ตอนที่แล้วDND.78 - สำเร็จระดับเจ็ด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.80 - ราชันย์เพชรฆาต

DND.79 - ความจริงอันโหดร้าย


แม้การโจมตีของพวกเขาจะเสมอกัน ซือหยูก็ใช้พลังไปเพียงครึ่งเดียว! เพราะหลังจากที่เขาก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ด พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่...ยี่หวู่หัวก็มิได้ใช้พลังสูงสุดเช่นกัน หากพวกเขาทั้งสองใช้พลังสูงสุดพร้อมกันซือหยูก็ยังคงรับมือกับระดับแปดได้ เมื่อซือหยูจะโจมตีอีกครั้งก็พบเซี่ยจิงหยูอันอ่อนหวานลอยอยู่ข้างเขา

“พี่หยู ข้าเอง!”

นางเข้าสู่ภาวะฎีกาสวรรค์พร้อมความโกรธในแววตา ฎีกาสวรรค์ระดับสวรรค์ครึ่งส่วนของนางสร้างขอบเขตแห่งธรรมชาติไปทั่วทุกพื้นที่ ทุกการเึลื่อนไหวของนางกว้างใหญ่และเป็นธรรมชาติ

ฟึ่บ--

ความไร้ขอบเขตแห่งฎีกาสวรรค์โอบล้อมพื้นที่ทุกทิศทาง ดวงตาอันงดงามของนางฉายแววการบรรลุ ซือหยูตัวแข็งทื่อ...นี่เป็นฎีกาสวรรค์แท้จริงของเซี่ยจิงหยูงั้นรึ? เมื่อคิดถึงมันแล้วข้อกังขาในใจซือหยูก็หายไปหมด เพราะยังไงเซี่ยจิงหยูก็มีระดับสติปัญญาที่เหนือกว่าเขายี่สิบห้าเท่า ซือหยูนั้นถือว่าโกงเพราะมีพลังเร่งเวลา แต่นางนั้นคือสตรีผู้มีพรสวรรค์ตั้งแต่เกิด

“โอ้...สาวงามอยากจะลงมือเองงั้นรึ? ท่านยี่ผู้นี้นับถือใจเจ้านัก”

แววตาอันเต็มไปด้วยตัณหาของยี่หวู่หัวจับจ้องไปยังทั่วร่างของเซี่ยจิงหยู

แม้ซือหยูจะแข็งแกร่ง...แต่การโจมตีเมื่อสักครู่น่าจะดีที่สุดที่เขาทำได้แล้ว...ยี่หวู่หัวมั่นใจว่าสาวน้อยอันงดงามคนนี้จะต้องเป็นของเล่นให้เขาในค่ำคืนนี้แน่นอน! แต่เมื่อเขาพบว่าฎีกาสวรรค์ของเซี่ยจิงหยูก็เกือบจะเป็นครึ่งทางของระดับสวรรค์...สีหน้าเขาก็มืดหม่น! ดวงตาสดใสของนางมองเขา นางยื่นมือเล็งยี่หวู่หัวจากระยะไกล

“ดัชนีบุพผา!”

ฉั่วะ--

โลหิตในอกยี่หวู่หัวไหลออกมาทันที อกของเขาฉีกออกเป็นแผลเท่าดัชนี แต่โลหิตไหลออกมาอย่างรุนแรง เขาหน้าซีดและหวาดกลัว และเซี่ยจิงหยูยังคงไม่หยุด นางโจมตียี่หวู่หัวจนมีแผลเต็มร่างกาย

ยี่หวู่หัวรู้สึกได้ว่าเซี่ยจิงหยูยังใช้วิชาของนางได้ไม่เต็มที่ หากนางพัฒนาขึ้นเมื่อไหร่...โลหิิตในกายเขาคงจะพุ่งออกมาจนหมดกายและตายทันที!

ฟึ่บ--

ยี่หวู่หัวตกอยู่ในความกลัว...เขากล้าเกิดตัณหากับเซี่ยจิงหยูได้ยังไงกัน? สำหรับจอมโจรผู้พรากความบริสุทธิ์แล้วเขามิได้เก่งในด้านต่อสู้โดยตรง...แต่เป็นวิชาเคลื่อนไหว! ความเร็วของเขานั้นเหนือจินตนาการ

ฟึ่บ--

แต่ก่อนที่เขาจะหนีไปได้...ร่างสีม่วงก็มาขวางเขาไว้ทัน!

“ประสานอัศนีเยือกแข็ง!”

ทุกการเคลื่อนไหวของซือหยูนำพาขอบเขตแห่งธรรมชาติไปด้วย พลังแห่งน้ำแข็งและอัศนีปะทุอยู่ในมือ แสงสีม่วงและสีขาวเจาะทะลุอกของยี่หวู่หัว!

อ๊ากก----

ยี่หวู่หัวตื่นตระหนก...เขาบาดเจ็บรุนแรง! เจ้าหนุ่มคนนี้มีฎีกาสวรรค์ระดับสวรรค์ที่ลึกลับนัก!

“ดัชนีบุพผา!”

เมื่อซือหยูโจมตีเสร็จ เสียงแผ่วเบาอันเย็นชาก็มาจากด้านหลัง!

ฉั่วะ--

โลหิตระเบิดออกมาจากร่างเขาอย่างไม่รู้สิ้น เพียงไม่นานเขาก็เสียโลหิตไปกว่าสี่ในสิบส่วน

เขาที่ต้องทนกับพลังแห่งฎีกาสวรรค์ทรุดลงไปกับพื้น! แต่มันก็ยังไม่จบ!

“เนตรอสูรนรก!”

เพียงพริบตาจิตใจยี่หวู่หัวก็เจ็บปวดยากจะทานทน! ในที่สุดแววตาของเขาก็จางไปและยืนต่อหน้าซือหยูอย่างนอบน้อม ซือหยูและเซี่ยจิงหยูมองหน้ากันอย่างโล่งใจ

หากรวมพลังกันแล้วพวกเขาสามารถจัดการกับระดับแปดขั้นต้นได้ และหากเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวพวกเขาก็ยังสูสี การเติบโตของพวกเขายากเหนือจินตนาการ เมื่อไม่นานมานี้พวกเขายังต้องหนีจากระดับแปดขั้นต้นอยู่เลย

เมื่อซือหยูรับโอสถวิญญาณและใช้วิชาล่าวิญญาณกับยี่หวู่หัว...เซี่ยจิงหยูก็ได้บรรลุอะไรบางอย่าง ฎีกาสวรรค์ของนางเข้าสู่ระดับสวรรค์แล้ว การขัดเกลาฎีกาสวรรค์ครั้งนี้ยังทำให้นางเข้าใจภวังค์น้ำค้างเพิ่มขึ้นอีกขั้น

หลังจากบ่มเพาะอยู่นาน...นางค่อยๆลืมตาด้วยความดีใจ

“พี่หยู! วิชาระดับเทพของข้าสำเร็จขอบเขตกลางแล้ว!”

ซือหยูยังยินดีและอิจฉา นี่เป็นการทะลุขอบเขตที่ทัดเทียมกับเขา แต่เซี่ยจิงหยูทำมันได้ลื่นไหลราวกับวารีที่เชี่ยวกราก ความต่างของสติปัญญาพวกเขาช่างต่างกันอย่างยิ่ง! พลังที่เพิ่มขึ้นของนางทำให้ทันระดับของซือหยู

ในตอนนี้หากร่วมมือกัน แม้จะมีระดับแปดขั้นต้นสองคนเข้ามาพวกเขาก็มิต้องกลัว! ในตอนนี้พวกเขามีโอสถวิญญาณระดับสวรรค์อีกขวด….พวกเขายังต้องการอีกเจ็ดขวดก่อนจะบรรลุระดับเจ็ดขั้นกลาง

ซือหยูมองไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น

“จิงหยู โอกาสของเรามาถึงแล้ว!”

เหตุผลที่ยี่หวู่หัวหนีออกมาที่ป่าส่วนนอกก็เพราะว่ามีกลุ่มศิษย์วิหารต่อสู้กันอยู่ในแกนป่า!

พลังของสามคนนั้นสังหารและทำให้เพชรฆาตหลายคนเจ็บหนัก ไม่ต้องสงสัย...มันคือกลุ่มของหลงเสี่ยวยี่กับว่าที่ศิษย์สวรรค์ลำดับสองและสาม! พลังของพวกเขาเพียงพอจะจัดการกับเพชรฆาตกลุ่มใหญ่!

ยี่หวู่หัวโชคดีที่หนีรอดมาได้ เขาจึงหลบมาที่ป่าส่วนนอก มีเพชรฆาตอื่นที่คิดเช่นเดียวกับเขาและหนีมาซ่อนตัวที่ป่าส่วนนอกเช่นกัน ในตอนนี้หากพวกเขาเข้าไปยังป่าส่วนในลึกเข้าไปอีก พวกเขาจะได้สังหารระดับแปดอีกหลายคน!

ฟึ่บ--

พวกเขาทั้งสามคนรวยทั้งยี่หวู่หัวที่ถูกซือหยูควบคุมเดินทางตัดผ่านป่าอันเงียบเชียบและมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของป่าอสูร

ทันใดนั้นซือหยูก็ได้ยินเสียงตะโกน ซือหยูเพิ่มพลังดวงตาและมองออกไป ที่ระยะสิบห้าลี้มีศิษย์วิหารสวรรค์กำลังสู้กับระดับแปดขั้นต้นสองคน! ศิษย์วิหารผู้นั้นคือคนที่น่ากลัวและทรงพลัง หยานจื่อ...อันดับสามว่าที่ศิษย์สวรรค์ เขาอายุประมาณยี่สิบเจ็ดปี...พลังของเขาอยู่ที่ระดับแปดขั้นต้น!

หยานจื่อกำลังรับมือกับเพชรฆาตระดับแปดขั้นต้นสองคน เขาทำได้แค่หลบการโจมตีจากพวกนั้น...เขากำลังตกอยู่ในอันตราย! ซือหยูพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับเซี่ยจิงหยูและยี่หวู่หัวทันที! อกหยานจื่อมีแผล่ถูกฟันที่อกและมีโลหิตไหลออกมามาก พลังของเขาลดลงอย่างมาก

แต่เพชรฆาตสองคนนั้นที่ร่วมมือกันมิได้มีบาดแผลแม้แต่น้อย

“พี่ใหญ่! มันจะทนไม่ไหวแล้ว!”

“อย่าประมาท บดขยี้มันไปเรื่อยๆจนตายดีกว่า...เราจะได้ไม่โดนสวนกลับ!”

หยานจื่อโกรธแค้น กลุ่มของเขาได้เจอกับเพชรฆาตกลุ่มใหญ่โดยมิคาดคิดและถูกแยกออกจากกัน สามคนกระจัดกระจาย...และเหลือเขาที่ต้องรับมือกับระดับแปดขั้นต้นถึงสองคน...โอกาสรอดชีวิตของเขาเหลือเพียงน้อยนิด!

ฟึ่บ--

แต่ในตอนนี้ สามคนที่เร็วปานสายฟ้าได้พุ่งเข้าไป!

อ๊าก--

สามคนที่พุ่งเข้ามามีพลังอย่างล้นหลาม! เพชรฆาตสองคนถูกโจมตีทันที!

“เนตรอสูรนรก!”

แสงสีมรกตเข้มพุ่งตรงไปยังเพชรฆาตทั้งสอง พวกเขาถูกควบคุมอยู่ภายในจิตใจ พวกเขาดูเหมือนทรมานอยู่นาน….แต่มันเกิดขึ้นในพริบตาเดียว! หยานจื่อไม่รู้จะตอบสนองยังไง

ในบรรดาศิษย์สวรรค์ นอกจากกลุ่มของพวกเขาแล้ว...ยังมีกลุ่มอื่นที่แกร่งขนาดนี้เชียวหรือ? เมื่อมองใกล้ๆก็พบว่าเขาคือซือหยูที่ยืนหยัดต่อหน้าราชันย์! ข้างเขาคือเซี่ยจิงหยูที่วิงวอนขอร้องให้ซือหยู! อีกคนหนึ่งคึือเพชรฆาตระดับแปดขั้นต้น...ที่ดวงตาไร้แววจากการถูกควบคุม!

“พวกเจ้า!”

หยานจื่อประหลาดใจ!

ซือหยูและเซี่ยจิงหยูที่เขารู้จักเป็นเพียงแค่ว่าที่ศิษย์สวรรค์รุ่นใหม่ พลังของพวกเขานับว่าแค่ผ่านเกณฑ์เท่านั้น แต่ก็ไม่ห่างชั้นจากชางหมิงยี่เท่าไหร่นัก ซือหยูยิ้มตอบและรับโอสถวิญญาณสองขวดจากเพชรฆาต ตอนนี้พวกเขามีโอสถวิญญาณสามขวดแล้ว

ซือหยูยังได้หุ่นเชิดระดับแปดขั้นต้นอีกสองคนในควบคุม ตอนนี้เขามีหุ่นเชิดถึงสามคน หากพวกเขาเจอกับกลุ่มเพชรฆาตสี่คน...พวกเขาจะสังหารได้ทั้งหมด!

เซี่ยจิงหยูตาเป็นประกายอย่างมีความสุข นางดูสถานการณ์และคิดว่าอีกไม่ถึงสิบวันพวกเขาจะเก็บโอสถวิญญาณครบแปดปวดแน่นอน...จากนั้นพวกเขาจะมีพลังระดับเจ็ดขั้นกลาง!

“เดี๋ยวก่อน!”

หยานจื่อมองพวกเขารับโอสถวิญญาณและขมวดคิ้ว

ซือหยูยังคงสุขุม

“มีอะไรหรือศิษย์พี่หยาน ท่านรู้สึกว่าพวกเรามิสมควรได้รับโอสถนี้งั้นรึ?”

มิต้องมีพิธีรีตรอง เขาชินชากับมันเสียแล้ว หากหยานจื่อเจตนาไม่ดี ซือหยูก็ต้องปล่อยผ่านไป

หยานจื่อส่ายหัว เขามิได้ต้องการโอสถ

“หาใช่เช่นนั้น พวกเขาสังหารพวกมัน สมควรได้โอสถนั่นแล้ว”

“เช่นนั้นศิษย์พี่หยานจะชี้แนะสิ่งใดรึ?”

หยานจื่อมองซือหยูและหุ่นเชิดทั้งสาม จากนั้นก็หันมามองซือหยูตรงๆอีกครั้งและพยักหน้าเล็กน้อย

“จากตอนนี้ เจ้าควรฟังที่ข้าบอก...พาหุ่นเชิดทั้งสามนี่ไปรวมกลุ่มกับศิษย์พี่หลงซะ”

ตอนนั้นเขาก็หันไปเห็นเซี่ยจิงหยูและขมวดคิ้วลังเลเล็กน้อย

“นางจะไปกับเจ้าด้วยก็ได้...หากนางไม่เป็นตัวถ่วง”

“ดีล่ะ! ไปกันเถอะ!”

หยานจื่อยินดีและโบกมือไปในทางที่หลงเสี่ยวยี่หนีออกไป แต่ไม่มีใครเดินตามเขาเลย

เขามองไปข้างหลังและพบซือหยูที่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินและกำลังจะไปอีกเส้นทาง หยานจื่อตะโกนอย่างเย็นชา

“ซือหยู! เจ้าคิดว่าเจ้าทำอะไรอยู่? ไม่ได้ยินที่ข้าพูดงั้นรึ!”

ซือหยูจ้องเขาและย้อน

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? ทำไมข้าต้องทำตามคำเจ้า?”

“นี่เจ้า!”

หยานจื่ออธิบายอย่างอดทน

“หากเราเจอกับศัตรูในสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้าเหมาะกว่าที่จะสั่งหุ่นเชิดพวกนี้ ทำแบบนี้เราจะใช้ประโยนช์จากพวกมันได้สูงสุด คำสั่งข้าจะต้องเป็นผลดีแน่!”

หยานจื่อรู้สึกรำคาญ เขากระแอมและพูดต่อ

“และใครๆก็อยากจะอยู่กับข้ามิห่างหายไปไหน..ตอนนี้ข้าให้โอกาสเจ้า...แต่เจ้ายังไม่รับมันไว้!”

เขาไม่ได้กล่าวเกินจริงเลย เขาคือว่าที่ศิษย์สวรรค์ลำดับสาม...หลายต่อหลายคนทนอยู่ในระดับต่ำสุดมาหลายปีเพราะทนการประลองอย่างรุนแรงไม่ไหว พวกเขาต่างอยากได้คนหนุนหลังที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องและชี้แนะ...หรืออาจจะแบ่งทรัพยากรบ่มเพาะด้วยกัน

ว่าที่ศิษย์สวรรค์นับไม่ถ้วนติดตามหยานจื่อเพราะเหตุนี้ การถูกเขาสั่งนับเป็นสิ่งที่เหล่าว่าที่ศิษย์สวรรค์ใฝ่หา โชคร้ายที่ไม่มีใครเข้าตาเขานัก...ไม่ต้องพูดถึงการที่จะได้ถูกเขาสั่งเลย

สำหรับหน้าใหม่อย่างซือหยูและเซี่ยจิงหยู ด้วยระดับพลังเช่นนี้ การติดตามเขานับว่าเป็นทางเลือกที่ดีหากอยากจะไปในระดับที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

หยานจื่อส่ายหัว เขาตระหนักว่าซือหยูและเซี่ยจิงหยูอายุเพียง 14 ปี พวกเขาน่าจะเข้าใจวิถีของโลกนี้เพียงน้อยนิด เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะต้องตัดสินใจอย่างประมาท

แต่หยานจื่อแอบโกรธซือหยูที่เยาะเย้ย

“หากเจ้าแข็งแกร่งนัก ก็ไปจับหุ่นเชิดมาเองเสีย...จะมาสั่งข้าอยู่ทำไมกัน?”

“โอกาสที่เจ้าหยิบยื่นให้...เอาไปให้คนอื่นซะเถอะ...พวกเราหาต้องการไม่”

ซือหยูเดินจากไปพร้อมกับเซี่ยจิงหยูอย่างไม่ลังเล

หยานจื่อโกรธเกรี้ยว

“ซือหยู! มีตาหามีแววไม่! กลับไปที่วิหารเมื่อไหร่...คำเดียวของข้าจะเปลี่ยนชีวิตเจ้า!”

ในบรรดาว่าที่ศิษย์สวรรค์จะมีใครกันที่กล้าทำให้เขาผิดหวัง?! ที่เขาต้องทำมีเพียงการแอบสั่งอย่างลับๆ จากนั้นก็จะมีศิษย์ในวิหารหลายต่อหลายคนที่พร้อมจัดการซือหยู

“หืม?...เจ้าน่ะเหรอ?”

ซือหยูเยาะเย้ย

หยานจื่อหัวเราะอย่างโกรธเกรี้ยว

“มีหุ่นเชิดพวกนี้แล้วดูมั่นใจเหลือเกินนะ เจ้ามิรู้ที่ต่ำที่สูงหรืออย่างไร?”

“เจ้าจะลองไหมล่ะ”

ซือหยูยืนมอไพล่หลังและเดินออกมาจากเหล่าหุ่นเชิด เขากำลังจะบอกว่า...แม้จะไร้หุ่นเชิด...เขาก็จัดการหยานจื่อได้อยู่ดี

เขาเจอกับความหยาบคายของซือหยูซ้ำแล้วซ้ำเล่า หยานจื่อพุ่งมาข้างหน้าด้วยพลังปราณเข้มข้นทันที

“ยอดเยี่ยม! เจ้าหน้าใหม่ที่ยังหลงระเริงอยู่กับแคว้น ศิษย์พี่จะสั่งสอนให้เจ้ารู้ถึงความจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้!”

ความอดทนของซือหยูหมดลง อัตตาของหยานจื่อนั้นสูงเกินไปมาก! ซือหยูจะต้องชี้แนะเขาให้รู้ถึงความจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้ด้วยตนเอง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด