ตอนที่แล้วThe Dark King – Chapter 59 ระดับการล่า ‘ซอมบี้’ [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThe Dark King – Chapter 61 มอนสเตอร์ระดับที่ 9 [อ่านฟรี]

The Dark King – Chapter 60 เหยื่อล่อ [อ่านฟรี]


The Dark King – Chapter 60 เหยื่อล่อ

 

ฟู่เทียนพร้อมเพื่อนทั้งสามเดิมตามหลังนักล่าและออกจากตัวตึก ใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงจุดที่พวกเขาได้แยกตัวออกจากกลุ่มของสก็อต

 

มีซอมบี้สองตัวโผล่ออกมา ณ ทางแยกที่พวกเขายืนอยู่ ดูเหมือนว่าพวกมันจะสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิในร่างกายของฟู่เทียนและกลุ่ม พวกมันหันเข้าและเร่งเดินตรงเข้ามา

 

ฟู่เทียนหยิบมึดสั้นออกมาพร้อมจ้องไปยังแผ่นหลังของนักล่า ถ้าเขามีท่าทีจะหนี ฟู่เทียนจะรีบบอกให้ เมสัน แชม และแซควิ่งให้เร็วที่สุด เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะเผชิญหน้ากับพวกซอมบี้ได้โดยตรง

 

อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อเห็นซอมบี้ทั้งสองตัว เขาหยิบมีดสั้นที่เก็บไว้อยู่ที่ต้นขาออกมาและวิ่งตรงเข้าไปหาซอมบี้ทั้งสองตัว เขาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหน้าของมันในชั่วเวลาเพียงอึดใจ ร่างกายของเขาเอนไหวไปมา ฟึ่บ! ฟึ่บ! มีเสียงดังออกมาจากหัวของซอมบี้ทั้งสองที่หลุดออกและร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น

 

สายตาของฟู่เทียนจ้องมองโดยไม่กะพริบ

 

เขารู้ดีว่าหน้าที่ของพวกนักล่าคือการสังหารมอนส์เตอร์ แต่ก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ มันเป็นการลงมือเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น

 

ชายหนุ่มเช็ดเลือดออกจากมีดสั้นและเก็บมันลงที่เดิม เขาหันหลังกับมามองฟู่เทียนและเพื่อนทั้งสาม มีรอยยิ้มอันอ่อนล้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา พร้อมโบกมือส่งสัญญาณให้ทั้งหมดเดินต่อ

 

ฟู่เทียนและเพื่อนทั้งสามคนรีบวิ่งตามเขาไป

 

ฟู่เทียนสังเกตุเห็นว่ามีดของนักล่ามีความคมกว่าอย่างเห็นได้ชัด จนชนิดที่ว่ามีดของพวกเขาควรเรียกว่ามีดตัดเนยเลยทีเดียว เขาคาดการณ์ว่ามีดของนักล่าน่าจะทำมาจากเหล็กที่ดีกว่า ในขณะที่มีดของพวกเขาแทบทำอะไรไม่ได้แล้วหลังจากที่ตัดหัวของซอมบี้ไปประมาณหนึ่งโหล ส่วนใหญ่ของใบมีดทื่อไปหมดมีเพียงแค่ส่วนที่ใกล้กับด้ามจับเท่านั้นที่ยังพอใช้ตัดสิ่งของได้

 

“ของในหัวพวกมัน...” ฟู่เทียนต้องการก้มลงเพื่อที่จะหยิบผลึกขึ้นมา แต่เมื่อชายหนุ่มสังเกตุเห็นเขาตะโกนออกมาเบาๆ “อย่าทำให้เสียเวลา เร็วๆเข้า”

 

ฟู่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและยอมแพ้ต่อการเก็บลูกบอลสีน้ำเงินเข้ม อย่างไรก็ตามเขาจำตำแหน่งของพื้นที่แห่งนี้เอาไว้แล้ว ถ้าหากมีโอกาสอีกจะค่อยกลับมาเก็บมัน สิ่งๆนี้ไม่ได้มีค่าเท่าใดนักในสายตาของนักล่า แต่สำหรับพวกเขาแล้วมันคือสิ่งล้ำค่า

 

เมื่อเดินทางไปเรื่อยๆพวกเขาพบกับพวกซอมบี้คลอดทาง แต่นักล่าไม่ได้ปล่อยให้ฟู่เทียนและเพื่อนทั้งสามได้ลงมือทำสิ่งใดเลย ในการเผชิญหน้าแต่ละครั้งเขาชิงลงมือสังหารซอมบี้ได้อย่างรวดเร็ว เขารวดเร็วกว่าพวกซอมบี้และมีทักษะการต่อสู่อยู่ในระดับสูง ทักษะของเขาดีมากจนพวกซอมบี้ไม่มีโอกาสที่จะแตะตัวเขาได้เลย

 

ฟู่เทียนคอยตามหลังไปด้วยความเงียบและกำลังแอบศึกษาวิธีการลงมือของนักล่า  ในยุคนี้ที่เป็นยุคของการใช้อาวุธโบราณ ทักษะและศิลปะการต่อสู้คือสิ่งที่สมบูรณ์แบบ ทักษะต่างๆที่ถูกใช้โดยนักล่ามันทำให้ฟู่เทียนหลงไหล เขาใช้มีดได้อย่างสมบูรณ์แบบราวกับกำลังตัดหญ้าด้วยเคียว การเคลื่อนไหวของเขาช่างประณีตและสมบูรณ์แบบ การได้รับบาดเจ็บที่แขนไม่ได้มีผลใดๆเลย

 

นี่เป็นผลจากการที่เขาได้ผ่านการใช้ชีวิตและความเป็นตายมาสินะ?

 

“คุณนักล่าครับ คุณจะช่วยสก็อตและคนอื่นๆได้ไหม? พวกเขาน่าจะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่...” เมสันกล่าวออกไปด้วยกล้า ตลอดการเดินทางชายหนุ่มปกป้องเขาจากพวกซอมบี้ ดังนั้นพากันรู้สึกว่านักล่าคนนี้เป็นคนดี ความประทับใจดีๆค่อยๆเกิดขึ้นมาทีละนิดทีละหน่อย การกระทำที่ไม่ดีในก่อนหน้าของเขาถูกลืมไปในทันใด

 

นักล่าตอบกลับ “นายคิดว่าฉันเป็นใคร? คิดว่าฉันทำงานให้องค์กรดูแลคนงั้นหรอ?”

 

เมสันตะลึง ในตอนนี้สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเมื่อมองไปยังถนนข้างหน้า ฟู่เทียนสังเกตุเห็นว่านักล่ากำลังมองไปทางสถานที่ที่พวกเขาแยกตัวออกจากกัน และเป็นที่ที่แรกที่พวกเขาได้พบกับซอมบี้

 

ฟู่เทียนรู้สึกเหมือนว่ามีบางอย่างกำลังสั่นสะเทือนอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา ราวกับว่ามีอาคารสูงพังทลายลงมา หลังจากนั้นมีเสียงคำรามดังขึ้น

 

ชายหนุ่มหรี่ตาลงและมีความกระหายเลือดปรากฏขึ้นให้เห็น เขาหันมองไปยังตึกรอบๆบริเวณนั้นและในที่สุดสายตาของเขาก็หยุดลงที่ชั้นบนของสำนักงานแห่งหนึ่ง อาคารแห่งนี้ถูกปลกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำและพืชหลากหลายชนิด รวมถึงมีหน้าต่างที่เก่าแก่และทรุดโทรม มีรอยยิ้มเล็กๆเผยขึ้นบนในหน้าของเขา เขากล่าวกับฟู่เทียนและกลุ่มเพื่อน “พวกนายรอที่นี่ ห้ามไปไหนทั้งนั้นหากไม่มีคำสั่งของฉัน!”

 

สีหน้าของฟู่เทียนเปลี่ยนไป เขากล่าว “แล้วคุณล่ะครับ?”

 

“ฉันมีบางอย่างต้องทำ และจะรีบกลับมาในเร็วๆนี้” นักล่ากล่าวออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง “อย่าลืมล่ะ ถ้าไม่มีคำสั่งของฉัน ห้ามไปไหนทั้งนั้น ฉันจะไม่ปราณีกับคบคนที่ออกไปจากที่นี่โดยไม่มีคำสั่ง!” เขากวาดตามองเด็กทั้งสี่ “อย่าลืมคำพูดของฉันซะล่ะ แม้ว่าจะกลับไปยังสมาคมได้ก็เถอะ ฉันจะตามกลับไปถลกหนังพวกนายทั้งเป็น!”

 

เมื่อกล่าวเรียบร้อบ เขาหันกลับไปมองที่ๆเดิมอีกครั้งพร้อมหัวเราะออกมา หันหลังและจากไปอย่างรวดเร็ว เขามีความว่องไวราวกับแมวดำ ก่อนหน้านี้เขาอยู่ต่อหน้าพวกเขาทั้งสี่ ใช้เวลาไม่นานนักก็หายไปจากสายตาพวกเขาทั้งหมด

 

“นี่ นี่...” เมสันทำอะไรไม่ถูก “เขาหนีไปแล้ว?”

 

ฟู่เทียนมองไปยังแผ่นหลังของชายที่เพิ่งจากไป มีความรู้สึกแปลกๆปรากฏขึ้นมาในใจของเขา ทันใดนั้นเขานึกถึงหน้าไม้และลูกธนูขึ้นมาได้

 

อาคารสูง หน้าไม้ และลูกธนู….

 

ดวงตาของเขาเบิดกว้าง การซุ่มโจมตี หรือว่าพวกเขาถูกใช้เป็นเหยื่อล่อซะแล้ว? อะไรคือสิ่งที่เขาต้องการล่อออกมา?

 

“วิ่ง!” เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ ฟู่เทียนตะโกนออกมาในทันใด เขารีบวิ่งเข้าไปในตึกบริเวณนั้น รีบใช้ประโยชน์จากเวลาให้มากที่สุดก่อนที่นักล่าจะขึ้นไปถึงจุดที่เขาต้องการซุ่มโจมตี พวกเขาจะต้องหลบออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้ หรือไม่ก็จะโดนซุ่มยิงโดยนักล่าคนนั้น

 

เขาไม่มั่นใจเช่นกันว่านักล่าจะไม่ยิงพวกเขาถ้าเกิดการโจมตีจากพวกซอมบี้

 

เมสัน แชม และแซค กำลังอยู่ในความตกตะลึงและงุนงง ด้วยความไว้ใจที่มีมานานร่างกายของพวกเขาขยับตามหลังฟู่เทียนไปในทันใด เมสันถาม “เทียน เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเราต้องวิ่งหนี? ถ้าเขารู้เข้า...พวกเราจะ….”

 

ฟู่เทียนประทับใจในตัวนักล่าอยู่เล็กน้อยที่เขาช่วยฆ่าซอมบี้เพื่อปกป้องพวกตนในก่อนหน้า แต่ความประทับใจทั้งหมดได้หายไปแล้ว เขาตอบกลับด้วยความเย็นชน “พวกเรากำลังถูกเขาใช้เป็นเหย่อล้อ เขากำลังล่อบางอย่างออกมา”

 

“ล่ออะไรกัน?” เมสัน แชม และแซคตกตะลึง ในไม่ช้าพวกเขาก็นึกถึงความเป็นไปได้และกลัวจนตัวสั่น

 

ฟู่เทียนรีบวิ่งเข้าไปยังตัวอาคาร เขาหายใจเข้าและมองไปยังเมสันและทุกคนพร้อมกล่าว “พวกเราต้องรีบหนีไปอีกฟาก จะให้เขาหาพวกเราเจอไม่ได้เด็ดขาด”

 

สีหน้าของแซคไม่สู้ดีนัก “แม้ว่าพวกเราจะหนีออกไปได้ หลังจากที่ได้กลับเข้าไปในกำแพง เขาคงไม่ยอมปล่อยให้พวกเราอยู่อย่างสงบแน่ๆ”

 

ฟู่เทียนตอบกลับไปด้วยเสียงเย็นชา “งั้นพวกเราก็ต้องฆ่าเขาซะ!”

 

เมสัน แชม และแซคเกิดความลังเลเมื่อได้ยินเสียงของฟู่เทียน เขามองมายังฟู่เทียนด้วยความตกตะลึง

 

เมสันกล่าวตอบ “ฆ่าเขา? พระเจ้า นายรู้รึป่าวว่ากำลังพูดอะไรอยู่? เขาเป็นถึงนักล่า! พวกเราฆ่าเขาไม่ได้หรอก… ถึงแม่จะทำได้แต่นั่นมันก็เป็นความผิดใหญ่โต”

 

“เทียน นายแน่ใจแล้วหรอ?” แชมหน้าซีดและกล่าว “ถ้านายเดาผิดล่ะ ถ้าเขาแค่ต้องการให้เรารอเพื่อที่จะทำธุระส่วนตัว.. พวกเราคง...”

 

ฟู่เทียนรู้สึกใจไม่ดี เขาลืมนึกถึงความเป็นไปได้ที่นักล่าจะไปทำธุระส่วนตัวเช่นฉี่หรืออึ แต่...เราจะมั่นใจได้ยังไง?

 

โอกาสรอดมีทางเดียวเท่านั้น หากการคาดเดาของเขาถูกต้อง การยืนรออยู่ ณ ที่แห่งนั้นก็เหมือนกับการรอความตายเช่นกัน! ถ้าหากนักล่าที่สามารถฆ่าซอมบี้ได้อย่างง่ายดายคนนั้นต้องการใช้พวกเขาเป็นเหยื่อล่อ สิ่งๆนั้นจะต้องเป็นมอนส์เตอร์ที่มีความน่ากลัวมาก ซึ่งพวกเขานั้นไม่น่าจะสามาถหลบหนีได้

 

แม้จะมีความเป็นไปได้หลายทาง แต่สิ่งที่เขาคิดน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดแล้ว… ถ้าหากมันผิดขึ้นมา...ก็ต้องยอมรับมันไป!

 

ฟู่เทียนนึกถึงการฝึกฝนที่ทะเลทรายเมื่อสามปีก่อนขึ้นมา เขาได้ฆ่านักเล่นแร่แปรธาตุที่ชื่อรอสยาร์ด ความลังเลใจเกิดขึ้นมาในจิตใจของเขาชั่วขณะ พวกเขาจะต้องหนีออกไปจากพื้นที่แห่งนี้ให้ได้ แม้ว่าเขาจะคิดผิดก็ตาม เขาก็ยังมีทางเลือกอีกทางนั้นคือฆ่านักล่าคนนั้นซะ

 

“พวกเราได้ออกมาจากที่ตรงนั้น! มันไม่สำคัญว่าการคาดเดาของฉันจะถูกหรือผิดอีกแล้ว! ยังไงเราก็ต้องฆ่าเขาซะ! หรือไม่เช่นนั้นพวกเราจะถูกเขาเล่นงานหรืออาจต้องตายด้วยน้ำมือของเขา!” ฟู่เทียนมีสายตาเย็นชาขณะกำลังพูด

 

เมสันมองไปยังดวงตาของเขาด้วยความตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย เป็นเพราะใครก็ตามที่มีส่วนในการฆ่านักล่าถือเป็นฆาตกร ‘ฆาตกร’ ถือเป็นคำที่รุนแรงสำหรับคนทั่วไปเช่นพวกเขา

 

ฟู่เทียนกำลังมองไปยังเพื่อนๆพร้อมกำลังรอคอยคำตัดสินใจ เขารู้สึกกลัวลงไปในจิตใจ ถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับตน จะทำอย่างไรต่อไป?

 

เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าต้องทำยังไงต่อไปถ้าเกิดแบบนั้นขึ้นจริงๆ ประตูในหัวใจของเขาถูกเปิดออกมีปิศาจปรากฏขึ้นมาในใจ มันเป็นความคิดในด้านลบ

 

มีเพียงไม่กีอย่างเท่านั้นที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขา เขาไม่อยากจะก้าวข้ามมันออกไป

 

โฮ่ก!

 

ในขณะนั้นเอง มีเสียงคำรามดังขึ้นจากสถานที่ในก่อนหน้า

 

ฟู่เทียนและเพื่อนๆได้แอบมองดู พวกเขาตกใจสุดขีด หน้าของพวกเขาซีดราวกับเลือดถูกดูดออกจากใบหน้าไปทั้งหมด!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด