ตอนที่แล้วตอนที่ 256 หมอกสีขาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 258 ก่อกำเนิดปราณจิตสัมผัส

ตอนที่ 257 ความน่าอัศจรรย์ของดอกบัวดวงจิตเทพสวรรค์


ตอนที่ 257 ความน่าอัศจรรย์ของดอกบัวดวงจิตเทพสวรรค์

มารปฐพีร้องโหยหวนอย่างไม่หยุด เขากลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด โดยเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความหวาดกลัว

มารปฐพี !! หยางไค่อดทนต่อความเจ็บปวดที่ทุกข์ทรมาณและกล่าวตะโกน : เจ้าเป็นอะไร ?

นายน้อย ... เสียงของมารปฐพีสั่นเทา : มันคือสถานที่อะไรกันแน่ ?ทำไมจิตวิญญานของข้าจึงถูกโจมตี ?

เมื่อได้ยินดังนั้น หยางไค่ทราบสิ่งที่เกิดขึ้นในทันที !! ไม่น่าแปลกที่ศีรษะของเขาเกิดความรู้สึกแห่งความเจ็บปวดที่คุ้นเคย เพราะว่าจิตวิญญานของเขาถูกโจมตีนั่นเอง

ระยะเวลาที่ผ่าน หยางไค่ใช้วิธีการนี้ในการกำราบจือโบและเหลิ่งซาน โดยไม่รู้ว่าในวันนี้ตนเองต้องพบเจอกบความทุกข์ทรมาณเช่นนี้

ความดีจะมีผลตอบแทนของความดี ความชั่วจะมีผลตอบแทนแห่งความชั่วร้าย หากไม่ใช่ในเวลานี้ อาจจะเป็นวันข้างหน้า

จี่เซียที่นำพามาตนเองมายังบริเวณที่ถูกห่อหุ้มด้วยหมอกสีขาวที่หนาทึบ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขามีเจตนาร้ายแอบแฝง แต่ว่าในเวลานี้เขากำลังร้องโหยหยวนในบริเวณที่ห่างออกไปหลายสิบจ้างด้วยความทุกข์ทรมาณอย่างแสนสาหัส ดูเหมือนว่าเขาคงไม่ทราบถึงความลึกลับของสถานที่แห่งนี้ เมื่อพุ่งเข้ามาเขาเองก็ไม่สามารถทนรับต่อความรู้สึกที่เจ็บปวดอย่างทุกขทรามาณเช่นนี้

ในตอนนี้ พวกเขาทั้งสองต่างทนรับต่อความรู้สึกที่เจ็บปวดจากการถูกทรมาณจิตวิญญาน ทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะต่อสู้กันได้อีก

นายน้อย ออกจากที่นี้เร็ว !! หมอกสีขาวเหล่านี้แปลกประหลาดอย่างยิ่ง ...ไม่ทำอันตรายให้แก่เนื้อหนัง แต่ทำอันตรายต่อจิตวิญญานเท่านั้น ข้าทนไม่ไหวแล้ว ! มารปฐพีกล่าวด้วยความรีบร้อน

แม้ว่าเขาจะมีอายุมากกว่าหมื่นปี แต่ในตอนนี้เขาเป็นเพียงจิตวิญญาน ไร้ซึ่งกายหยาบ ในวันทั่วไปเขาซ่อนตัวอยู่ในเข็มสลายวิญญาน แต่เมื่อเขาเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ กลับพบเจอกับดาวข่มของตนเอง ความทุกข์ทรมาณที่เขาได้รับ หนักหนาสาหัสยิ่งกว่าหยางไค่และจี่เซีย

ระยะเวลาสั้นๆ มารปฐพีรับรู้อย่างชัดเจนว่าควมแข็งแกร่งของตนเองลดน้อยลง การค้นพบนี้ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ราวกับว่าตนเองกำลังจะตายในไม่ช้า

ดี เจ้าอดทนหน่อย !! หยางไค่เงยหน้าด้วยความลำบากแสนเข็ย เขาจ้องมองจี่เซีย ซึ่งพบว่าเขากำลังพุ่งตรงออกไป เพื่อหาหนทางออกจากสถานที่แห่งนี้

หยางไค่กัดฟันไว้แน่น อดทนต่อความเจ็บปวด และค่อยๆพุ่งถอยหลังออกจากทิศทางที่ตนเองพุ่งเข้ามาด้วยความเร่งรีบ

เขาถอยหนีออกไปมากกว่า 100 จ้าง แต่รอบบริเวณยังคงเต็มไปด้วยหมอกสีขาวที่หนาทึบเหมือนเดิม

จิตใจของหยางไค่สั่นไหว เขาเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น

ตนเองที่พุ่งเข้ามาในหมอกสีขาวนี้ มากที่สุดก็เพียงไม่กี่จ้างเท่านั้น แต่ในตอนนี้ทำไมถึงไม่สามารถอยหนีออกไปได้ ? หยางไค่ไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นเขาได้วิ่งถอยหนีออกไปอีกหลายร้อยจ้าง แต่มันก็ยังเป็นเหมือนเช่นเคย !

มารปฐพี ...สถานที่แห่งนี้ประหลาดอย่างยิ่ง ข้าออกไปไม่ได้ ! สีหน้าของหยางไค่แปรเปลี่ยนอย่างกะทันหัน

มารปฐพีร้องโหยหวนด้วยความน่าสงสาร เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวัง : หรือว่าในวันนี้ ..ข้าต้องตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ? ข้าไม่ยอม ข้าไม่ยอม !!

เขาถูกปิดผนึกในถ้ำสวรรค์แห่งมรดกฟ้าสวรรค์ไม่รู้กี่ปี จนกระทั่งที่ตราผนึกแห่งถ้ำสวรรค์แห่งมรดกฟ้าสวรรค์ถูกปลดปล่อย เขาจึงสามารถหนีออกมาจากพันธนาการ แม้ว่าจะถูกหยางไค่กำราบ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็หนีออกมาจากการถูกปิดผนึก แต่ในตอนนี้ต้องพบเจอกับสถานการณ์แห่งความเป็นความตาย มันจึงทำให้มารปฐพีรู้สึกไม่พอใจต่อโชคชะตาที่ตนเองได้รับ

หยางไค่ขมวดคิ้วไว้แน่น เขาก้มหน้าลงต่ำเพื่อทนรับต่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น เขาได้ตรวจสอบสภาพของรอบๆบริเวณและคิดหาหนทางในการหนีออกไป

สถานที่แห่งนี้ต้องถูกพันธนาการด้วยข้อห้ามบางอย่าง ดังนั้นมันจึงแปลกประหลาดเช่นนี้ ในเวลานี้ไม่สามารถกล่าวถามมารปฐพีได้ หยางไค่ไม่ทราบถึงต้นตอของข้อห้าม แล้วเขาจะสามารถทำลายมันได้อย่างไร ?

ข้ารู้สึกมึนไปหมด .. ดวงตาของหยางไค่เริ่มพร่ามัว การก้าวเท้าของเขาเริ่มโอนเอียงไปมา

แย่แล้ว เกิดอันตรายขึ้นแล้ว มันเป็นสัญญานจากการถูกทรมาณจิตวิญญาน หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป นายน้อนจิตวิญญานของท่านต้องถูกทำลายจนมันสลายไปอย่างแน่นอน

สีหน้าของหยางไค่อึ้งไปชั่วขณะ เขาอดทนต่อความเจ็บปวด ความคิดเริ่มหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง

ทันใดนั้น ดวงาของหยางไค่เป็นประกาย เขาได้กล่าว : มาปฐพี เข้าสู่กระดูกทองคำของข้าและลองทดสอบดู !

อะไรคือกระดูกทองคำ ? โอ้ว . มารปฐพีไม่เข้าใจในคำกล่าวของหยางไค่ แต่ทันใดนั้นเขาเข้าใจอย่างกระจ่าง เขารีบหลบซ่อนไปยังภายในของกระดูกทองคำ

ผ่านไปสักครู่ เสียงหัวเราะของมารปฐพีดังขึ้น : ฮ่าฮ่าฮ่า ...นายน้อย กระดูกทองคำของท่านช่วยได้ มันสามารถต่อต้านการโจมตีของหมอกสีขาวเหล่านี้ ในตอนนี้ข้าปลอดภัยแล้ว !!

หยางไค่หัวเราะอย่างขมขื่น : เจ้าปลอดภัย ข้าตกอยู่ในอันตาย !

กระดูกทองคำไร้ซึ่งจุดสิ้นสุด ราวกับมหาสมุทรยิ่งใหญ่ ไม่ว่าพลังเช่นไรมันก็สามารถดูดซึมได้ แม้ว่าหยางไค่ไม่ทราบว่าหมอกสีขาวมี่ชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร แต่ในเมื่อมันสามารถโจมตีจิตวิญญาน มันต้องมีพลังที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ดังนั้นเขาจึงเกิดความคิดให้มารปฐพีทดสอบ และมันก็เป็นดั่งที่เขาคาดคะเนเอาไว้

นายน้อย ท่านต้องทนเอาไว้ ! มารปฐพีกล่าวให้กำลังใจด้วยความตื่นตระหนก แม้ว่าในตอนนี้เขาจะปลอดภัย แต่หากหยางไค่ตาย เขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากความตาย

มีหนทางให้จิตวิญญานของข้าเข้าไปยังภายในของกระดูกทองคำไหม ? เส้นโลหิตบนหน้าผากของหยางไค่กำลังจะระเบิด เสื้อผ้าของเขาเปียกชุ่มด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง เขากำหมัดไว้แน่น ร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง

การบ่มเพาะพลังของท่านยังไม่บรรลุเขตแดนเทพสวรรค์ . มารปฐพีสูดลมหายใจเข้า ในเมื่อยังไม่บรรลุเขตแดนเทพสวรรค์ ไม่สามารถที่จะฝึกฝนปราณจิตสัมผัส แล้วจิตวิญญานของเขาจะเข้าสู่กระดูกทองคำได้อย่างไร ?

หยางไค่กัดฟันไว้แน่น เขาต่อต้านความเจ็บปวดอย่างสุดกำลัง พลังลมปราณของเขาปลดปล่อยออกมาด้วยความผกผันและวุ่นวายโดยไม่สามารถควบคุมได้

ความเจ็บปวดดำเนินต่อไปอย่างยาวนาน ความรู้สึกที่เวียนศีรษะได้เกิดขึ้นอีกครั้ง หยางไค่ชันเขาลง และล้มลงไปที่พื้น จิตวิญญานของเขาถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งที่ 2

จากความเร็วในการถูกทำลายจิตวิญญานเช่นนี้ อีกไม่นานจิตวิญญานของตนเองต้องถูกทำลายไปอย่างแน่นอน เขาต้องหาหนทางในการทำลายภัยอันตรายที่เกิดขึ้น

แม้ว่าสถานการณ์ภายนอกจะเร็วร้าย แต่ภายใต้สถานการณ์ที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย มันยิ่งทำให้หยางไค่สงบนิ่งมากขึ้น ในชั่วระยะเวลาสั้นๆ ในขณะที่ความเจ็บปวดทุกข์ทรมาณจากการโจมตียังไม่เกิดข้น หยางไค่ได้รวบรวมสติของเขาและเริ่มค้นหาหนทางในการปลดเปลื้องจากการถูกพันธนาการด้วยหมอกสีเขาวเหล่านี้

ในขณะที่หยางไค่กำลังรวบรวมสติของเขา ทันใดนั้นศีรษและจิตใต้สำนึกของเขาได้ก่อเกิดความรู้สึที่เย็นสบายอย่างใสสะอาด สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความรู้สึกที่ผิด แต่เขารับรู้และสัมผัสมันได้อย่างชัดเจน

เมื่อความรู้สึกเย็นสบายอย่างใสสะอายแพร่กระจายออกไป การรับรฅู้ของเขาชัดเจนเหมือนเช่นเคย ร่างกายของเขารู้สึกสบายอย่างอบอุ่น ความรู้สึกเจ็บปวดทุกข์ทรมาณบนศีรษะได้หายไป ความรู้สึกที่มีสติทะยุานขึ้นสู่จุดสูงสุด มันเต็มไปด้วยความนุ่มนวลที่ละมุน แม้แต่ใบหน้าที่ซีดขาวเริ่มแดงก่ำมากยิ่งขึ้น

อืม ? ใบหน้าของหยางไค่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาค่อยๆลุกขึ้น และเริ่มสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเอง โดยที่เขาขมวดคิ้วไว้แน่นด้วยความสงสัย

นายน้อย ? มารปฐพีกล่าวเรียกอย่างแผ่วเบา

หยางไค่ไม่กล่าวตอบ เขากำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งการสัมผัสและรับรู้ หลังจากนั้น เสียงอึมครึมดังขึ้น ความรู้สึกที่เจ็บปวดเกิดขึ้นอีกครั้ง มันเป็นความเจ็บปวดที่มนุษย์สามัญทั่วไปไม่สามารถทนรับต่อมันได้

ความเจ็บปวดนี้ดำเนินออกไปชั่วเวลาหนึ่ง หลังจากที่ความเจ็บปวดทะยานขึ้นไปยังขีดำจำกัดสูงสุดของมัน ความรู้สึกที่เวียนศีรษะได้เกิดขึ้นอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกที่เย็นสบายอย่างใสสะอาดได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่เพียงทำลายความรู้สึกที่เวียนศีรษะ แม้แต่ความรู้สึกที่เจ็บปวดก็ถูกทำลาย

มันเป็นเหมือนสถานกาณร์ที่ผ่า่นมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน

ในครั้งน้หยางไค่สัมผัสได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ในที่สุดมันก็ทำให้เขาทราบถึงจุดที่สำคัญที่สุดของมัน

ความรู้สึกเจ็บปวดเกิดขึ้นจากหมอกสีขาวที่โจมตีจิตวิญญานของตนเอง ความรู้สึกที่เวียนศีรษะเป็นผลกระทบจากการที่จิตวิญญานถูกโจมตี แต่ว่า 2-3 ครั้งที่ผ่าน หยางไค่กลับไม่รู้สึกว่าจิตวิญญานของตนเองถูกทำลาย แต่มันยังมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ราวกับว่าการรับรู้ของตนเองเริ่มขยายใหญ่ยิ่งขึ้น มันเป็นสัญญานกล่าวบอกว่าจิตวิญญานของตนเองมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

แม้ว่ามันจะมีความก้าวหน้าที่ไม่สูง แต่มันมีความก้าวหน้าจริงๆ

หยางไค่ดีใจอย่างสุดขีด?

มารปฐพี ในครั้งนี้ข้าได้รับโชควาสนาในสถานการณ์แห่งความวิบัติ ! หยางไค่หัวเราะอย่างกะทันหัน ยังมิทันที่เสียงหัวเราะของเขาจะหยุดลง เสียงที่อึมครึมจากลำคอได้ดังขึ้นอีกครั้ง สองมือของเขาจับไว้บนศีรษะไว้แน่น ร่างกายสั่นเทาอย่างน่าหวาดกลัว

ผ่านไปอยา่งเนิ่นนาน เมื่อหยางไค่กลับเข้าสู่สภาวะปกติ มารปฐพีจึงกล่าวถาม : เกิดอะไร ?

ดอกบัวดวงจิตเทพสวรรค์กำลังแสดงอนุภาคความสามารถของมัน หยางไค่กล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม : มันกำลังรักษาและฟื้นฟูจิตวิญญานที่ได้รับบาดเจ็บของข้า !!

มารปฐพีตื่นตะลึง เขาแสดงสีหน้าที่เข้าใจอย่างกระจ่าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด