ตอนที่แล้วตอนที่ 480 ผลงานของหลิน ซิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 482 การโจมตีลึกลับ

ตอนที่ 481 ข้อความด่วน


กลุ่มของหลิน ซินดีที่สุด พวกเธอสามารถล้มมอนสเตอร์ระดับต่ำกว่าโดยง่าย อย่างไรก็ตาม ผลงานก็ยังค่อนข้างแย่ในระหว่างการต่อสู้กับนักรบหมี เผยให้เห็นถึงความเข้าใจจุดอ่อนอันเลวร้ายของพวกเธอและก็ขาดประสบการณ์การต่อสู้

แขนขาของนักรบหมีไม่ได้สวมเกราะ เส้นเอ็นในหัวเข่ามันค่อนข้างบอบบาง มันจะสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวหากส่วนใดของเข่าถูกโจมตี เมื่อเส้นเอ็นมันได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็จะสามารถโจมตีเส้นเลือดแดงที่ต้นขาด้านในมันได้ โดยทั่วไป นักรบหมีจะไม่อาจอยู่รอดได้หากเส้นเลือดใหญ่ถูกตัด

แน่นอน ดวงตาและปากมันก็อ่อนแอเช่นกัน แต่ทว่า หลิน ซินไม่เข้าใจมันเพราะเธอคิดว่าเธอต้องทำให้มันตาบอด ในความเป็นจริง เธอสามารถยิงไปที่ดวงตาหรือปากมันก็ได้เมื่อมันปล่อยเสียงร้อง เธอสามารถยิงแม้กระทั่งแก้วหูมันได้

เขาส่ายหัว เลี่ยนสายตาจากกลุ่มหลิน ซินไปยังฝ่ายเต๋ากระบี่

อาจารย์หลายคนยังคงจดจ่ออยู่กับมู่ เสี่ยวที่มาจากห้อง1เต๋ากระบี่

เห็นได้ชัดว่ามู่ เสี่ยวมีความทะเยอทะยาน นอกจากพลังระดับทองแดงขั้น1 เพื่อนร่วมกลุ่มเขายังอยู่ในระดับเหล็กขั้น2สองคน และระดับเหล็กขั้น3อีกสองคน โดยไม่ต้องสงสัย มันคือกลุ่มที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาปี1

พวกเขาแข็งแกร่งจนสามารถกำจัดมอนสเตอร์ทั้งหมดที่พบเจอ

นอกเหนือจากกระบี่ระดับทองแดง ทักษะกระบี่ของมู่ เสี่ยวก็ยังน่าประทับใจ เขารู้สึกราวกับว่ากำลังหั่นเต้าหู้แม้จะเผชิญกับมอนสเตอร์ระดับเหล็กขั้น3

แม้จะมีจุดอ่อนมากอย่างการแบ่งหน้าที่ การขาดประสบการณ์ต่อสู้จริงๆ การใช้พลังชีวิตฟุ่มเฟือย การปรับตัวที่อ่อนแอ และการไม่เอาจริงจัง แต่พวกเขาก็สามารถล้มมอนสเตอร์ทุกตัวได้อย่างโชคดี ตราบเท่าที่พวกเขาไม่พบฝูงมอนสเตอร์ โดยทั่วไกป พวกเขาจะสามารถรับมือกับมอนสเตอร์ในเขตป่าระดับ1ได้

ในความเป็นจริง หลิน ฮวงไม่ได้สนใจในกลุ่มมู่ เสี่ยวมากนัก หากกลุ่มถูกส่งไปเขตป่าระดับ2 บางทีผลงานพวกเขาคงอ่อนแอกว่าหลิน ซินเสียอีก มันเป็นเพราะกลุ่มพวกเขาขาดการแบ่งงานและชอบประมาท พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการโจมตีระยะไกลและไม่มีใครวางแผนต่อสู้ล่วงหน้า

หลิน ฮวงพึงพอใจกับกลุ่มซ่างกวน หุ่ยมากที่สุดหลังศึกษากลุ่มต่างๆ

แม้พวกเขาจะมีจุดอ่อนในแง่ของความร่วมมือ อย่างน้อยทั้ง5ก็วางแผนล่วงหน้าเสมอ ในฐานะนักล่า สิ่งสำคัญสุดก็คือการขบคิด เหล่าคนที่ประมาทจะไม่สามารถเอาตัวรอดได้

คณบดี หวัง ซือจุนได้มองผลงานของเหล่านักเรียน จากนั้นก็ทักทายเจ้าหน้าที่และจากไป

อาจารย์คนอื่นเองก็จากไปเช่นกัน การทดสอบจะจัดขึ้นสามวันและอาจารย์ส่วนใหญ่จะไม่ติดตามผลงานของนักเรียนตลอดสามวัน

“มันประมาณบ่ายโมงแล้ว ไปกินข้าวกลางวันกันเถอะ”ฉิน เทียนซิ่งเชิญชวนหลิน ฮวง เขารู้สึกว่ามันไร้ความหมายที่จะอยู่ดูเมื่อเขาเห็นอาจารย์คนอื่นจากฝ่ายเต๋ากระบี่จากไป

“ก็ได้”โดยทั่วไป หลิน ฮวงได้เห็นทุกอย่างที่เขาต้องการมาแล้ว เขาไม่อยากเสียเวลาเขาไปเช่นกัน

“พี่ชายฉิน จะเลี้ยงเราไหม?”มู่ เสี่ยวหลานถาม

“ได้สิ!”ฉิน เทียนซิ่งรับปากอย่างรวดเร็วเพถราะอาจารย์ย่อมไม่ทำให้นักล่าเสียเงินจำนวนมาก

สิบนาทีต่อมา ทั้งสามก็มาอยู่ที่ห้องส่วนตัวในโรงอาหารโรงเรียน

“นี่คือสิ่งที่พี่ฉินจะเลี้ยงเรา?พี่ดูเหมือนไม่เต็มใจเลยนะ”มู่ เสี่ยวหลานแสดงความคิดเห็นโดยไม่แสดงออกทางสีหน้า

“มันกำลังอยู่ในชั่วโมงงาน เราไม่ควรออกจากโรงเรียน”ฉิน เทียนซิ่งกล่าว

“ก็ได้ พี่มีเหตุผล”มู่ เสี่ยวหลานกล่าว

“ผมไม่เคยลองกินอาหารในโรงอาหารโรงเรียนมาก่อน แต่ผมจะลองดู”หลิน ฮวงยิ้ม พยายามช่วยฉิน เทียนซิ่งให้หลุดจากความอึดอัด

“อาหารที่ขายในโรงอาหารเรารสชาติดี หลายคนจากบ้านแถวนี้มาขอซื้ออาหารที่นี่ออกบ่อย มันถูกและรสชาติดีเลยทีเดียว”ฉิน เทียนซิ่งยืดอก

มู่ เสี่ยวหลานไม่สนใจที่จะเข้าร่วมการสนทนา

“อาจารย์หลิน นายคิดยังไงเกี่ยวกับฝีมือของพวกนักเรียน”จากนั้นฉิน เทียนซิ่งก็เปลี่ยนเรื่อง

“มันยังยอมรับได้เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่เคยต่อสู้ พวกเขาสามารถทำผิดพลาดได้ในระหว่างการทดสอบ”หลิน ฮวงรู้สึกว่าไม่มีอะไรน่ากล่าวถึง

“ผลงานของนักเรียนชุดนี้ค่อนข้างดี ปีก่อน พวกนักเรียนแม้กระทั่งฉี่ราดเมื่อเห็นมอนสเตอร์”มู่ เสี่ยวหลานหัวเราะเบาๆ

หลิน ฮวงไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น

“คุณสมบัติโดยรวมของพวกนักเรียนถือว่าดี มีไม่มากที่หนีเมื่อพบมอนสเตอร์”ฉิน เทียนซิ่งพยักหน้าและพูดต่อ“แต่มีพวกสัตว์ประหลาดน้อยจากฝ่ายกระบี่อยู่ เขาก่อตั้งกลุ่มที่ทรงพลังขึ้น บางที ห้อง1เต๋ากระบี่คงจะได้ที่1อีกครั้ง”

“เราไม่มีทางเลือกเนื่องจากฝ่ายกระบี่คือฝ่ายที่ใหญ่สุดในสถาบันเรา นักเรียนชั้นนำทุกคนล้วนลงทะเบียนฝ่ายเต๋ากระบี่ และนักเรียนส่วนที่เหลือถึงเลือกฝ่ายเต๋าดาบ ยิ่งไปกว่านั้น สถาบันกลางที่เด่นด้านเต๋าดาบยังคว้านักเรียนไปจากเรา”มู่ เสี่ยวหลานพูดไม่ออกเมื่อได้ยิน

หลิน ฮวงรู้มาบ้างเกี่ยวกับสถาบันกลาง สถาบันกลางคือสถาบันที่ดีที่สุดในโลกมนุษย์ มันคือสถาบันการศึกษาระดับสูงที่ถูกก่อตั้งโดยรัฐบาลกลาง ฝ่ายเต๋าดาบในสถาบันกลางเขต7คือที่สุดของที่สุด ดังนั้น สถาบันกลางจึงเป็นตัวเลือกแรกของนักเรียนชั้นนำที่อยากเรียนวิชาดาบ สถาบันนักล่ายุทธ์และสถาบันอื่นจึงตกเป็นตัวเลือกที่สอง

“ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องสนใจเกี่ยวกับคะแนนของพวกนักเรียน นักเรียนควรได้รับประสบการณ์จากการทดสอบ พวกเขาควรเรียนรู้จุดอ่อนของมอนสเตอร์และสร้างความร่วมมือกัน พวกเขาควรคิดได้ว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งไหนของกลุ่ม”

“จากมุมมองนี้ มีหลายกลุ่มที่แข็งแกร่งกว่ากลุ่มมู่ เสี่ยว การมอบหน้าที่ให้สมาชิกกลุ่มเขาไม่สมเหตุสมผล และพวกเขายังประมาท พวกเขาสามารถล้มมอนสเตอร์ได้เพราะคู่ต่อสุ้เขาอ่อนแอกว่า หากพวกเขาพบศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า บางทีมันคงสายเกินไปที่จะคิดแผน”

สิ่งที่หลิน ฮวงกล่าวนั้นเข้าตรงจุด ฉิน เทียนซิ่งและมู่ เสี่ยวหลานเงยบทันทีหลังได้ยิน

หลังจากนั้นสักพัก ฉิน เทียนซิ่งก็กล่าว“ฉันไม่รู้ว่าฉันไม่มีมุมมองแบบนายหรือไง ฉันเกือบลืมวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการทดสอบต่อสู้แล้ว คะแนนก็แค่กีฬา จริงๆแล้วเราต้องการให้นักเรียนเติบโตขึ้นต่างหาก”

“ดูเหมือนว่าฉันต้องสังเกตการต่อสู้ของพวกนักเรียน พวกเขาจะแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆในเดือนหน้า!”มู่ เสี่ยวหลานกล่าวด้วยสีหน้าเคร่ง

หลังมื้อกลางวัน หลิน ฮวงไม่ได้กลับไปสนามเพราะเขาเห็นทุกอย่างที่ต้องการแล้ว เขาตรงไปห้องฝึกและเริ่มฝึกนักรบไร้พ่าย

ในไม่ช้า สองวันก็ผ่านไป ตอนประมาณตี4 ขณะที่หลิน ฮวงยังคงหลบ อุปกรณ์สื่อสารเขาก็ดังขึ้น

“ถึงอาจารย์ชั้นปี1ถึง3ทุกคน โปรดมารวมกันที่สนามโดยเร็วที่สุด!”มันคือข้อความจากสำนักทะเบียน!

ปล.อีกสองตอนมาดึกเลยเน้อ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด