัย

“แปลกนัก... จากสายตาของเด็กนั่น มันจ้องมองสมุนไพรของโอสถยกระดับวิญญาณอยู่นาน โอสถชนิดนั้นเหมาะกับผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แต่สำหรับข้าและภูตผีในขอบเขตแก่นทองคำตนอื่นย่อมไร้ประโยชน์... มันจ้องมองสมุนไพรของโอสถยกระดับวิญญาณด้วยแววตามีความสุข มันต้องมีสิ่งใดแอบแฝง... หรือซัวหมิงผู้นี้ยังไม่มีแก่นทองคำ! แต่เหตุใดมันจึงเข้ามาในส่วนที่ 3 ของป่าได้ แต่ผู้ที่จะเข้ามาได้นั้นสมควรเป็นมนุษย์? หรือมันคือผู้สังหารปีศาจกระดูกขาว ข้าต้องร่วมมือกับมันทำลายเผ่าครามให้สิ้นซาก”

ชายชราสังเกตเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปชั่วขณะของหนิงฝาน และสามารถคาดเดาได้หลายสิ่ง แต่นับว่าโชคดี เพราะชายชราไม่ได้คิดจะลงมือกับหนิงฝาน ทั้งกลับอยากร่วมมือมากกว่า

ชายชราเป็นภูตผีของเผ่าม่วง ครั้งหนึ่งเคยเป็นข้ารับใช้องค์หญิงเหม่ย ดังนั้นเผ่าม่วงจึงไม่ฟังคำสั่งจักรพรรดิปีศาจไปกู่

ชายชราประหลาดใจที่หนิงฝานสังหารปีศาจกระดูกขาว และชายชราต้องไว้เปิดเผยตัวตนของหนิงฝาน

หนิงฝานยังไม่ได้กลับไปบ้านของตนทันที เขาเดินสำรวจรอบเผ่า

หนิงฝานตั้งใจรักษาแผลของสตรีอาภรณ์ขาวและแดง หากเอาชนะใจพวกนางได้ พวกนางย่อมต้องช่วยเขาปล้นคลังสมบัติ

การจะรักษาสตรีทั้งสองได้นั้นต้องใช้หลายสิ่ง แต่โชคดีในเผ่าครามมีร้านค้าอยู่บ้าง และร้านค้าเหล่านั้นก็มีสิ่งที่หนิงฝานต้องการ ดังนั้นเขาจึงใช้สมุนไพรเพื่อแลกเปลี่ยนของมา

โอสถรักษาเนตร โอสถผันแปรที่ 3 เป็นโอสถรักษาดวงตาที่เหมาะกับสตรีอาภรณ์ขาว แต่ยามนี้หนิงฝานยังขาดสมุนไพรของมัน

โอสถเพิ่มโลหิต โอสถผันแปรที่ 3 เป็นโอสถที่สามารถรักษาบาดแผลจากสมบัติวิญญาณขั้นสูงได้ เหมาะกับสตรีอาภรณ์แดง แต่หนิงฝานยังไม่มีสมุนไพรเช่นกัน

หากจะช่วยพวกนางคลายตราประทับวิญญาณต้องใช้พิษ ยิ่งพิษระดับสูงก็ยิ่งดี ในความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ มีอยู่หนึ่งวิชาที่ใช้พิษต่อสู้ วิชานั้นได้มีการอธิบายสรีระร่างกายมนุษย์ หากใช้พิษในระดับที่พอดี ก็สามารถคลายตราประทับวิญญาณได้

เพียงแต่พิษที่กล่าวถึงนั้นหาได้ยาก ต่อให้เป็นทั้งโลกพิรุณ ก็ยังยากที่จะหาพิษชนิดนั้น

หลังจากใช้สมุนไพรแลกกับสิ่งที่ตนเองต้องครบแล้ว หนิงฝานก็กลับบ้าน ด้วยที่บ้านหลังนี้ที่บ้านของนักปรุงโอสถประจำเผ่า ทำให้มีเตาปรุงโอสถและเพลิงพิภพ ยามนี้สัมผัสเทพของหนิงฝานบรรลุสู่ขอบเขตแก่นทองคำขั้นกลาง  การปรุงโอสถผันแปรที่ 3 จึงไม่ใช่เรื่องยากนัก

เมื่อยามราตรีมาเยือน โอสถที่หนิงฝานปรุงก็เกือบจะแล้วเสร็จ กลิ่นหอมของโอสถโชยออกมานอกบ้านแต่ไม่มากนัก

ที่ด้านนอกบ้าน สตรีอาภรณ์ขาวและแดงเฝ้ามองจับตามองหนิงฝาน

เมื่อพวกนางเริ่มเข้าใกล้บ้าน พวกนางกลับได้กลิ่นโอสถโชยออกมา

“หอม! ซัวหมิงผู้นั้นปรุงโอสถได้ สวรรค์! คาดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นนักปรุงโอสถ... ไม่รู้ว่าเป็นโอสถชนิดใด แต่กลิ่นหอมเช่นนี้ สมควรเป็นโอสถผันแปรที่ 3!” หากสตรีอาภรณ์ขาวมีดวงตา ยามนี้ดวงตาของนางคงเบิกกว้างและส่องประกายราวกับดารา

“เป็นไปได้อย่างไร ซัวหมิงผู้ปากหวานเกี้ยวพาสตรีมีพลังต่ำต้อย อย่างมากมันสมควรปรุงได้เพียงโอสถผันแปรที่ 2...”

สตรีอาภรณ์แดงขดปากพลางกล่าว แต่ดวงตายังจับจ้องบ้านไม้ไผ่ของหนิงฝานด้วยความประหลาดใจ เมื่อนางสูดกลิ่นโอสถอย่างตั้งใจ แผลที่รักษาได้ยากกลับเริ่มฟื้นฟูช้าๆ

นางตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ซัวหมิงผู้นั้นปรุงโอสถชนิดใดกัน? เพียงกลิ่นหอมที่โชยออกมา กลับทำให้แผลของข้าเริ่มสมานตัว!”

เสียงเปิดฝาประถางปรุงโอสถดังขึ้น หัวใจของสตรีทั้งสองนางเต้นรัว

ปรุงโอสถเสร็จแล้ว!

“แม่นางทั้งสองไม่เข้ามาดูหรือ ว่าข้าซัวหมิงปรุงโอสถชนิดใด?”

แล้วเสียงเย้าหยอกของหนิงฝานก็ดังออกมาจากภายในบ้าน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด