ตอนที่แล้วตอนที่ 66 ผมจะรับผิดชอบต่อชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณเอง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 68 มันเกือบจะเป็นฤดู… ที่ขาวอีกครั้ง

ตอนที่ 67 โชคที่คาดไม่ถึง


"อืม... บรรณาธิการโยชิซาว่าจริงๆแล้วผม... " เซจิต้องการอธิบาย

"นายไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว ฮาราโนะ ตอนนี้ฉันรับรู้ถึงความรู้สึกของนายแล้ว" ซากิพูดขัดเขา แก้มของเธอยังคงแดงจางๆอยู่ "คุณอะมามิเชื่อว่านายเป็นพนักงานที่ยอดเยี่ยมและเป็นคนทำงานหนัก และฉันก็วางใจเธอ บวกกับสิ่งที่ฉันสามารถบอกได้ว่า นายมีรูปร่างและมีบุคลิกที่ดี และนายก็มีความสนใจแบบเดียวกับมายาซูมิและความสามารถในอาชีพเดียวกันกับเธอ และนายจะเป็นแฟนที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับเธอ "

เซจิคิดคำพูดที่จะใช้ปลอบตัวเองไม่ออก

"ถึงแม้ว่านายอาจจะไม่ได้แต่งงานกับมายาซูมิ ฉันก็คิดดีแล้วว่านายได้เตรียมตัวสำหรับผลลัพธ์นั้นไว้แล้ว มายาซูมิ เธอ... เป็นผู้หญิงที่ต้องการใครสักคนดูแลเธออย่างดี ดังนั้นฉันจึงขอร้องให้นายปฏิบัติต่อเธอด้วยความรักและความเคารพด้วย" ซากิพูดจบพร้อมกับคำนับเซจิอย่างจริงจัง "นี้ก็จบเรื่องที่จะคุยกันแล้ว ฉันยังมีเรื่องอื่นๆที่ต้องไปต่ออยู่ ดังนั้นลาก่อน"

ซากิคำนับริกะ อามามิเช่นกันก่อนที่จะมองไปที่เซจิและออกไป ใบหน้าของเธอยังคงแต่งแต้มไปด้วยสีแดงขณะที่เธอเดินออกไปและจังหวะเท้าของเธอก็ดูเหมือนจะเร่งรีบ

นี้เธอ... หนีงั้นเหรอ? เซจิรู้สึกตกตะลึง

เกิดอะไรขึ้นกันแน่!?

เขาหันไปหาเจ้าของร้านและพบว่าเธอยังคงปิดปากปากของเธอพยายามอย่างมากที่จะปิดบังความสนุกสนานของเธอไว้โดยการหันหน้าไปทางอื่น เมื่อมองลงไป เซจิสังเกตเห็นว่าไหล่ของเธอยังคงสั่นอยู่

"ผู้จัดการร้าน!"

"ขอโทษที... ฮารุตะคุง ฉันหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!" สุดท้ายริกะก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

นี้เป็นครั้งแรกที่เซจิเคยเห็นผู้จัดการร้านหัวเราะแบบนี้

ผู้จัดการร้านที่มีเสน่ห์และงดงามกำลังใช้มือปิดปากตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถระงับเสียงหัวเราะของเธอได้ และหน้าอกของเธอที่สั่นอยู่ภายใต้เสื้อของเธอ ขณะที่เธอหัวเราะ มันเป็นภาพที่ทำให้คนเกือบสติหลุดได้เลย

เฮอ... ขณะที่เซจิกำลังเตรียมที่จะพูดขึ้น

แม้ว่ามันจะเป็นเสียงลมเบาๆ แต่ก็ยังคงได้ยินชัดเจน แหล่งที่มาของเสียงอยู่ที่ตรงหน้าอกอันใหญ่โตของผู้จัดการร้าน

ต้นเหตุของเสียงเล็กๆ นั้นคือ... กระดุม!

เซจิก็เบิกตากว้างและจดจ่ออยู่กับมัน

เวลาดูเหมือนจะช้าลงทำให้เขาเห็นเส้นทางของกระดุมอย่างชัดเจน นอกจากนี้เขายังได้เห็นรูปลักษณ์ของภายใต้เสื้อที่เปิดนั้นเล็กน้อย ซึ่งเผยให้เห็นถึงความยั่วเย้าของร่องหน้าอกขนาดใหญ่สีขาวของผู้จัดการร้านด้วย...

นะ นี้มันเป็นอีเวนของโชคที่คาดไม่ถึงในตำนาน "กระดุมเปิดหน้าอก!!!"

ฉากทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

ถึงอย่างนั้นเซจิก็รู้สึกราวกับว่ามันเป็นชั่วเวลานิรันดร!

แล้วถ้าเขาถูกเยาะเย้ยหรือถูกเข้าใจผิดล่ะ? ทุกอย่างมันคุ้มค่าพอกับการที่ได้เป็นสักขีพยานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้!

กระดุมนั้นตกลงบนพื้นและบังเอิญกลิ้งมาที่ตรงหน้าเขา

ด้วยความรู้สึกศรัทธาจากใจของเขา เซจิเอนตัวก้มลงและหยิบกระดุมขึ้นมา

"โอ้! ตายแล้ว ดันหลุดออกมาซะได้!" ริกะต้องบังคับให้ต้องหยุดหัวเราะ ขณะที่ใบหน้าของเธอแดงขึ้นเล็กน้อย เธอเอามือปิดหน้าอกไว้และพูดว่า "ฮารุตะคุง กระดุมนั้น... "

"ผู้จัดการร้านครับ"

เซจิจับกระดุมไว้อย่างแน่น พร้อมด้วยการแสดงออกที่ดูจริงจัง เขาเกือบจะดูเหมือนพระภายใต้การชี้นำของพระเจ้า

"อนุญาตให้ผมเก็บสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้ได้ไหมครับ"

"…อะไรน่ะ?" ริกะที่ไม่แน่ใจว่าเธอจะได้ยินที่เขาพูดถูกต้องไหม "สิ่งศักดิ์สิทธิ์... นายพูดอะไรน่ะ?"

"สิ่งศักดิ์สิทธิ์" เซจิพูดอย่างหน้าไม่อายก่อนที่จะพูดต่อ "กระดุมนี้... ขอให้ผมเก็บไว้ได้ไหมครับ?"

"ทำไมนายถึงต้องการกระดุมนี้ล่ะ?" ริกะงุนงงมองไปที่ชายหนุ่มข้างหน้าเธอ ก่อนที่หน้าของเธอจะแดงขึ้นเรื่อยๆ

"ไม่! เอากระดุมคืนมาให้ฉัน!"

"เอ๊ะ? ไม่ได้เหรอ? ผมแค่อยากจะเอามันกลับที่บ้านและบูชามัน... "

"จะเอาไปบูชาทำบ้าอะไรกัน!!?"

นี้เป็นครั้งแรกที่ ริกะ อามามิได้ตำหนิเซจิอย่างรุนแรง ขณะที่เธอมองเขาด้วยใบหน้าที่แดงขึ้น ขณะที่เอามือไปปิดที่หน้าอกอันใหญ่โตด้วยมือทั้งสองข้าง และมันได้ทำลายภาพลักษณ์ที่แสนเข้มงวดของเธอในฐานะผู้จัดการและเจ้าของร้านไปเรียบร้อยแล้ว

"เร็วเข้า รีบส่งกระดุมนั้นมาให้ฉัน แล้วออกไปซะ!"

"ครับ" เซจอตอบกลับด้วยท่าทางเสียใจ เซจิวางกระดุมไว้บนโต๊ะขณะที่เห็นได้ชัดว่าไม่เต็มใจที่จะทำแบบนั้น

"นายต้องการมันมากขนาดไหนเลยงั้นเหรอ?" ริกะยังคงหน้าแดงอยู่ "เอาตรงๆนะ ฮารุตะคุง... นายนะเห็นได้ชัดว่าหล่อมาก แต่นายก็ยังมีนิสัยแปลกๆอยู่... "

"ผู้จัดการร้านครับ คุณก็รู้แล้วว่าผมเป็นโอตาคุ" เซจิหันออกไปมองที่นอกหน้าต่างและทำตัวราวกับกำลังมองเข้าไปในไกลๆ "โอตาคุทั้งหมดนะ ได้ปกปิดจิตวิญญาณที่ชั่วร้ายในตัวพวกเขาไว้ภายใต้ความเป็นสุภาพบุรุษนะครับ"

ริกะพูดไม่ออกเมื่อได้ฟังสิ่งที่เขาพูดออกมาอย่างไร้ยางอาย

และแล้ว สุภาพบุรุษผู้ไม่สามารถนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (กระดุม) กลับไปได้ ก็เดินออกจากห้องทำงานของผู้จัดการร้านไปด้วยความเสียใจ

ขณะที่เขาบอกด้วยความจริงใจว่า "ขอบคุณที่ดูแลครับ" ก่อนที่จะออกจากห้องทำงานของเจ้าของร้านสาวสวย ที่ทำให้เขาเสียชีวิตจากความเจิดจรัส

แต่นั้นก็ไม่สำคัญ!

เซจิยังอยู่ในอารมณ์ที่มีความสุขมาก

เพราะเหตุการณ์ในตำนานนั้นทำให้เขาได้รับความประทับใจที่ลึกซึ้งและมั่นคง มันไม่สำคัญหรอก ถ้าบรรณาธิการผู้เข้มงวดจะเข้าใจเขาผิด หลังจากนั้น นั้นมันก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆเท่านั้น! ทั้งหมดที่เขาต้องทำคืออธิบายเรื่องทั้งหมดในภายหลัง

เขาต้องกลับไปทำงานด้วยจิตวิญญาณที่เต็มร้อย

...

หลังจากเสร็จจากการทำงานของเขาแล้ว

เซจิจึงนำสมุดไปกับเขาด้วย และพิมพ์ลงในคอมพิวเตอร์ หลังจากเขียนลงบนเอกสารแล้วเขาก็ส่งไปที่อีเมลของซากิ โยชิซาว่า

'นี้คงไม่เป็นไรแล้วนะ ฉันสงสัยว่าเมื่อไหร่ฉันจะได้รับการตอบกลับ... หวังว่ามันคงจะเร็วๆนี้นะ "จากนั้นเขาก็ยืดตัวขึ้น

ในที่สุดเซจิก็ตรวจสอบระบบของเขาเพื่อยืนยันจำนวนแต้มที่เขาได้รับจากตัวเลือก [เขียนเรื่อง] ทั้งหมด

ผลที่ได้คือน่าตกใจมากเพราะมันคือ 10 แต้ม!

ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างสูง แต่เมื่อพิจารณาแล้วความชำนาญก็ค่อนข้างต่ำทีเดียว

"ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อตัวเลือกนี้เป็นสีดำแล้ว ฉันไม่สามารถเลือกได้อีกตลอดทั้งวัน... ดังนั้นเมื่อวานนี้เมื่อเลือก [เขียนเรื่อง] ตัวเลือกนี้ก็ต้องใช้เวลาสองวันนับจากวันนี้ด้วย มันเป็นแต้มที่คุ้มค่าสำหรับสองวัน "เซจิถูคางเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

เขาได้ 10 แต้มในสองวันซึ่งหมายความว่าเขาจะได้วันละ 5 แต้มต่อวัน... ดูเหมือนจะดีทีเดียว แต่ถ้าการกระทำแบบนี้ใช้เวลานานไปก็จะไม่ดี

'ลองดูอีกครั้งวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้าฉันแค่ [เขียนเรื่อง] แบบปกติและไม่เขียนทั้งคืน ฉันจะได้กี่แต้ม?

เซจิมองไปที่การกระทำอื่นๆ ของเขา

เหมือนปกติเขาสามารถที่จะฟาม [เขียนไดอารี่] และ [วาด] ได้ นอกจากนี้เขายังสามารถ[เขียนเรียงความ] ซึ่งจำเป็นสำหรับต้องมีความรู้ 40 และ[เขียนบทกวี] ก็จำเป็นต้องมีความรู้ 40 และความสามารถพิเศษ 25

แน่นอนถึงเวลาที่จะต้องฟามแล้ว

การเขียนเรียงความนั้นค่อนข้างง่าย สิ่งที่เซจิต้องทำก็คือคิดถึงหัวข้อและเขาก็สามารถที่จะใส่ความรู้สึกของเขาลงไปในการเขียนเรียงความของเขาได้ ด้วยความสามารถในการเขียนใหม่ของเขา

สำหรับการเขียนบทกวี... เซจิต้องเกาหัวเล็กน้อย

ส่วนใหญ่จะคล้ายกับการเขียนเรียงความ เขาเพียงแค่ต้องจินตนาการถึงฉากและใส่อารมณ์ลงในนั้น แต่เมื่อเทียบกับการเขียนเรียงความแล้วมันก็ลึกซึ้งขึ้น การเลือกคำพูดของเขาจำเป็นต้องมีความถูกต้องและเรียบง่ายให้มากขึ้น

มันมีการใช้ที่คล้ายๆกัน เซจิเชื่อว่าการเขียนเรียงความก็เป็นเหมือนกับการเททรายอย่างลวกๆง่ายๆ ในขณะที่ การเขียนกวีนั้นเป็นเหมือนกับนาฬิกาทราย เขาไม่สามารถเททรายได้ทุกที่ เขาจำเป็นต้องใช้รูปแบบเฉพาะเพื่อให้เททรายลงมาและทำให้การเป็นเนินเขาที่สวยงาม

มันเหมือนจะยากมาก

หลังจากที่เขียนทกวีจบแล้ว เซจิอ่านมันแต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามันดีหรือเปล่า

เขาได้รับ 2 แต้มสำหรับการเขียนเรียงความและ 3 แต้มสำหรับบทกวี

ไม่เลวๆ

เซจิเปรียบเทียบกับ [เขียนเรื่อง] แบบปกติแล้วมันจะให้เขา 3 หรือ 4 แต้มละมีโอกาสได้มากสุดคือ 4 แต้ม

'ลองคำนวณแบบขั้นต่ำว่าจะได้อย่างน้อย 3 แต้ม ซึ่งหมายความว่าการ [เขียน] ของหัวข้อย่อยทั้งหมด จะทำให้ฉันได้ 8 แต้มในทุกๆวัน และเหลือเวลาแค่สี่วันเท่านั้นที่ฉันจะได้ใช่มัน'

เซจิเชื่อว่าเขาได้ตัดสินใจได้ถูกต้อง กับการจะมุ่งเน้นไปที่วิธีต่างๆเพื่อที่จะได้รับแต้ม

ดังนั้นแล้วเขาควรจะเพิ่มการ์ดให้มากขึ้นแทนที่จะแลกเปลี่ยนกับทักษะดีไหม? เขารู้สึกว่าจะเป็นทางเลือกที่ดี

มันไม่สำคัญหรอกถ้าเขาต้องพิมพ์เรื่องของเขาลงในคอมพิวเตอร์ หลังจากที่เขียนมัน เพราะมันแค่จะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเท่านั้น เขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนและแลกกับ [ทักษะการเขียน-พิมพ์]

ทักษะที่ดูเหมือนจะต้องเสียไป 55 แต้ม!

ในที่สุดเซจิก็รู้ว่าจนกว่าเขาจะมีการกระทำที่พอจะหาแต้มได้ การ์ดทักษะเป็นกับดักที่ขนาดใหญ่สำหรับแต้มของเขา!

แม้กระทั่ง [เร็วดั่งกระสุน] ...

แต่ [เร็วดั่งกระสุน] มันอยู่ในช่วงลดราคาที่จำกัดเวลาโดยเฉพาะ แม้มันว่าจะทำให้การพัฒนาของเขาช้าลง แต่ก็ช่วยให้เขาประหยัดได้ถึง 75แต้ม

เขาได้กำไรหรือเปล่า? เซจิเองก็ไม่แน่ใจ

'ช่างมันเถอะ หยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า'

เซจิอ้าปากหาวขณะที่เขาเสร็จจากการเขียนตลอดทั้งคืนจากการทำงานตลอดทั้งวัน ถึงเวลาที่จะได้พักผ่อนแล้ว

หลังจากที่จะมีการต่อสู้เกิดขึ้นในคืนถัดไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด