ตอนที่แล้วRoyal Roader on My Own – Chapter 8: สลัดมันทิ้งแล้วเริ่มใหม่(3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปRoyal Roader on My Own – Chapter 10: แกคือจุดเปลี่ยนแรกของฉัน(2)

Royal Roader on My Own – Chapter 9: แกคือจุดเปลี่ยนแรกของฉัน(1)


หลังจากที่เข้ามาใน Royal Roader ฉันก็คว้าเอาพลั่วขึ้นมาอีกรอบ

แกร๊ง แกร๊ง.

[12]

[13]

< ค่า Stamina เพิ่มขึ้น 1 หน่วย >

แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง

[12]

[12]

[13]

แต่ละครั้งที่พลั่วไปโดนก้อนหิน ตัวเลขสีเขียวจะโผล่ขึ้นมา มันไม่มีตัวเลขสีแดง มีแค่สีเขียวล้วนๆ

ตัวเลขสีเขียวนี้หมายถึงว่ามันเป็นคริติคอล ความแม่นยำของฉันเพิ่มขึ้นมาก ดาเมจเองก็เพิ่มขึ้นไปด้วย ตอนแรกแม้ว่าจะทำคริติคอลได้แต่ดาเมจนั้นแค่ 4 แต่ตอนนี้ 12 โผล่มาได้ง่ายๆ

ต้องขอบคุณค่า Dex และ Strength ที่เพิ่มขึ้นมา

‘ ฉันหิวแล้ว

ฉันเหวี่ยงพลั่วติดต่อกันมากว่า 5 ชม. ฉันหมดแรงมานานแล้วจนเมือและเท้าเริ่มสั่น

ฉันนั่งลงที่หินก้อนใหญ่เพื่อพักและกินบางอย่าง ข้าวเที่ยงวันนี้คือข้าวผัดราคา 5 พันวอน  อีกอย่างใน Royal Roader อาหาที่คุณกินน่ะส่งผลกับสเตตัสด้วย

[Lamb Fried Rice] เพิ่ม Stamina 2% เป็นเวลา 6 ชม.

อาหารที่ถูกที่สุดคือขนมปังซึ่งไม่ได้ให้ผลดีกับสเตตัสเลย  ดังนั้นแล้วถ้าคิดมองภาพรวม เพราะเหวี่ยงพลั่วได้แรงกว่าเดิม ทนกว่าเดิม มันก็จะดีกว่าถ้ากินข้าวผัด

ยังไงซะมันก็ใช้แรงได้ง่ายกว่าเก่า

ฉันกินข้าวเต็มช้อนพร้อมกับเช็คสเตตัสตัวเอง

[Kang Hwi Ram, Level 1]

Dexterity : Intermediate Level 6, 96%

Strength: 49

Agility: 13

Stamina: 33

Intuition: 16

Magic: 2

Vitality: 2

Mana:8

HP:127

เทียบกับสเตตัสตอนแรกแล้วมันเพิ่มขึ้นมาราว 90  การจะเพิ่มสเตตัสให้ได้ 90 ผ่านการเลเวลอัพ 18 ครั้ง ในอีกความหมายคือถ้าไม่เลเวลอัพและคอยแต่เหวี่ยงพลั่ว ฉันจะได้สเตตัสเพิ่มมาเท่ากับการเพิ่ม 188 เลเวล

แน่นอนว่าใน Royal Roader มันใช้เวลาประมาณ 1 ปีแต่ฉันก็ยังพอใจ

‘ อย่างที่คาดเลย ค่า Strength ของฉันเพิ่มขึ้นเร็วที่สุด ‘ ตามมาด้วยค่า Stamina, Intuition และ Agility    Magic กับ Vitality ไม่ได้เปลี่ยน แต่เลือดเพิ่มขึ้นเพราะ Strength แล Stamina  ค่า Strength แต่ละค่าที่เพิ่มมานั้นจะเพิ่มเลือด 1 และ Stamina นั้นจะเพิ่มเลือด 2

สิ่งที่ฉันดีใจที่สุดคือค่า Dex ของฉัน มันเกือบอยู่ในระดับเริ่มต้นเลเวล 7 ความเร็วจะช้าลงไปเรื่อยๆในตอนที่เลเวลสูงไปเรื่อยๆแต่ตอนนี้ฉันยังคงสนุกกับมันได้อยู่

‘ งานหนักคือทางเลือกที่ดีทีสุดเพราะมันเป็นวิธีโง่ๆที่ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้สมองแต่อย่างใด ‘

คุณไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไร เพื่อที่จะขุดเหมืองได้อย่างเพอร์เฟ็คแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่โฟกัสให้ดีที่สุดแล้วฟาดพลั่วอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก

แต่ก็ช่างเถอะ ฉันสงสัยว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะเปลี่ยนอุโมงค์ ? ฉันแอบมองไปที่อุโมงค์ที่ผู้ดูแล Bae Doochi อยู่

ฉันได้ยินมาเมื่อก่อน เจ้าของเหมือง Batoom นั้นจะเกษียรและเขาก็เริ่มการแข่งขันเพื่อหาคนสืบทอด แน่นอว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกันที่ครั้งแรกที่ฉันเล่นซึ่งหมายความว่าอีกไม่นาน Bae Doochi จะเปลี่ยนอุโมงค์

ไม่สิ มันต้องเกิดขึ้นแน่ๆ มันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ Jonnan มาเป็นคนของฉันได้และฉันจำเป็นต้องสร้างจุดเปลี่ยนของชีวิต

ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ล่ะ

ฉันจำเป็นต้องเดินหน้าต่อและพยายาเปลี่ยนให้มันเป็นอย่างที่ควร ฉันต้องทำให้มั่นใจว่ามันจะเดินไปในทิศทางเดินในตอนที่ฉันเล่นเกม

นี่อาจเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ฉันต้องทำ

แต่ทำไมเขาถึงยังไม่เปลี่ยนอุโมงค์ ? มารอให้นานกว่านี้อีกหน่อย รีบไปก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้

“เอิ๊ก !” – ตอนนี้ฉันอิ่มแล้ว ฉันควรจะเริ่มทำอีกรอบดีมั้ย ?

ฉันเริ่มเหวี่ยงพลั่วอีกครั้ง

แม้ว่าค่า Stamina จะเพิ่มขึ้นมาเพราะข้าวผัดแต่รางกายของฉันน่ะผลาญมันหมดใน 30 นาทีแต่ฉันไม่พักเนื่องจากนี่คือสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อเพิ่มค่าสเตตัสและ Dex ให้ได้อย่างรวดเร็ว

แต่เมื่อฉันได้ยินเสียงที่รอคอยข้างๆ มันคือเสียงของผู้ดูแล Bae Doochi

“ฉันจะเปลี่ยนอุโมงค์”

‘ โอ้ ในที่สุด ‘

ฉันรอคำพูดนี้มานาน ฉันโฟกัสความสนใจไปในสิ่งที่ Bae Doochi จะพูดต่อไป

‘ โปรดอย่าเอา Jonnan ไปกับแกด้วย ‘  Bae Doochi ชี้เลือกนักขุดเหมือง

“Sam, Peter, Harmon, Simpson ! พวกแกสี่คนมากับฉัน”

ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันดี  Jonnan ไม่ได้อยู่ในรายชื่อนั้นแต่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไร ถ้าฉันเริ่มลงมือตอนนี้  Bae Doochi อาจจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและเลือก Jonnan ไปกับเขาด้วย

ฉันต้องรอจนกว่า Bae Doochi จะไปและ Jonnan และ ฉันอยู่แค่สองคน นั่นแหละคือวิธีการที่จะหาโอกาสที่สมบูรณ์แบบ

ฉันเริ่มมองดูรอบๆต่อไป

คนที่ถูกเลือกถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแต่คนที่ไม่ได้ถูกเลือกนั้นหน้าซีด โดยเฉพาะ Jonnan  เขาน่ะช็อคจนคว้าแขนเสื้อของ Bae Doochi เอาไว้

“เฮ้ Bae Doochi ทำไมฉันไม่ได้ไปด้วย ?”

“ไอ้แก่ ไม่มีสมองรึไง ? มันน่าจะพอแล้วที่ฉันดูแลแกมาเป็นสิบปี  แกคิดจะเกาะติดฉันไปอีกนานแค่ไหน ?”

“โฮ๋..... ดูแลฉัน ? เกาะติด ?”

สีหน้าของ Jonnan ดูแสดงท่าทีเหลือเชื่อออกมาแต่สีหน้าของ Bae Doochi นั้นไม่ได้เปลี่ยนเลยสักนิด คนอื่นเองที่ไม่เกี่ยวต่างก็จับกางเกงแล้วหันหนี

“ฉันไม่ใช่พระเจ้าที่ช่วยพวกไร้ประโยชน์ ไปหาพระเจ้าที่อื่นไป”

จากนั้นเขาก็ได้เก็บของและกำลังจะออกไปจากอุโมงค์

‘ เยี่ยม  สถานการณ์เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ‘

จากนั้นมันก็ถึงเวลาในเรื่องต่อไป

จนกระทั่งตอนนี้ฉันยังไม่ได้ขาย Titanium เลยสักอัน ฉันเอามันไว้ใส่กระเป๋าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจอและเก็บมันไว้ในที่พักชั่วคราว

ทำไมน่ะเหรอ ?

ฉันจะขาย Titanium ให้กับ Bae Doochi  ด้วยราคาที่แพง อธิบายต่ออีกหน่อยก็มันเป็นของที่ใครสักคนที่รู้อนาคตจะเตรียมเอาไว้

“หัวหน้า คุณคิดจะซื้อ Titanium มั้ย ?”

“หืม ? Titanium ?”

Bae Doochi หยุดและหันกลับมา

“ใช่ ประมาณ 80 ryang”

“80 ryang ?”

ตาของ Bae Doochi เป็นประกายขึ้นมา

เขาต้องคึกอยู่แน่ๆ  เรื่องการแข่งขันหาคนสืบทอดของ Batoom น่ะคือ Titanium แต่พวกเขาไม่สามารถหาซื้อจากที่อื่นได้ คุณต้องสู้ด้วย Titanium ที่มีอยู่ในเหมืองนี้เท่านั้น

เพราะแบบนั้นแม้ว่าเขาจะจ่ายเกินราคาตลาดแต่เขาก็ยังต้องการมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันเป็นค่าขาดทุนที่ไม่นานก็ได้คืนถ้าเขาได้กลายเป็นเจ้าของเหมือง

มันมีถึง 80 ryangs  ยังไงซะฉันก็ไม่ต้องขาย Titanium อีกเป็นเวลาหนึ่งปีเต็มใน Royal Roader  1 ryang นั้นเท่ากับ 100 ก้อน ดังนั้นแล้วก็ประมาณ 8,000 ก้อน มันไม่พอที่จะทำให้เขาชนะไปได้เลยแต่ฉันมั่นใจว่ามันมากพอที่จะช่วยเขาได้

“ฉันวางแผนที่จะเอาให้กับ Gildeon แต่ฉันหาเขาไม่เจอ ถ้าคุณอยากซื้อมันในราคาที่แพงล่ะก็ ฉันเอาให้หมดเลยก็ได้”

ทันทีที่ชื่อของ Gildeon ถูกพูดขึ้นมา ตาของ Bae Doochi ก็เริ่มลุกไหม้ด้วยจิตวิญญาณแห่งการแข่งขัน มีคนที่มีแววมากมาย แต่คนเดียวที่จะเป็นคู่แข่งของ Bae Doochi ได้นั้นคือ Gildeion

มันไม่ผิดที่จะเรียกว่าการแข่งขันหาคนสืบทอดระหว่างแค่คนสองคน Bae Doochi และ Gildeon  คนขุดเหมืองคนอื่นก็รู้สึกแบบนี้

ดังนั้นแล้วแน่นอนว่าเขาต้องอยากได้ Titanium เขาต้องกินเหยื่อที่ฉันโยนให้แน่ๆ

“แกคิดเท่าไหร่ ?”

กลับมาในเกม ฉันโดนหลอกโดย Bae Doochi เมื่อคิดถึงเรื่อง Titanium ราคาตลาด 1 แท่งนั้นอยู่ที่ 2 พันวอนแต่ฉันขายให้เขาเท่ากับขนมปัง 4 อันซึ่งราคารวมกันแล้วไม่ถึง 1,200 วอน

แต่ตอนนั้นมันไม่มีอะไรที่ฉันทำได้เนื่องจากฉันข้ามาในเหมืองโดยไม่ได้เตรียมอย่างอื่นมากินด้วย ฉันไม่รู้ราคา Titanium ในตลาดด้วย

แต่ครั้งนี้มันต่างกัน ฉันน่ะเป็นคนที่เหนือกว่า

“ฉันจะขาย 5,000 วอนต่อแท่ง”

“อะไรนะ ? 5 พัน ?”

ฉันลองกดดันต่อ แม้แต่คนอื่นเองก็มองมาที่ฉันด้วยท่าทีตกใจแต่ถ้าคุณคิดถึงเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวแล้วล่ะก็ เรื่องราวมันจะกลับกัน

“ตอบแทนแล้วฉันจะขาย Titanium ที่ได้มาเพิ่มให้กับคุณเท่านั้น แน่นอนว่าราคาเองก็คงเดิม คิดดูสิ เพราะแข่งเป็นผู้สืบทอด ราคาตลาดมันจะไม่สูงขึ้นเหรอ ? ในระยะยาวแล้วมันถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับคุณเลยนะ”

นัยน์ตาของ Bae Doochi ระส่ำ เขาลองคำนวณในใจ จากนั้นก็ได้พยักหน้าอย่างพอใจและบอกให้จับมือ

“ได้ ! ฉันจะซื้อกับแก แต่เอาถึงแค่แข่งเสร็จเท่านั้น”

ฉันเองก็เอื้อมมืออกไปจับ

“แน่นอน”

เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นก็ได้มีเสียงประกาศแลกเปลี่ยนสำเร็จดังขึ้นในหัว

< สัญญาการแลกเปลี่ยน Titanium กับ Bae Doochi ได้สำเร็จ ราคาอยู่ที่ 5,000 วอนต่อแท่งและระยะเวลานั้นก็ยาวไปถึงการแข่งจบ >

หลังจากนั้นก็ได้มีจุดสีแดงขึ้นที่ข้อมือของฉัน สัญญาที่สลักไว้ด้วยจุด  ในตอนที่ฉันแตะไปที่จุดนั่น เสียงที่เพิ่งได้ยินตะกี้ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

‘ นี่สินะวิธีของสัญญา ‘

ฉันทำสัญญามากมายในเกม ตอนนั้นฉันสามารถยืนยันสัญญาได้ด้วยข้อความที่โผล่ขึ้นมาตรงหน้าจอแต่ที่นี่ดูเหมือนว่าฉันยืนยันมันได้ด้วยเสียงในหัว

เราตัดสินใจที่จะแลกเปลี่ยนกันในตอนเย็น

จำนวน Titanium ที่ฉันมีตอนนี้คือ 8,083 แท่ง หลังจากที่แลกเปลี่ยนเสร็จ ฉันก็ได้เงินไปกว่า 40 ล้านวอน

‘ ฮาฮา ! หาเงินมันง่ายจริงๆ ‘

Bae Doochi ออกไปจากอุโมงค์หลังจากนั้น คนอื่นที่ไม่โดนเลือกนั้นทรุดลงไปกับพื้นแล้วถอนหายใจออกมา ไม่นานพวกเขาก็เริ่มออกจาอุโมงค์ไป พวกเขากำลังจะไปหาผู้ดูแลคนใหม่

แต่มีหนึ่งคนที่ไม่ได้ออกไปจากที่นั่น

แน่นอนว่ามันคือ Jonnan

เขาแค่ถอนหายใจออกมาราวกับเสียทั้งโลกไป

ฉันต้องคว้าตัวเขามาให้ได้ตอนนี้  ฉันเริ่มเข้าไปคุยกับเขา

“ลุง ทำไมคุณถึงถอนหายใจแบบนั้น ? คุณต้องกลับมาแข็งแรงอีกสิ”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด