ตอนที่แล้วตอนที่ 222 หน้าผา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 224 ลูกแก้วชีพจรโลหิต 2 ดวง

ตอนที่ 223 กลางอากาศ


ตอนที่ 223 กลางอากาศ

แม้ว่าทั้งสองจะมีคนหนึ่งที่กระโดดลงมาก่อนและอีกคนที่กระโดดตาม แต่หยางไค่ตกลงมาโดยแรงโน้มถ่วงโดยธรรมชาติ ส่วนยูเฉินคุงใช้พลังลมปราณในการกระโดดลงมา ดังนั้นความเร็วของพวกเขาจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ ความเร็วของผู้ที่กระโดดมาทีหลังเร็วกว่าเขาอย่างยิ่ง

เจ้าเด็กน้อย แม้ว่าจะตาย เจ้าก็ตายอยู่ในมือของเขา !! ยูเฉินคุนได้พุ่งมาหาหยางไค่ยังรุนแรง และยังกล่าวตะโกนด้วยความเยือกเย็น

กลางอากาศ กรงเล็กปีศาจทั้งสองของยูเฉินคุนเริ่มเคลื่อนไหวไปมา สีหน้าทีบิดเบี้ยวได้กลายเป็นสีขาวซีดในทันที ใบหน้าของเขาในตอนนี้คล้ายคลึงกับใบหน้าวิญญานของมารปฐพีในครั้งแรกที่เขาพบเจอ สีหน้าเต็มไปด้วยความน่าเกลียดดุดันและโหดเหี้ยม และมันยังประกายด้วยกลิ่นอายแหก่งความโกรธแค้นชั่วร้าย ราวกลับวิญญาณของปีศาจที่เลวทราม มันได้พุ่งมายังด้านหน้าของหยางไค่ในพริบตา

หยางไค่ยกมือขึ้นและพุ่งหมัดไปยังใบหน้าวิญญานแห่งปีศาจที่น่าเกลียด แต่เขาไม่สามารถหยุดยั้งมันได้แม้แต่น้อย แต่กลับถูกใบหน้าวิญญาณที่น่าเกลียดนี้พุ่งเข้าผสานเข้าสู่ร่างกาย

แขนของหยางไค่มีความรู้สึกที่เย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมา หยางไค่ทนไม่ได้จนร่างกายกระตุกไปมาหลายครั้ง แขนของเขาถูกปกคลุมด้วยผลึกน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว

ยูเฉินคุนหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่ชั่วร้ายออกมา : เจ้าตายแน่ !!!

กระบวนท่านี้คือเคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ที่ชั่วร้ายของทะเลสาปจักรพรรดิปีศาจ ตราประทับปีศาจจอมราชันย์!! มันเกิดขึ้นจากการหลอมจิตวิญญาณของผู้มีชีวิตให้กลายเป็นวิญญาณปีศาจ เมื่อจับกุมใครมาสักคน แล้วจึงทรมาณและสร้างความอัปยศให้แก่เขา ทำให้เขาตายอย่างทุกข์ทรมาณ ทำให้เขาได้รับความเกรี้ยวโกรธและความโกรธแค้นอย่างสุดขีด เมื่อถึงในช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้วจึงฆ่าเขา มันมีวิธีการที่วิเศษในการดึงจิตวิญญานนั้นออมา ก่อนจะดูดซับเข้าไปในร่างกายเพื่อบ่มเพาะพลังความแข็งแกร่งของตนเอง

การโจมตีด้วยตราประทับปีศาจจอมราชันย์ของศิษย์สาวกแห่งทะเลสาบจักรพรรดิปีศาจเป็นเรื่องยากที่จะให้คนธรรมดาสามัญป้องกันและหยุดยั้งมัน เมื่อถูกวิญญานปีศาจที่เกรี้ยวโกรธพุ่งผสานเข้าสู่ร่างกาย ศัตรูของเขาจะกลายเป็นลูกแกะที่เชื่อฟังในทันที

ยูเฉินคุนไม่ต้องการที่จะเสียเวลา ดังนั้นเขาต้องใช้วิธีการที่เร็วที่สุดในการฆ่าหยางไค่ เพื่อให้ร่างกายและโลหิตของหยางไค่กลั่นตัวเป็นลูกแก้วชีพจรโลหิต

กระบวนท่าเดียวประสบความสำเร็จในการโจมตีหยางไค่ เขาเอื้อมมือออกไปและคว้าร่างกายของหยางไค่เอาไว้ในที่สุด

แต่ทันใดนั้น ร่างกายของยูเฉินคุนสั่นสะท้านไปมา สีนหน้าของเขากลายเป็นสีขาวซีดและกลายเป็นสีทอง เขาอ้าปากและพ่นโลหิตสีแดงสดออกมา

ในตอนนั้นเอง เขารู้สึกว่าวิญญานปีศาจที่เชื่อมต่อกับร่างกายของเขาที่เขาเพิ่งพุ่งโจมตีออกไปถูกทำลายในทันที !! วิญญานปีศาจเชื่อมโยงกับโลหิตพลังลมปราณแท้จริงและจิตวิญญานของเขา เมื่อวิญญานปีศาจถูกทำลาย มันทำให้ร่างกายของยูเฉินคุนได้การโต้กลับที่รุนแรงอย่างสาหัส

เกิดอะไรขึ้น ? ยูเฉินคุนแสดงสีหน้าที่ตื่นตกใจ เขาก้มหน้าลงมอง ซึ่งมองเห็นผลึกน้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่บนแขนของหยางไค่หลอมละลายอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นใบหน้าของศิษย์แห่งสำนักหลิงเซี่ยวยังประกายด้วยความรอยยิ้มที่ได้ใจ

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า................. มารปฐพีหัวเราะอยู่ภายในร่างกายของหยางไค่อย่างบ้าคลั่ง : ไม่คิดเลยว่า ไม่คิดเลยว่า ข้าไม่สามารถลงมือได้ แต่กลีบมีคนส่งอาหารอันโอชะให้แก่ข้า !! ไม่เลว ไม่เลว !! วิญญาณปีศาจเต็มไปด้วยความชั่วร้ายอันมากมาย รสชาตของมันช่างหอมหวานยิ่งนัก !!

มารปฐพีอ้าปากเพียง 2-3 ครั้งก็สามารถกลืนกินวิญญาณปีศาจที่ชั่วร้ายนั้นจนหมดสิ้น มารปฐพีเลียริมฝีปากของตนเองและกล่าว : นายน้อย ถามเขาสิว่ามีวิญญาณที่ชั่วร้ายเช่นนี้อีกหรือไม่ ให้ข้าส่งมาอีก ส่งมาจนกว่าข้าจะอิ่ม !!

เหมือนว่าจะไมมีอีกแล้ว !! เมื่อหยางไค่มองเห็นยูเฉินคุงได้รับผลกระทบเช่นนี้ เขาทราบในทันทีว่าวิญญาณปีศาจเป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับเขา วิญญาณปีศาจที่ล้ำค่าเช่นนี้ยูเฉินคุนคงไม่มีมันอีก

เมื่อได้ยินคำกล่าวพึมพำของหยางไค่ สีหน้าของยูเฉินคุนแปรเปลี่ยนเป็นความเยือกเย็น : เป็นเจ้า !! เจ้าใช้วิธีการในการทำลายตราประทับปีศาจจอมราชันย์ของเขา !!

หยางไค่หัวเราะอย่างเยือกเย็น : เจ้าลองเดาดูสิ !!

ข้าจะฆ่าเจ้า !! ยูเฉินคุนตะโกนด้วยความโกรธ เขากลางสองมือดั่งกรงเล็บที่แข็งแกร่งและพุ่งโจมตีหยางไค่ในทันที กรงเล็บปีศาจของเขาประกายด้วยแสงที่น่าขนลุก และยังเต็มไปด้วยเจตนาแห่งการฆ่าที่พลุ่งพล่าน

ฮวา !!! คลื่นแสงสีทองสองดวงได้พุ่งมาจากด้านหลังของหยางไค่อย่างฉับพลัน เมื่อสัมผัสถึงพลังลมปราณที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและดุดัน ทำให้จิตใจของยูเฉินคุงตื่นตระหนก เขารีบปล่อยหยางไค่ และยังได้ดึงกรงเล็บที่กำลังจะพุ่งออกไปกลับไป สองมือแปรเปลี่ยนเป็นกระบวนท่าในการป้องกันทันที

ในขณะที่เขาเพิ่งเสร็จสิ้นจากการกระทำเช่นนี้ เขากลับมองเห็นหยางไค่ที่กระโดดลงมาจากหน้าผาได้ลอยขึ้นมาและหยุดนิ่งในตำแหน่งเดิม แต่ตนเอง กลับยังคงดิ่งลงไปยังหุบเขาด้านล่างอย่างรวดเร็ว

เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ม่านตาของยูเฉินคุนเบิกโพลงและหดลงในทันที

เขามองเห็นศิษย์แห่งสำนักหลิงเซี่ยลอยอยู่บนอากาศอย่างสง่างาม ดวงตาที่เยือกเย็นจ้องมองเขาอย่างเย็นชา ดั่งพญาอินทรีที่กำลังจ้องมองปฐพีที่กว้างไกล ร่างกายของเขาได้แพร่กระจายกลิ่นอายที่มิอาจล่วงเกินดูหมิ่นและกลิ่นอายที่สง่างามออกมา

และด้านหลังของเขา

มีปีกสีแดงโลหิต 1 คู่ !! มันเป็นดั่งเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ห้วงอากาศรอบๆบริเวณต่างบิดเบี้ยวอย่างสุดขีด

เขาที่ยืนอยู่บนนั่น ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและเกลียดชัง !!

ยูเฉินคุนไม่กล้าที่จะเชื่อสายตาของตนเอง

มันคือสมบัติวิเศษประเภทไหน !! ไม่สิ สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถใช้สมบัติวิเศษ สิ่งนั้นไม่ใช่สมบัติวิเศษ หรือมันเป็นเคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ ? เคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้แขนงไหนถึงสามารถสำแดงอนุภาคที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ เคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้เช่นไรที่สามารถทำให้ด้านหลังของมนุษย์ก่อกำเนิดปีกอันมหึมาและสง่างามออกมา

จิตใจของเขาตกอยู๋ในความตื่นตะลึงและความสับสนวุ่นวาย ราวกับว่าเขาได้สูญเสียสติของตนเองไปชั่วขณะ

หยางไค่ได้เปิดใช้เพลิงปีกอัคคีโลกันย์ และรีบบินลงไปยังด้านล่างอย่างรวดเร็ว

สถานการณ์เมื่อสักครู่เปลี่ยนแปลงไปในทันที ในตอนนี้ตำแหน่งของพวกเขาได้สลับกัน จิตใจของยูเฉินคุนเต็มไปด้วยความตื่นตกใจอย่างสุดขีด แต่เขาไม่กล้าที่จะรอช้า เขารีบเคลื่อนไหวพลังลมปราณแท้จริง และค่อยปรับความเร็วให้ช้าลง และเกือบที่จะสามารถรักษาตำแหน่งที่มั่นคงเอาไว้

ถึงกระนั้น หยางจะให้โอกาสเขาทำเช่นนั้นได้อย่างไร ? เขาได้บินขึ้นเหนือศีรษะของยูเฉินคง ก่อนจะพุ่งหมัดลงไปยังกลางกระหม่อมของเขาอย่างรุนแรง

จิตใจของยูเฉินคุนสาปแช่งด้วยความขมขื่น มันเป็นความจริงที่เขาเป็นผู้ฝึกยุทธุ์แห่งเขตแดนลมปราณแท้จริง แต่ก็อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงขั้นที่ 3 เท่านั้น หากไร้ซึ่งการขัดขวาง เขาจะสามารถเหาะเหินบนกลางอากาศได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อมีการโจมตีที่รุนแรงและแข็งแกร่ง เขาจะสามารถเหาะบินอย่างมั่นคงได้อย่างไร ?

กล่าวอีกนัย ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งเขตแดนลมปราณแท้จริง เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธุ์ที่เพิ่งหัดบินบนกลางอากาศ เขาไม่สามารถที่จะต่อสู้บนกลางอากาศกับศัตรูของตนเอง

เมื่อหยางไค่พุ่งโจมตีเข้ามา เขาจำเป็นต้องใช้พลังลมปราณแท้จริงทั้งหมด เพื่อโต้กลับ

ปัง !!! ความเร็วในการดิ่งลงไปยังเบื้องล่างเร็วกว่าเมื่อสักครู่อย่างยิ่ง เมื่อดิ่งสู่ด้านล่างด้วยความรวดเร็วที่มิอาจควบคุม ลมกระแทกที่พัดเข้ามาทำให้เขาไม่สามารถที่จะลืมตา ปากและจมูกของเขามืดมนไปหมด

เขาพยายามที่จะเคลื่อนไหวพลังลมปราณแท้จริง เพื่อดิ่งลงไปยังด้านล่างอย่างปลอดภัย แต่ในขณะที่กำลังจะรักษาเสถียร์ภาพของตนเอง เหนือศีรษะของเขาได้มีกลิ่นอายแห่งเจตนาการฆ่าพุ่งเข้ามาอีกครั้ง

จิตใจของยูเฉินคุนเต็มไปดวยความตื่นตกใจ เขาไม่คาดคิดว่าความเร็วของหยางไค่จะรวดเร็วเช่นนี้ ในช่วงเวลาแห่งที่วุ่นวายเขาได้เคลื่อนไหวพลังลมปราณเพื่อป้องกัน แต่มันจะสามารถป้องกันการโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของหยางไค่ได้อย่างไร ?

ยูเฉินคุนรู้สึกปวดร้าวจากสองมือของเขา พลังลมปราณที่ร้อนระอุได้พุ่งเข้าสู่เส้นชีพจรของเขาและพุ่งเข้าสู่จุดตันเถียนของเขา

จนถึงตอนนี้เขาจึงตะหนักได้ว่าศิษย์แห่งสำนักหลิงเซี่ยวผู้นี้มิใช่ผู้ที่จะสามารถเผชิญหน้ากับรูปลักษณ์โดยทั่วไปของเขา ตราประทับปีศาจจอมราชันย์ของเขาถูกทำลายอย่างไร้ซึ่งสุ้มเสียงและยังมีเคล็ดวิชาที่กำเนิดปีกขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของเขา นอกจากนั้นพลังลมปราณของเขายังบริสุทธุ์อย่างสุดขีด มันกำลังเป็นตัวของสุภาษิตที่ว่า ลูกหมูกลืนกินพยัคฆ์ร้าย !!

ความอ่อนแอที่ตนเองมองเห็นในตอนแรก เป็นเพียงการแสแสร้งเพื่อล่อให้ตนเองเข้าสู่กับดักที่เขาวางเอาไว้

จิตใจของยูเฉินคงเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างสุดขีด เขาไม่น่าโลภที่ต้องการขวดยาเหล่านั้นและกระโดดตามเขาลงมา ในตอนนี้ร่างกายของตนเองลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ พลังความแข็งแกร่งทั้งหมดสามารถแสดงออกมาไม่ถึง 1 ใน 3 ส่วน เขากำลังถูกเจ้าเด็กแห่งสำนักหลิงเซี่ยวควบคุมเอาไว้ โดยไม่ทราบว่าเขาจะฆ่าตนเองเมื่อไหร่

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เขามองเห็นหยางไค่พุ่งโจมตีด้วยเจตนาแห่งการฆ่า ในตอนนี้มองไม่เห็นแม้แต่เงาของหน้าผาที่อยู่เบื้องบน ตนเองกำลังดิ่งลงมายังด้านล่างกว่า 500 จ้าง ในเวลานี้หากคิดจะบินขึ้นไปก็มิอาจที่จะทำเช่นนั้น

ปัง !! !!

อ๊า !!!!!!!!!เสียงโหยหวนของยูเฉินุคนดังขึ้น เขารู้สึกเพียงว่าหัวไหล่ของเขาถูกโจมตีจนมันแตกสลาย ทำให้ความเร็วในการดิ่งลงรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

จากความเร็วในการดิ่งลงเช่นนี้ หากปะทะกับพื้นดินด้านล่าง ร่างกายและกระดูกภายในจะแตกสลายกลายเป็นเถ้าธุรีในทันที

กลิ่นอายแห่งความตายกำลังใกล้เข้ามา ความเยือกเย็นพุ่งเข้าสู่กระดูกสันหลังของยูเฉินคุน อัวยวะภายในสั่นระรัว เขากล่าวอ้อนวอนภาวนา แต่เมื่อเขาอ้าปาก ลมรอบๆบริเวณได้พุ่งเข้าสู่ปากของเขา ทำให้เขาไม่สามารถที่จะกล่าวอะไรออกไปได้

กลางอากาศ เงาร่างทั้งสองกำลังดิ่งลงอย่างรวดเร็ว สิ่งที่แตกต่งคือคนที่อยู่ด้านล่างคือยูเฉินคุนที่มิอาจตอบโต้ ส่วหยางไค่ที่อยู่ด้านบนกำลังเคลื่อนไหวหมัดเปลวเพลิงผลาญอัคคีที่โหดเหี้ยม เขาไล่ตามร่างกาของยูเฉินคุนและพุ่งโจมตีออกไป

* บูม ... บูม ... บูม ... *

ทุกครั้งที่โจมตี หยางไค่จะเว้นระยะห่างเป็นเวลานาน เพราะความเร็วในการดิ่งลงของยูเฉินคุนเร็วกว่าทุกครั้งๆ เมื่อหยางไค่ไล่ตามไปมันจึงต้องใช้เวลาสักระยะ

และไม่รู้ว่าพวกเขาดิ่งลงสู่เบื้องล่างมานานแค่ไหน และยิ่งไม่รู้ว่าหน้าผานี้สูงมากเท่าไหร่ สีหน้าของหยางไค่และยูเฉินคุนต่างเข้าสู่เมฆหมอกที่ขาวสลวย ราวกับว่ากำลังถูกห่อหุ้มด้วยเมฆหมอกเหล่านี้

หยางไค่โจมตีออกไปถึง 10 ครั้ง แขนข้างหนึ่งของยูเฉินคุงถูกทลายจนพิการ กระดูกแขนทั้งสองข้างหักเป็นเสี่ยงๆ โลหิตสีแดงสดไหลทะลักออกมา กลายเป็นฉากเหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัวและน่าสังเวชใจอย่างยิ่ง

การต่อสู้ในกลางอากาศ เมื่อมีการช่วยเหลือจากเพลิงปีกอัคคีโลกันย์ หยางไค่จึงเป็นสามารถแสดงพลังความแข็งแกร่งและเป็นจ้าวแห่งการต่อสู้ในครั้งนี้ !!

หากไม่ใช่เพราะยูเฉินคุนหมุนเวียนพลังลมปราณของเขา เพื่อชะลอการดิ่งลงสู่เบื้องล่าง หยางไค่ไม่มีทางที่จะตามเขาทันที ในเมื่อยูเฉินคุนกลับกลายเป็นสภาพเช่นนี้ ยูเฉินคุนจึงดิ่งลงเบื้องล่างอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นๆ

อีกครั้งที่ยูเฉินคุนเงยหน้าขึ้นมอง เขามองเห็นหยางไค่ที่่กำลังพุ่งโจมตีเข้ามาอีก มันทำให้เขาตื่นตระนกจนดวงตามืดมน สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดขีด

แขนของเขาถูกทำลาย เขาไม่สามารถต่อต้านการโจมตี เมื่อหยางไค่โจมตีออกไป มันคือความตายของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่สิ่งที่ทำให้ยูเฉินเหวินตะลึง นั้นคือสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปของหยางไค่ กระบวนท่าที่เขากำลังจะพุ่งโจมตีถูกดึงกลับไป ปีกสีแดงโลหิตด้านหลังของเขากระพืออย่างรุนแรง ทำให้ความเร็วในการดิ่งลงไปค่อยๆชะลอตัวช้าลงๆ และทำให้ร่างกายของเขาค่อยๆนิ่งลงและหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ

เมื่อหนีรอดจากความตาย ยูเฉินคุนไม่รู้สึกดีใจแม้แต่น้อย เพราะเขาทราบดีว่ทำไมหยางไค่จึงดึงมือกลับไป และพยายามกระพือปีกเพื่อชะลอการดิ่งลงไปยังด้านล่างของตนเอง

เมื่อเงยหน้าลงมอง มันเป็นอย่างที่เขาคาดคิด เบื้องล่างประมาณ 10 จ้างคือพื้นดิน

เขาพยายามหมุนเวียนพลังลมปราณแท้จริง เพราะเขาคาดหวังว่าตนเองจะสามารถดิ่งลงสู่พื้นดินเบื้องล่างอย่างปลอดภัย

แต่ความเร็วในการดิ่งลงของเขารวดเร็วอย่างยิ่ง ระยะห่างเพียงไม่กี่จ้าง กระชั้นชิดขึ้นในพริบตา

ปัง ..

ทันใดนั้น คิ้วของหยางไค่กระตุกไปมาอย่างรุนแรง

ในขณะที่ยูเฉินคุนกระแทกลงไปที่พื้นดินด้านล่าง โลหิตสีแดงกระจายตัวดั่งบุพผาที่เปล่งบาน ชิ้นเนื้อ ชิ้นส่วนต่างของร่างกายกระจัดกระจายไปมา ก่อเกิดเป็นภาพที่น่าหวาดกลัว

ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งเขตแดนผสานลมปราณขั้นที่ 3 หากเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง หยางไค่มั่นใจว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะชนะ แต่เมื่อใช้วิธีการเช่นนี้ ศัตรูของเขาจะไม่สามารถสร้างอันตรายให้แก่เขาและศัตรูของเขาจะตายโดยไร้ซึ่งที่ฝังศพ

ไม่ว่าจะตอนไหนก็ห้ามดูถูกศัตรูของตนเอง !! หยางไค่เม้มริมฝีปากและกล่าวพึมพำอย่างเงียบๆ

ในขณะที่ยูเฉินคุนตายไป ใบหน้าของจิงฮ่าวและศิษย์สาวกหญิงที่วิ่งมาถึงหน้าผาแปรเปลี่ยนอย่างกะทันหัน

พวกเขาทั้ง 3 จากทะเลสาปจักรพรรดิ์ปีศาจ มีวิธีที่วิเศษในการสืบหาตำแหน่งและการมีชีิวิตของกันและกัน เมื่อยูเฉินคุนตาย จิงฮ่าวและศิษย์สาวกหญิงนางนี้รับรู้ในทันที

ศิษย์พี่ยูตายแล้ว ? ศิษย์พี่หญิงอ้าปากค้าง นางยืนนิ่งอยู่บริเวณด้วยร่างกายที่แข็งทื่อ

จิงฮ่าวพุ่งไปที่หน้าผา เขาก้มหน้าลงมอง มองเห็นเพียงเมฆหมอกที่บดบังทุกอย่าง ทันใดนั้เขาจึงกล่าวตะโกนด้วยความโกรธแค้น : เขาต้องถูกลากลงไปจนถึงแก่ความตายโดยเจ้าเด็กน้อยจากสำนักหลิงเซี่ยวอย่างแน่นอน !

ทำไมถึงไม่ระวังเช่นนี้ !! ศิษย์สาวกหญิงกระทืบเท้าด้วยความเกลียดขัง : ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงขั้นที่ 3 แม้ว่าจะถกลากลงไปจากหน้าผา เพียงแค่ระมัดระวังตัวเล็กน้อย ก็จะสามารถบินขึ้นมาได้

สีหน้าของจิงฮ่าวแสดงออกอย่างน่าเกลียด : ดูเหมือนว่าพวกเรามองเจ้าเด็กน้อยแห่งสำนักหลิงเซี่ยวผิดไป เขาต้องซ่อนเร้นวิธีการที่แข็งแกร่งบางอย่าง จึงทำให้ศิษย์น้องไม่สามารถสัมผัสได้ และตกลงไปยังกับดักที่เขาวางไว้ อ๊ยยะ ..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด