ตอนที่แล้วตอนที่ 494 วิญญาณเคียวทมิฬ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 496 ขอโทษนะ พอดีฉันรู้เกี่ยวกับวิชาเนตรนิดหน่อย

ตอนที่ 495 หลิน ฮวงปะทะยู่ เหวินปิง


หลังวิญญาณเคียวทมิฬก่อตัวขึ้นโดยสมบูรณ์ ดวงตาสีฟ้ามันก็ค่อยๆขยับลง จับจ้องมาทางหลิน ฮวง

“ฆ่ามันซะ!”ดวงตาของยู่ เหวินปิงเต็มไปด้วยความโกรธและสั่งวิญญาณต่อสู้ขาอย่างไร้ปราณี

ดวงตาสีฟ้าของวิญญาณทมิฬสว่างขึ้นพร้อมกับคำรามเสียงต่ำ เคียวดำในมือมันจู่ๆก็ขยับ ตัดผ่านอากาศและก่อให้เกิดระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นในอากาศ

แทบจะในเวลาเดียวกับที่เคียวขยับ หลิน ฮวงสามารถรู้สึกได้ถึงอันตรายจากด้านขวาเขา ทันใดนั้นเคียวสีดำยาวกว่าสิบเมตรก็ปรากฏและฟันเอวของหลิน ฮวง

โชคดี หลิน ฮวงรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติแต่แรกด้วยทักษะเขตแดนเขา เขาก้าวถอยหลังและถอยหนีทันที แทบไม่อาจหลบการโจมตีได้

ผลพวงจากคลื่นพลังรูปเสี้ยวสั่นสะเทือน ต้นไม้ทุกต้นตามทางกว่าสิบกิโลเมตรล้วนถูกทำลาย กลายเป็นผงคาร์ไบด์

รูม่านตาหลิน ฮวงขยายขึ้นเมื่อเห็นสิ่งนี้

“นายท่าน วิญญาณทมิฬคือมอนสเตอร์ที่มีเลือดแห่งความตาย แม้ความเข้มข้นจะต่ำและไม่ถูกพิจารณาว่าเป็นเลือดเทพ การโจมตีมันก็ยังสามารถกลืนกินชีวิตของผู้คน เมื่อโจมตีศัตรูที่อ่อนด้อยกว่า มันจะสามารถสูบกลืนพลังชีวิตจำนวนมหาศาลได้ แม้จะสามารถสูบกลืนพลังชีวิตของคนที่แข็งแกร่งกว่าได้ มันก็ยังทำให้พลังชีวิตยากควบคุมและกระจายตัว การหลบการโจมตีมันให้ผลจึงเป็นเรื่องที่ปลอดภัยกว่า”

“ตกลง”หลิน ฮวงพยักหน้าและในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังจากด้านหลังเขา

หลิน ฮวงไม่ได้หันกลังไป เขาก้าวไปข้างหน้าและหายไป

เพียงเมื่อเขาหายไป ลำแสงสีดำก็ปรากฏ มันคล้ายกกับไฟฟ้าที่ทำให้เกิดรอยไหม้เป็นทางยาวกว่าสิบกิโลเมตรในป่า

เมื่อเขาสามารถหลบการโจมตีครั้งที่สองได้ ยู่ เหวินปิงก็หรี่ตาและสั่ง“เพิ่มความถี่การโจมตี ฉันไม่คิดว่ามันจะสามารถหลบได้ทั้งหมด!”

แสงสีดำของดาบปรากฏในอากาศ และความถี่การโจมตีมันก็เร็วกว่าเดิมอย่างน้อยสองเท่า อย่างไรก็ตาม หลินฮวงก็เหมือนกับผู้หยั่งรู้เพราะเขาสามารถหลบแสงสีดำได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ยู่ เหวินปิงสังเกตเห็นว่าหลิน ฮวงสามารถหลบการโจมตีเหล่านี้ได้โดยไม่แม้แต่จะเหลือบตามอง

เขาสงสัย“มันมีความสามารถในการทำนายหรือทักษะจำพวกเขตแดน?”

เมื่อเขาสามารถยืนยันได้ เขาก็รู้ดีว่าความสามารถตัวเขาไม่อาจทำอะไรหลิน ฮวงได้

“ไม่ว่าจะเป็นความสามารถการทำนายหรือทักษะเขตแดน ระยะเวลาหรือขอบเขตมันก็ต้องมีจำกัด”ยู่ เหวินปิงยิ้มและลอบสั่งจิตวิญญาณแฝงเขา“เคียวทมิฬ ปลดปล่อยจันทร์พิฆาต!”

“การโจมตีได้หยุดลงแล้ว...”หลังหลบครั้งสุดท้าย หลิน ฮวงก็สังเกตเห็นว่าศัตรูมันได้หยุดการโจมตีแล้ว

“นายท่าน ระวังตัวไว้ เขาต้องค้นพบว่าผลของการโจมตีไม่อาจทำอะไรท่านได้ บางที เขาคงจะเปลี่ยนเป็นการโจมตีวงกว้างอย่างจันทร์พิฆาต จันทร์พิฆาตสามารถตรวจจับสิ่งมีชีวิตรอบมันได้โดยอัตโนมัติและมันจะโจมตีในรูปบบของหมอก มันจะเหมือนแสงจันทร์ที่สาดส่องไปทั่วทุกหนแห่ง มันไร้ประโยชน์ที่จะหลบการโจมตีดังกล่าวเนื่องจากมันมีรัศมีการโจมตีที่10กิโลเมตร

“เข้าใจแล้ว!”หลังฟังคำแนะนำของเจ้าแดง เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองวิญญาณต่อสู้

ในอากาศ วิญญาณเคียวทมิฬกำลังประสานมือมันอย่างรวดเร็ว ในเวลาอันสั้น ลวดลายซับซ้อนก็ได้ก่อตัวในอากาศ เกิดเป็นตราประทับสีดำ มันยื่นมือมันและวางเคียวไว้ตรงหน้ามัน ตราประทับสีดำดูเหมือนจะฝังลงไปในเคียว พวกมันกำลังผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ

ทันใดนั้นเคียวทรงจันทร์เสี้ยวก็กลายเป็นกระจกดำ

วิญญาณเคียวทมิฬถือกระจกไว้ด้วยมือทั้งสองข้างมันและพลังชีวิตสีดำก็พุ่งไปในกระจกราวกับเขื่อนแตก

หลิน ฮวงรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามและเกือบจะในเวลาเดียวกัน เขาก็เปิดใช้งานโล่ทมิฬ โล่ทมิฬคล้ายกับบอลทมิฬและหลิน ฮวงก็ถูกห้อมล้อมโดยมัน

เพียงเมื่อโล่ทมิฬถูกสร้าง หมอกดำจำนวนมหาศาลก็ก่อตัวขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง โอบล้อมโล่ทมิฬไว้โดยสมบูรณ์

ทันทีที่หมอกดำและโล่ทมิฬสัมผัสกัน เสียงซู่ซ่าก็ดังขึ้นราวกับหยดน้ำที่หยดลงบนกะทะร้อน

หลิน ฮวงสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหมอกดำข้างนอกนั้นเป็นกรดรุนแรงที่พยายามกัดกร่อนโล่ทมิฬอยู่

แม้ความจริงที่ว่าการโจมตีของศัตรูนั้นกินวงกว้าง แต่พลังของการโจมตีก็มีขีดจำกัด มันด้อยเกินกว่าจะทำลายผ่านการป้องกันของโล่ทมิฬได้ แต่มันก็ได้ผลาญพลังชีวิตจากร่างหลิน ฮวงอย่างต่อเนื่อง

หลิน ฮวงคำนวณอัตราการใช้พลังชีวิตเขา ตามอัตราการผลาญของศัตรู เขาสามารถใช้งานโล่ทมิฬได้อย่างน้อยสามวัน แม้จะไม่ใช้การ์ดฟื้นฟูพลังชีวิตก็ตาม

“การโจมตีเช่นนั้นไม่ได้ผลาญพลังชีวิตฉันมาก แต่มันต้องผลาญพลังชีวิตเขาไปมากพอสมควร”หลิน ฮวงมองยู่ เหวินปิงผ่านโล่ทมิฬ เนื่องจากมันถูกปกคลุมด้วยหมอกมืด วิสัยทัศน์เขาจึงได้รับผลกระทบ แต่ทว่า หลิน ฮวงกลับมีสายตาที่น่าทึ่งเพราะเขายังสามารถเห็นสีหน้าของยู่ เหวินปิงได้ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโกรธที่หลิน ฮวงมีทักษะป้องกันเช่นนี้

“สารเลว!”ยู่ เหวินปิงสาปแช่ง การโจมตีนี้ผลาญพลังชีวิตเขาไปเกือบครึ่ง แต่ศัตรูเขากลับสามารถหลบการโจมตีได้ด้วยทักษะป้องกันนั่น

“มันคงไม่ดีแน่หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป คลื่นพลังต่อสู้ได้กระจายออกไปและมันต้องดึงดูดคณบดีแห่งสถาบันนักล่ายุทธ์ เขาจะต้องมาถึงในไม่ช้า”ยู่ เหวินปิงห้ามปรามตัวเอง จากนั้นก็มองวู่ ฟางและตระหนักว่าเขาไม่ได้ขยับตัว เขาสามารถสัมผัสได้ว่าวู่ ฟางยังมีชีวิต แต่เขาคงหมดสติไป“ขยะจริงๆ และตอนนี้มันยังกลายเป็น1ต่อ2 โอกาสชนะแทบจะเป็น0…”(คิดว่าคณบดีมาคนเดียว)

ยู่ เหวินปิงต้องการหนี

หลิน ฮวงสังเกตเห็นว่ายู่ เหวินปิงหันไปมองวู่ ฟาง เขาคาดเดาได้ทันทีว่ายู่ เหวินปิงคงคิดเอาตัววู่ ฟางและหนีไป

“เห้ย เห็นเตรียมตัวโจมตีซะนานแต่ทำได้แค่นี้งั้นหรอ?”หลิน ฮวงยั่วยุอีกครั้ง“ฉันคิดว่าจะเป็นทักษะที่ทรงพลัง แต่ดูเหมือนจะไม่ต่างอะไรกับพวกมือสมัครเล่น!หากนักบุญอาวุโสทั้งหมดเป็นเหมือนแก ฉันก็เหมือนจะมองเห็นอนาคตขององค์กรพวกแกแล้วละ!”

“ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะพระเจ้าแกไม่แข็งแกร่งพอ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมความสามารถของเหล่านักบุญถึงอ่อนแอนัก พระเจ้าแกเป็นเพียงขยะ พระเจ้าแกตอบแทนอะไรแกจากการบริการทุกวันงั้นหรือ?เปลี่ยนมาศรัทธาฉันดีกว่าไหม ฉันสัญญาว่าฉันจะหาอาหารดีๆให้แกทุกวัน...”หลิน ฮวงรู้ดีว่าเมื่อไรที่เขากล่าวถึงพระเจ้าพวกมัน ศัตรูเขาจะถูกกระตุ้นและสูญเสียเหตุผลไป

“ฉันจะฆ่าแก!”ยู่เหวินปิงไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด