ตอนที่แล้วHK ตอนที่ : 49
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปHK ตอนที่ : 51

HK ตอนที่ : 50


[ทำใจหน่อยนะครับแม่งโครตจะงงเลยติดตรงไอ้พวกอันธพาลเนี่ยเปิดดิกจีนมั่วไปหมด และก็แปลตามเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นเรียกอีกอย่างมั่วไปหมดแปลไม่ถูกเลย]

ในตอนเที่ยงที่มหาลัย ชิเล่ยกำลังรออยู่นอกห้องเรียน เพื่อรอเดินไปที่ถนนด้านหลังพร้อมกับหลิงหยูโม่ ส่วนพลัมน้อยกำลังจีบสาวอยู่!

พลัมน้อยมีเป้าหมายเป็นเลขานุการชั้นเรียนหวังมิน แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นหวังมินไม่ได้สวยมาก แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร และรูปร่างของหวังมินถือว่าดีมาก

ชิเล่ยและหลิงหยูโม่เคียงข้างไปด้วยกัน หลิงหยูโม่เปิดปากถาม "พิสดารหิน นายเห็นโพสต์ในเว็บบอร์ดหรือยัง?"

"เห็นสิ แต่อ่านทันแค่บางส่วน" ชิเล่ยไม่อยากให้หลิงหยูโม่สงสารเขา "เสี่ยวโม่ เธอโทรไปบอกมู่ชวงว่าไม่ต้องรอพวกเรา เราจะไม่กินข้าวในมหาลัย"

หลิงหยูโม่พูดว่า "พิสดารหิน ฉันไม่ต้องโทรไปหาพี่สาวมู่ชวงหรอก เพราะก่อนจบคลาส ฉันส่งข้อความไปบอกพี่มู่ชวงแล้ว ไม่ต้องห่วง!"

ชิเล่ยยิ้ม" เสี่ยวโม่ เธอเตรียมพร้อมมาดีนิ ที่จะไปกินข้าวกลางกับฉันสองต่อสองด้วยกัน! "

หน้าของหลิงหยูโม่กลายเป็นสีแดงและเหลือบมองไปที่ชิเลย "หืม พิสดารหิน ฉันไม่กินของถูกหรอกนะ!"

"เสี่ยวโม่ เราสองคนแค่จะไปกินข้าวกัน เธอจะทำอะไรกับฉัน?" ชิเล่ยเอามือทั้งสองข้างมาปิดที่หน้าอกไว้และทำเป็นกลัว

หลิงหยูโม่โอดครวญ "พิสดารหิน ฉันเกลียดนาย!"

ชิเล่ยหัวเราะและยิ้ม "เสี่ยวโม่ รู้ไหมว่าวันนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากเกิดขึ้น เธอรู้ไหมว่ามหาลัยชวนกิ่งของเรากับมหาลัยเคจิมีความบาดหมางกัน?"

"บาดหมาง?" หลิงหยูโม่อยากรู้อยากเห็นและถามว่า "อะไร มหาลัยของเรากับมหาลัยเคจิมีความแค้นกันหรอ? มหาลัยเคจิที่เป็นมหาลัยอันดับ 3 ใช่ไหม?"

มหาวิทยาลัยชวนกิ่งเป็นมหาวิทยาลัยในเมืองชวนกิ่งที่โด่งดังที่สุดในประเทศเซี่ย เป็นที่หนึ่งในการจัดอันดับ ส่วนมหาวิทยาลัยเคจิเป็นเพียงมหาลัยอันดับ 3!

ทำไมมหาลัยทั้งสองถึงมีเรื่องบางหมางกัน? ในความเป็นจริงไม่น่าแปลกใจเลยที่หลิงหยูโม่ไม่ทราบว่า โดยปกติแล้วผู้ที่มาสมัครเข้ามาในคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ใหม่ ไม่มากก็น้อยที่นักศึกษาจะทำความเข้าใจถึงความบาดหมางระหว่างกันของมหาลัยทั้งสอง

ที่จริงแล้วหลิงหยูโม่ต้องการแอดมิชชั่นเข้าคณะแพทย์ของมหาลัยชวนกิ่ง แม่ของเธอคือรองผู้อำนวยการของโรงพยาบาลชวนกิ่งของเมืองชวนกิ่ง หลิงหยูโม่เรียนรู้ด้านความรู้ทางการแพทย์จากแม่ของเธอมาตั้งแต่เด็ก ความปรารถนาของเธอก็คือการสอบเข้าคณะแพทย์ของมหาลัยชวนกิ่งให้ได้ และเดินตามแม่ของเธอที่เป็นหมอรักษาคนป่วย

อย่างไรก็ตามพ่อของหลิงหยูโม่ไม่เห็นด้วยเพราะว่าคอมพิวเตอร์กำลังเข้ามามีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต การเรียนคอมพิวเตอร์จะทำให้มีอนาคตที่สดใส พ่อของเธอจึงบังคับให้หลิงหยูโม่เลือกลงเรียนคอมพิวเตอร์

หลิงหยูโม่ไม่อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ แต่เธออยากเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มากกว่า

ชิเล่ยเลยอธิบายเรื่องบาดหมางให้หลิงหยูโม่ฟังว่า "วันนี้ฉันเข้าไปในเว็บบอร์ดของมหาลัย เพื่อจะตรวจดูโพสต์ของฉัน แต่กลับกลายเป็นว่าถูกพวกมหาลัยจิเข้ามาแล้วลบข้อมูลทุกอย่างออกจากเว็บบอร์ดไปหมดเลย ยังมีอีกนะ มีนักศึกษาคนนึงของมหาลัยเคจิได้โพสวิดีโอที่น่าสนใจด้วย"

เล่าเรื่องวีดิของเฉินหมิงที่ถูกแอบถ่ายออกมาและทำให้หลิงหยูโม่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ในขณะเดียวกันก็พูดต่อว่า "พวกนักศึกษามหาลัยเคจิเจ๋งเป็นบ้าเลย!"

ชิเล่ยขบริมฝีปากพูดเสียงเบาๆว่า "เสี่ยวโม่ นอกจากนี้มหาลัยของเรายังมีคนที่มีผู้เชี่ยวชาญอีกนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณบดีจีหมิงยี่ของเรายังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งประเทศ"

ทันใดนั้นหลิงหยูโม่ก็หยุดกึกและหันไปเผชิญหน้ากับชิเล่ยในสายตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นมองชิเล่ยและว่า"พิสดารหิน ที่นายไม่เข้าเรียน? เป็นไปได้ไหมว่านายเป็นผู้เชี่ยวชาญ?"

ชิเล่ยพยักหน้าโดยไม่ลังเลท่างทางกับว่า 'พ่อคนนี้แหละเก่งที่สุดในโลก' "เบาหน่อย เสียงเบาหน่อยเสี่ยวโม่ เธอต้องเก็บความลับไว้ให้ฉันนะ! ฉันจะเผยให้โลกรู้ได้อย่างไร? ไม่งั้นพวกคงตายด้วยความอิจฉาฉัน?"

"บ้า!" หลิงหยูโม่ร้องเสียงแหลม" พิสดารหิน จะมองดูนายยังไงก็ไม่เห็นเหมือนผู้เชี่ยวชาญเลยสักนิด!"

ชิเล่ยจงใจยักไหล่ของเขาและทำท่าทางเจ็บปวด "เสี่ยวโม่ เธอไม่เคยเห็นเลยสักครั้งเธอพูดแบบนี้ได้ไง เธอ.....เธอทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวด!"

หลิงหยูโม่หัวเราะและยิ้ม "ฉันขอโทษพิสดารหินหิน!"

พวกเขาเดินและหัวเราะไปด้วยกันตลอดทางของถนนด้านหลัง ชิเล่ยเลือกร้านค้าที่ดูดีแห่งหนึ่งและสั่งซี่โครงหม้อไฟ

ถัดเขาไปอีกโต๊ะมีอันธพาลกำลังพูดคุยกันเสียงดังอยู่ราวกับว่าพวกเขารู้หลักดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ มาก่อนราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงหลังจากคำทำนายของ 1500 ปี!

หนึ่งในคนที่ตัวเล็กที่สุดมีรอยสัก 'เสือ' บนหน้าผากของเขา เขาหันมามองชิเล่ยกับหลิงหยูโม่ และเมื่อเขาเห็นหลิงหยูโม่นัยน์ตาทั้งสองจู่ๆ ก็สว่างขึ้น

เขาลุกขึ้นยืนขึ้น และเดินตรงมาหาชิเล่ย ก่อนที่จะถึงชิเล่ยกับหลิงหยูโม่ ชายที่มีรอยเสือก็แกล้งทำเป็นน้ำเสียงเป็นมิตรพูดว่า "สวัสดีน้องชาย ฉันพี่ไทเกอร์แห่งถนนด้านหลัง!"

หลิงหยูโม่ขมวดคิ้วและขบริมฝีปาก

บนใบหน้าชิเล่ยเต็มไปด้วยรอยยิ้มและมองไปที่ชายคนที่มีรอยสักเสือบนหน้าผาก "พี่ไทเกอร์? เมื่อไหร่กันที่คนแบบนายโผล่ขึ้นมาในถนนด้านหลังได้? นายเคยได้ยินชื่อพี่ใหญ่หินแห่งถนนด้านหลังไหม?"

รอยยิ้มบนใบหน้าพี่ไทเกอร์ค่อยๆจางหายไป มองชิเล่ยอย่างดุร้ายแล้วพูดเสียงเย็นชาว่า "พี่ใหญ่หิน? มันเป็นใคร?"

ชิเล่ยหัวเราะและยิ้ม "แม้แต่ชื่อพี่ใหญ่หินนายยังไม่เคยได้ยินมาก่อน นายยังกล้าเสนอหน้าอยู่ในถนนด้านหลังอีกงั้นหรอ? นายอาจบังเอิญได้กินดีหมีหัวใจเสือมาถึงได้มีความกล้ามากขนาดนี้?" ชิเล่ยหัวเราะ

"บัดซบ!" พี่ไทเกอร์สบถออกมาและกลับไปถามเพื่อนที่โต๊ะว่า "พี่น้องทั้งทั้งหลาย พวกนายเคยได้ยินชื่อพี่ใหญ่หินแห่งถนนด้านหลังนี้ไหม?"

หนึ่งในห้าอันธพาลหัวเราะออกมาพูดว่า "พี่ใหญ่หินแห่งถนนด้านหลัง ใครวะ? ชื่อโครตแปลกเลย!"

"ฉันรู้จัก!"

"นั่นพี่ใหญ่หิน!"

"พี่ใหญ่หิน เขาอยู่กลุ่มเดียวกับพวกเราครับ!"

"พี่ใหญ่หิน ให้พวกเราจัดการไหมครับ?"

อันธพาลอีกสี่คนรีบเข้ามาประจบประแจงทันที ปล่อยให้พี่ไทเกอร์มึนงง จากนั้นหันไปพูดด้วยความโกรธว่า "ซูเอ้อดิง เอ้อเหมา หม่าบี้ พวกนายจะช่วยกันไหม?"

[พวกนี้ออกมาตอน 7 และก็ไอ้หม่าบี้ในจีนเป็นชื่อคนถ้าไม่ใช่ก็ยิ่งมั่วไปหมด เพราะอิ้งมันแปลเป็นพิการตั้งแต่นี้เลยมึนๆ แล้วก็ไม่รู้เลยใครพี่ใครน้องมั่วไปหมด]

อันธพาลทั้งสี่คน ถูกชิเล่ยสั่งสอนไปครั้งที่แล้ว ทำให้พวกเขารู้สึกประทับใจชิเล่ย และยกย่องให้ชิเล่ยเป็นตัวอันตราย!

หน้าของซูเอ้อดิ๋งเปลี่ยนสี(คือวัยรุ่นที่มีต่างหูข้างซ้าย) เด้งตัวขึ้นมา ชี้ไปที่พี่ไทเกอร์แล้วตะโกนออกมา "ไทเกอร์น้อย อยากพิการหรือไงห๊ะ! ถึงไปเสียมารยาทกับพี่ใหญ่หินแบบนี้!"

เอ้อเหมาหยิบขวดเบียร์ขึ้นมาจากด้านข้างแล้วฟาดไปที่ไทเกอร์น้อย "ไทเกอร์น้อย รีบไปขอให้พี่ใหญ่หินยกโทษให้ซะ ไม่อย่างงั้นพวกเราก็ช่วยนายไม่ได้!"

ไทเกอร์มองไปที่ซูเอ้อดิงและเอ้อเหมา "พวกนายเป็นบ้าไปแล้ว?"

"พิสดารหิน ถ้าไม่รีบพาคนเจ็บไปรักษา มันจะอาการหนักขึ้นนะ!" หลิงหยูโม่ชี้ไปที่พื้น ที่มีเลือดของอันธพาลไหลออกมา ด้วยเสียงที่ตื่นตระหนก

ชิเล่ยพูดกับซูเอ้อดิงทันทีว่า "เอาหละพอแค่นี้แหละ พวกนายพาพี่ไทเกอร์คนนี้ออกไปได้แล้ว วันหลังอย่าทำตัวอย่างนี้อีกในถนนด้านหลัง!"

ใบหน้าซูเอ้อดิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วพยักหน้า "พี่ใหญ่หิน มั่นใจได้เลยครับว่าพวกเราจะทำตามที่พี่บอก!" หลังจากพูดจบ ซูเอ้อดิงก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และเอานามบัตรออกมาวางไว้บนโต๊ะแล้วพูดว่า "พี่ใหญ่หิน ครั้งหน้าถ้าอยากให้น้องชายคนนี้ทำอะไร โปรดบอกมาได้เลยครับ!"

ชิเล่ยมองที่นามบัตรบนโต๊ะจากนั้นเอาโทรศัพท์ออกมาเมมไว้แล้วพูดว่า "ดี นายสามารถออกจากที่นี่ได้"

"ครับ ครับ พี่ใหญ่หิน พวกเราจะออกไปแล้ว!" ซูเอ้อดิงและเอ้อเหมา พวกเขาไปประกบซ้ายขวาของไอเกอร์น้อยแล้วรีบลากออกไปอย่างรีบร้อน

ใบหน้าของหลิงหยูโม่เต็มไปด้วยความงงงวย "พิสดารหิน ฉันรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เหมือนจะกลัวนายมากเลยนะ?"

ชิเล่ยยังสับสนอยู่

ในที่สุดชิเล่ยก็นึกออก "เสี่ยวโม่ จำได้ไหมครั้งที่แล้ว ที่ฉันจัดการพวกอย่างเขาราบคาบน่ะ"

ทันใดนั้นหลิงหยูโม่ก็จำได้ทันที "เป็นพวกเขา!"

ในอีกซอยนึง ซูเอ้อดิงและเอ้อเหมาก็ได้ปล่อยพี่ไทเกอร์ เอ้อเหมาเริ่มขอโทษคนอื่น "แบล็คด็อก ฉันขอโทษด้วยที่ต้องทำอย่างงี้!"

แบล็คด็อกและพี่ไทเกอร์ ถามอย่างสงสัยว่า "พี่ใหญ่หินั่นใคร? เขามาที่ถนนด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่"

ซูเอ้อดิงเริ่มพูดอธิบายอย่างกลัวๆว่า "น้องไทเกอร์นายรู้เรื่องโจรปล้นธนาคารเมื่อวานไหม? "

พี่ไทเกอร์พยักหน้า

"เมื่อวานนี้พี่ใหญ่หินถูกโจรจับไปเป็นตัวประกัน" ซูเอ้อดิงพูดเสียงเบาๆ

พี่ไทเกอร์ถามอย่างสังสัยว่า "แล้วยังไง? เขาก็แค่เป็นตัวประกันนิ!"

ซูเอ้อดิงฝืนยิ้มออกมา "น้องไทเกอร์ถ้าเขาเป็นแค่ตัวประกันทำไมฉันต้องไปกลัวเขา? เมื่อวานนี้ฉันตื่นขึ้นมาเร็วกว่าปกติ? ฉันเลยเห็นพี่ใหญ่หิน เขากับโจรปล้นธนาคารที่เป็นอาชญกรระดับ A เย่เฟิง นั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน!"

"ว่าอะไรนะ?" พี่ไทเกอร์อุทานออกมา

ซูเอ้อดิงรีบห้ามปราม "น้องไทเกอร์ น้องไทเกอร์ เบาเสียงหน่อย!"

พี่ไทเกอร์เบิกตากว้าง "หมายความว่าพี่ใหญ่หินกับเย่เฟิงเป็นพวกเดียวกัน? ไม่ดีแล้ว เราต้องไปรีบแจ้งตำรวจ! "

ซูเอ้อดิงรีบโบกมือไปมา "ไม่! ไม่! ไม่! ถ้านายอยากไปแจ้งก็ไปคนเดียว! แต่เงินรางวัล 10 ล้านไม่เกี่ยวกับฉัน! เย่เฟิงเขาเป็นคนที่น่ากลัว เขาเป็นทหารหน่วยรบพิเศษชั้นหัวกะทิ เขาเป็นอาชญากรระดับ A ก่อนหน้านี้เขาฆ่าคนไปกว่า 50 คนที่เมืองเฮเจียง! ถ้าพวกเขารู้ว่าเราไปแจ้งตำรวจละก็ แม้ว่าเราจะได้เงินรางวัลมา แต่ก็ไม่คุ้มถ้าไม่มีชีวิตได้ใช้มัน!"

พี่ไทเกอร์ตกใจกับความคิดตัวเองเหงื่อไหลออกมา

เย่เฟิงกล้าปล้นธนาคารตอนกลางวันแสกๆ แล้วก็ทำสำเร็จอีกด้วย เป็นผู้ก่อการร้ายที่น่ากลัวมาก

"ซูเอ้อดิง ฉันไปล่วงเกินพี่ใหญ่หิน ฉันจะถูกเขาฆ่าไหม? ฉันยังไม่อยากตาย!" ขณะพูดใบหน้าของพี่ไทเกอร์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ซูเอ้อดิงส่วยหัว "ฉันก็ไม่รู้ แต่นายควรระวังตัวไว้ให้ดีหลังจากนี้ พวกเขาหนะฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา!"

พี่ไทเกอร์และแบล็คด็อกหลั่งเหงือเย็นออกมาทันที

"หม่าบี้ ซูเอ้อดิง ทำไมนายไม่เตือนฉันก่อน! แม่ง มารดามันเถอะ!"

"ไม่ดีแล้ว! ฉันต้องหนีไปต่างประเทศเพื่อซ่อนตัวสักพักนึง!"

สองวิต่อมาแบล็คด็อกก็พูดว่า "พี่ไทเกอร์ พาฉันไปด้วย! ถ้าพวกเขาเจอฉันเขาต้องฆ่าฉันแน่ๆ ฉันยังมีพ่อมีแม่ให้ดูแลอยู่! "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด