Chapter 134: ค่ำคืนที่ไม่รู้จบ (ส่วนที่ 2)
อีกาดำเข้ามาในห้องผ่านหน้าต่างระบายอากาศและปกคลุมตัวเองด้วยเมฆหมอกสีเทา จากนั้นมันก็กลายร่างเป็นผู้หญิงลึกลับชุดดำ ลิงค์ รู้สึกตกตะลึงอย่างสมบูณณ์เมื่อได้เห็นภาพนี้
คนๆนี้มาที่นี่เพื่อปิดปากฉันหรอ? ฉันเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอะไรเนี่ย?
“ใจเย็นนะ ฉันไม่ได้มาทำอันตราย” ผู้หญิงคนนั้นพูด ลิงค์ ไม่รู้สึกถึงจิตสังหารจากออร่าเวทย์มนตร์, หรือความผันผวนที่น่าสงสัยซึ่งบ่งบอกถึงการลอบโจมตีของเธอจริงๆ เธอไม่แม้แต่จะถือคทาเอาไว้ในมือด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้น, ลิงค์ ก็ยังคงตื่นตระหนก
“ฉันไม่คิดว่าคนที่บุกเข้ามาในห้องของฉันในเวลาดึกดื่นขนาดนี้จะมาดีนะ”
เอเลนอร์ ยิ้ม, ซึ่งมั่นได้เน้นสเน่ห์อันน่าหลงใหลของใบหน้าที่งดงามของเธอ เธอเดินไปที่โต๊ะเพียงตัวเดียวที่อยู่ในห้องนอนและจัดตำแหน่งที่นั่งของเธอจนเธอรู้สึกสบาย
“เพื่อความปลอดภัย ฉันก็เลยเฝ้าสังเกตุนายอยู่ตลอดเวลา; นายไม่ได้มาคุกคามฉัน, และเช่นเดียวกัน, ฉันก็ไม่ได้ต้องการมาสร้างปัญหาอะไรในเมืองฮอทสปริง นอกจากนี้, ฉันยังเชี่ยวชาญในเวทย์มนตร์ลึกลับด้วย, ถ้าฉันจะทำอันตรายกับนายจริงๆ, ฉันคงจะไม่มาปรากฏต่อหน้านายหรอก นายว่าไหม?”
ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ในเมืองฮอทสปริง, ขั้นตอนตามปกติของ เอเลนอร์ ก็คงจะเป็นการพา ลิงค์ กลับไปที่หอคอยเวทย์มนตร์ของเธอเพื่อสอบสวนก่อนที่จะลบความทรงจำของเขา ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เธอทำกับมนุษย์ส่วนใหญ่ที่เธอสนใจ
อย่างไรก็ตาม, นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับที่นี่ ลิงค์ มีนักเวทย์เลเวล 6 อยู่ข้างกายเขาและมีจอมเวทย์อีกมากมายอยู่ทั่วเมือง นอกจากนี้, ตัว ลิงค์ เองก็ค่อนข้างจะแข็งแกร่งอยู่แล้ว – เธอต้องพูดกับเขาโดยคิดว่าเขาเท่าเทียมกับเธอ
ลิงค์ คิดอยู่ครู่นึงก่อนที่จะเก็บคทาของเขา
“แล้วเธอมีธุระอะไรที่นี่?”
พอเห็นว่า ลิงค์ เป็นคนมีเหตุผล, เอเลนอร์ ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาในทันที
“พวกเราทุกคนมาที่นี่ก็เพื่องานเทศกาลนักเวทย์ แม้ว่างานจะยังไม่เริ่มจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้, แต่ฉันก็ต้องการจะทำรายการแลกเปลี่ยนกับนายล่วงหน้า” เธอพูด
“โอ้?” ลิงค์ แปลกใจ
แม้ว่า ลิงค์ จะยังระวังตัวอยู่, แต่เขาก็รักษาความเยือกเย็นเอาไว้และไม่แสดงสัญญาณความเป็นศัตรูอีกต่อไป
เอเลนอร์ ชื่นชมความสามารถของ ลิงค์ ในการซ่อนอารมณ์ของเขา เธอเอาคำภีร์ออกมาจากแหวนต่างมิติของเธอแล้วพูด “ฉันมีคำภีร์เวทย์มนตร์ที่เก็บเวทย์เลเวล 4 เอาไว้อยู่ ฉันจะมอบสิ่งนี้ให้นายแลกเปลี่ยนกับเวทย์นกหวีดของนาย นายคิดว่ายังไง?”
การแลกเปลี่ยนเวทย์เลเวล 1 เพื่อเวทย์เลเวล 4 นั้นเป็นการเจรจาต่อรองภายใต้สถานการณ์ปกติ, อย่างไรก็ตาม, ลิงค์ ไม่ใช่คนปกติทั่วไป ถ้าเขาอยากเรียนรู้เวทย์มนตร์จริงๆ, เขาก็ซื้อมันได้โดยใช้ค่าโอมนิของเขา แล้วเขายังเข้าถึงคอลเลคชันสมบูรณ์ของหนังสือเวทย์มนตร์ของ เอร์เรร่า กับ แอนโทนี่ ได้ด้วย ดังนั้นเวทย์เลเวล 4 จึงไม่มีค่าสำหรับ ลิงค์, อย่างน้อยก็ไม่มีค่าเทียบเท่ากับเวทย์เลเวล 1 นี้ เอเลียร์ด กับเขาใช้เวลาและความพยายามไปมากในการสร้างมันขึ้นมา
มันคือเวทย์เลเวล 1 เพียงเวทย์เดียวที่สร้างขึ้นมาผ่านความพยายามร่วมกันของพวกเขา
ลิงค์ ส่ายหัวของเขาแล้วพูด “ฉันไม่สนใจในการแลกเปลี่ยนกับพวกมัน”
เอเลนอร์ ตกตะลึง “นายควรจะดูนี่ก่อนนะ เวทย์เลเวล 4 นี้เรียกว่าคลื่นพลังจิตและถูกเสริมพลังด้วยทักษะเวทย์มนตร์ขั้นสุดยอดของฉัน ด้วยเวทย์นี้, นายสามารถโจมตีวิญญาณของศัตรูทั้งหมดในรัศมี 120 ฟุตได้เลยนะและยังบั่นทอนกำลังใจของพวกเขาด้วย”
ลิงค์ ไม่ต้องการยิ่งกว่าเดิมในตอนนี้ เขาพูด “ฉันไม่สนใจเวทย์แบบนั้น ดูๆแล้ว, นี่มันสามารถพิจารณาว่าเป็นเวทย์มนตร์แห่งความมืดได้เลยนะ”
ในโลกแห่งฟิรุแมน, เวทย์ใดก็ตามที่โจมตีจิตวิญญาณโดยตรงนั้นถือว่าเป็นเวทย์ต้องห้าม เนื่องจากว่าผลข้างเคียงที่รุนแรงของเวทย์มนตร์พวกนี้สามารถทำลายวิญญาณของผู้คนได้
ความตายทางร่างกายนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว, หลายๆคนเชื่อว่าในที่สุดวิญญาณของพวกเขาก็จะบรรลุถึงนิพานในสวรรค์หลังจากความตาย อย่างไรก็ตาม, การทำลายวิญญาณนั้นแตกต่างเพราะมันจะทำลายการมีอยู่ของคุณไปเลย, ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่น่ากลัวเกินกว่าที่จะคิด
ลิงค์ ไม่ได้มีอคติต่อเวทย์ประเภทนี้, แต่เขาจะไม่เรียนรู้พวกมันด้วยตัวเอง ซึ่งนี่เป็นเพราะเขากลัวที่จะถูกนักเวทย์ของสถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟเนรเทศ
“โอเค, ถ้างั้น” เอเลนอร์ เก็บคำภีร์ไปแล้วถาม “ฉันต้องเสนออะไรให้นายหล่ะ นายถึงจะยอมให้ฉันได้เห็นโครงสร้างเวทย์มนตร์ของเวทย์นกหวีดของนาย?”
ลิงค์ อยากรู้ว่าทำไม เอเลนอร์ ถึงดื้อดึงที่จะเรียนเวทย์นกหวีดขนาดนี้ เขาคิดอยู่ครู่นึงแล้วพูด “ฉันคิดว่าน่าจะเป็นบางสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์นะ”
“ช่างเป็นผู้ชายที่โลภมากจริงๆ!” เอเลนอร์ ยิ้มแล้วเอาคำภีร์อีกแผ่นออกมา
คำภีร์เป็นสีน้ำตาลและถูกห่อหุ้มด้วยสีเงินเปล่งปลั่ง เมื่อ เอเลนอร์ เอามันออกมา, บรรยากาศในห้องก็ดูเหมือนกับสงบนิ่งในทันที การมีอยู่ของเวทย์มนตร์ของมันทรงพลังมากจน ลิงค์ รู้สึกว่าหัวใจและความคิดของเขาเติบโตขึ้นอย่างหนักน่วงในทันที, มันเป็นราวกับว่าเขาถูกกดดันด้วยพลังที่ไม่มีตัวตน
“นี่คือ?” ลิงค์ คิดไม่ถึงว่าคำภีร์จะมีพลังที่น่ากลัวขนาดนี้
“นายรู้จัก ไบรอันท์ ใช่ไหม?” เอเลนอร์ ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ, เหมือนกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่หลอกล่อเหยื่อของมันได้สำเร็จ
“แน่นอน!” สิ่งมีชีวิตเกือบทั้งหมดในโลกคงจะเคยได้ยินชื่อของเขา ไม่งั้นเขาจะถูกขนานนามว่าเป็นนักเวทย์ในตำนานได้ยังไงหล่ะ?
“นี่คือคำภีร์แห่งความรู้ที่เขาทิ้งเอาไว้ ฉันสามารถให้นายดูมันได้แลกเปลี่ยนกับเวทย์นกหวีดของนาย” เอเลนอร์ เสนอ
“ดีล!” ลิงค์ ยอมรับข้อเสนอโดยไม่ลังเล
เอเลนอร์ ไม่กลัวว่า ลิงค์ จะหนีไปพร้อมกับคำภีร์แห่งความรู้ของเธอ เธอส่งคำภีร์ให้กับ ลิงค์ และยื่นมือสีขาวอ่อนเยาว์ของเธอออกมา, รอให้ ลิงค์ ส่งคำภีร์เวทย์มนตร์ที่เก็บเวทย์นกหวีดของเขาให้เธอ
ลิงค์ ส่งคำภีร์ให้แล้วเปิดคำภีร์แห่งความรู้แทบจะทันที ในตอนที่คำภีร์ถูกเปิดขึ้น, มันถูกห่อหุ้มด้วยแสงสดใสและการจัดเรียงที่ซับซ้อนของโครงสร้างรูนก็เผยให้เห็นออกมา โครงสร้างรูนคือรูปแบบจากลูกบอลแสงระยิบระยับมากมาย, และลูกบอลแต่ละลูกก็ถูกสร้างขึ้นด้วยชุดรูนที่ซับซ้อน
ความสนใจของ ลิงค์ ถูกดึงดูดเข้าหาเงาที่เกิดจากลูกบอล เอาจริงๆ, พวกมันไม่ใช่แม้กระทั่งเงาด้วยซ้ำ, แต่มันคือขดเกลียวของรูนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากโซ่ของรูนนับพันจนเป็นเส้นต่อเนื่องกัน มันคือเทคนิคขั้นสูงจริงๆ
ภายในเกมส์, ลิงค์ แค่ต้องคลิกอ่านและรอสิบวินาทีก่อนที่จะได้รับค่าสเตตัสเพิ่มขึ้นอย่างถาวร อย่างไรก็ตาม, ในโลกจริง, เขาต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับคำภีร์ก่อนที่เขาจะได้ประโยชน์จากมัน
คำภีร์คุณภาพระดับอีพิคถูกพบ, คุณต้องการจะสแกนและบันทึกไหม? ระบบเกมส์ถาม
“แน่นอน! บันทึกเลย!” ลิงค์ สั่ง นี่เป็นสิ่งที่ซับซ้อนเกินไปสำหรับเขาที่จะอ่านในระยะเวลาอันสั้น เขาจะใช้เวลาของเขาอย่างช้าๆกับคำภีร์นี้ในอนาคต
ระบบเกมส์มีประสิทธิภาพมากๆ ลิงค์ รู้สึกเหมือนกับว่าเขาอยู่ในภาวะมึนงงและหลังจากที่ผ่านไปครู่นึง, เขาก็นึกถึงแทบจะทุกรายละเอียดที่อยู่ในคำภีร์แห่งความรู้ได้
ในตอนที่เขาดำเนินการเสร็จ, คำภีร์ก็ถูกฉกไปจากมือของเขา เอเลนอร์ พูด “ฉันบอกว่าแค่แปบเดียว นายใช้เวลาดูมันมากเกินไปแล้วนะ”
ลิงค์ จ้องคำภีร์ในมือของ เอเลนอร์ แล้วพูด “เธอโชคดีจริงๆที่หาคำภีร์นั่นพบ”
“แน่นอน แต่โชคของนายดีกว่านะ นายครอบครองของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดที่มนุษย์รู้จัก, และนั่นก็คือพรสวรรค์ทางด้านเวทย์มนตร์” เอเลนอร์ พูดด้วยความอิจฉาที่แอบแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ
ลิงค์ ถาม “ฉันได้ยินมาว่ามีคำภีร์แห่งความรู้ทั้งหมดหกแผ่นและเมื่อผสมพวกมันทั้งหกเข้าด้วยกันก็จะได้คำภีร์แห่งการเปิดเผย เธอรู้ใช่ไหมว่าจริงๆแล้วคำภีร์นี้คืออะไร?”
ในขณะนี้, เอเลนอร์ กำลังมองโครงสร้างเวทย์มนตร์ของเวทย์นกหวีด เธอตอบคำถามโดยที่สายตาของเธอยังคงจดจ่ออยู่กับคำภีร์เวทย์มนตร์ของ ลิงค์ “นายค่อนข้างรู้เยอะนะ ใช่, มีพวกมันทั้งหมดหกแผ่นจริงๆและตัวฉันเองก็น่าจะเป็นคนที่สองที่มี ถ้านายสามารถทำความเข้าใจกับคำภีร์นี้ได้อย่างถ่องแท้, ความเร็วในการฟื้นฟูมานาของนายก็จะเพิ่มอย่างน้อยเท่าตัว”
อย่างไรก็ตาม, เธออนุญาติให้เขาดูคำภีร์แค่ครู่เดียวเท่านั้น, ทำให้มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะได้รับผลประโยชน์ที่เป็นธรรม อีกด้านนึง, เธอสามารถเรียนรู้เวทย์มนตร์เลเวล 1 ที่ทรงพลังได้ มันนับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ดี
เพราะมันคือเวทย์เลเวล 1, โครงสร้างเวทย์มนตร์จึงค่อนข้างง่าย อย่างไรก็ตาม, มันได้เก็บความฉลาดที่ละเอียดอ่อนและจินตนาการใหม่ๆเอาไว้; เอเลนอร์ พบว่ามันงดงามมากๆ
เธอเงยหน้าขึ้นมาหลังจากผ่านไป 20 นาทีเต็มแล้วพูด “นี่เป็นเวทย์เลเวล 1 ที่ปรับแต่งมาได้สวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย มันบริสุทธิ, สะอาด, แต่ก็ทรงพลัง เพื่อที่จะตอบแทนนาย, ฉันจะให้นายดูคำภีร์แห่งความรู้ของฉันอีกนาทีนึง นายจะสามารถจำได้เท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของนายนะ”
จากนั้นเธอก็เปิดคำภีร์ต่อหน้า ลิงค์ ครั้งนี้, ลิงค์ ศึกษาคำภีร์อย่างระมัดระวังขณะที่ตรวจสอบมันด้วยการบันทึกภาพจากระบบเกมส์ ไม่มีการละเลยส่วนใดไปเลยจริงๆ, ระบบเกมส์เก็บทุกๆรายละเอียดอย่างสมบูรณ์แบบ
มันใช้เวลาสามนาทีเต็มก่อนที่ ลิงค์ จะเงยหน้าขึ้นมา, แม้ว่าขีดจำกัดเวลาดั้งเดิมคือหนึ่งนาที แต่ เอเลนอร์ ก็มอง ลิงค์ อย่างคาดหวังแล้วพูด “มันผ่านไปสามนาทีแล้วนะ นายจะไม่ให้บางสิ่งบางอย่างกับฉันเป็นการตอบแทนหน่อยหรอ?”
การแลกเปลี่ยนเวทย์มนตร์เลเวล 1 เพื่อคำภีร์แห่งความรู้นั้นเป็นข้อต่อรองที่ดีมากๆ ลิงค์ อารมณ์ดีแล้วพูดอย่างร่าเริง “เธออยากได้อะไรหล่ะ? ฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันสามารถทำได้เพื่อตอบแทนเธอ”
“ช่วยฉันสร้างเครื่องประดับเสริมพลังเป็นไง? บางอย่างที่เหมือนกับอันที่นายเพิ่งจะแสดงให้เพื่อนของนายดู ดีไซน์ของมันงดงามมากเลยนะ” ดวงตาของ เอเลนอร์ เป็นประกายด้วยความคาดหวัง
เธอดูเหมือนกับ เอเลียร์ด ในตอนที่เขาเห็นเครื่องประดับครั้งแรก อันที่จริง, เธอดูตื่นเต้นกว่าและคลั่งไคล้กว่าเขาด้วยซ้ำ
ลิงค์ จ้อง เอเลนอร์ แล้วคิด, แม้ว่าเธอจะมีสถานะเป็นนักเวทย์, แต่ภาพของเครื่องประดับอันซับซ้อนนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้น
จากนั้น ลิงค์ ก็นึกภาพดีไซน์เครื่องประดับแบบคลาสสิคที่เป็นที่นิยมบนโลกและประมวลผลพวกมันในหัวของเขา หลังจากที่ดีไซน์ได้รับการปรับให้เหมาะสมตามความพอใจของเขา, เขาก็เอาวัสดุบางส่วนออกมาและเตรียมพร้อมที่จะทำงาน
“เดี๋ยวก่อน; ใช้วัสดุของฉันเถอะ”
เอเลนอร์ วางทองคำ, ทอเรียม และหินตาแมวเบื้องหน้า ลิงค์
หินตาแมวเป็นสื่อนำที่ดีที่สุดสำหรับเวทย์มนตร์ลึกลับและหายากมากๆ ลิงค์ มองไปที่หินแล้วพูด “ฉันไม่รู้จักเวทย์ลึกลับเลยนะและฉันก็ไม่สามารถใช้งานหินหายากก้อนนี้ได้อย่างเต็มที่หรอก ฉันไม่อยากเสียวัสดุคุณภาพสูงแบบนี้ไปเปล่าๆ”
เอเลนอร์ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะสลับหินตาแมวกับคริสตัลเพลิง คริสตัลเพลิงมีความมันวาวอันบริสุทธิ์และชั้นของเปลวเพลิงที่เข้มข้น มันมีคุณภาพสูงกว่าอันที่ ลิงค์ ฉกมาจากนักเวทย์โฮล์มส์
“แล้วถ้าเป็นเวทย์ธาตุไฟหล่ะ?”
“ระเบิดเพลิงโอเคไหม?” ลิงค์ ถาม มันคงจะเสียของหากนำไปเสริมพลังด้วยเวทย์ระดับต่ำกับวัสดุคุณภาพดีเช่นนี้ เขาต้องใช้มันให้ดี
“นั่นเยี่ยมไปเลย”
“กลับมาเอาในอีกหนึ่งสัปดาห์นะ” ไม่เหมือนกับเครื่องประดับระดับต่ำ, เครื่องประดับระดับสูงจะต้องใช้เวลาในการสร้างนาน
“ฉันหวังว่าจะได้ของที่ยอดเยี่ยมนะ, ลิงค์” เอเลนอร์ พูดพร้อมกับกระพริบตา
เงาของหมอกสีเทาห่อหุ้มตัวเธอ เมื่อหมอกกระจายออกไป, เธอก็ได้กลายเป็นอีกาอีกครั้ง, แล้วก็บินออกนอกหน้าต่างไปหลังจากนั้นไม่นาน
หลังจากที่เธอจากไป, การพบกันให้ความรู้สึกเหมือนฝันมากๆสำหรับ ลิงค์ ก่อนหน้านี้, ลิงค์ ยังพิจารณาว่าเธอเป็นศัตรูอยู่เลย แต่ตอนนี้, พวกเขาได้กลายเป็นคู่ค้ากันแล้วและเขายังได้รับความรู้จากคำภีร์แห่งความรู้ลำดับสองด้วย ซึ่งผลก็คือเขาได้รับประโยชน์ที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ
ถ้าไม่ใช่เพราะวัสดุระดับสูงยังวางอยู่ต่อหน้าเขา, เขาคงจะคิดว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นความฝัน
“โลกนี้มันช่างแปลกประหลาดจริงๆ” ลิงค์ อดอุทานออกมาไม่ได้
