ตอนที่แล้วตอนที่ 302 การทดสอบระดับสภา (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 304 หม้อไฟ (FREE)

ตอนที่ 303 สุสาน (FREE)


"ที่วัง? มีเรื่องน่าสนุกด้วยไหม?แววตาของ ฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้น

เขาเคยไปที่วังมาก่อน อย่างไรก็ตามเคยไปแค่ที่โถงบัลลังก์ เขาไม่มีโอกาสสำรวจรอบๆเลย

เขายังไม่เคยเห็นพระราชวังทั้งหมด

"เจ้าเคยได้ยินเรื่อง ...ความงามทั้ง 3000 ไหม?" ปิง หยาง รู้สึกพอใจมากที่เห็นว่า ฟาง เจิ้งจือ ให้ความสนใจ

ที่พำนักของนางสนม

ภาพปรากฎขึ้นในใจของ ฟาง เจิ้งจือ ความงดงามนับไม่ถ้วนเดินผ่านเขาไป พวกเขาล้วนมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง

พวกเขาทั้ง 3000!

กับ 365 วันในหนึ่งปี ... เขาสามารถผลัดเปลี่ยนได้ทุกวันและยังเพียงพอไปอีก 10 ปี!

นี้เป็นแค่การประมาณ ในโลกก่อนหน้าของเขาจักรพรรดิมีนางสนมมากกว่า 3,000 คน

"ฮึ่ม, ข้ายังเด็กอยู่ ข้าไม่สามารถสัมผัสกับเรื่องพวกนั้นได้ มันยังเร็วเกินไป!"ฟาง เจิ้งจือ ตอบจริงจัง

"เจ้ากำลังคิดอะไร? เจ้าหมายความว่ายังไง ที่ว่าเด็กเกินไป? "ปิง หยาง มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ "ข้าแค่จะพาเจ้าไปดูชม เจ้าจะไปหรือไม่?"

"ไป!"ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างไม่ลังเล

"แล้วเจ้าล่ะ เหยียน ซิว"

"ไม่ล่ะ"

"น่าผิดหวัง" ปิง หยาง พึมพำ จากนั้นนางก็หันไปมอง เหวิน เต๋าเปา

"ข้าจะไป ข้าจะไป!" เหวิน เต๋าเปา ไม่คิดจะรอให้ ปิง หยางถามด้วยซ้ำ

"เจ้าสวะ! มันใช่ที่ที่เจ้าไปได้หรือไงกัน?  เจ้าเชื่อไหมว่าข้าจะส่งใครสักคนมาสังหารเจ้าซะ?" ปิง หยาง เหลือบมอง พร้อมกับเอานิ้วชี้มาไว้ที่คอ

เหวิน เต๋าเปา ตัวสั่น เหงื่อออกจากหน้าผากของเขา

"มาเถอ ข้าจะพาเจ้าไปดูว่านางสนมทั้ง 3000 คนมีหน้าตาเป็นเยี่ยงไร!" ปิง หยาง ดึง ฟาง เจิ้งจือ ไป ทิ้ง เหวิน เต๋าเปา ไว้ด้านหลัง ...

   ...

ณ ห้องสมุดในพระราชวัง

สมาชิกหน่วยเกราะมังกรคนหนึ่งผู้สวมชุดเกราะสีทองยืนอยู่กลางห้อง มีจดหมายวางอยู่บนโต๊ะ

รัฐมนตรฝ่ายซ้ายนั่งอยู่ที่ข้างๆโต๊ะ ท่าทีของเขานิ่งสงบราวกับสายน้ำอย่างไรก็ตาม เขายังคงมองไปที่องค์จักรพรรดิ ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ

องค์จักรพรรดิอ่านจดหมาย ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

"ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกัน?"

คำถามขององค์จักรพรรดิค่อนข้างคลุมเคลืออย่างไรก็ตามสมาชิกหน่วยเกราะมังกรเข้าใจได้ในทันที เขากำมือแน่น

"ด้วยความเคารพ ตอนนี้เขากำลังรีบมาเมืองหลวงอยู่ ขณะที่พวกเรากำลังพูดคุยกันอยู่ ด้วยความเร็วของเขา ข้าคิดว่าเขาคงมาถึงอีกไม่นาน"

"อืม งั้นเจ้าไปได้แล้ว" องค์จักรพรรดิพยักหน้า

สมาชิกหน่วยเกราะมังกรโค้งคำนับและเดินออกจากห้องไป

"ด้วามเคารพ ความหมายของสิ่งนี้นั้นใหญ่หลวงนัก เราควรเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทั้งหมดหรือไม่?" รัฐมนตรีฝ่ายซ้ายตอบอย่างรวดเร็ว หลังจากสมาชิกหน่วยเกราะมังกรออกจากห้องไป

"เจ้าคิดว่าข้าควรจะทำยังไง?" องค์จักรพรรดิถามด้วยความลังเล

"เราได้ยืนยันตัวของผู้นำปีศาจแล้ว ดังนั้นเรามีเพียงสองตัวเลือกเท่านั้น เราสามารถสั่งให้จับตัวนางมาได้ นางคงยังไปไม่ไกลเทาใดนัก ถ้าเราออกคำสั่งตอนนี้ เราต้องสามารถจับตัวนางได้แน่ๆ  มันจะทำให้เราได้เปรียบพวกปีศาจเป็นอย่างมาก ตัวเลือกที่สองคือ ... ปิดข่าวไว้ และปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไป "รัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ตอบขึ้นมาหลังจากคิดได้สักพักหนึ่ง

"ข้าจะลองถามเขาดู" องค์จักรพรรดิส่ายหัว

"เขา?"ท่าทีของรัฐมนตรีฝ่ายซ้ายเปลี่ยนไปทันทีเขากำหมัดแน่นก่อนจะคลายมันออก "ด้วยความเคารพ ท่านจะใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงความเมตตางั้นหรือ?"

"ท่านมีความเห็นยังไงเกี่ยวกับ หนานกง มู่?" องค์จักรพรรดิเปลี่ยนเรื่องพูด

"ท่านทรงเมตตามากแล้ว!" ยู่ ยี่ปิง กล่าวออกมา

"ฮ่าฮ่า...ข้าเกรงว่าคงเป็นท่านคนเดียวกระมัง ที่พูดว่าข้ามีเมตตา? ข้าคิดว่าที่ หนานกง เฮา มาที่เมืองคงเป็นเพราะเรื่องนี้"

"นี่เป็นโอกาส"

"ข้าเกรงว่าพวกเราคงไม่สามารถคว้าโอกาสนี้ไว้ได้"

"ด้วยความสามารถของ หนานกง เฮา เขาน่าจะเป็นที่1 ของการทดสอบระดับสภาเมื่อ 4 ปีที่แล้วตอนนี้เขาก็น่าจะทำได้เช่นกันถ้าไม่มีปัญหาอะไร  องค์จักรพรรดิท่านควรทำเพียงรอเท่านั้น"

"อืม ... ท่านพูดถูกแล้ว!" องค์จักรพรรดิพยักหน้าและหันไปมองหน้าต่าง"เจ้าคิดว่า...จะมีคนอื่นเป็นเด็กในคำพยากรณ์อีกไหม?""

"ท่านหมายถึง เหยียน ซิว?" ยู่ ยี่ปิง ตัวสั่นสะท้าน

"ไม่ ข้าหมายถึง ฟาง เจิ้งจือ" องค์จักรพรรดิส่ายหัวเบาๆ

"เกี่ยวกับเรื่องนี้ ... ขออภัยในความโง่เง่าของข้า แต่ข้าไม่คิดอย่างนั้น" ท่าทีของยู่ ยี่ปิง เปลี่ยนไปทันที

"ใช่มันคงต้องดูยาวๆ มันเป็นแค่ความคิดเล็กๆน้อยๆของข้า  ช่างเถอะดูเหมือนองค์รัชทายาทจะอยู่ที่สวน?" องค์จักรพรรดิพยักหน้า

"องค์รัชทายาทศึกษาต้นไม้อยู่เพื่อเข้าใจคุณค่าของความเป็นผู้นำ"

"ข้าคิดว่าเขาควรจะพัฒนาด้านการเมืองมากกว่า ในฐานะที่เขาเป็นผู้นำถ้าเขาอยากจะแข็งแร่งมากกว่านี้ก็ควรทิ้งเรื่องพวกนั้นไปซะ

"ด้วยความเคารพท่านช่างชาญลาดยิ่งนัก!"

"ในการทดสอบระดับสภา องค์รัชทายาทแนะนำว่าควรจัดการทดสอบระดับสภาที่ดินแดนภูเขาทางใต้ ข้าคิดว่ามันดูน่าสนใจและสดใหม่มาก  ท่านคิดอย่างไรบ้าง?"

"อืมน่าสนใจ แต่ข้าว่ามันน่าจะกระทบกับเรื่องทางทหาร  ข้าเกรงว่าราชาต้วน... "

"ข้าจะให้ราชาต้วนคอยช่วยเขาจากด้านข้างเอง พี่น้องควรร่วมกันทำงานให้บ่อยขึ้น ราชาต้วนได้สร้างข้อผิดพลาดเล็กน้อยในฐานะผู้คุมสอบในครั้งที่แลว ข้าอยากจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง " องค์จักรพรรดิเปลี่ยนใจ

"ความคิดของท่านช่างสูงส่งยิ่งนัก ข้าประทับใจยิ่งนัก"

"อืม เจ้าสุภาพเกินไปแล้ว เร็วๆนี้ข้าปวดหัวแทบแตก  ขาคิดว่าสิ่งไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้น  ทำไมเจ้าไม่ไปเดินเล่นกับข้ารอบๆสวนละ?" องค์จักรพรรดิ ยิ้มก่อนจะลุกขึ้น

"รับทราบ!" ยู่ ยี่ปิงโค้งคำนับ

   ...

ลาวหนาวพัดมา ทำให้ทะเลสาบค่อยๆเย็นเยียบ

ภูเขาถูกปกคลุมด้วยหิมะ

ตอนนี้อากาศนั้นหนาวอย่างเหลือเชื่อ  ทั้งแม่น้ำทะเลสาบ ต่างถูกแช่แข็ง

มีสุสานขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณนี้

มันเองก็ถูกหิมะปกคลุมเช่นกัน  นี่เป็นโลกที่ถูกแช่แข็งนืรันดร์

สุสานทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยหิมะ

มันคือสุสานตระกูลหนานกง

และเป็นบ้านของตระกูลหนานกงอันโด่งดัง

สถานที่แห่งนี้มีมานานมันถูกก่อตั้งขึ้นพร้อมกับอาณาจักรเซี่ย หินและปูนอาจจะเปลี่ยนไปตามอายุแต่น้ำแข็งไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

ตระกูลหนานกง นั้นตั้งอยู่ใกลๆสุสาน

หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ แต่สุสานนั้นเป็นเสาหลักของตระกูลหนานกง

ตรงกลางสุสานนั้นมีแผ่นหินอยู่

แต่ละแผ่นหินมีชื่อสลักอยู่ และใต้นั้นเป็นประวัติของแต่ละคน ที่นี่คือที่พำนักของตระกูลหนานกงรวมถึงบรรพบุรุษของพวกเขา

วันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ข้างประตูสุสาน

สายตาของแต่ละคนเยือกเย็น บนร่างมีหิมะปกคลุม พวกเขายืนอยู่ที่นี่เป็นเวลานานแล้ว

อย่างไรก็ตามไม่มีใครเคลื่อนไหว พวกเขาราวกับรูปปั้นข้างประตู

เป็นภาพที่แปลกประหลาดมาก หากไม่ใช่ควันที่ถูกปล่อยออกมาจากการหายใจของพวกเขา คงนึกว่าพวกเขาตายไปแล้ว

หิมะยังคงตกลงบนพื้นอย่างต่อเนื่อง

มีร่างหนึ่งเดินออกมาจากหิมะ เขาสวมเสื้อแขนสั้นสีเขียว ท่าทีเยือกเย็นพร้อมกับดวงตาที่ไร้ความรู้สึก

เขาหยุดอยู่ที่สุสาน

จากนั้นเขาก็คุกเข่าลง

"เจ้ากลับมาแล้ว?" ในที่สุดคนที่อยู่ตรงหน้าประตูหินก็พูด

เขาเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างอบอ้วนเขาสวมเสื้อบางๆแต่รอบคอของเขาเต็มไปด้วยขนสัตว์ เขาไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา

ดวงตาของเขาไม่กระพริบแม้แต่น้อย ทั้งๆที่มีสายลมพัดผ่านใบหน้า นับตามีเส้นเลือดปรากฎให้เห็น  เห็นได้ชัดว่าเขายืนท่ามกลางหิมะมานานแล้ว

"อืม" ร่างนั้นพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบ

"ทำไมเจ้าถึงกลับมา?" ชายวัยกลางคนอ้วยท้วมถามอีกครั้งคราวนี้เสียงของเขาฟังดูอันตรายมาก

ร่างนั้นไม่ได้พูดอะไร เขาเลือกที่จะยืนอยู่เงียบๆ  ราวกำเขาไม่ได้ยินคำถาม

"หัวใจหลักของตระกูลหนานกงคืออะไร?"ชายร่างอ้วนมองไปยังหิมะที่ตกลงมา  จากนั้นก็มองไปยังร่างที่คุกเข่าอยู่กลางหิมะ

"ตายดีกว่ายอมแพ้" ร่างในหิมะตอบ

"แล้วทำไมเจ้าถึงยอมรับความพ่ายแพ้?"น้ำเสียงชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป

ความเงียบยังดำเนินต่อไป  อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ร่างในหิมะเหมือนกำลังจมอยู่ในความคิด

"เจ้าสามารถแพ้ได้ ตายได้ แต่ห้ามยอมแพ้!"

"ใช่"

"คุกเข่าต่อหน้าบรรพบุรุษของเจ้า!"

"ได้" ร่างนั้นพยักหน้าและเดินผ่านผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตูเข้าไป

มีทั้งหมด 3,478 แผ่นหิน

อย่างไรก็ตามท่าทีของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแม้แต่น้อย เขาค่อยๆเดินไปยังแผ่นหินอันแรก คุกเข่า จากนั้นก็โขกหัวลงกับพื้น 1, 2 ...

รวมเป็น 10 ครั้ง

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปยังแผ่นหินที่2 จากนั้นก็โขกหัว 10 ครั้ง  จากนั้นเขาก็เดินไปยังแผ่นหินที่ 3...

"อาจารย์แบบนี้ไม่มากเกินไปหรือ?"หนึ่งในร่างที่ยืนอยู่ตรงประตู รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจขณะมองไปยังฉากที่เกิดขึ้น

"องค์จักรพรรดิทรงเมตตามากแล้วที่ไม่ใส่ชื่อเขาลงในกลุ่มที่ผ่านการทดสอบ  ในประวัตติศาสตร์ของตระกูล ไม่เคยมีใครผ่านการทดสอบในกลุ่มแรก  มันเป็นความอัปยศอย่างมาก  เป็นความอัปยศของตระกูล!หลังจากเขาตาย พวกเราจะวางแผ่นหินอันกลุ่มแรกในหลุมศพของเขาด้วย?"

"อาจารย์ช่างชาญฉลาดยิ่งนัก"

"พวกเจ้าไปได้แล้ว ข้าจะรอเขาอยู่ที่นี่ด้วยตัวเอง "

"เข้าใจแล้ว"

หิมะยังคงตกต่อไป มีเพียงสองคนที่อยู่ในสุสานคนหนึ่งยืนอยู่ช้างประตูเงียบๆ ราวกับรูปปั้น ไม่พูด ไม่เคลื่อนไหว

อีกร่างกำลังขอขมาอยู่ที่หน้าหลุมศพ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของเขานั้นดูมั่นคงมาก

"โป้ก, โป้ก, โป้ก ... "

เสียงหัวของเขาที่กระทบกับกำแผ่นน้ำแข็งดังไปทั่ว

   ...

ในพระราชวัง ...

ฟาง เจิ้งจือ นั้นอยากจะสาปส่งมากเขารู้สึกเหมือนโดนหลอก  นอกจากนี้มันยังเป็นการโกงที่เลวร้ายที่สุด

นางสนม 3000 คน !

ปิง หยาง พา ฟาง เจิ้งจือ ไปยังที่พักของนางสนมอย่างไรก็ตามพระราชวังนี้ไม่ได้เป็นขององค์จักรพรรดิ

แต่เป็นที่พักขององค์รัชทายาท

ฟาง เจิ้งจือ โค้งคำนับคนมานับไม่ถ้วนจนคอของเขาเคล็ดแล้วฝูงชนวิ่งออกมาราวกับผึ้งแตกรัง

แต่ละคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

ที่สำคัญกว่า

พวกเขาจะถามคำถามเดียวกันทุกครั้ง

"โอ้? นี่ใครนะ?"

พวกเขาราวกับเด็กที่อยากรู้อยากเห็น

พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแนะนำตัวเองให้แต่ละคนรู้จัก อย่างไรก็ตามเขาเริ่มเบื่อหน่ายหลังจากทำมันมากว่า 20 ครั้ง

"ข้าได้ยินมาว่าเจ้าหน้าที่ฟางเป็นที่1ของการทดสอบระดับจักรพรรดิ  ท่านช่วยบอกพวกเราหน่อยได้ไหมว่าท่านทำยังไง?"

"ใช่แล้ว ใช่แล้วเจ้าหน้าที่ฟาง โปรดบอกพวกเรา  องค์หญิงบอกเสมอว่าท่านไร้ยางอาย ท่านไร้ยางอายยังไงกัน? ทำไมไม่ทำให้พวกเราดูละ?  "

"ทำไมเจ้าถึงถามเจ้าหน้าที่ฟางมากมายนัก? เจ้าหน้าที่ฟางลืมมันไปเถอะ  บอกข้าทีสิว่าท่านทำยังไงผู้คนถึงหลงกลอุหายของท่านในการแข่งขันล่าสตว์!  และท่านรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาจะวิ่งม้าอีกรอบหนึ่ง?"

พวกเขามองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความคาดหวัง

อย่าถามข้ามากเลย!  หาอะไรใหข้ากินก่อนเถอะ!" ฟาง เจิ้งจือ ทนไม่ไหวอีกต่อไปเขาถึงทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้และกินผลไม้บนโต๊ะจนหมด

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด