ตอนที่แล้วตอนที่ 490 ปัญหา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 492 ฉันรู้ว่าผู้ควบคุมที่แกหามีหน้าตายังไง

ตอนที่ 491 เล่นกับมันหน่อย


ในไม่ช้า ผลที่ได้จากสมบัติเขาก็เผยตรงหน้าหวัง ซือจุน

“มีระดับนิรันดร์ขั้น3และนิรันดร์ขั้น5ทางตะวันออกเฉียงใต้”หลังจากลังเลสักพัก หวัง ซือจุนก็ออกจากป่าหมอก“2ปะทะ1ไม่ใช่เรื่องตลก ฉันต้องหาคนมาช่วย!”

จากนั้นเขาก็อัญเชิญประตูมิติเขาและก้าวเข้าไป

หลังจากนั้นสักพัก เขาก็พบคณบดีจางและพาเขาเดินไปทางประตูมิติ

“นายจะปล่อยมือฉันได้รึยัง?”จาง เสวี่ยเฟิงดูว้าวุ่นเมื่อหวัง ซือจุนยังคงจับมือซ้ายเขาโดยไม่แสดงสีหน้าอะไร

คนจะคิดยังไงหากเห็นสองคณบดีจูงมือกันและเข้าไปในประตูมิติ?

ใช่ อาจารย์กว่าร้อยในสถาบันเห็นมันและมีเพียงคำพูดเดียวเท่านั้นที่สามารถอธิบายได้บนใบหน้าพวกเขา

จาง เสวี่ยเฟิงรู้สึกว่ามือเพียงข้างเดียวของหวัง ซือจุนกลับทำลายภาพลักษณ์ที่เขาสร้างขึ้นมาหลายปี

“เอิ่ม ฉันขอโทษ ฉันตื่นเต้นมากไปหน่อย....ไม่สิ ฉันหมายถึงฉันกังวลมากไปหน่อย”จากนั้นหวัง  ซือจุนก็ปล่อยมือ

“บอกฉันมา เกิดอะไรขึ้น?”จาง เสวี่ยเฟิงสังเกตเห็นว่าหวัง ซือจุนมาหาเขาเพราะเขาไม่อาจรับมือได้เพียงลำพัง

“มีระดับนิรันดร์ขั้น3และขั้น5อยู่ที่นั่น”หวัง ซือจุนอธิบาย

“ฉันจะสู้กับขั้น3 และนายก็รับมือกับขั้น5 ฉันจะไปช่วยนายหลังจากฆ่ามัน”จาง เสวี่ยเฟิงพูดตรงประเด็น

“ได้!”หวัง ซือจุนเห็นด้วยทันทีเนื่องจากเขาคือนิรันดร์ขั้น5ขณะที่จาง เสวี่ยเฟิงเป็นเพียงนิรันดร์ขั้น4 แน่นอน เขาไม่อยากให้จาง เสวี่ยเฟิงต้องไปสู้กับนิรันดร์ขั้น5

ทั้งคู่เข้าไปในป่า และหวัง ซือจุนก็หยิบเอาสมบัติตรวจสอบออกมาอีกครั้งเพื่อระบุตำแหน่ง

เมื่อสังเกตเห็นภาพจากสมบัติตรวจสอบ หวัง ซือจุนก็ขมวดคิ้ว“ก่อนหน้านี้พวกมันเพียงยืนอยู่ในจุดเดิมตลอด แต่ตอนนี้พวกมันกลับมุ่งไปทางตะวันตกอย่างรวดเร็วราวกับพวกมันกำลังไล่ตามอะไรบางอย่าง...”

“หรือพวกมันจะไล่ตามอาจารย์หลิน?”จาง เสวี่ยเฟิงคิดถึงหลิน ฮวงทันทีเพราะในหมู่อาจารย์ทุกคน มีเพียงเหยี่ยวสายฟ้าของหลิน ฮวงที่สามารถหลบหนีระดับนิรันดร์ได้ หากอาจารย์คนอื่นพบระดับนิรันดร์สองคน พวกเขาจะถูกฆ่าก่อนที่จะได้หนี แม้กระทั่งอาจารย์เย่ เทียนคงจากชั้นปี3ห้อง1ก็ยังเป็นแค่เพลิงทอง เขาจะถูกฆ่าในพริบตาหากเผชิญกับระดับนิรันดร์สองคน

“รีบตามพวกมันไปเร็ว!”เมื่อได้ยิน หวัง ซือจุนก็รู้สึกว่ามันเป็นไปได้ เมื่อคิดถึงการที่ลั่ว หมิงขอให้พวกเขาดูแลหลิน ฮวงดีๆ เขาก็ยิ่งตื่นตระหนก

“หรือเขาจะเป็นลูกนอกกฏหมายของอธิการบดี?”จาง เสวี่ยเฟิงถามด้วยเสียงต่ำ

“ฉันจะรู้ได้ไง?!อธิการเพียงขอให้ฉันดูแลเขา บอกฉันว่าฉันจะลำบากหากเกิดอะไรขึ้นกับเขา นายก็รู้จักอธิการดี ฉันหวังว่าเขาจะไม่ทำให้ฉันลำบากอยู่แทบทุกวัน”หวัง ซือจุนอธิบายเพราะเขาไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหลิน ฮวงและลั่ว หมิง อย่างไรก็ตาม เขาได้แบ่งปันความคิดกับจาง เสวี่ยเฟิงและแม้กระทั่งลอบนำรูปของหลิน ฮวงและอธิการบดีมาเทียบกับเมื่อมีเวลา เมื่อตระหนักว่าไม่มีอะไรคล้ายกัน จากนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนความคิด“เรามีสิ่งสำคัญต้องทำ อย่าเสียเวลากันอีกเลย”

จากนั้นทั้งคู่ก็บินไปในท้องฟ้า มุ่งตรงไปยังตำแหน่งที่แสดงบนสมบัติตรวจสอบ

....

ไม่กี่นาทีก่อน ณ สถานที่ที่ลู่ เฟิงตาย

“ไม่ว่าจะยังไง เราต้องอธิบายลู่ หยวน มาคิดวิธีหาตัวผู้ควบคุมนั่นกัน ไม่สำคัญว่าเราจะฆ่าเขาได้หรือไม่ อย่างน้อยเราก็ต้องลอง!”ยู่ เหวินปิงหันไปมองวู่ ฟาง“มีวิธีใดที่เราจะหาตัวเขาได้ไหม?”

“ฉันเพียงรู้ว่ามังกรคือตัวที่ฆ่าเขา เมื่อผู้ควบคุมเรียกมังกรกลับ งั้นสมบัติตรวจสอบก็อาจจะพบว่าใครคือนายของมังกร”วู่ ฟางยักไหล่

“งั้นก็ลองดูเลย”ยู่เหวินปิงพยักหน้า

วู่ ฟางยืนอยู่ตรงหน้าศพของลู่ เฟิงและหยิบเอาชิ้นส่วนหนังที่ไหม้ขึ้นมาวางบนฝ่ามือเขา และประสานกับมืออีกข้าง

หลังจากนั้นสักพัก เส้นสายสีดำก็ยืดออกจากหนังไหม้และยืดออกไปไกล

มันคือทักษะมอนสเตอร์ที่ลู่ เฟิงได้รับโดยไม่ตั้งใจจากมอนสเตอร์วิญญาณ มันถูกเรียกว่าด้ายแห่งความตายซึ่งอ่อนแอกว่าเสียงกระซิบแห่งความตายมาก เสียงกระซิบแห่งความตายจะสามารถเรียกค้นข้อมูลจำนวนหนึ่งจากศพได้ขณะที่ด้ายแห่งความตายจะทำได้เพียงตรวจพบว่าใครคือฆาตรกร

มีเพียงผู้ใช้ทักษะที่สามารถมองเห็นเส้นที่คล้ายกับผมสีดำได้

“พบไหม?”เมื่อเห็นวู่ ฟางหยุดประสานมือ ยู่ เหวินปิงก็ถามทันที

“พบแล้ว เก็บศพนั่นไปได้แล้ว”

ยู่ เหวินปิงขมวดคิ้วเมื่อเห็นสภาพศพ แต่ก็ยังหยิบเอาถุงศพออกมา ควบคุมร่างของลู่ เฟิงด้วยพลังจิต ในไม่ช้า ศพก็ลอยไปในถุง จากนั้นเขาก็เก็บมันในช่องเก็บของเขา

“เอาศพลิงปีศาจไปด้วยเนื่องจากไม่มีใครสามารถระบุได้ว่านั่นคือศพของลู่ เฟิง”วู่ ฟางเตือน

แม้ยู่ เหวินปิงจะไม่เต็มใจ เขาก็ยังคงเก็บศพลิงปีศาจไปอยู่ดี

“มังกรอาจยังไม่ถูกผู้ควบคุมเรียกกลับ หรือบางทีมันอาจลงมือเพียงลำพัง หากเราไม่อาจหาตัวผู้ควบคุมได้ ทางเดียวก็คือฆ่ามังกรและส่งมันให้ลู่ หยวน”วู่ ฟางหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้

“บางทีนั่นอาจเป็นทางเดียวเนื่องจากเรามีเวลาจำกัด ลู่ หยวนจะไม่ปล่อยมันไปไม่ว่าเราจะทำยังไง สิ่งสำคัญคือเราต้องถ่ายภาพมันเพื่อเป็นการขอโทษ”นับแต่ที่พวกเขาพบว่าลู่ เฟิงถูกฆ่า ใบหน้าของยู่ เหวินปิงก็กลายเป็นปั้นยาก

“ไปกันเถอะ!”วู่ ฟางไม่ได้พูดอะไรและปล่อยให้เส้นผมนำทางเขา เขากระโดดและมุ่งหน้าไปทางตะวันตก

ยู่ เหวินปิงบินไปในท้องฟ้าเช่นกัน ตามหลังวู่ ฟางไป

มีเพียงความเละเทะที่ทิ้งไว้เบื้องหลังพวกเขา

หลิน ฮวงไม่รู้ว่าชาโคลได้ตกเป็นเป้าของสองนักบุญระดับนิรันดร์และพวกมันกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้

หลิน ฮวงรีบออกจากสมรภูมิพร้อมไป่และชาโคลเพราะเขากลัวว่าพวกเขาจะตกเป็นเป้า

ตามข้อมูลที่ได้รับจากเจ้าแดง ระหว่างสองนักบุญอาวุโส คนอ่อนแอกว่าคือนิรันดร์ขั้น3ขณะที่คนแข็งแกแร่งสุดจะอยู่ในระดับนิรันดร์ขั้น4เป็นอย่างน้อยหรือสูงกว่านั้น

หากฝ่ายตรงข้ามเพียงอยู่ในนิรันดร์ขั้น3 หลิน ฮวงก็ยังสามารถสู้กับเขาได้ด้วยการ์ด แต่ทว่า หากแข็งแกร่งกว่านั้น หลิน ฮวงไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจหนีไปพร้อมกับไป่และชาโคลในตอนแรก

ทั้งสามหลบหนีได้ประมาณ1พันกิโลเมตร เมื่อพวกเขากำลังจะถึงขอบป่าหมอก พวกเขาก็แยกกันเป็นสามทิศทางเพื่อช่วยเหลือเหล่านักเรียน

เมื่อเขาแยกทางกับชาโคลและไป่ได้ไม่ถึง10นาที การแจ้งเตือนจากเสี่ยว เฮยก็เด้งขึ้นมา

“ระบบได้ทำการตรวจพบบางอย่างผิดปกติกับการ์ดของชาโคลราวกับมีใครบางคนกำลังกำหนดตำแหน่งมันด้วยวิธีเฉพาะ”

“นั่นต้องเป็นฝีมือของนักบุญอาวุโส!”หลิน ฮวงขมวดคิ้ว“เรียกชาโคลกลับ!”

“หากชาโคลถูกเรียกกลับ มันอาจเป็นไปได้ว่าพวกมันจะเปลี่ยนมาสนใจท่านแท้ ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการเรียกกลับ?”

“แน่ใจ!”หลิน ฮวงพยักหน้า เขารู้ว่าชาโคลไม่อาจรับมือกับนักบุญอาวุโสคนใดได้

“หากมันกำลังมองหาฉัน งั้นก็ปล่อยให้พวกมันไล่ตามฉันมา พวกคณบดีต้องมาถึงแล้ว การถ่วงเวลาสักพักคงไม่ยากเกินไป ฉันจะเล่นกับพวกมันสักหน่อย”

ปล.ลั่ว หมิงคืออธิการบดีนะครับ ใหญ่สุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด