ตอนที่แล้วDND.95 - ดินแดนเฉินหลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.97 - ยามหนทางถูกปิดกั้น...อีกหนทางจึงปรากฏ

DND.96 - ทดสอบคุณสมบัติ


หานฉี่คิดไม่ซื่อกับลั่วหลานมานาน และหานฉี่ยังมีพระคุณกับผู้อาวุโสในสำนักอีกทั้งยังเป็นศิษย์โดยตรง สถานะของเขานั้นสูงส่ง

แต่ลั่นหลานนั้นหลงรักลี่กวงอย่างลึกซึ้ง แม้ว่านางจะไม่เคยยอมรับก็ตาม จากนั้น...หานฉี่ก็ได้พรากความบริสุทธิ๋จากนางและป้ายสีลี่กวง

ลี่กวงยังคงโกรธเกรี้ยวอยู่เสมอ...ตลอดร้อยปี

ลี่กวงได้ทุ่มเทอย่างมากกับสำนัก...สำนักจึงได้ให้โอกาสกับเขา เขาถูกส่งมายังเกาะเฉินยี่เพื่อเสาะหาศิษย์ที่เหมาะสมในรอบร้อยปี ซือร่งถูกส่งมากับเขา

ใครก็ตามที่ได้อัจฉริยะที่แกร่งที่สุดจะได้เหรียญหลิวเซี่ยนและพวกเขาก็จะขอสิ่งใดก็ได้กับจ้าวสำนักหลิวเซี่ยน

ด้วยเหรียญหลิวเซี่ยนในมือ...เขาตั้งใจจะให้มีการสอบสวนเรื่องเมื่อร้อยปีก่อนและชำระล้างนามของเขาเสียใหม่ เขามิได้ต้องการให้ลั่วหลานเข้าใจเขาผิดไปตลอดกาล เขารอโอกาสนี้บนเกาะเฉินยี่มากว่าร้อยปี...แก่เฒ่าและอ่อนพลังลง

ศิษย์สวรรค์ต่างตกใจกับเรื่องราวของราชันย์ บุคคลเช่นราชันย์มีเรื่องน่าเศร้าเช่นนี้ด้วยงั้นรึ? ความอดทนเช่นใดกันที่ทำให้เขารอคอยเวลาเป็นร้อยปี? เขาใช้ทั้งชีวิตเพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อนางอันเป็นที่รักและชำระล้างนามของตน

“ซือหยู...ข้าจะไม่มีวันลืมพระคุณของเจ้า”

ลี่กวงขอบคุณ

ซือหยูส่ายหัว

“ท่านได้ฟูมฟักข้ามาแล้ว ข้าควรจะตอบแทน ทั้งยังให้โอกาสข้าได้เห็นทวีปเฉินหลง ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณ”

ลี่กวงรู้สึกผิด

“แม้เจ้าจะเป็นศิษย์สวรรค์ แต่ข้าก็มิเคยชี้แนะเจ้าแม้สักคราเดียว แต่ก็แย่เกินไปแล้ว...ชีวิตข้ากำลังจะดับสูญ ข้าจะตายภายในหนึ่งเดือน ข้าเกรงว่ามิอาจจะชี้แนะเจ้าได้อีกแล้ว”

“ท่านอาจารย์!”

ศิษย์สวรรค์ทุกคนต่างเข่าอ่อนเมื่อได้ยินราชันย์

แม้ราชันย์จะมีอายุมากกว่าร้อยปี เขาก็ยังดูมีชีวิตชีวา...ร่างกายของเขาสมบูรณ์แข็งแรงมาก เขาจะมีชีวิตเหลืออยู่อีกเดือนเดีวได้ยังไง?

ซือร่งยืนอยู่ข้างเขา

“ราชันย์ของพวกเจ้าถูกหานฉี่โจมตีหลายต่อหลายครั้งเมื่อมายังเกาะเฉินยี่จนบาดเจ็บและล้มป่วย อยู่รอดมาได้ขนาดนี้...นับว่าเป็นปาฏิหาริย์”

หนึ่งเดือน...เพียงหนึ่งเดือนในการใช้ชีวิต

ทุกคนโศกเศร้า แม้ราชันย์จะถูกพิสูจน์ว่าบริสุทธิ์...แต่เขาก็มิอาจได้ใช้ชีวิตร่วมกับนางอันเป็นที่รัก

แล้วชีวิตเขาจะมีค่าอะไร...ถ้าเช่นนั้น?

“ลุกขึ้นซะพวกเจ้า ในชั่วชีวิตนี้ สิ่งที่ข้าปรารถนาก็คือการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อลั่วหลาน ข้าจะได้ตายตาหลับเสียที...พวกเจ้ามิต้องโศกเศร้าเมื่อข้าจากไป”

ใบหน้าแก่เฒ่าของลี่กวงยิ้มอย่างพอใจ

ฟึ่บ--

วายุใหญ่พัดปลิวมาจากด้านบน ท้องฟ้ามืดครึ้มทันที

ทุกคนเงยหน้าขึ้นไปมอง...เห็นเพียงวิหคยักษ์แปลกตาที่มีปีกยาวสามร้อยศอกบินวนลงมาจากสวรรค์ วายุกรรโชกร้องโหยหวนรอบทุกคนบนผืนธรณี รังสีทรงพลังโอบล้อมสิ่งรอบกาย

ซือหยูต้องใช้พลังปราณเพื่อให้ยืนอยู่ได้ แต่เขาขยับตัวไม่ได้เลย

ผมเงยหน้ามองขึ้น

พลังวิหคประหลาดบนนภาอันน่ากลัวนั้นแข็งแกร่ง ไม่ต่างจากลี่กวงและซือร่ง!

แววตาวิหคประหลาดหยาบคายดั่งมนุษย์เมื่อตรวจสอบคนเบื้องล่าง

ครืน--

วิหคประหลาดร่อนลง...ก่อให้เกิดพายุหมุน

ทราย ศิลา และฝุ่นควันลอยวนในอากาศ

“หึหึ...จบแล้วงั้นรึ? เร็วกว่าที่ข้าคิดเสียอีก”

เสียงเยาะเย้ยดังท่ามกลางฝุ่นควัน

มองไปตามทางของเสียง ชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบปีในชุดสีมรกตยืนอยู่บนหลังวิหคยักษ์

รูปลักษณ์ของเขาธรรมดาสามัญ รังสีที่แผ่ออกมาก็ถูกกดเอาไว้ราวกับเขาเป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดา แต่แววตาของเขาต่างออกไป มันเปล่งประกายอย่างผิดธรรมชาติเมื่อมองมายังผู้คน...ราวกับแสงตะวัน

ฟึ่บ--

ชายหนุ่มชุดมรกตลงจากหลังวิหคยักษ์และมองไปยังลี่กวง

“ตาเฒ่าลี่กวง ร่างกายเจ้ายังดีอยู่นี่ ข้าตกใจจริงๆที่เจ้ายังไม่ตายหลังจากแพ้เจ้านายของข้า”

“สามหาว! มันกล้าดูหมิ่นท่านราชันย์!”

จ้าวกวงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว!

ชายหนุ่มชุดเขียวเหลือบตาไปมองจ้าวกวง

โครม---

เพียงแค่การปราดตามอง จ้าวกวงล้มคว่ำและสำลัก...โลหิตอยู่ในลำคอ เขาตกใจมาก แม้แต่ลี่กวงก็ทำให้เขาบาดเจ็บจากการมองไม่ได้!

“มดปลวกกล้าส่งเสียงดังงั้นรึ?”

ชายหนุ่มชุดสีมรกตยิ้มอย่างเยือกเย็น

“ข้าดูถูกราชันย์แล้วมันจะทำไมกัน? พวกมันก็แค่สิ่งมีชีวิตต้อยต่ำในสำนัก...มิคู่ควรจะเป็นศิษย์สำนักด้วยซ้ำ!”

ลี่กวงก้าวออกไปขวางศิษย์สวรรค์ด้านหลัง ดวงตาของเขาสุขุม

“เจ้าเป็นคนของหานฉี่งั้นรึ? เจ้าผ่านระดับราชันย์และเข้าสู่ขอบเขตมังกรแล้ว เขาอาจจะโหดร้าย...แต่ก็โชคดีที่ได้เจ้าเป็นศิษย์”

“หึหึ...เขาโชคดีกว่าเจ้าแน่ มิเช่นนั้นเขาจะได้ผู้หญิงของเจ้าไปเป็นนางบำเรองั้นรึ?”

ชายหนุ่มชุดสีมรกตหัวเราะเยาะ

ลี่กวงเบิกตากว้าง เขาก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ เสียงของเขาสั่นเครือ

“เจ้าจะบอกว่า...ลั่นหลานกลายเป็นนางบำเรอของหานฉี่งั้นรึ? หานฉี่บังคับนางสินะ!?”

เขาจินตนาการออกว่าลั่วหลานต้องโศกเศร้าอย่างมากและอยู่ลำพังหลังจากที่หานฉี่ฉวยโอกาสนางอีกครั้ง และบังคับฝืนใจนาง...ช่วงชิงอิสระภาพ

ความโกรธและโศกเศร้าเอ่อล้นในหัวใจลี่กวง

หานฉี่ทำร้ายและรังแกนาง แต่ลั่วหลานนั้นมิได้ล่วงรู้ความจริง อีกทั้งด้วยการที่ถูกขืนใจ นางได้กลายเป็นนางบำเรอขณะที่ลี่กวงถูกส่งมายังเกาะห่างไกลเป็นร้อยปี!

สถานการณ์ทั้งหมดมันโหดร้ายตั้งแต่เริ่มขึ้นมาแล้ว

“ศิษย์นอกสำนักเช่นเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเอ่ยนามผู้หญิงของท่านอาจารย์?”

เขามองอย่างเยือกเย็น และสำรวจรอบๆ

“ข้าคือศิษย์หลักแห่งสำนักหลิวเซี่ยน...เคาฉวน! ข้ารับคำสั่งมาทดสอบร่างกายของพวกเจ้า...และพาพวกเจ้าไปยังทวีปเฉินหลง!”

“ห้าลำดับแรกแห่งศตวรรษ จงก้าวเข้ามา!”

เคาฉวนสั่ง

หลิวกวง เหมิงหลาง และเจียงซิ่นก้าวออกจากหุบเขาเฟิงหวง

ซือหยูและจ้าวกวงก้าวออกจากวิหาร

เคาฉวนมองพวกเขา...ดวงตาเขาจับจ้องไปยังลี่กวง ซือหยู และจ้าวกวง เขามองอย่างเย็นชา

ฟึ่บ--

เคาฉวนบินไปหาหุ่นเชิด เขาใช้นิ้วชี้กดบริเวณใบหน้าของหุ่นเชิด

หุ่นเชิดอ้าปากคายเศษกระดาษแสดงห้าลำดับแรก ซือหยูคืออันดับหนึ่งและมาจากวิหาร!

เคาฉวนมองอย่างเยือกเย็น นั่นหมายความว่าลี่กวงได้เหรียญหลิวเซี่ยนไป! เขาซ่อนความไม่พอใจก่อนจะหันไปหากลุ่มห้าลำดับแรก

เคาฉวนหยิบบอลแก้วโปร่งใสออกมาจากในเสื้อ...และเข้าไปหาสามคนจากเฟิงหวง

“เจ้า...วางมือลงบนนี้ซะ”

เคาฉวนสั่งเจียงซิ่น

เจียงซิ่นทั้งรู้สึกเกรงกลัวและเคารพ...นางกลืนน้ำลายก่อนจะวางมืออันบอบบางลงบนบอลแก้ว

บอลแก้วเปลี่ยนาสีเป็นสีแดงเข้ม มีสองคำปรากฏขึ้นที่พื้นผิว...วิญญาณไร้ค่า

“ร่างกายอันไร้ค่าเช่นนี้อยากจะเข้าสู่ทวีปเฉินหลงงั้นรึ? อวดดีนัก!”

ร่างกายผอมบางของเจียงซิ่นสั่นคลอน หน้านางขาวราวกับกระดาษ นาง….นางเสียสิทธิ์ในการไปยังทวีปเฉินหลง! น้ำตาอันขมขื่นไหลอาบใบหน้า ไหล่นางสั่นระริก เจียงซิ่นนั่งบนพื้นและร้องไห้เสียงดัง

การเข้าสู่ทวีปลึกลับนั่นมันโหดร้ายเกิดไปแล้ว!

“เจ้า!”

เคาฉวนมิสนใจเจียงซิ่น เขากลับชี้ไปยังเหมิงหลาง

เหมิงหลางตัวสั่น เขากลืนน้ำลายและวางมือลงบนบอลแก้ว

บอลแก้วกลายเป็นสีแดงก่อนจะแสดงข้อความ

“วิญญาณอำพันระดับต่ำ”

เคาฉวนถอนหายใจ

“มีแค่เกาะทะเลทรายเท่านั้นที่จะมีคนคุณภาพต่ำเช่นนี้ เจ้าจะไปเป็นขยะโสโครกชั้นต่ำที่สุดในทวีปเฉินหลง”

เหมิงหลางมิได้รู้สึกอับอาย...แต่กลับดีใจ! เขามีสิทธิ์เข้าสู่ทวีปเฉินหลง!

“นี่คือการทดสอบคุณสมบัติ”

ลี่กวงกระซิบกับซือหยูและจ้าวกวง

“คุณสมบัติอะไรงั้นรึ?”

ซือหยูถาม

“เหล่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ต่างจากผู้ฝึกตนในด้านพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นชื่อในทวีปเฉินยี่เพียงเท่านั้น ชื่อที่แท้จริงของมันคือพลังวิญญาณ! มันคือพลังที่เหนือกว่าพลังปราณ มีเพียงการดูดซับพลังวิญญาณเท่านั้นที่พวกเจ้าจะได้ทะลวงถึงระดับที่สูงกว่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์”

ลี่กวงพูดอย่างหม่นหมอง

“เจ้าจะดูดซับพลังวิญญาณได้หรือไม่หรือความเร็วในการดูดซับจะเป็นเช่นใดนั้นขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของเจ้า คนส่วนมากมิอาจดูดซับพลังวิญญาณได้ พวกเขาคือวิญญาณไร้ค่า...ดังเช่นเจียงซิ่น”

“และหลายคนก็ดูดซับพลังวิญญาณได้อย่างเชื่องช้าเช่นเดียวกับเหมิงหลางที่มีวิญญาณอำพันระดับต่ำ”

“คุณสมบัติแยกเป็นสี่ประเภทนั่นคือ สวรรค์ ธรณี ทมิฬ และอำพัน วิญญาณอำพันระดับต่ำคือขั้นต่ำที่สุด...ดูดซับพลังวิญญาณได้ช้าที่สุด การเติบโตของเขาจะถูกจำกัด วิญญาณทมิฬนั้นมีคุณภาพสูงขึ้นมา...แต่วิญญาณทมิฬนั้นหายากมาก วิญญาณธรณีและสวรรค์นั้นเป็นเพียงตำนาน สำนักหลิวเซี่ยนไม่เคยมีคนเช่นนั้นเลย”

ซือหยูและจ้าวกวงเริ่มเข้าใจแล้ว การมีคุณสมบัติในวิญญาณเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาดูดซับพลังศักดิ์สิทธิ์หรือพลังวิญญาณได้...และพวกเขาจะเหนือกว่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ มิเช่นนั้น...พวกเขาจะถูกลิขิตให้ติดอยู่กับระดับเก้าขั้นสูงไปตลอดกาล

แต่พวกเขาทั้งสองมีคุณสมบัติวิญญาณด้วยงั้นรึ? ซือหยูกังวล

“พวกเจ้ามิต้องกังวลนัก...เราเห็นคุณสมบัติได้จากหนทางการเติบโตในฐานะผู้ฝึกตน คนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะมีระดับสติปัญญาสูงส่งและบ่มเพาะวิชาใหม่ได้ระดับสูงและรวดเร็วกว่าคนธรรมดา”

“แม้เจียงซิ่นจะอยู่ในห้าลำดับแรก นางก็ใช้อาวุธลับในการได้ลำดับขึ้นมา ระดับสติปัญญาและความเร็วในการบ่มเพาะมิได้สูงนัก...เป็นธรรมดาที่วิญญาณนางจะไร้ค่า”

“ซือหยู ระดับปัญญาเจ้าสูงส่งกว่าใคร ความเร็วในการบ่มเพาะก็น่าทึ่ง ข้าสงสัยว่าวิญญาณเจ้าจะมีระดับสูงแค่ไหนมากกว่า”

ลี่กวงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

จ้าวกวงอิจฉาออกนอกหน้า ซือหยูนั้นคือชายผู้โดดเด่น เขาอาจจะยังเป็นอัจฉริยะต่อไป...แม้จะอยู่ในเฉินหลงก็ตาม

“เจ้า!”

เคาฉวนชี้หลิวกวง

หลิวกวงวางมือลงบนบอลแก้วอย่างกังวล

แสงสีแดงสว่างขึ้นและข้อความ ‘วิญญาณอำพันระดับสูง’ ปรากฏขึ้น!

เคาฉวนเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ  ไม่นานเขาก็รู้สึกตัวและยิ้มอย่างนอบน้อม

“ศิษย์น้องหลิวกวง สำนักหลิวเซี่ยนเป็นสถานที่ซับซอนหลากอำนาจ เจ้าที่เป็นหน้าใหม่อาจจะสับสน หากพบเจอความยากลำบาก...เจ้าจงมาหาข้า”

หลิวกวงประหลาดใจและยินดี เขาหน้าแดง

“ขอบคุณศิษย์พี่เคาฉวน”

เขาตอบอย่างระวัง

ลี่กวงประหลาดใจ สีหน้าเขาเริ่มหม่นหมอง

“หากหลิวกวงมีคุณสมบัติสูงเช่นนี้! เคาฉวนจะต้องอยากได้เขาไว้ภายใต้หานฉี่แน่”

ศิษย์ทุกคนในหุบเขาเฟิงหวงถูกทดสอบเรียบร้อย เคาฉวนมองอย่างเย็นชาไปที่จ้าวกวง

“เจ้า! เข้ามา!”

หัวใจจ้าวกวงเต้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อวางมือลงบนบอลแก้ว

แสงสีแดงสว่างขึ้นพร้อมข้อความ ‘วิญญาณอำพันระดับกลาง’ ปรากฏขึ้น!

จ้าวกวงดีใจและประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด!

เคาฉวนมองผ่านลี่กวงและถอนหายใจเสียงดัง

“อย่างเจ้าก็หาคนที่ผ่านเกณฑ์พอดีได้งั้นรึ?”

เคาฉวนที่ไม่พอใจหันไปมองซือหยู

ราชาแห่งศตวรรษ...คุณสมบัติของซือหยูต้องน่าตกตะลึงเป็นแน่!

เคาฉวนรู้สึกไม่สบายใจ เขาสีหน้าหม่นหมองเมื่อก้าวไปวางบอลแก้วลงที่หน้าซือหยู

ลี่กวง ซือร่ง หลิวกวง จ้าวกวง และคนอื่นต่างมองดูอย่างระวัง

หลิวกวงมีวิญญาณอำพันระดับสูง...หรือซือหยูจะเป็นวิญญาณทมิฬ?

ซือหยูค่อยๆวางมือลงบนบอลแก้ว

บอลแก้วส่องสว่างเป็นสีแดงอ่อนพร้อมข้อความเล็กๆอันน่าตกใจ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด