ตอนที่แล้วThe Dark King – Chapter 61 มอนสเตอร์ระดับที่ 9 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThe Dark King – Chapter 63 นักล่าผู้เป็นอมตะ? [อ่านฟรี]

The Dark King – Chapter 62 การล่าบนตึกสูง [อ่านฟรี]


The Dark King – Chapter 62 การล่าบนตึกสูง

ฮู้ววว!

ไบรอันรีบฉีกตัวออกห่างทันที ในตอนที่เขากระโดดถอยหลังไปกรงเล็บของมอนสเตอร์ก็ได้ตะปบลงที่ตำแหน่งเดิมที่เขาเคยอยู่ กำแพงที่พังทลายอยู่ก่อนหน้านี้พังทะลายลงไปทันที มอนสเตอร์คำรามออกมาหลายครั้งก่อนที่หันหน้าไปที่หลุมที่เกิดจากกำแพงพังทะลายลงมาและพุ่งเข้าไป เป็นไปได้มากว่าตอนนี้มันกำลังหาจังหวะซุ่มโจมตีไบรอันอยู่

ไบรอันรู้สึกโล่งใจ เขารีบขยับมืออย่างรวดเร็วและดึงเอาลูกธนูออกมา ลูกธนูอันนี้หนากว่าลูกธนูธรรมดาเป็น 2 เท่า มีเชือกผูกเป็นปมที่ปลายด้านหลังของลูกธนู เขาเอี้ยวศีรษะมองและเล็งไปที่ตึกข้างๆที่มี 4 ชั้นจากนั้นก็ยิงธนูออกไป

ลูกธนูยิงลงมาจากด้านบนสุดของตึกและไปปักที่เครื่องทำน้ำอุ่นพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งอยู่ด้านบนของตึก 4 ชั้น ไบรอันผูกเชือกไว้กับแท่งคอนกรีตและพุ่งลงไป ร่างกายของเขาลู่ไปตามเส้นเชือกที่ได้ผูกเอาไว้ทันที

แต่เพราะแท่งคอนกรีตนี้ถูกกันกร่อนมานานและยิ่งไปกว่านั้นน้ำหนักของไบรอันที่ไม่ได้ถือว่าน้อย ในตอนที่เขาลู่ไปเชือกนั้นก็ทำให้เชือกแกว่งไปมา เมื่อไบรอันลงมาจนถึงด้านบนสุดของตึก 4 ชั้นแท่งคอนกรีตก็พังทะลายลงมาทันที ความรู้สึกที่ราวกับได้ผ่านพ้นความเป็นความตายเกิดขึ้นกับเขาทันทีแต่ไบรอันก็ยังสามารถคุมสติอยู่และเก็บเชือกทั้งหมด เขาโหนตัวลงมาจากหลังคาตึกและพุ่งไปที่หน้าต่างของชั้นที่ 2 เสียงกระจกแตกดังขึ้นทันทีในตอนที่เขาพุ่งผ่านกระจกเข้าไป เขารีบคว้ามีดของตนเองทันทีและหันหน้าไปดูห้องนี้

มันไม่ได้ใช้เวลามากนักที่มอนสเตอร์จะลงมาจากชั้นบนสุดของตึกนั่น แต่ไบรอันก็ได้หายไปจากระยะการมองเห็นของมันแล้ว มันเงยหน้าขึ้น ดมกลิ่น และหันไปอีกทิศทางหนึ่ง

ประมาณ 5นาทีหลังจากที่มอนสเตอร์ได้จากไป ทั้ง 4 คนก็เดินออกมาจากใต้เสาต้นหนึ่งที่ล้มอยู่ทันที ร่างกายของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยคราบสกปรกและคราบเลือด

“มันน่าจะไปแล้ว” แชมกระซิบขึ้นมา

ฟู่เทียนมองไปทางที่มอนสเตอร์เดินไป ดวงตาของเขาเปร่งประกายขึ้นขณะที่เขาพูดขึ้นว่า “พวกเราต้องไล่ตามมันไป พวกเราต้องไปหาไอ้นักล่านั่น!”

“นายบ้าไปแล้วหรอ? นายอยากให้พวกเราตามมันไปหรอ? ถ้าหากเราจะไปหาไอ้เลวนั่น แต่มอนสเตอร์ตัวนี้ไวต่อกลิ่นมาก เราคงต้องเสี่ยงหนักแน่ๆ…”. เมสันที่อยู่ใกล้เขามากที่สุดกล่าวขึ้นมาเบาๆ

“ตอนนี้มีเลือดมากมายที่อยู่บนตัวพวกเรา มันจะไม่ได้กลิ่นของพวกเราไประยะเวลาหนึ่ง” ฟู่เทียนมองไปที่ร่างของเขาซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของคราบเลือด

ก่อนหน้านี้เมื่อพวกเขากำลังจะขึ้นบันไดมานั้นก็ได้เห็นซอมบี้ที่โดนพื้นของชั้นบนหล่นลงมาทับเอาไว้ มันทำให้เขานึกอะไรขึ้นมาได้ นั่นคือการใช้เลือดของศพนี้ชะโลมไปทั่วตัวของพวกเขาเพื่อปกปิดกลิ่นและแกล้งนอนเป็นศพร่วมกับศพนั้นด้วย

พวกเขาดึงลูกแก้วสีน้ำเงินออกจากศีรษะของซอมบี้และอุณหภูมิร่างกายของมันกลับมาเป็นปกติและเริ่มเน่า กลิ่นและรสสัมผัสของเลือดที่เน่าเหม็นนั้นชวนอ้วกอย่างยิ่ง

ฟู่เทียนจำได้ว่าพวกมอนสเตอร์นั้นไม่สนใจซอมบี้จากการได้เห็นมันบนถนน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะลองเสี่ยงทำแบบนี้

เพื่อที่จะซ่อนตัวให้แนบเนียนที่สุดพวกเขาจึงต้องชะโลมเลือดของซอมบี้บนร่างตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้แต่ใบหน้าของพวกเขาก็ด้วยเช่นกัน แต่เมื่อคิดถึงสารพิษต่างๆที่อยู่ในเลือดของซอมบี้นี้ฟู่เทียนก็ไม่กล้าชะโลมมันที่ใบหน้าของเขาโดยตรงแต่ใช้ผ้ารองไว้อีกชั้นหนึ่ง ผ้าที่ชุ่มไปด้วยเลือดปกปิดใบหน้าของพวกเขาเอาไว้ แม้ว่าเลือดของซอมบี้จะยังซึมเข้ามาโดนใบหน้าของพวกเขาแต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรมาป้องกันเลย

ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อดึงดูดความสนใจของมอนสเตอร์และลดน้ำหนักของพวกเขาลงไป พวกเขาจึงตัดสินใจทิ้งเป้สะพายหลังเอาไว้ที่พื้นชั้นแรก เป้สะพายหลังที่เต็มไปด้วยคราบเหงื่อและกลิ่นของมนุษย์นั้นอันตรายเกินไปสำหรับพวกเขา

นี่เป็นเพียงความพยายามครั้งสุดท้ายของพวกเขาและพวกเขาก็ไม่ได้คิดว่ามันจะสำเร็จ

พวกเขากำลังดีใจที่รอดชีวิตมาได้ไม่นานแต่ก็ต้องตกตะลึงกับคำพูดของฟู่เทียน สิ่งที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้นั้นทำให้ทุกๆคนต้องตกตะลึงและส่ายศีรษะออกมา

“พวกเราแค่โชคดีในครั้งนี้ ถ้าพวกเรายังไปต่อแม้แต่อุบัติเหตุเล็กๆก็อาจทำให้พวกเราต้องตายได้” แชมยังคงพยายามชักจูง

ฟู่เทียนมองไปที่พวกเขาและกล่าวว่า “ถ้าพวกนายไม่อยากไปก็รอฉันอยู่ที่นี่ พวกนายจะออกไปหาสก๊อตและคนอื่นๆก็ได้ นักล่าคนนั้นต้องตายไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะไม่ได้อยู่อย่างสงบสุขแน่นอน!”

มอนสเตอร์ตัวนี้ได้ยืนยันการคาดเดาของเขาแต่เพื่อที่จะยืนยันความโหดเหี้ยมของนักล่าคนนั้นให้มากที่สุด เขาไม่คิดว่าคนที่เลือดเย็นและโหดร้ายแบบนั้นจะยอมให้พวกเขาทำลายแผนการของตนเองได้อย่างง่ายดาย ครั้งหน้าที่พวกเขาต้องตกอยู่ในสถาการณ์แบบนี้อีกย่อมต้องหนีไม่พ้นความตายอย่างแน่นอนและเป็นไปได้มากที่จะต้องตายอย่างทรมาน!

แทนที่จะฝากความหวังของตนเองไว้กับจิตใจของคนอื่น เขาเลือกที่จะกำจัดอันตรายที่ซ่อนเร้นเอาไว้ด้วยตนเอง!

เมสันและคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึงไปในทันที พวกเขามองไปยังฟู่เทียนที่ตามมอนสเตอร์ตัวนั้นไป เมสันก็พูดออกมาว่า “ฉันบอกนายแล้วก่อนหน้านี้ ว่าพวกเราทั้ง 4 คนจะเป็นตายร่วมกัน!”

ฟู่เทียนมองไปที่เขาและพยักหน้าเล็กน้อย

ในตอนนี้เมื่อแซคและแชมได้ยินคำพูดของเมสันพวกเขาก็ยืนขึ้นและเดินตามฟู่เทียนไป

พวกเขาได้อยู่ด้วยกันช่วยเหลือกันมาตลอด 3 ปี แต่เมื่อเห็นว่าพวกเขายังยืนยันคำพูดของตนเองในสถานการณ์ที่คับขันแบบนี้หัวใจของฟู่เทียนก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เขาพยักหน้าและพูดว่า “ไปกันเถอะ!”

“พวกแกยังมีชีวิตอยู่อีกงั้นหรือ?” เสียงที่เย็นชาดังขึ้นทันที

ดวงตาฟู่ของเทียน’หดตัวลงทันทีเมื่อเขาได้เห็นนักล่าตนนี้ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าต่างของชั้น 2 ที่แตกหัก เขา … … เขายังไม่ได้หนีไปงั้นหรอ?

ไบรอันก็ประหลาดใจยิ่งกว่าฟู่เทียน เขาไม่คาดคิดว่าเด็กพวกนี้จะหนีรอดจากมอสเตอร์ตัวนั้นได้ แต่เมื่อเขาได้เห็นเลือดที่ชะโลมไปทั่วร่างกายของเด็กพวกนี้เขาก็เข้าใจได้ในทันที “ไอ้พวกเด็กเวร! ฉันจะฆ่าพวกแกในวันนี้ไม่ว่าใครก็มาช่วยพวกแกไม่ได้!”

เขายกธนูขึ้นและยิงออกไปในทันที

ใบหน้าของฟู่เทียนเปลี่ยนไปเขารีบวิ่งเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็ว

‘ฟิ้ว’ ลูกธนู 2 ดอกปักอยู่ที่ตำแหน่งของฟู่เทียนเมื่อครู่นี้

“วิ่ง แยกกัน!” ฟู่เทียนวิ่งเข้าไปในอาคารและตะโกนออกมา

เมสันและอีก 2 คนนั้นยังคงตกตะลึง พวกเขาไม่ได้อยากที่จะฆ่าใครแต่นักล่าคนนี้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขา เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของฟู่เทียนพวกเขาก็รีบวิ่งขึ้นบันไดไปในทันที

ฟู่เทียนเห็นพวกเขาวิ่งไปในทางเดียวกันก็ตะโกนออกมาว่า “วิ่งแยกกันหรืออยากให้มันจับพวกนายได้! ตอนนี้มันกำลังไล่ตามฉันมา!” จากลูกธนู 2 ดอกที่ถูกยิงออกมาก่อนหน้านี้ทำให้รู้ว่าความเกลียดชังของนักล่าที่มีต่อพวกเขานั้นไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย

สีหน้าของเมสันและอีก 2 คนก็เปลี่ยนแปลงไปในทันที “มันยังมีหวังถ้าพวกเราร่วมต่อสู้กับมันด้วยกัน!”

“เชื่อฟังฉัน!” ฟู่เทียนตะโกนออกมา

พวกเขาทั้งหมดต่างก็อยู่ในความสับสน แต่พวกเขาต้องอดทนเพื่อฝ่าฟันปัญหานี้ไปให้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงแยกออกจากกันและวิ่งออกไป 3 ทิศทาง

ฟู่เทียนหันกลับไปมองนักล่าที่กระโดดขึ้นมาชั้นที่ 2 เขารีบวิ่งหนีไปในทันที เขารู้ดีว่าถ้าหากอีกฝ่ายจับตัวเขาได้มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่ ความน่ากลัวของพวกซอมบี้นั้นยังไม่ใช่อันตรายทั้งหมดที่หน่วยค้นหาต้องพบเจอ!

“ไอ้เด็กสาระเลว! พวกแกได้ทำลายแผนของฉัน!” ไบรอันรับรู้มานานแล้วว่าเด็กอีก 3 คนนั้นเชื่อฟังคำสั่งของฟู่เทียน แม้แต่หน่วยค้นหาที่เป็นผู้ใหญ่ก็ยังทำตามคำสั่งของเขา พวกเขาทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด! เมื่อคิดว่าฟู่เทียนได้ทำลายแผนการในการล่า มอนสเตอร์ตัวนี้ของเขาก็ทำให้เขาต้องกำหมัดแน่นขึ้นมา

“วิ่ง วิ่งไปสิ! ฉันจะถลกหนังแกออกมา!” ความชั่วร้ายภายในจิตใจของไบรอันปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขา เขารีบวิ่งไล่ตามขึ้นบันไดไป เมื่อรู้ว่ามีกลิ่นเลือดของซอมบี้จากร่างกายของฟู่เทียนและอีก 3 คนที่เหลือไบรอันคิดว่ามอนสเตอร์ตัวนั้นคงไม่กลับมาอย่างแน่นอน ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะสังหารได้จุดประกายขึ้นในหัวใจของเขา

เขาต้องการให้พวกมันทุกๆคนต้องเจ็บปวด!

ตุบ ตุบ!

ทันทีที่เขาขึ้นมาถึงชั้น 2  เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่อยู่ไม่ไกลมาก น่าจะเป็นชั้นที่ 4 เขาหัวเราะเยาะและเดินขึ้นบันไดไป

ทันทีที่เขามาถึงชั้นที่ 4 เสียงฝีเท้าที่ดังอยู่ก่อนหน้านี้ก็ได้หายไป เขายิ้มอย่างเย็นชาและพูดออกมาว่า “เล่นซ่อนหางั้นหรอ! ฉันไม่ได้เล่นเกมแบบนี้มานานแล้ว ซ่อนตัวให้ดี! ฉันจะทำให้แกได้ลิ้มรสความสิ้นหวัง! แกจะได้รู้ว่ามันเป็นอย่างไรเมื่อเสียงฝีเท้าแห่งความตายกำลังเข้าไปใกล้แกทีละก้าว ทีละก้าว… …” เขายกธนูของตนเองขึ้นมาพร้อมกับใส่ลูกธนูและยิงออกไป ลูกธนูพุ่งทะลุหน้าต่างบานหนึ่งเข้าไปทันทีและจากนั้นก็มีเสียงร้องดังออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด